“ฉลามขา”
ผมหันมองตามเสียงเรียกก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเห็นใบหน้าหวานที่ไม่อยากเจอ
“ดามากวนหรือเปล่า” ร่างบางในชุดนักศึกษารัดรูปเดินมากอดแขนผมเอาไว้แน่นและเหมือนจงใจเอาหน้าอกเบียดสัมผัสกับท่อนแขน
การกระทำนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกวูบไหวหรือมีอารมณ์ กลับกันมันหงุดหงิดซะมากกว่า
“กวน”
“ทำไมพูดแบบนี้ น้อยใจนะ” เธอทำหน้าบึ้ง แต่ถ้าผมได้รู้สึกเบื่อแล้วก็จะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“มาที่นี่ทำไม บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ชอบให้คนอื่นมา”
“ดาเป็นคนอื่นสำหรับฉลามหรอ”
“ต้องให้พูดจริงๆ ?”
“ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะฉลาม”
“ตกลงกันแล้วไง บอกก่อนแล้วว่าเป็นคนเบื่อง่าย” นิสัยและรสนิยมของผมเป็นยังไงต้องบอกคู่นอนก่อนเริ่มสัมพันธ์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเธอน่าจะรู้ว่าดีว่าได้แค่ไหน
“ครั้งสองครั้งก็เบื่อแล้วหรอ”
“มันก็ปกติ”
“ใจร้ายมากนะฉลาม” ใบหน้าของเธอเริ่มแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อคำตอบของผม แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าจะพูดออกไปตรงๆ เพราะระหว่างเรามันไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ผมชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าแค่เซ็กส์
“เย็นชาจังเลยนะ กับผู้หญิงคนนั้นไม่เห็นฉลามจะเย็นชา”
ผมหันมองเจ้าของคำถาม ก่อนจะพ่นกลุ่มควันสีขาวคลุ้งไปบนอากาศ แล้วถาม “ใคร?”
“ดาบี คณะมนุษยศาสตร์”
“ทำไมเธอรู้จัก?” ผมขมวดคิ้วถาม เพราะไม่คิดว่าดาจะรู้จักดาบีถึงขั้นว่าเธอเรียนคณะอะไร
“ผู้หญิงทำอะไรได้มากกว่าที่ฉลามคิดอีกนะ”
“ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมันคือการล้ำเส้นบ้าง?”
“………”
“ฉันขีดเส้นไว้ให้แค่ตรงไหนก็ยืนอยู่แค่ตรงนั้น”
“…ฉะ….ฉลาม”
“จริงๆ ตอนนี้เธอก็กำลังล้ำเส้นฉันอยู่นะ รู้ไม่ใช่หรือไงว่าเขตนี้ห้ามมา เธอมีสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อไร?”
“ดาแค่พูดชื่อยัยนั่น ไม่เห็นต้องโมโหใส่กันแบบนี้เลย”
“อย่ายุ่งกับเธอ”
“ปกป้องมันหรอ”
“เหมือนเราจะคุยกันไม่รู้เรื่องนะ รู้ใช่ไหมว่าฉันจัดการกับผู้หญิงงี่เง่าแบบเธอยังไง” ผมไม่ได้ขู้ ใครที่ทำให้หมดความอดทนก็ไม่จำเป็นต้องทนต่อ ถูกไหม
สำหรับผมการตัดใครออกไปมันไม่ได้ยากลำบากขนาดนั้น ไม่มีผลต่อความรู้สึก
“โอเคดาไปแล้ว อย่าโกรธนะ”
ผมเงียบเมินหน้าหนีหวังว่าเธอจะมองออกจากการกระทำว่ามันสื่อถึงอะไร
Talk ดาบี
ฉลาม: เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหม
หลังจากได้อ่านข้อความมันทำให้ฉันกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนเหงื่อออก เหตุผลก็เพราะหัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงอีกแล้ว
จริงๆ ก็ไม่อยากจะคิดอะไร แต่มาชวนไปกินข้าวแบบนี้ใครมันจะห้ามความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองได้
ฉลาม: ทำไมอ่านแล้วไม่ตอบ
ฉลาม: ไม่สะดวกคุย หรือ ไม่อยากไป
พอเห็นเขาตั้งคำถามแบบนั้นฉันที่หัวใจแทบจะหยุดเต้นก็รีบตอบกลับทันควันไม่ปล่อยอีกฝ่ายรอนาน
ฉัน: กินที่ไหนหรอ
ฉลาม: เธอเลือกมาเลยว่าอยากกินที่ไหน
ฉัน: ฉลามเป็นคนชวน เลือกมาเลยก็ได้
ฉลาม: คอนโดฉันไหม
ฉัน: ฉลามอย่าแกล้งสิ
ถึงมันจะเป็นเพียงคำถามสั้นๆ แต่ก็ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ วูบไหวได้เหมือนกัน รู้ว่าผู้ชายคนนี้อันตรายและเหมือนว่าตอนนี้ความรู้สึกของฉันมันกำลังถลำลึกไปเรื่อยๆ
เริ่มกลัวว่าจะถอนตัวไม่ได้
ฉลาม: วันนี้ว่างใช่ไหม
ฉัน: อือว่าง
จริงๆ ต้องไปทำงานที่ร้านแต่ใจมันเกเร ถูกชวนแบบนี้ฉันจึงคิดว่าจะขอพี่ฝ้ายหยุดงานสักวัน ถึงแม้ช่วงนี้จะหยุดบ่อยก็ตาม
ฉันรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้มันไม่ปกติมากๆ แต่หยุดไม่ได้เลย ทำไมเขาถึงดึงดูดได้มากขนาดนี้ก็ไม่รู้
ฉลาม: จะให้รอรับที่คณะเลยไหม หรืออยากให้ไปรับที่หอ
ฉัน: ฉลามสะดวกหรอถ้ารอรับหน้าคณะ
ฉลาม: ทำไมถามแบบนั้น
ที่ถามก็เพราะว่าเขามันคนฮ๊อต จะมารอรับฉันที่คณะให้ผู้หญิงคนอื่นเห็นได้ยังไง แต่คำถามนั้นทำให้ฉันต้องคิดทบทวนใหม่
ฉัน: ดาบีกลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดน่ะ
ฉลาม: ไม่มีอะไรต้องกลัว เลิกเรียนกี่โมง
ฉัน: บ่ายสาม
ฉลาม: อืม เดี๋ยวไปรอรับ
ตึกตัก! ตึกตัก! นี่ฉันปล่อยให้ฉลามเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจมากขนาดนี้เลยหรอ การที่เขาบอกว่าจะมารับที่หน้าคณะมันทำให้ฉันหลงคิดไปเองว่าตัวเองนั้นพิเศษ ฉันเผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปแบบนั้นจริงๆ หยิกแขนเพื่อเรียกสติแล้วก็ไม่ได้ผล
“นี่ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว” เสียงของมีนทำให้ฉันหลุดจากภวังค์แล้วหันมองเพื่อนที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆ
“ปะ เปล่ายิ้มซะหน่อย”
“แม้ๆ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าแกยิ้มอะดาบี จะปฏิเสธทำไม”
“………”
“มีความรักหรือเปล่าน้า ใครกันที่ทำให้เพื่อนฉันยิ้มกว้างขนาดนี้”
“มีน”
“หือ?”
“ฉัน…เหมือนคนมีความรักหรอ”
ฉันถามเพื่อนไปตรงๆ เพราะไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอแสดงออกไปมากขนาดนั้น