"เรียบร้อยจ้ะ"
ยุพาดากับเพ๊กกี้หรือสมัยจันทร์ นั่งคุยกันอีกครั้งเป็นเรื่องเมาท์ในอดีตมากกว่า ที่เราได้ไปถ่ายละครในกองเดียวกัน พบเจอโน่นนี่นั่น
แบบเรียกว่าแอบนินทาผู้กำกับหรือนักแสดงคนอื่นๆ ไปตามเรื่องตามราวไม่ได้มีสาระอะไรมากหรอก
เพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คนอยู่ในวงการมายาวนานอย่างหล่อนกับสมัยจันทร์พากันครุ่นคิด
" ฉันไม่บังอาจไปสอนเด็กรุ่นใหม่หรอกนะบางทีไปไม่ลามาก็ไม่ไหว้ ก็ไม่เห็นจะแคร์"
เห็นเรื่องนี้จนชินแล้ว เด็กสมัยใหม่นักแสดงเหล่านี้เป็นคนมือแข็ง อาจเพราะด้วยวัยและยุคสังคมของเด็กสมัยใหม่ก็เป็นไปได้
แต่ยุพาดาคิดว่า อยู่ที่การอบรมบ่มมารยาทจากทางครอบครัวมากว่า เลยไม่ได้ไปก้าวก่ายมาก เห็นสมัยจันทร์พูดประชด
"ก็เหมือนกัน จะไปสั่งสอนใครได้ เดี๋ยวจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำ"
บอกกับสมัยจันทร์
"ไม่เหมือนสมัยเรานะ กว่าจะมีผู้ได้ ผู้มาอยู่ใกล้ จีบใครสักคนแสนยาก แต่สมัยนี้นางรุกจีบผู้ชายก่อนเลย"
"สมัยเรามันปิดนี่ยะ วับแวมเห็นแขน ขา ขาอ่อนนิดหน่อยไม่ได้ ยิ่งส่วนนมไม่ได้เลย เดี๋ยวนี้เปิดหมด"
เรื่องที่พูดคุยกับเพ็กกี้ก็มีเรื่องแบบนี้ล่ะ
"เออ ลูกชายเธอมีวี่แววว่าจะไปรักใครชอบใครมั๊ยล่ะยุ"
"ดลเหรอ" หันมามองและถามเพื่อน
"ไม่นะ ไม่มีเลยตอนนี้หลังจากที่เลิกกับคนก่อนแม่อันธิกา ดลก็เก็บตัวเงียบ สงสารลูกเหมือนกัน"
"ดีแล้วที่ไหวตัวไม่หลวมตัวต่อไป คบแม่คนนั้นข่าวว่าหล่อนคบซ้อนนะยะ ยุ"
"ใช่ ฉันเองเพิ่งมาได้ยินตอนหลัง"
หล่อนดีใจที่ลูกชายถอนตัวทัน
"ตานัตลูกของฉัน ก็พยายามเข็นให้เข้าวงการ มันก็ไม่เอาอะไรเลย ในวงการหาเงินง่ายจะตาย ถ้าได้แสดงถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เห็นมั๊ยดาราคนอื่นเขาทำกัน แต่ลูกฉันมันไม่เอา"
สมัยจันทร์หันมาตำหนิลูกชายสุดรัก
"แว่วว่า ฉันคงจะได้อุ้มหลานก่อนงานแต่งแน่แบบนี้ ไม่รู้สะใภ้พวกนี้ รกรากหรือตระกูลมาจากทางไหน"
สมัยจันทร์หันมาบ่นกับตัวเองในเรื่องส่วนตัว
"เธอยอมรับและทำใจบ้างเถิด หมัย ว่าอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด"
"ก็คิดอย่างนั้นล่ะยุ"
“เออ นี่รู้มั๊ยเมื่อสองสามวัน มีคนข้างบ้านที่ฉันรู้จักไปเจอพ่อยอดชายเอ้อ อดีตพ่อตัวดีของเธอกับเมียใหม่ของเขา นางชูคอทีเดียวอวดร่ำอวดรวยที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านฉัน ไม่นึกเลยว่าไปอยู่แถวนั้นซวยฉันเหลือเกิน"
สมัยจันทร์เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ยุพาดาก็เพิ่งรู้
ตั้งแต่ตัดขาดหย่ากับอดีตสามีอย่างเป็นทางการ เธอก็อยู่ส่วนตัวของเธอ บูรพาก็ไม่ได้มายุ่มย่ามกับเธอ แม้แต่ในกองถ่ายละครก็หลีกเลียงที่สุด ที่จะไม่มากองเดียวกัน
เธอปฏิเสธทันทีหากงานนั้นมีบูรพาเป็นผู้กำกับ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เธอกับเขาจะต้องมาเจอกันอีก
เวลานี้เช่นกัน ไม่มีทั้งการติดต่อ คบค้าหรือถามไถ่ ถือเป็นแรงชังที่คุณยุพาดาเกลียดมากที่สุด ถึงกับเรียกว่าตาแก่หัวงูที่ไม่รู้จักอิ่มจักพอ
อันธิกาเลิกกับเขา ลูกชายของผู้กำกับและแม่ที่เป็นนักแสดงดาวค้างฟ้าอย่างคุณยุพาดา ในสายตาที่คุณยุพาดาไม่ได้ปลื้ม ตอนคบกับลูกชายคนเดียว
อันธิกาใฝ่สูงกว่านั้น ฐานะของชายคนใหม่ สูงส่งมีพ่อแม่รับราชการเป็นนายทหารยศพันเอกทั้งคู่
ที่ต้องเลิกกับธาดล เป็นความต้องการของอันธิกา แม้เราจะรักกันมาก ในความผูกพันที่มีต่อกัน ทั้งเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน
แต่ธาดลเลือกเรียนต่อที่ประเทศอเมริกาในสาขาที่เขาชื่นชอบคือเป็นตากล้องและผู้กำกับในอนาคตของเหมือนพ่อของเขา
หล่อนรักเขาและรักเขามาก แต่ขอเลือกมากกว่า คือความสะดวกสบาย จากทรัพย์สินที่หามาได้และใช้คล่อง ฐากรเปย์ให้มากมายจนลุ่มหลง มากกว่าดล
เราเจอกันครั้งแรกในวันที่ไปเที่ยวผับ และเขาส่งสายตาหวานๆพร้อมกับขอเบอร์มือถือของอันธิกา
คบกันขณะนั้นหล่อนยังคบอยู่กับธาดล ตอนที่เขาไปต่างประเทศ ความห่างไกล เขาอยู่ไกลเกิน มันทำให้เกิดความเหงา
อยู่กับฐากูรผู้ชายที่จะเป็นสามีตัวจริง เขาเชยชมจนอิ่มเอมสมใจ ถูกต้องหล่อนกับเขา เรามีอะไรกันก่อนงานแต่งงาน แต่กลายเป็นเรื่องปกติในสังคมยุคปัจจุบันนี้
ฐากูรกอดหล่อนเอาไว้อย่างทะนุถนอม เขาเป็นผู้ชายผิวสีแทนร่างสูง บึกบึนมีกล้ามเป็นมัดเหมือนคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ใบหน้าของเขาเข้มชวนหลงใหลนัก รสสวาทที่เขาป้อนปรุงให้อย่างถึงพริกถึงขิง
"คุณคิดอะไรอยู่ที่รัก" สามีตามกฎหมายของดิฉันเอ่ยขึ้นด้านหลัง มือของเขารวบเอวเข้ามากอด
"เรื่องที่ผ่านมาค่ะ” ฉันหันมาตอบ
"คงเป็นเรื่องคนเก่าของคุณ คุณกังวลเรื่องอะไร ผมไม่ได้มายด์นะ ที่คุณคบกับเขามาก่อน"
รู้ดี ฐากูรไม่ได้แคร์ในเรื่องนี้ ผู้ชายหัวคิดแนวทันสมัยเหมือนอันธิกา จมูกของเขายังเคลียอยู่ที่แก้มของหล่อนอย่างหลงใหล
เขาดื่มด่ำกับการป้อนปรุงให้หล่อนอย่างมาก เต็มที่ แบบสุดเหวี่ยง มันเพริดเร่าร้อนดูห่ามหื่นแปลกๆสะใจในอารมณ์
"ค่ะ แต่คุณไม่ต้องถามเรื่องดล นะคะ ฉันกำลังจะลืมเขา"
"ขอให้คุณลืมให้ได้ และรักผมคนเดียวก็พอกับไอ้ตากล้องคนนั้น ผมมีเงินมากพอที่จะทำให้คุณสุขสบายได้"
ตอนนี้ดลคงเกลียดหล่อนเป็นอย่างมาก
"ถ้าคุณไม่คิดถึงเขาแล้ว อย่าทำอาลัยอาวรณ์แบบนี้สิ อัน พี่ไม่ชอบนะ"
เขาหันหน้ามาหาอันธิกาพร้อมกับเชยคาง
"หึงหรือคะฐา"
"หึงสิ เมียผมทั้งคนทั้งสวย ทั้งเด็ด มีหรือที่จะไม่หึง"
"อันไม่คิดแล้ว เป็นของพี่ฐาไปแล้ว ทางเราไม่มีทางบรรจบกันได้"
เมื่อสบตาเหมือนมีประกายหวานเจืออยู่ด้านใน ก่อนลื่นไหลลามไปไกล ริมฝีปากอุ่นหนาของเขาประกบกับกลีบปากหยักเหมือนดอกกุหลาบ
ในบทจูบที่แสนหวานดูดดื่ม พลิกพลิ้วไปตามอารมณ์ของเขา ที่รักหล่อนอย่างรุนแรง และร้อนเร่า
อันธิกาพร้อมพอที่จะจุดไฟในร่างกายให้ระเบิดแตกออกมาเป็นเสี่ยง
"อีกรอบมั้ย ผมจะแก้ผ้าคุณอีก"
อันธิกายกมือห้ามเขา
" พี่ พอก่อน อันจะไม่ไหวแล้ว พี่กินดุ ยิ่งกว่าอะไร"
ตอบเขา
"แล้วชอบไม่ใช่หรือ"
"ค่ะชอบ"
เขาเลยชะงักกับท่าที ที่เหมือนจะมันเขี้ยวใส่ และอยากจะเติมรสสวาทครั้งที่สามให้แก่หล่อน กอดเอาไว้อย่างไม่ยอมคลาย เนื้อตัวของอันธิกาเขียวช้ำไปหมด ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายแต่เกิดจากบริเวณส่วนสงวนถูกเขาใช้กับดักสวาทล่อลวงจนเกินงาม หลายครั้ง
ดลเขี่ยอาหารบนจาน จนแม่เงยหน้าขึ้นมอง แต่เขาเห็นแม่ยิ้ม คงเพราะไปตัดผมทรงใหม่ สั้นกว่าเดิม จากที่เคยไว้ผมยาวแบบเซอร์ๆ เพราะเขาอยากตามใจแม่
"อย่างนี้สิลูก ไว้ผมยาวดูรุงรังยุ่งเหยิงไปหมด ตัดผมถึงดูสะอาดเกลี้ยงเกลา เป็นลูกแม่คนใหม่"
"อิ่มแล้วใช่มั๊ย ไว้ตรงนั้นล่ะ เดี๋ยวแม่จะให้พวกเด็กๆจัดการ"
ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่โต๊ะอาหารติดกับห้องรับแขกของบ้าน
ไอ้เป๊กโทร.มาหาเขาหลังจากนั้น
"เฮ้ยดล"
"มีไรวะ"
"อยู่ไหนอะ"
"ที่บ้าน"
"เฮ้ย ยืมเงินหน่อยสิวะ หนึ่งพัน"
"เฮ้ยคราวก่อนก็แล้วนะ มึงเอาไปแล้ว ยังไม่คืนเลย"
"เออน่า เรื่องด่วน แม่กูไม่สบายต้องหาหมอ"
เมื่อเห็นถึงความจำเป็น ที่มันไม่เคยปดสักครั้ง เขาเดินเลี่ยงออกพ้นจากแม่ รู้เข้าถึงหูแม่ไม่ดีแน่ เดินหลบมุมเข้าหลังบ้าน เพื่อคุยธุระ