บทที่ 8. นอกจากจูบไม่มัดใจ?

2819 คำ
อลังการรอไม่เกินสิบนาทีก็เห็นบัวชมพูหิ้วเป้สะพายหลังเดินเร็วๆ มาทางเขา มือหนึ่งถือกระเป๋าโน้ตบุ๊ก เธอสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนมันเรียบง่ายเสียจนเขาได้แต่ส่ายหน้าแล้วคิดว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของเธอคงมีแต่เสื้อผ้าแนวนี้          บัวชมพูให้อลังการจอดรถที่ตลาดเพื่อซื้อของสดเข้าบ้าน เขาส่งเงินให้แล้วบอกให้หญิงสาวซื้อเสื้อผ้ามาเพิ่ม เขากลัวในเป้ของเธอจะมีแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสามส่วน บัวชมพูแค่ยักไหล่แล้วเดินไปซื้อของใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็กลับมาพร้อมถุงหลายใบ เขาไม่ขยับตัวลงมาช่วยเธอสักนิด หญิงสาวไม่ได้บ่นอะไร จนกระทั่งมาถึงบ้านเขาก็เดินตัวปลิวไปไขกุญแจบ้านแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา มองดูร่างเล็กเดินถือข้าวของเข้ามาในบ้าน เธอเดินวนไปวนมาอยู่สามรอบจึงหอบข้าวของเข้ามาหมด ยังไม่ทันอ้าปากส่งเสียง บัวชมพูก็ยกน้ำเย็นมาให้แล้วหมุนตัวไปทำอะไรไม่รู้ในครัว          เขาชะเง้อมองอย่างแปลกใจ รู้สึกแปลกๆ พิกล ก็...ทุกทีพูดไม่หยุดเหมือน เถียงได้ทุกคำ เขามองหญิงสาวที่หยิบนู้นจับนี้ สองมือคล่องแคล่วเสียจนเหมือนอยู่บ้านนี้มาเป็นปีเป็นชาติ จนกระทั่งเธอเปิดชั้นเก็บของด้านบนแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้น อลังการลุกพรวดขึ้นไปยืนซ้อนด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว          “จะเอาอะไร ประเดี๋ยวของก็ตกใส่หัวหรอก”          “จานค่ะ” บัวชมพูพูดเสียงเบา “จานชามสำหรับรับแขกอยู่ด้านบน”          “ของหยิบยากทำไมไว้ด้านบน” เขาบ่นแล้วหยิบจานชามลงมาให้          “นี่บ้านคุณใหญ่นะคะ ไม่ใช่บ้านหนูเสียหน่อย”   บัวชมพบ่นอุบอิบ เธอใจลอยมัวแต่คิดเรื่องที่คุยกับน้ารุ่งรวีและฝากให้ดูแลแม่ ตอนนั้นแม่หลับอยู่เธอไม่กล้ารบกวนเวลาแม่นอน ไม่รู้ว่าน้ารุ่งรวีนึกยังไง ยัดยาคุมฉุกเฉินใส่กระเป๋ามาให้เธอด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าน้ารุ่งรวีเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนไหน หรือตั้งแต่วันที่เธอคุยเรื่องคุณใหญ่แล้วก็เป็นได้  รุ่งรวีไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ ได้แต่บอกให้เธอดูแลตัวเองให้ดี เธอโอนเงินเข้าบัญชีแม่ไว้เผื่อแม่ไว้ใช้เวลาไปฟอกไต          อลังการเผลอยิ้มออกมาที่ได้ยินเสียงถ้อยคำประชดประชัน เขายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง รับรู้ได้ถึงกลิ่นกายหอมละมุน เขาโน้มหน้าลงจนปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนผมดำขลับ บัวชมพูที่ยังใจลอยคิดเรื่องอาการเจ็บป่วยของแม่ ไม่ทันรู้ตัวว่าคนด้านหลังทำอะไรอยู่ เธอหมุนตัวกลับมาหน้าผากก็โดยริมฝีปากหยักสัมผัสเบาๆ          “อ๊ะ!” บัวชมพูอุทานด้วยความตกใจ ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นท่าทางคุกคามของเขาทำเอาเธอเผลอถอยหลังแต่ไปชนซิงค์ล้างจาน สองแขนของอลังการยื่นมาคร่อมและกักขังร่างเล็กไว้  ดวงตาคมดุจราชสีห์จับจ้องเหยื่อที่เผยอริมฝีปากขึ้นด้วยความตกใจ          เพราะไม่มีทางให้หลบหนี และทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทั้งตั้งตัว ริมฝีปากหนาก็ทาบลงมาประกบกับริมฝีปากของเธอ ปลายลิ้นชื้นแทรกเข้ามาในโพรงปากหยอกล้อกับลิ้นน้อยๆ ของหญิงสาว เธอเอนหลังถอยหนีทำให้เขาเลื่อนมือมาโอบแผ่นหลังของเธอไว้ และมืออีกข้างประคองท้ายทอยให้รับจูบวามไหวที่มอบให้ เพราะเรียวลิ้นของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต พอได้สติก็ยกมือขึ้นหมายจะดันเขาออกแต่เขากลับรัดร่างเธอแน่นขึ้นจนร่างของเธอแนบชิดกับแผ่นอกแกร่งของเขา  ร่างกายผ่าวร้อน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาโอบกอดเธออยู่ ร่างปวกเปียกของเธอพร้อมจะทรุดลงไปกองกับพื้น          อลังการถอนริมฝีปาก จ้องมองดวงตาวาวคู่นั้นที่จ้องมองเขาอย่างตื่นตกใจ ริมฝีปากช่างต่อล้อต่อเถียงถึงกับเผยอค้าง สูดอากาศเข้าปอด กลายเป็นเขาเองที่ทำอะไรไม่ถูก ยกลือลูบแผ่นหลังของเธอเบาๆ          “เวลาจูบหายใจทางจมูกสิ”          “จูบ”  เหมือนบัวชมพูเพิ่งได้สติ “คุณใหญ่จูบหนู?”          “อืม” เขาจ้องมองหญิงสาวที่ยังมึนงงอยู่ “ทำไม ฉันจูบไม่อร่อยหรือไง”          จากที่คิดว่าตัวเองรับมือได้ทุกสถานการณ์ แต่ตอนนี้บัวชมพูทำอะไรไม่ถูก ยกหลังมือขึ้นมาเช็ดริมฝีปาก แล้วผลักเขาให้ถอยห่าง แต่อลังการไม่ยอมปล่อย เห็นท่าทางแบบนี้แล้วยิ่งหงุดหงิด เขาก็ไม่ได้จูบแย่ขนาดนั้นนี่ ที่ผ่านมาผู้หญิงก็ชอบทั้งนั้นนี่          “หยุดนะ! คุณจะทำอะไร!” เพราะเขาไม่ยอมปล่อยทำให้เธอเผลอส่งเสียงดังออกไป          “ก็จูบไง”          “ไม่ได้นะ!”   บัวชมพูขึงตาใส่เขา แต่อลังการกลับมองว่าน่ามองนัก ยัยเด็กคนนี้เขินเป็นด้วย เขาแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แล้วเป่าลมหายใจร้อนระอุใส่ใบหูน้อยๆ ของหญิงสาว “กลัวเหรอ” เพราะถูกท้าทาย บัวชมพูจึงเขย่งปลายเท้าแล้วยื่นริมฝีปากไปประกบกับริมฝีปากเขา เมื่อใกล้จนเห็นแววตายั่วล้อของเขาแล้วก็ได้สติว่าถูกเขาหลอกเข้าให้แล้ว แต่มีหรืออลังการจะยอมปล่อย เขาเผยอปากขึ้นขบริมฝีปากเธอเบาๆ หยอกเย้าและยั่วยวน  เกินคาดคิด ยัยเด็กปากร้ายนี้แท้จริงแล้วหวานฉ่ำจนเขาไม่อยากหยุด ฝ่ามือเลื่อนมาลูบไล้แผ่นหลัง ไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะปั่นปวนอารมณ์เขาได้มากถึงเพียงนี้   “พอ...พอแล้ว..” บัวชมพูเบือนหน้าหนีก็พูดออกมาด้วยเสียงสั่น “พอได้แล้ว” “พอแล้วจริงๆ เหรอ” เขายั่วแล้วงับติ่งหูของเธอเล่น ทำให้หญิงสาวย่นคอเหมือนเต่าตัวน้อย   บัวชมพูพยายามเรียกสติของตัวเอง เธอเคยคิด เคยจินตนาการเรื่องระหว่างชายหญิงกับผู้ชายที่เธอปลื้มนั้นก็คือเขา แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าอย่างไร คนอย่างอลังการไม่มีวันสนใจผู้หญิงอย่างเธอแน่นอน มันเหมือนเธออยู่ผิดที่ผิดเวลา หากวันนั้นเธอไม่ได้ยืนอยู่ในระยะเอื้อมมือคว้า เขาจะโอบไหล่เธอแล้วบอกว่าเป็นเมียอย่างนั้นเหรอ   “คุณเล่นเลยเถิดไปแล้วนะ”           อลังการเลิกคิ้วประหลาดใจกับน้ำเสียงเย็นชาของหญิงสาว คราวนี้เธอไม่ได้แสดงสีหน้าหวั่นไหวใดๆ อีก ด้วยท่าทางของเธอเป็นอย่างนี้ทำให้ความมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองหายไปหมด   ไม่จริงน่า! นอกจากจูบไม่มัดใจแล้วยังยั่วผู้หญิงไม่สำเร็จอีกเหรอ?          “หนูต้องทำกับข้าวนะคะ ประเดี๋ยวเตรียมไม่ทันคุณอาปกรณ์มากินข้าว คุณใหญ่ไปอาบน้ำดีกว่าค่ะ อย่ามายุ่งในครัวเลย”          เพราะมัวแต่นิ่งอึ้งจึงไม่ได้รั้งร่างเล็กไว้ บัวชมพูหลุดจากอ้อมกอดง่ายดาย เธอเบี่ยงตัวเดินไปหยิบผักที่ซื้อมาออกมาล้างแล้วทำอย่างอื่นไม่สนใจคนตัวโตที่ยืนทำอะไรไม่ถูก เขาได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมแก้เขินแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน บัวชมพูถอนหายใจยาวเมื่อเห็นว่าเขาเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไปแล้ว หญิงสาวยกมือลูบอกพยายามสงบใจแล้วบอกตัวเองว่า ‘เขาก็แค่แมวหนุ่มที่หยอกหนูตัวน้อยเล่นเท่านั้น’          บัวชมพูสลัดความคิดในหัวออกไปแล้วตั้งใจทำกับข้าวสามสี่รายการ ต้มยำกุ้งน้ำใสรสจัดจ้าน ผัดผักรวมมิตร กั้งทอดกระเทียมและ ยำทะเลรสเด็ด เธอเดาว่าทั้งสองชอบรสเผ็ดจัด ดูจากที่อลังการกับปกรณ์สั่งอาหารในวันก่อน และเพราะช่วยงานรุ่งรวีเป็นประจำ เรื่องทำอาหารเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ไม่อาจเรียกตัวเองว่าเก่งกาจ แต่รสมือเธอนั้นใครชิมก็ต้องติดใจ          อลังการขึ้นไปสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ในห้องนอน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนหมีสมองตันคิดอะไรไม่ออก เขาติดใจยัยเด็กปากดีคนนั้น? เขาหงุดหงิดที่เธอไม่พูดคุย เขาสนุกที่ได้โต้เถียง เขาพอใจที่เห็นสองแก้มนั้นแดงระเรื่อ เขาหลงใหลรสชาติริมฝีปากและกลิ่นกายหอมละมุน   อะไรกัน? เขาหลงเด็กเข้าให้จริงๆเหรอ?  บ้าไปแล้ว เขาอายุเท่าไหร่ ยัยเด็กนั้นบรรลุนิติภาวะหรือยัง เด็กน้อยแค่อยากได้เงินไปรักษาแม่ก็แค่นั้น ไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับเขา แล้วเขาเล่า จริงจังกับเด็กที่เพิ่งเจอไม่นานนี่หรือ? ทำไมเขากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ คราวแรกเขาคิดจะแช่น้ำอุ่น ชั้นบนมีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ยากต่างหาก เป็นห้องอาบน้ำที่สามารถมองเห็นวิวทะเล เขาเปิดน้ำแล้วเปลี่ยนใจเดินกลับมาที่ห้องนอน ทิ้งตัวนอนบนเตียง          เพราะไม่อยากเผชิญหน้าทั้งที่ยังไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองจึงเลี่ยงที่จะเดินลงไปชั้นล่าง เขาขังตัวเองอยู่ในห้องจนกระทั่งใกล้สี่โมงเย็นจึงเดินลงมา แล้วพบว่าอาปกรณ์ยืนอยู่ในครัวส่งเสียงหัวเราะกับบัวชมพูอยู่ก่อนแล้ว          “อ้าว! อาปกรณ์มาเมื่อไหร่ครับ ไหนบอกจะมาถึงตอนสี่โมงไง”          “มาก่อนเวลานัดไม่ได้หรือไง พูดเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล” ปกรณ์ส่ายหน้าไปมาแล้วยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม          “เฮ้ย! อาปกรณ์เปิดเบียร์!”          “เออ” ปกรณ์ขมวดคิ้ว “ทำไม หวงเบียร์ในตู้เย็นหรือไง เห็นมีตั้งหลายกระป๋อง”          “ไม่ใช่อย่างนั้น” เขาเดินเข้าไปใกล้บัวชมพูแล้วพูดขึ้น “ทำไมไม่ไปเรียกฉัน”          บัวชมพูยังไม่ทันพูดอะไร ปกรณ์ก็โบกมือห้ามไว้ก่อน          “ก็เมียแกทำกับข้าวอยู่ จะให้ไปตามแกทำไม อีกอย่าง นี่เมีย ไม่ใช่คนรับใช้ จะได้ทำตามที่สั่งทุกอย่าง”          คราวนี้บัวชมพูก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มขบขัน เธอทำเป็นไม่สนใจใบหน้าดุดันที่จ้องมองอยู่แล้วเอ่ยขึ้นมาบ้าง          “ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วค่ะ กำลังจะขึ้นไปตามคุณใหญ่” เธอยิ้มกว้างอารมณ์ดีที่เห็นอลังการถูกปกรณ์สั่งสอนเบาๆ “คิดว่าคุณใหญ่หลับอยู่เลยไม่ได้ขึ้นไปตามตั้งแต่แรกค่ะ”          อลังการได้แต่พยักหน้ารับส่งๆไป เขากับปกรณ์เดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร กับข้าวหลายอย่างน่ากินจนเขาแปลกใจ หลุดปากถามออกไป          “ทำเองหมดนี่เลยเหรอ”          “เฮ้ย! ทำไมถามเหมือนไม่เคยอยู่กับเมียแบบนั้นเล่า” ปกรณ์หัวเราะเสียงดัง “อร่อยด้วยนะ รู้ว่าทำกับข้าวอร่อยขนาดนี้ ไม่กินข้าวที่โรงแรมหรอก มากินบ้านนี้ดีกว่า แกนี่มันร้ายจริงๆ ไอ้คุณใหญ่”          “อาปกรณ์ก็พูดไปเรื่อย” อลังการทำเป็นไม่สนใจ แต่พอได้ชิมอาหารที่บัวชมพูทำก็ต้องยอมรับว่าเธอทำได้อร่อยถูกปากเขามาก          หญิงสาวกินข้าวร่วมโต๊ะ เห็นสองหนุ่มกินอาหารได้มากก็ดีใจ นั่งกินอาหารในจานของตัวเองพลางนึกถึงเรื่องที่พูดคุยกับอาปกรณ์ก่อนที่อลังการจะลงมาจากห้อง          ‘ให้หนูไปตามคุณใหญ่ให้นะคะ’          ‘สักประเดี๋ยวก็ได้ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับหนูบัวอยู่พอดี’          ‘ค่ะ คุณอาปกรณ์มีเรื่องอะไรคะ’          ‘ตกลงหนูบัวกับไอ้ใหญ่เป็นอะไรกันแน่’          บัวชมพูเห็นสีหน้าจริงจังของปกรณ์แล้วก็คิดได้ว่าไม่ควรโกหก เพราะถึงอย่างไร ก็ต้องรู้ความจริงกันอยู่ดี จึงไม่คิดปิดบัง          ‘คุณใหญ่จ้างหนูให้เป็นเมียปลอมๆ ตบตาคุณอาปกรณ์ค่ะ’          ‘อืม’ ปกรณ์พยักหน้ารับ ‘แล้วหนูบัวคิดยังไง’          ‘คิดยังไง? คุณอาปกรณ์หมายถึงอะไรคะ’          ‘หนูบัวคิดกับไอ้ใหญ่ยังไงล่ะ’          ‘คุณใหญ่เป็นคนดีค่ะ เขาไม่เคยล่วงเกินหนู’          ‘แค่นั้น?’          ‘ค่ะ คุณอาปกรณ์ไม่ต้องกังวลว่าหนูจะมาหลอกจับคุณใหญ่ได้ค่ะ คุณใหญ่เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ยังไงไม่มีทางให้ใครมาจูงจมูกได้ง่ายๆ หรอกค่ะ’          ‘หนูบัวนี่ดีนะ พูดจาตรงไปตรงมา แล้วไม่ชอบหลานของอาบ้างเหรอ มันก็ไม่ได้คนเลวร้ายอะไรนักหรอก’          คราวนี้บัวชมพูนิ่งไป ‘หนูชื่นชอบคุณใหญ่ค่ะ นับถือเพราะเขาเป็นเก่ง ส่วนเรื่องอื่นนั้น หนูบัวรู้ฐานะของตัวเองค่ะ’          ‘ตอบไม่ตรงคำถาม’ ปกรณ์โคลงศีรษะไปมา ‘ที่บ้านไม่มีใครถือเรื่องไร้สาระพวกชาติตระกูลหรือฐานะหรอกนะ ตระกูลของอาหรือไอ้ใหญ่ร่ำรวยเพราะขายหยาดเหงื่อแรงงาน ถ้ารักกันจริง ยากดีมีจนยังไงก็สนับสนุน ขอให้เป็นคนดีก็พอ’          ‘หนูไม่รู้ว่าคำว่าคนดีของคุณอาคืออะไร ต้องดีแค่ไหนถึงจะเรียกว่าดีพอ’ บัวชมพูยิ้ม          ‘เอาเป็นว่า อาเชื่อใจว่าหนูบัวไม่ได้คิดมาปอกลอกไอ้ใหญ่หรือมาหลอกลวงอะไร อาก็อายุไม่น้อยพอจะดูคนออก เรื่องของหนูบัวกับไอ้ใหญ่ อาเป็นคนนอก แต่อาแค่อยากบอกว่า ถ้าหนูบัวชอบไอ้ใหญ่จริงๆ อาก็ไม่ขัดขวางอะไร’          ‘หมายความว่ายังไงคะ’          ‘ขอโทษนะ อาสืบประวัติหนูบัวแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรอยากให้อาช่วยก็บอกแล้วกัน อาถือป้ายไฟเชียร์หนูก็แล้วกัน’          ยังไม่ทันทีที่เธอจะอธิบายอะไรเพิ่ม ปกรณ์ก็บุ้ยปากเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าอลังการออกมาจากห้องชั้นบนแล้ว ทั้งสองจึงเปลี่ยนเรื่องคุย เธอควรรู้สึกดีใจเหรอที่ปกรณ์กดไฟเขียวให้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน เขาสืบประวัติเธอ อาจเห็นว่าน่าสงสารก็ได้          อาหารเย็นผ่านไปอย่างราบรื่น เธอเก็บจานชามมาล้าง ได้ยินเพียงสองหนุ่มใหญ่พูดคุยกัน ไม่นานปกรณ์ก็เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น          “อาหารเย็นอร่อยมาก ยังไงเจอกันที่กรุงเทพฯนะ อาต้องเดินทางก่อนมีธุระที่อื่นอีก”          “เดินทางปลอดภัยค่ะ”          “อืม” ปกรณ์ยิ้มรับแล้วตบไหล่หลานชาย “ดูแลหนูบัวดีๆ ถ้ารู้ว่าทำให้หนูบัวเสียใจ อาไม่ไว้หน้าแกแน่”          “อ้าว! ผมเป็นหลานอานะครับ”          ปกรณ์หัวเราะแล้วเดินออกไป อลังการตามไปส่งที่หน้าบ้าน พูดคุยกันอีกเล็กน้อย เขายืนมองรถของอาปกรณ์เคลื่อนออกไปสุดสายตาแล้วจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน บัวชมพูเคลียร์ห้องครัวเสร็จพอดี เมื่อเห็นมาก็เห็นอลังการยืนยกมือขึ้นกอดอกจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว   “มีอะไรหรือคะ”   “ฉันน่าจะถามเธอมากกว่าว่าไปทำอะไรให้อาปกรณ์ชื่นชอบถึงขนาดนี้”   “คุณใหญ่คิดอย่างนั้นเหรอคะ” เธอเอียงคอมองเขา “หนูมีเสน่ห์ขนาดนั้นเชียว”    “เฮอะ! อย่างเธอเนี้ยนะ ใครจะมาสนใจ”  เขาเบ้ปากใส่  “อ้าว! ก็คุณใหญ่พูดเหมือนอาปกรณ์หลงเสน่ห์หนูเองนี่” เธอแสร้งทำเป็นงุนงง   “นั้นอาของฉัน แต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว ห้ามยุ่งเด็ดขาด!”    บัวชมพูเช็ดมือกับผ้าสะอาดแล้วปลดผ้ากันเปื้อนออก “หนูไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย มีแต่คนเข้ามาหาเอง”    “นี่ๆ อย่ามาเถียงนะ”  “หนูไม่ได้เถียง” เธอเบ้ปากใส่ “หนูเหนื่อยแล้ว ขอไปพักผ่อนก่อนนะคะ”   “เดี๋ยวสิ! จะเดินหนีกันแบบนี้ไม่ได้”     “คุณใหญ่! หนูบัวเหนื่อยแล้วค่ะ! อยากอาบน้ำพักผ่อน”  “ได้! ฉันอาบน้ำให้เอง”   “หา! ไม่เอา! หนู...หนูอาบน้ำเองได้” คราวนี้เธอส่ายหน้ารัวๆ แต่อลังการก้าวยาวๆ มาอุ้มร่างเล็กขึ้น เธอดิ้นรนเตะเท้าไปมา     “ไม่กลัวตกบันไดคอหักตายหรือไง”   โดนเขาขู่เข้าไป บัวชมพูยอมหยุดขยับตัว ปล่อยให้เขาอุ้มเธอขึ้นไปชั้นสองซึ่งมีห้องน้ำขนาดใหญ่ที่เรียกได้ว่ามองเห็นวิวทะเล เธอเป็นคนทำความสะอาดบ้านหลังนี้ ยอมรู้ดีว่าอะไรอยู่ตรงไหน เคยจินตนาการถึงการได้แช่น้ำอุ่นนอนมองวิวทะเลในอ่างน้ำขนาดใหญ่คงมีความสุขไม่น้อย          แต่ที่เธอคิดไว้นั้น ไม่มีภาพที่เขาอุ้มเธอแล้วโยนลงในอ่างน้ำอย่างนี้!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม