ตอน 2

1418 คำ
“ไปค่ะไป ลินอยากช่วยงานพี่ใหญ่” ไพลินหน้าตาเบิกบาน เต็มใจจะเข้าไปช่วยงานพี่ชายอยู่แล้ว เนื่องด้วยขอมาหลายครั้งคำตอบยังคงเหมือนเดิม ไม่ให้ไป ที่แบบนั้นไม่เหมาะกับคนอย่างเธอ แปลกคน...ที่แบบนั้นเลวร้ายอะไรนักหนาแค่ไปช่วยทำงาน อีกอย่างเรื่องอะไรจะช่วยฟรี ต้องได้เงินเดือนด้วยถึงจะถูก เงินเดือนในระดับปริญญาตรี ถึงแม้จะยังไม่จบอย่างน้อยก็เป็นว่าที่บัณฑิตแล้วละ “เดี๋ยวลิน...ความจริง...เอ่อ...” แม่นวลไม่อยากให้ไพลินไปทำงานที่ผับกับพี่ชาย รู้อยู่ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับพวกนักท่องราตรี ส่วนใหญ่ล้วนขี้เมา เพราะลูกชายขายความบันเทิง จึงไม่อยากให้ลูกสาวเข้าไปยุ่งเกี่ยว พานจะไปเห็นอะไรไม่ดีไม่งามเข้า เด็กสาวหลงแสงสี ใจแตกมาก็เยอะแม่นวลไม่ต้องการให้เกิดเรื่องอย่างนั้นกับไพลิน นับวันไพลินยิ่งโตขึ้นยิ่งสวย เปล่งประกายความสวยเหมือนใครคนหนึ่งไม่มีผิด สวยจนตนต้องระวังอย่างมากเกรงจะทำให้ให้ใครคนนั้นผิดหวัง “มีอะไรครับแม่” พี่ใหญ่มองสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีผู้เป็นแม่เกิดสงสัยขึ้นมา แม่กำลังห่วงหรือกังวลอะไรกันแน่ หากเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เขาจะเป็นผู้ควบคุมไพลินเอง อีกอย่างน้องสาวไม่เคยปฏิบัติตนนอกลู่นอกทาง จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียมาถึงผู้ใหญ่ ดังนั้นตนยังเชื่อเสมอว่าไพลินจะไม่ทำให้พวกท่านปวดหัวแน่นอน “แม่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ถ้าใหญ่จะดูแลน้องได้แม่ก็คลายใจ” แม่นวลเชื่อว่าลูกชายดูแลน้องได้แต่น้องละ ไม่เคยออกนอกบ้านไปอยู่สถานที่แบบนั้น ถ้าไปเจอพวกผู้ชาย ประเภทเขี้ยวงอกลากดิน เจ้าเล่ห์เพทุบาย รวมทั้งพวกหน้าหม้อหื่นกระหาย ใหญ่จะมีเวลาควบคุมตรงนั้นไหม “รับรองครับแม่ ยัยลินทำงานอยู่แต่ในส่วนออฟฟิศ ไม่ได้ออกไปเพ่นพ่านส่วนของผับ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ผมรับรองด้วยเกียรติพี่ชายคนนี้ จะดูแลน้องเป็นอย่างดี” พี่ใหญ่ให้สัญญากับแม่เป็นมั่นเป็นเหมาะ ที่ผ่านมาเขาก็ทำหน้าที่ผู้ปกครองให้น้องได้เป็นอย่างดี ทั้งไปรับไปส่งเข้าเรียน แม้จะอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็ยังคงทำหน้าที่นั้น ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน เขาก็ต้องไปส่งน้องให้ถึงสถาบัน ยืนมองจนเดินเข้ารั้วสถาบันเรียบร้อยแล้ว จึงบ่ายหน้าขับรถกลับบ้าน แต่ตอนเย็นหลังๆ เห็นว่าไพลินโตแล้ว จึงลองปล่อยให้เผชิญชีวิตเองบ้าง ไพลินก็ทำให้ครอบครัวไว้ใจมาตลอด ยกเว้นวันนี้เท่านั้นที่ทำให้ใหญ่เกือบบันดาลโทสะ ไพลินใช้เวลาแต่งตัวเกือบยี่สิบนาทีจึงก้าวลงมาจากห้อง พร้อมกับเสื้อผ้าชุดเรียบร้อย มีเสื้อคลุมทับปิดบังอำพรางทรวดทรง ที่โตเป็นสาวเต็มที่ “อืม...เรียบร้อยดีมาก” พี่ใหญ่มองดูน้องสาวจึงมั่นใจว่าจะไม่เป็นที่เตะตาบรรดาแขก หรือพนักงานชาย “เห็นไหมแม่น้องรู้จักแต่งตัวมิดชิดรัดกุม กางเกงขายาว เสื้อคลุมทับเสื้อด้านในอีก ไม่ต้องห่วงหรอกครับ” พร้อมกับพูดให้แม่สบายใจ เขาเห็นสาวที่มาเที่ยวผับเปิดแทบทุกส่วนจนชินตา แล้วส่วนใหญ่ล่อเสือทั้งนั้น ไพลินน่ารักมากที่ไม่ทำตัวแบบนั้น ทั้งสองพี่น้องก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไป ท่ามกลางสายตานวล ที่คอยเป็นห่วงเป็นใย “ทำไมหน้าเครียดขนาดนั้นละคุณ” พ่อยอดที่เพิ่งเดินออกจากในครัว เอ่ยถามภรรยาซึ่งมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ยัยลินนับวันยิ่งโตยิ่งสวย” “ก็ดีแล้วไง คงได้เชื้อแม่มาเยอะ” พ่อยอดกล่าวยิ้มๆ กับภรรยา เขาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องต่างๆ อย่างกับภรรยา แม่นวลมักเคร่งกับทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเลี้ยงลูกสาว หวั่นหวาดไปทุกอย่าง จึงกลายเป็นคนเข้มงวดกับไพลินกว่าพี่ใหญ่ เช่นนี้ไพลินจึงเกรงกลัวแม่นวล ส่วนใหญ่มีอะไรมักวิ่งเข้าหาคนเป็นพี่ชายและพ่อ เช่นนั้นแม่นวลจึงตัดสินใจยกหน้าที่ดูแลไพลินให้กับใหญ่โดยปริยาย “ใช่กตเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยจนหนุ่มๆ แย่งกันจีบ” “คุณกลัวอะไรที่พูดแบบนี้” “กลัวดูแลลินไม่ดีน่ะสิคะ” “เราทำดีที่สุดแล้ว เลี้ยงเด็กเลี้ยงได้แค่ตัว หัวใจเป็นของเขา คุณทำดีที่สุดแล้วนะ” ยอดยกมือลูบศีรษะภรรยา เพื่อเป็นการปลอบใจ เขารู้ว่านวลทำดีที่สุดในฐานะคนเป็นแม่คนหนึ่ง มากกว่านี้คงต้องจับลูกสาวขังกรงไว้เท่านั้น “ฉันก็ยังเชื่อว่าลินคงจะเป็นเด็กดี” “อะไรที่คุณตั้งใจไว้ คุณจะยังยืนยันหรือเปล่าล่ะ ถ้ายืนยันมั่นคงตามนั้น คงไม่น่ามีปัญหาอะไร” “อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ทำได้เท่าที่ทำ หวังได้เท่าที่หวัง ถ้าวาสนาพ้องกันทุกอย่างคงเป็นไปตามนั้น” “คุณเชื่ออย่างนั้นนับว่าดีแล้ว มาเถอะมากินข้าวกัน ผมทำกับข้าวของโปรดคุณทั้งนั้นเลยนะ” พ่อยอดถือโอกาสชวนภรรยาสนใจเรื่องอื่น มากกว่าเครียดเรื่องอนาคตลูกๆ การเป็นพ่อเป็นแม่กะเกณฑ์ชีวิตลูกมากๆ พวกเขาย่อมอึดอัด จะพูดจะจาแสดงออกอะไรเกรงไม่ถูกใจพ่อแม่ไปซะหมด พานจะเครียดกันไปทุกฝ่าย “ขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวลงมากิน” แล้วแม่นวลจึงผละไปจากสามี ผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของนาง เขารักครอบครัว เป็นพ่อบ้านที่ดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง กลับจากทำงานก็เดินเข้าครัว ตระเตรียมอาหารไว้รอนางที่กลับช้ากว่า อีกสองปีแม่นวลจะเกษียณ จึงอยากเห็นใหญ่เป็นฝั่งเป็นฝา มีเมียที่ดีมีครอบครัวที่น่ารัก “นี่โต๊ะทำงานลิน ส่วนนี่บิลซื้อจ่าย บิลรับต่างๆ ช่วยลงบัญชี รายรับรายจ่ายให้ด้วย ทำได้ไหมเข้าใจหรือเปล่า” หลังจากพาน้องสาวเข้าไปในห้องทำงาน โดยการเลี่ยงไม่เดินผ่านในส่วนของผับ เพราะลึกๆ แล้วหวงน้องสาวไม่อยากให้พนักงานผู้ชาย หรือแขกที่มาเที่ยวเห็นน้อง อีกทั้งไม่ชอบให้น้องเห็นแสงสีเสียงตระการตา ประเดี๋ยวจะเหลิงใจแตก เขาจึงสั่งให้พนักงานนำเอกสารการเงิน บิลรับ บิลจ่ายต่างๆ มาส่งที่ห้องทำงาน แล้วนั่งอธิบายงานแก่ไพลินสักครู่ เมื่อเห็นว่าน้องสาวเข้าใจดีแล้วเขาจึงจะให้ลงบัญชี “ยากกว่านี้ก็ทำได้ค่ะ ลินเรียนบัญชีมานะคะ อย่าลืมสิพี่ชาย” “ดีๆ พี่จะได้วางใจ พอลินเรียนจบถ้าอยากมาช่วยงานพี่ก็มาได้ หรือถ้าอยากไปทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ ตามแต่ที่ลินอยากไป” “จริงหรือเปล่าคะ” ไพลินไม่อยากไปไหนไกล อยากอยู่ใกล้ๆ พี่ใหญ่เท่านั้น ความรู้สึกที่ถักทอขึ้นมาโดยที่ตัวเองไม่รู้เหมือนกันทำไมจึงได้รู้สึกแบบนี้กับพี่ชาย เป็นความรู้สึกไม่ใช่แบบพี่น้องควรคิดต่อกัน แต่ไพลินคิดไปแล้ว อีกทั้งยังถักทอสานขึ้นแน่นหนาในแต่ละวัน หวง หึง อย่างประหลาด ทั้งๆ ที่พี่น้องไม่ควรมีความรู้สึกอย่างนี้ต่อกัน มืออบอุ่นที่เคยลูบหัว ลูบหลัง ไพลินต้องการให้ประพรมไปทั่วร่างกายของเธอ ปากบางได้รูปนั้น นึกอยากให้ถูกเขาบดขยี้ประกบปิดครอบครองปากเธอ อย่างที่ชายหญิงทำต่อกัน ไพลินมองมือใหญ่ที่วางบนโต๊ะ ใกล้ๆ กับเรียวแขนของเธอ รู้สึกใจสั่นไหวร้อนเร่าขึ้นมาดื้อๆ ด้วยจินตนาการหนักหนาสาหัส ต้องการให้มือนี้ลูบไล้บนเนื้อตัวสาวไปทุกส่วน พอคิดร่างกายพลันร้อนผ่าว สลับกับความหนาวที่แทรกเข้ามาปัจจุบันทันด่วน “เป็นอะไรน่ะลิน ร้อนเหรอ พี่ปรับแอร์ให้เอามั้ย” พี่ใหญ่มองดวงหน้าน้องสาว เห็นชัดเจนยามดวงหน้างดงาม สะอาดสะอ้าน ตามวัยสาวต้องแสงนีออนเม็ดเหงื่อผุดผายทั่วดวงหน้า “อ้อ...เอ่อ...เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ใหญ่ ลินคงไม่ชินกับสถานที่ อีกอย่างเป็นครั้งแรกที่ลินจะต้องทำงานจริงๆ จังๆ คงตื่นเต้นไปหน่อย” หญิงสาวหาข้อแก้ตัวที่พอคิดได้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม