“เอาล่ะค่ะ ถ้าใครไม่มีคำถาม งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ” อาจารย์สาวเอ่ยออกมาหลังจากที่เธอทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ ซึ่งเหล่านักศึกษาก็เก็บของเตรียมตัวออกจากห้อง
“นี่” เสียงใครบางคนดังขึ้นทำให้ใบหน้าเล็กของวีหันไปมอง
“เมื่อกี้อาจารย์สั่งงานอะไรเหรอ” หนึ่งในเพื่อนร่วมเซคถาม
“รายงานก่อนมิดเทอมน่ะ เกี่ยวกับธุรกิจการโรงแรม”
“อ่อโอเค ขอบคุณนะ”
“อืม” หญิงสาวก็ยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะเดินออกจากห้องไปตามปกติของตัวเอง
ตึกตึก
“น้ำขิง” วีเดินเข้าไปเอ่ยทักทายอีกคนที่นั่งทำหน้ามุ่ยอยู่บริเวณตรงประจำที่พวกเธอชอบมานั่งรอกัน
“เป็นอะไรไป” ปากเล็กอดที่จะถามออกมาไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อน
“เซ็ง!”
“ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้น”
“ก็อาจารย์อะดิ เพิ่งไลน์มาบอกในกลุ่มว่ายกเลิกคลาส แล้วอีกครึ่งชั่วโมงเริ่มเรียนเนี่ย โอ๊ย!” น้ำขิงบ่นออกมาด้วยสีหน้าหัวเสียสุด ๆ
“ใจเย็น ๆ”
“มันสมควรไหมเนี่ย! แล้ววันนี้ฉันมีเรียนตัวนี้ตัวเดียวด้วยอะ ให้ตายเหอะ”
“...” วีก็ได้แต่ยืนมองเพื่อนตัวเองที่นั่งวีนอยู่ห่าง ๆ
“อยากจะบ้า!” ว่าแล้ว น้ำขิงก็เอามือขยี้หัวบ่งบอกได้ถึงอารมณ์ของเจ้าตัวได้ดี
“เอาน่า คิดซะว่า...”
“...ออกมากินข้าวเที่ยงแล้วกันนะ”
ขวับ! ใบหน้าหงอหันมามองเพื่อนตัวเองตาขวาง
“แหะ” คนตัวเล็กจึงส่งยิ้มให้อีกคนไป
“ให้ตายเถอะ เอาเวลานอนฉันคืนมา!!”
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” วีหันไปเอ่ยถามน้ำขิงขึ้น
“ก็ดีขึ้น แต่ยังเซ็งอยู่”
“เลิกหงุดหงิดเถอะน่า มันไม่ได้ช่วยอะไรนะ”
“ก็มันอดไม่ได้ปะวี ดูอาจารย์ดิ...”
“...” ตากลมก็จ้องมองหน้าเพื่อนตัวเอง
“โอเค ไม่บ่นแล้วก็ได้” สุดท้ายน้ำขิงก็เลือกที่จะพยายามใจเย็นตามที่วีบอก ก่อนจะมองหน้าถามอีกคนเมื่อนึกขึ้นได้
“ว่าแต่เมื่อกี้ เธออ่านอะไรอยู่เหรอ”
“อ่อ ธีสิสของพวกพี่ปีสามปีสี่น่ะ”
“ธีสิส?”
“อืม ฉันว่าจะเลือกทำธีสิสแล้วไม่ฝึกงาน”
“ทำไมล่ะ” น้ำขิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ถ้าฝึกงานไปด้วย แล้วต้องทำงานที่ร้านไปด้วย...”
“...ฉันกลัวจะไม่ไหวน่ะ เพราะฝึกงานที่โรงแรมยังไงก็ต้องมีการสลับกะ”
“ก็จริง แต่ว่า...”
“...ธีสิสก็ไม่ได้ง่าย ๆ เลยนะ เห็นว่าเคร่งสุด ๆ ไปเลย เป๊ะมาก”
“เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงเอาของรุ่นพี่มาอ่าน”
“เตรียมตัวแต่ตอนนี้เลยเหรอ เราทำตั้งปีสี่”
“เตรียมตัวไว้ก่อนที่ดีสุด”
“ยอมเธอเลย” คนตัวเล็กเอ่ยออกมาด้วยความยอมใจความขยันของหญิงสาวอีกคนจริง ๆ แต่...
“เดี๋ยวนะ เธอจะทำธีสิสแน่ใช่ไหม” น้ำขิงมองหน้าถามวี
“อืม น่าจะนะ”
“งั้นดีเลย”
“ดี?”
“เอ้า! ก็พวกพี่ขุนก็เลือกทำธีสิสไม่ฝึกงานเหมือนกันไง ทำไมเธอไม่ไปลองถาม ๆ พวกพี่เขาดูล่ะ”
“...” ร่างบางก็นิ่ง
“พวกพี่เขาท็อป ๆ ทั้งนั้นเลยนะ เธอผ่านฉลุยแน่”
“แต่...”
พึ่บ มือบางหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูอย่างไม่สนใจคำคัดค้านจากเพื่อน
“นี่วันพฤหัสพอดี วันนี้พวกพี่เขาไปรวมตัวทำธีสิสที่ห้องพี่ขุน”
“ธ...เธอรู้ได้ยังไง”
“เรื่องของพี่ขุน ฉันรู้หมดแหละ...”
“...แม่คอยให้ฉันจับตาดูพี่ชายตัวเองอยู่ ฉันรู้หมดแหละ”
“อ่อ” วีก็พยักหน้ารับรู้แต่ยังคงมีสีหน้างุนงง
“ยังจะมาทำหน้างงอะไรอีก” ว่าแล้ว น้ำขิงก็เอื้อมมือมากระชากอีกคนให้ลุกขึ้น
หมับ!
“ไปกัน”
“ฮะ...”
“ไปหาแนวทางการทำธีสิสของเธอกัน...ปะ!”
“ดะ...เดี๋ยวสิน้ำขิง เดี๋ยว...”
@คอนโดขุนพล
ออดดด ออดดด
สุดท้ายฉันก็โดนน้ำขิงลากมาที่คอนโดของพี่ขุนจนได้
แอดดด! ไม่นานประตูห้องหรูก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับใบหน้ายุ่งของเจ้าของห้อง
“ยัยขิง”
“พี่ขุน ทำอะไรอยู่อะ”
“อะไรของแกเนี่ย”
“ขอเข้าไปหน่อย” พูดจบ น้ำขิงก็แทรกตัวเข้าไปในห้องพี่ขุนทันที โดยฉันเองก็ได้แต่ยืนมองพี่เขาด้วยความเกรงใจไม่กล้าเข้าไป
“เข้ามาเถอะ” พี่ขุนบอกฉัน ทำให้ฉันก้มหัวให้พี่เขาไปเพื่อขออนุญาตก่อนจะเดินเข้าไปยังในห้อง แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเจอสายตาของใครบางคนหันมามองหน้าฉันนิ่ง
ใช่...เจ้าของสายตานั้น ก็คือพี่ดินนั่นเอง
เฮ้อ TT
ตึกตึก ฉันผละสายตาคมนั้นหันไปมองยังเสียงของคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ
“อ้าว” เสียงพี่คินเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าแปลกใจ
“น้องกูแม่ง...”
“...เล่นกูละ” พี่ขุนบอก
“เล่นอะไร ขิงแค่อยากจะพาวีมาปรึกษาพวกพี่”
“ปรึกษา?” พี่คินหันมามองหน้าฉันแววตาสงสัย
“คือวีจะทำธีสิสน่ะค่ะ แล้ว...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ
“ขิงเลยพาวีมาหาพวกพี่ เพราะรู้ว่าพวกพี่กำลังทำกันอยู่ไง” ว่าแล้ว น้ำขิงก็ส่งยิ้มหวานแต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างให้พี่ขุนกับพี่คิน
“หึ” พี่คินจึงแสยะยิ้มทำเสียงออกมา
“เอาสิ ถ้าเราอยากทำ...”
“...ก็ไปถามไอ้ดินเลย มันเก่งเรื่องนี้” พี่ขุนเอ่ยบอกฉัน ให้ตายเถอะ...พี่น้องคู่นี้ เข้าขากันดีจริง ๆ
“เอ่อ...”
“ไปเลย ไปนั่งถามมัน” แล้วพี่ขุนก็จับให้ฉันมานั่งลงข้างพี่ดินที่นั่งนิ่งอยู่ โดยฉันเองก็ได้แต่นั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ฝากแนะนำน้องด้วยนะเว้ยไอ้ดิน”
“...” พี่ดินก็นิ่งไม่สนใจนั่งทำธีสิสของตัวเองต่อ
“...” ฉันจึงแอบลอบมองใบหน้านิ่งเรียบนั้นอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่ง...
“เลิกมองสักที” เสียงเข้มของคนด้านข้างฉันเอ่ยขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งไปด้วยความตกใจก่อนจะก้มหน้าลงทันที
“...” คนตัวสูงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก พี่ดินยังคงนั่งทำงานของตัวเองต่อด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“คือว่า...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดหรือเอ่ยอะไรออกไป ก็มีเสียงของพี่ขุนแทรกขึ้นมาก่อน
“หิวว่ะ...”
“...มึงหิวปะไอ้คิน”
“...” พี่คินก็เงียบไม่ตอบ ทำให้ฉันเห็นพี่ขุนตบพี่คินไปทีหนึ่ง
“เออ ๆ หิว” พี่คินตอบ
“แล้วแกล่ะ ยัยขิง”
“หิวมากกก ท้องขิงร้องไม่หยุดละเนี่ย” เดี๋ยวนะ ท้องร้องไม่หยุดงั้นเหรอ แต่ว่าเราสองคนเพิ่งจะกินข้าวก่อนมาที่นี่นะ
“แล้วน้องวีล่ะ” อยู่ ๆ พี่ขุนก็หันมามองหน้าถามฉัน
“เอ่อ...”
“วีก็หิวมากค่ะ เราสองคนยังไม่ได้กินอะไรมาเลย”
“ฮะ” ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยงั้นเหรอ
“งั้นเราไปซื้ออาหารมากินกันดีไหม”
“ดี ๆ ๆ ขิงเห็นด้วย”
“ละ...แล้ว...” ฉันก็มองไปยังพี่ดินที่นั่งเงียบอยู่ ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป
“พี่ดินหิวไหมคะ”
“...” แต่ก็ไม่ได้คำตอบใด ๆ กลับมา
“งั้นเราออกไปซื้อของกินกันดีกว่า” พี่ขุนเอ่ย ทำให้พี่คินกับน้ำขิงรีบลุกขึ้นไปอย่างเห็นด้วย
“เอ่อ...” ซึ่งฉันเองก็ทำท่าจะลุกออกไปกับพวกเขา
“วี เธอไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวฉันซื้อมาให้ นั่งอยู่เป็นเพื่อนพี่ดินไปเถอะ” พูดจบ พวกเขาก็รีบเดินออกไปจากห้องทันทีโดยมีฉันที่เอาแต่นั่งเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะทำตัวยังไง...