“มันน่าเกลียดอ่ะพี่พัน... ”
หล่อนส่ายหน้า
“เอ็งจะมาถือสาอะไรกันตอนนี้... อย่าคิดมากน่ะ ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอก”
คำพูดของพี่เขยทำให้ดาวฉายขยี้ฟองสบู่แล้วลูบล้วงเข้าไประหว่างซอกขาซึ่งรกไปด้วยเส้นขนดกดำของเขา เฉียดไปเฉียดมากับแก่นกาย
พันไตรใจร้อนจึงคว้าข้อมือหล่อนมาสัมผัสกับดุ้นเนื้อของเขาเสียเอง
“อุ๊ย... ”
หญิงสาวตกใจจนสบู่หล่นจากมือ หล่อนไม่กล้ามอง หากก็พยายามลูบไล้ฟองสบู่กับดุ้นเอ็นอวบอุ่น ขนาดของเขายาวใหญ่จนหล่อนกำไม่รอบ
“น่ากลัวจังพี่พัน... ”
หล่อนจ้องมองด้วยสายตาหวาดๆ ดุ้นเนื้อไร้กระดูกท่อนนั้นปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดที่กระจายเป็นสายโอบล้อมไปทั้งดุ้นลำ
ดาวฉายหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ยิ่งลูบยิ่งคลำก็ยิ่งรู้สึกราวกับว่ากำลังกำมะระจีนสีเขียวดุ้นใหญ่ๆ ที่นิยมนำมายัดไส้แกงจืด
แต่ยิ่งคลำไปคลำมาก็รู้สึกราวกับว่ากำลังลูบไล้ฝักข้าวโพดขรุขระยังไงยังงั้น
“พอหรือยัง... ”
มือของดาวฉายสั่นไปหมดแล้ว
“ข้างล่างด้วยสิ... ต่ำลงอีก... อีกนิด”
“อ๊ะ... ”
พันไตรถ่างขาออกเล็กน้อย หญิงสาวเสียบก้อนสบู่เข้าที่ซอกขาของเขาพร้อมกับฝ่ามือค่อยๆ ถูสบู่ทั้งก้อนคลึงเคล้ากับถุงหนังย่นยานคล้ายมะกรูดสองลูก แขวนโตงเตงไว้ใต้โคนแท่งเนื้อร้อนผ่าว
ทำไมของพี่เขยคนนี้ช่างใหญ่ยาวสุดๆ ไม่รู้อะไรดลใจให้ดาวฉายเผลอเอื้อมท่อนแขนออกไปเทียบเคียง ตอนนั้นจึงได้รู้ว่าสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของเขายาวใหญ่พอๆ กับแขนของหล่อนเลยทีเดียว
“พอแล้วนะ... ”
ดาวฉายใจเต้นแรง ทำท่าขนลุกแล้วยัดสบู่ใส่มือพันไตร ก่อนจะรีบก้าวยาวๆ หนีออกมาด้วยใบหน้าแดงซ่าน ไม่นึกไม่ฝันว่าการได้สัมผัสลูบไล้ไอ้นั่นของเขาถึงกับทำให้ใจสั่น เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ ราวจะเป็นไข้
“ดาว... เดี๋ยวสิ... แล้วกัน”
พันไรเรียก แต่ดาวฉายไม่ยอมหันหลังกับมามองเขา ปล่อยให้พี่เขยมองตามร่างของหล่อนวิ่งลับไปที่ด้านหลังดงกล้วยด้วยแววตาสุดแสนเสียดาย
ในเวลาต่อมา
พันไตรอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เดินเข้ามาในบ้าน ตอนนั้นดาวฉายกำลังอุ่นอาหารที่หล่อนซื้อเอามาฝาก
“กินข้าวถอะพี่... ตอนนี้ค่ำมากแล้ว”
หล่อนเลื่อนจานผัดซีอิ๊วมาตรงหน้าเขา บอกพลางรินน้ำเย็นใส่แก้วที่วางอยู่ตรงหน้าพี่เขย
“เอ็งยังจำได้ว่าพี่ชอบผัดซีอิ๊ว”
เขาขยับจานมาตรงหน้า คว้าช้อนคว้าซ่อมมาถือไว้ในมือ
“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ... ก็เมื่อก่อนฉันเคยอยู่กับพี่นี่นา”
ตอนยังเป็นสาวรุ่นดาวฉายเคยมาอาศัยอยู่กับดวงเดือนและพันไตรที่บ้านหลังนี้
ตอนนั้นดาวฉายเองก็พอจะมองออกว่าพันไตรคิดอย่างไรกับหล่อน? แต่ที่เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกได้มากไปกว่าสายตาที่สบกันไปมา ก็เป็นเพราะว่าดวงเดือนพี่สาวของหล่อนยังมีชีวิตอยู่
“เดี๋ยวฉันคงต้องกลับ... รถตู้ในเมืองมีถึงสองทุ่มครึ่ง วานพี่ไปส่งฉันที่ในตลาด”
“อะไรนะ... เอ็งไม่เห็นหรือยังไง ว่าฝนตั้งเค้าทะมึนมาแต่หัวค่ำ ฟ้าแลบฟ้าร้องครืนๆ ขนาดนี้ออกไปอันตราย พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับดีกว่า... เดี๋ยวพี่ขับรถกระบะออกไปส่งให้ถึงท่ารถ... หรือเอ็งจะให้พี่ขับรถไปส่งถึงกรุงเทพฯ เลยก็ได้”
พันไตรเอ่ยอาสาอย่างเต็มใจ
“อ้าว... ไหนว่ามือเจ็บ... ขับรถได้หรือ?”
