บทนำ
เปรี้ยง! ซ่า.....
เสียงกึกก้องดังมาจากฟากฟ้าดำทะมึน สายฝนโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักราวโกรธขึ้งคนใต้ผืนฟ้า เม็ดหนักหน่วงสาดซัดลงบนร่างของคนที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนตามท้ายรถที่แล่นไกลห่างออกไปเรื่อย ๆ
รถคันนั้นใช้ความเร็วไม่มากนัก หากแต่หล่อนกลับไม่มีทางไล่ทัน ทั้งสายฝนก็ทิ่มแทงลงบนผิวเนื้อจนเจ็บแสบไปหมด ราวถูกเข็มนับร้อยจากเบื้องบนพุ่งใส่อย่างบ้าคลั่ง
"อย่า...อย่าไป...ฮือ ๆ"
หล่อนวิ่งตามจนเหนื่อยล้า เข่าอ่อนจนต้องทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นอย่างคนพ่ายแพ้ ชุดนอนสีขาวเปียกชุ่มจนแนบลู่ไปกับผิวเนื้อนุ่ม...ท่ามกลางม่านฝนจนภาพตรงหน้าพร่าเลือน แววตาฉ่ำน้ำพยายามเพ่งมองไฟท้ายรถที่ดูเหมือนแสงจะริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ
เขาไปแล้ว...ไปจริง ๆ และจะไม่มีวันหวนกลับมาแน่ หล่อนใจหาย มันหวิวโหวงจนต้องยกมือขึ้นทาบอก สัมผัสได้ถึงบริเวณนั้นที่สั่นสะท้านจากการสะอื้นจนตัวโยน...เสียง
สะอื้นที่มาจากอารมณ์โหยไห้อาลัยอาวรณ์
"กลับมา...กลับมาได้ไหม...ได้โปรด...ฮือ ๆ"
มันคือความรักใช่ไหม ในที่สุดหล่อนก็รักผู้ชายใจดำที่ทิ้งกันไปได้ลง...หญิงสาวพยายามถามหัวใจที่กำลังปวดแปลบ ความเสียใจทำให้ลืมไปว่า ตัวเองกำลังนั่งปล่อยโฮอย่างบ้าคลั่งกลางสายฝนพรำ
เหมือนกำลังจะตาย บอกตัวเองเช่นนั้น สัมผัสได้ว่าใจกำลังเต้นเร็วจนผิดปกติ เหมือนร้อนรุ่มในอกทั้งที่ภาย นอกแสนหนาวเหน็บ และในจังหวะที่รู้สึกคับแน่นกลางทรวงอกจนอึดอัด แสงไฟก็สาดส่องมาที่ร่างของเธอ
"เธออยู่ตรงนั้น!"
น้ำเสียงที่เปล่งค่อนข้างดังนั้นคุ้นหูเหลือเกิน พร้อมเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ท่ามกลางความพร่าเลือนและหยาดน้ำตา เห็นเขาปราดเข้ามาหาร่างเปียกปอนของหล่อน และก่อนสติจะดับวูบไปนั้น หล่อนรับรู้ได้ว่าอ้อมแขนแกร่งได้รองรับร่างของตนเอาไว้ มาพร้อมเสียงสบถ
"เด็กโง่! ทำอะไรหัดคิดถึงคนอื่นบ้าง!"
เสียงนั้นคุ้นเคย หล่อนปล่อยใจดำดิ่งสู่ความมืดมิด ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบกายอีกต่อไป
+++++
สี่ปีก่อนหน้า…
แอลเอ สหรัฐอเมริกา
เที่ยงคืนของซีกโลกฝั่งตะวันตก...แทนไทนั่งนิ่งอยู่บนเตียงมาได้พักใหญ่แล้ว เขาถอนหายใจถี่ ๆ จนแทบนับครั้งไม่ได้ มือข้างถนัดเสยผมสลับกับกุมขมับเพราะความเครียด...เพราะข้อความบ้านั่นแท้ ๆ ที่ปลุกให้เขาต้องนั่งเครียดกลางดึก
"คุณพ่อป่วยหนัก นายควรกลับมาดูใจ ด่วน!"
"ถ้านายยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้าง" นั่นคือข้อความที่แทนไททึกทักต่อท้ายเอาเอง และเขาคิดว่าคนส่งอาจอยากพิมพ์มาด้วยซ้ำ ข้อความนั้นมาจากธามไทพี่ชายฝาแฝดของเขา อดที่จะกระตุกยิ้มเยาะให้กับตัวอักษรที่ร้อยเรียงออกมาไม่ได้ มันช่างกระชับประหยัดคำเสียจนเขาคิด
ว่านี่คือการสื่อสารด้วยโทรเลขในยุคดึกดำบรรพ์
ประหนึ่งว่ายิ่งใช้คำฟุ่มเฟือย ค่าอินเตอร์เน็ตจะพุ่งตามยังไงยังงั้น
"หึ คนดูแลเยอะแยะ นั่งหน้าสลอนกันเต็มบ้าน จะตายวันนี้พรุ่งนี้เลยรึไง"
พึมพำกับตัวเองขณะเดินไปเปิดตู้เย็น มือคว้ากล่องนมติดออกมา จากนั้นรินใส่แก้วเพื่อเข้าไมโครเวฟ เวลานี้เขาอยากดื่มอะไรอุ่น ๆ สักแก้ว หวังให้นอนหลับต่อได้เท่านั้น
ท่ามกลางใจที่หวิวโหวงเพราะข่าวไม่ค่อยดีจากเมืองไทย อีกด้านนั้นพยายามต่อต้าน เขาไม่ยินดียินร้ายกับความเป็นความตายของใครสักนิดเดียว
'โว้ยยย! เครียดฉิบ...'
