ผลัวะ!!หมัดหนักของนักเรียนชายคนหนึ่งกระแทกใบหน้าของคู่อริดังไปทั่วบริเวณ ซอยแคบแห่งหนึ่งที่มีแสงไฟส่องสว่างจากหลอดไฟข้างทาง
รายล้อมไปด้วยกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังสองแห่งที่กำลังปะทะกำลังกันอย่างป่าเถื่อน เสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดตาแปดเปื้อนไปด้วยคาบดินโคลน
“ไอ้พายุมึงพอแล้ว เดี๋ยวมันก็ตายหรอก” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รัวหมัดใส่ใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้งแม้ว่าคน คนนั้นจะแน่นิ่งไปแล้วก็ตาม
เลือดสีแดงเข้มของฝ่ายตรงข้ามไหลออกมาเต็มใบหน้า แถมยังกระเด็นเปื้อนเสื้อนักเรียนของพายุอีกต่างหาก แต่ใบหน้าและแววตาของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แววตานิ่งเย็นยะเยือกจนเพื่อนต้องเอ่ยห้ามเอาไว้ก่อน
ไม่มีเสียงตอบรับจากชายหนุ่มหน้าตาดีนามว่าพายุแต่อย่างใด เขาปล่อยหมัดสุดท้ายลงบนใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามอีกหนึ่งหมัดและทิ้งให้คู่กรณีให้นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นอย่างไร้เยื่อใย ก่อนที่จะร่างสูงยันตัวลุกขึ้นและเดินออกไปจากซอยคับแคบโดยที่เขาไม่ได้พูดอะไร
ภัทรเพื่อนรักของพายุเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินออกไปจากบริเวณนั้น เขาก็รีบเคลียร์ทางทันที เพื่อนของคู่กรณีต่างพากันวิ่งเข้ามาดูอาการของเพื่อนด้วยความหวาดกลัวเพราะความเถื่อนของพายุที่พัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งเหมือนชื่อของเขา
ควันบุหรี่สีขาวถูกพ่นขึ้นบนอากาศ พายุยืนพิงราวกั้นข้างถนนเอาไว้ เขายืนสูบบุหรี่อย่างใจเย็น เพื่อระงับอารมณ์และความบ้าคลั่งภายในจิตใจของตัวเอง
ครืด ครืด ครืด
“แก ก่อเรื่องอีกแล้วเหรอพายุ” เสียงเข้มของชายวันกลางคนโทรเข้ามาในมือถือเครื่องหรู เขายกมือถือขึ้นมามองด้วยสายตาว่างเปล่า นิ้วเรียวสวยกดรับสายโดยไม่ได้พูดอะไรได้แต่นิ่งเงียบฟังปลายสายสาดคำพูดใส่
(ไอ้ลูกเวร ฉันส่งแกไปเรียนไม่ใช่ส่งให้แกไปเป็นนักเลง)
“...........”
(แกหัดเอาดีเหมือนลูกคนอื่นบ้างสิวะ) น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของผู้เป็นพ่อยังคงสาดใส่ลูกชายไม่หยุด จนปลายสายตัดสายทิ้งด้วยความรำคาญใจ
ตาคมนิ่งมองไฟปลายบุหรี่ที่อยู่ในมือ เขาใช้มือของตัวเองดับบุหรี่ที่ยังติดไฟด้วยมือของตัวเองความร้อนของบุหรี่ไม่สามารถทำให้เขาแสดงออกถึงความเจ็บผ่านสีหน้าและแววตาได้เลยสักนิด
“ไอ้เชี้ยพายุ มึงจะโหดไปไหน ดีที่มันไม่ตาย” ภัทรเพื่อนสนิทของพายุเดินเข้ามาหาเพื่อนของตัวเอง
“วอนตีนเอง” เสียงนิ่ง ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกเรียบเฉยตอบกลับเพื่อนของตัวเอง พายุและภัทรรู้จักกันตั้งแต่มัธยมต้น กลุ่มของพวกเขามีกันสามคนและอีกคนคือเรียวที่กำลังเดินเข้ามาสมทบเพื่อนทั้งสอง
“ไปไหนต่อ”
“กินเหล้าที่สนามไอ้พายุกัน” ภัทรเอ่ยปากชวนเพื่อนรักทั้งสองโดยไม่แม้จะหันไปถามเพื่อนรักของตัวเองที่เป็นเจ้าของสนาม
พายุรักและชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ เขาเลยสร้างสนามแข่งขึ้นมาสำหรับคนรักความเร็วรวมไปถึงเขาด้วยเช่นกัน โดยที่พ่อของเขาไม่เคยรู้เลยว่าเขาสร้างสนามแข่งรถขึ้นมาด้วยตัวเอง
“อืม”
หลังจากที่ทั้งสามเดินทางมาถึงสนามแข่งพายุ เขาเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ที่ห้องทำงานของตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาจะอายุยังน้อยแต่เขาก็อยากมีกิจการเป็นของตัวเองแต่ก็ยังคงผลาญเงินของพ่อเขาอยู่ไม่น้อยในแต่ละเดือน
ครืด ครืด ครืด
“ไม่รับ?” เรียวเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามพายุ ที่นิ่งพิงโซฟาอยู่โดยไม่สนใจมือถือของตัวเองที่กำลังมือสายเริ่มเข้ามา
“ไม่!!”
“งั้นกูรับเอง” ภัทรที่นั่งอยู่ คว้ามือถือของพายุไปกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ทุกคนได้ยิน
(พี่พายุ ทิศาดีใจจังเลยค่ะ ที่พี่รับสาย)
“.........”
(พี่พายุไปทำอะไรให้คุณพ่อโกรธอีกแล้วใช่ไหมคะ ยังไงเดี๋ยวทิศาพูดกับพ่อให้) เธอยังคงพูดออกมา ถึงแม้ว่าปลายสายจะไม่พูดอะไรเลยก็ตาม
(พี่พายุอยู่ไหนคะ ให้ทิศาไปหาดีไหม)
“..........”
“ขอโทษนะครับ พี่ภัทรครับไม่ใช่ไอ้พายุ” ภัทรเอ่ยตอบ ทำให้ปลายสายถึงกับชะงักไปเล็กน้อย เพราะเธอคิดว่าเป็นเจ้าของเบอร์ที่กดรับสายของเธอ
“พี่พายุไม่อยู่เหรอคะ”
“ไอ้พายุมันไม่ว่าง แต่พี่ภัทรว่างนะครับ” ภัทรชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้และกะล่อนจนสาว ๆ ต่างพากันพลีกายถวายตัวให้ ถึงขนาดยอมขึ้นเตียงรอเผื่อว่าวันหนึ่งพวกเธอจะสามารถปราบเสือแบบเขาได้นั้นถือว่าเป็นความโชคดี
“พี่ภัทรว่างจริงเหรอคะ” เสียงหวานหยอกล้อปลายสายกลับ ปากบางยกยิ้มขึ้นมุมปากด้วยความพอใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำตอบของคู่สนทนา
“ว่างสิครับ”
“แต่ขอโทษนะคะ ทิศาต้องการแค่พี่พายุค่ะ” สายถูกตัดไป รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของภัทรปรากฏบนใบหน้าหล่อของเขา
“แหม!!พายุเพื่อนรัก น้องเขาเสนอมาขนาดนี้ มึงไม่สนองกลับไปวะ”
“นั้นมันมึงไอ้ภัทร”
“ฮ่าฮ่า เป็นกูหน่อยไม่ได้ จะฟาดให้ร้องขอชีวิตสักหน่อย” ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของภัทรพูดออกมา เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
“ไอ้พายุมันเกลียดผู้หญิงที่เสนออย่างกับอะไรดี” เรียวตอบกลับภัทร ข้อนี้พวกเขารู้ดีว่าพายุเพื่อนของพวกเขาไม่ยุ่งเรื่องผู้หญิง ยิ่งผู้หญิงที่เขามาเสนอตัวแล้วเลิกคิดไปได้เลยว่าจะได้เข้าใกล้ตัวของพายุ