น้องเมียเริ่มสงสัยในความเจ้าเล่ห์ของพี่เขย เมื่อครู่พันไตรยังทำสำออดสำออยว่ามือเจ็บแขนเจ็บ แต่ตอนนี้กลับนั่งตักข้าวกินปร๋อเหมือนไม่เป็นอะไร
“หายแล้ว... ดาวอาบน้ำให้ พี่เลยหายเร็ว”
คนเจ้าเล่ห์ตอบพลางมองดูหญิงสาวเทกับข้าวในถุงพลาสติกใส่ลงในถ้วยตรงหน้าเขา เป็นกับข้าวที่ดาวฉายแวะซื้อเอามาฝากเพราะจดจำได้ว่าพี่เขยคนนี้ชอบกินผัดเผ็ดปลาดุกเป็นที่สุด
“ของโปรดพี่พัน... กินเยะๆ นะ”
หล่อนเลื่อนถ้วยมาตรงหน้าเขา
พันไตรมองหน้าน้องเมียแล้วอมยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนยังอุตส่าห์จดจำได้ไม่ลืม ว่าเขาโปรดปรานผัดเผ็ดปลาดุก
“ตกลงเอ็งจะค้างสักคืนไหม”
เขาถามพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“งั้นก็ได้... พรุ่งนี้ค่อยกลับ”
คนเป็นน้องเมียตอบโดยไม่มองหน้าเขา เพราะเห็นว่าฝนเริ่มกลั่นเม็ดลงมาแล้ว แลเห็นสายฟ้าแลบแปลบปลาบเป็นประกายอยู่ไกลๆ
“พี่กินข้าวไปนะ”
“อ้าว... แล้วเอ็งจะไปไหน”
พันไตรทำหน้าประหลาดใจ
“ฉันจะลงไปอาบน้ำ”
บอกแล้วหญิงสาวก็เดินออกมาจากครัว พันไตรจ้องมองจนเรือนร่างของน้องเมียกำลังจะลับไปจากสายตา
ทว่าจู่ๆ เมื่อหญิงสาวเหลียวกลับมามอง เขาก็ทำท่าก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป ทั้งที่ภายในใจกำลังว้าวุ่นกระวนกระวาย แอบจินตนาการถึงภาพของหล่อนกำลังแก้ผ้าอาบน้ำ
ในเวลาต่อมา
ที่ห้องน้ำข้างป่ากล้วยหลังบ้าน ร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องของดาวฉายยืนตระหง่านอยู่ภายใต้แสงไฟดวงเทียนแรงต่ำสีเหลืองนวลอาบไล้เรือนร่างหมดจดงดงามของหล่อน
หญิงสาวค่อยๆ ตักน้ำราดรดบนเรือนกายของตัวเอง ขณะที่ความรับรู้ทั้งหมดกระหวัดไปถึงใบหน้าคมคร้ามของพันไตรผู้เป็นพี่เขย จิตใจจดจ่ออยู่แต่รูปร่างกำยำล่ำสันสมชายชาตรีของเขา สบู่ก้อนเดียวกันกับที่หล่อนเคยลูบไล้ขัดถูจนทั่วแก่นกายของเขา บัดนี้กำลังขยับเข้าๆ ออกๆ อยู่ในกลีบเนื้อขมิบรัดของหล่อน
ความรู้สึกที่ว่าสบู่ก้อนเดียวกันนี้ได้เคยไถถูดุ้นเนื้อร้อนผ่าวของเขามาแล้ว... ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนใจจะขาด เมื่อมันขยับเข้าๆ ออกๆ อยู่ในโพรงเนื้อนุ่มแน่นและขมิบรัดของหล่อน
‘พี่พัน... พี่พันจ๋า... พี่พัน’
ดาวฉายร้องเรียกชื่อเขาอยู่ในใจ มือข้างหนึ่งบีบบี้ยอดถันของตัวเองจนแข็งตั้งเป็นตุ่มไต มืออีกข้างถูก้อนสบู่ผลุบเข้าผลุบออกอยู่ในร่องหลืบลึกเร้นที่โดนแท่งสบู่เสียบยัด
ดาวฉายเท่านั้นที่รู้ว่าหล่อนแอบรักพี่เขยคนนี้มานานแค่ไหนแล้ว...
หล่อนรู้ว่าตัวเองแอบรักพี่เขยคนนี้มานานเท่าๆ กับระยะเวลาของดวงเดือนพี่สาวของหล่อน แต่ที่พันไตรเลือกพี่สาวหล่อนก็เพราะว่าดวงเดือนเป็นสาวกว่า ตอนนั้นดาวฉายยังเด็กมาก อายุเพิ่งสิบห้าหยกๆ ในฐานะพี่สาวซึ่งควรออกเรือนก่อนน้องสาวทำให้ดวงเดือนได้พันไตรมาครอง
เสียงฝนโปรยสายลงมากระทบหลังคาสังกะสีดังเปาะแปะ ขณะกลีบเนื้อของหล่อนแฉะเปียกไปด้วยน้ำหล่อลื่นเคล้าฟองสบู่
‘บ้าจริง... ’
ดาวฉายตำหนิตัวเองอยู่ในใจ พยายามสลัดภาพใบหน้าคมคร้ามของพี่เลยออกไปจากหัว รีบจ้วงตักน้ำล้างเนื้อตัวให้เขา ทว่าในทันทีที่หล่อนเปิดประตูห้องน้ำออกมา