วิญญาณหมาบ้าเริ่มเข้าสิงแทนไท เขาทุรนทุรายหลังจากกระดกน้ำสีขาว ๆ ไปจนหมดแก้ว เหมือนเทพกับมารกำลังใช้พื้นที่ในสมองของเขาเป็นสนามรบ ตีกันอย่างหนักเพื่อเอาชนะจิตใจของเขาให้ได้
ก็แค่ลูกที่ถูกตะเพิดออกจากบ้านเพราะทำตัวนอก
คอก ก็แค่พี่ชายที่แสนเลว เด็กเกเรขี้แกล้งขี้อิจฉา และก่อนจะถูกเฉดหัวมาเรียนอเมริกาอย่างโดดเดี่ยว ก็แค่แกล้งน้องสาวฝาแฝดนอกไส้หนักมือไปหน่อย จนพวกหล่อนเกือบจมน้ำตายทั้งคู่...นั่นคือวีรกรรมของเขา แค่นั้นเอง
จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังไม่คิดว่านั่นคือความผิด ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด ไม่ได้อิจฉาก็แค่เล่นแรงไปหน่อยจนเกือบมีคนตาย ไม่มีอะไรต้องสำนึกและกลับตัว ทุกวันนี้ก็ยังคงมีความคิดแบบนั้น...กลับเมืองไทยทีไรเขาจะไม่เข้าบ้าน ทำตัวประหนึ่งคนไร้ญาติขาดมิตร เพราะกลัวใจตัวเอง กลัวจะพลั้งเผลอแกล้งลูกสาวสุดที่รักของบิดาเข้าอีกครั้ง
นานหลายปีแล้ว ที่เขาไม่ได้เจอตัวเป็น ๆ ของพวกเธอ...พวกผู้หญิงตัวซวย คนที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องมีปัญหากับบิดาจนทุกวันนี้ก็ยังเข้าหน้ากันไม่ติด
แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ดูเหมือนเขาจะทำตัวเป็น
ปัญหาอยู่คนเดียว เพราะทุก ๆ คนดูจะเข้ากันได้ดี รักใคร่กลมเกลียวกันดีเหลือเกิน โดยเฉพาะพี่ชายของเขา เลยทำให้เขาพลอยตัดญาติพี่ชายไปด้วย คุยกันก็ต่อเมื่อจำเป็น
จริง ๆ เท่านั้น
บอกแล้วเขาไม่ใช่คนขี้อิจฉา แค่ทำตัวมีปัญหาอยู่คนเดียว...
++++++
ประเทศไทย...
"คุณสิงห์จะบินกลับมาพรุ่งนี้!"
เสียงดังอยู่ในครัว ในนั้นมีสามคนที่มารุมงานครัวเพราะอยากเม้าท์มอย และประโยคที่มาจากน้ำเสียงตื่นเต้นเรียกความสนใจให้คนฟังไม่น้อย นับเป็นข่าวใหญ่ในรอบปีเลยทีเดียว
"มาที่บ้านหรือไปนอนคอนโด"
"มาบ้านสิยะ คุณท่านป่วยนี่นะ ที่ยอมมาก็เพราะคุณเสือติดต่อส่งข่าวไป ไม่งั้นคงไม่โผล่หัวมา"
"นี่! ให้มันน้อย ๆ หน่อย แกใช้คำว่าโผล่หัวกับลูกชายเจ้าของบ้านเลยเรอะ!"
รำพึงวิ่งไปชะโงกหน้าเมียงมองด้านนอกหล่อนแค่กลัวใครผ่านมาได้ยินแล้วจะซวยกันหมด ซึ่งรำพึงนั้นอาวุโสที่สุดในแก็งค์แม่บ้าน ทำงานกับบ้านหลังนี้มานาน ตั้งแต่แทนไทยังไม่ไปอเมริกา
"แล้วคิดว่าจะบรรลัยมั้ย จะมีใครหัวร้างข้างแตกมั้ยถ้าคุณสิงห์กลับมา"
คนที่อายุน้อยที่สุดในทีมทำหน้าหวาดเสียว ที่จริงหล่อนไม่ทันเหตุการณ์ในอดีตหรอก อาศัยการพูดต่อ ๆ กันมาในวีรกรรมของแทนไท
แค่ฟังก็ขนหัวลุก ให้ตายสิ หล่อนไม่อยากเจอตัวเป็น ๆ ของเจ้านายคนนี้...เตือนใจทำท่าลูบแขนตัวเองไปมา
วีรกรรมของเขาช่างขัดกับความหล่อเหลาที่สาว ๆ หลายคนหลงใหลได้ปลื้ม หล่อนเองยังชอบไปส่องไอจีของเขาอยู่บ่อย ๆ ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้นไปได้