“เราเป็นอะไร ทำเสียงแบบนั้นทำไม” คุณนายหงส์แกล้งถาม
“หมั่นไส้พวกคนเนื้อหอมน่ะครับ”
“หึงเขาหรือไง”
“ผมนี่นะจะไปหึงเขา หึงเรื่องอะไรกัน” คนนั่งไม่ติดแกล้งทำเสียงดังใส่มารดา
“เราเคยชอบหนูหยกเขาไม่ใชรึไง อกหักถึงขนาดว่าไม่ยอมแต่งงานมีเมียสักที”
“ม๊ารู้ได้ไง” ภพหน้าเหวอ
“ก็ช่วงนั้นเราหงอยอยู่นานเป็นปี ม๊าก็แค่ไปสืบจากเพื่อนสนิทของเรา แค่นั้นก็รู้แล้ว แต่ม๊าไม่ได้ทำอะไรเพราะคิดว่าเรายังเด็ก อยู่แค่มัธยมปลาย ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ยังขอเงินป๊ากับม๊าอยู่เลย แถมยังเรียนไม่จบ เจ้าสัวเขาหวงลูกสาวคนนี้มากเพราะผิดหวังจากคนโต ถ้าเราไปจีบไปแสดงความรัก ถึงภพจะเป็นลูกป๊ากับม๊า เจ้าสัวเขาก็ไม่พิสมัยหรอก ไม่เหมือนตอนนี้ภพมีพร้อม จะไปจีบลูกสาวเขา เขาก็เชิญเข้าบ้านอย่างดี”
“ม๊ารู้ทุกอย่างเลยเหรอครับ”
“ม๊าเป็นใคร”
“ม๊ายังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ผมจะไปรู้เหรอครับ”
“ถ้าพูดกวนม๊าแบบนี้ งั้นม๊าไปล่ะ”
“โธ่... ม๊า ขี้น้อยใจไปได้ ผมล้อเล่นครับ” เขารีบเข้าไปกอดรัดแนบอก
“ม๊าเป็นม๊าของภพ รู้หมดแหละลูกผัวเป็นยังไง แล้วภพล่ะยังรักหนูหยกอยู่ไหม”
“มันไม่สำคัญหรอกครับ เขารังเกียจผมแต่แรก ที่แต่งงานก็เพราะพ่อแม่เขาอยากให้แต่ง ถ้าพ่อแม่เขาให้ไปแต่งกับคนอื่นเขาก็คงแต่ง ผมไม่อยากได้ผู้หญิงที่ไม่ได้รักมาเป็นเมียหรอกครับ แต่ผมแพ้พนันม๊า ก็เอาเถอะครับ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก แต่งก็แต่ง”
“อาทิตย์หน้าจะไปเที่ยวทะเลกัน ภพพักร้อนไปเลยหนึ่งสัปดาห์”
“ไปเที่ยวกับใครเหรอครับ”
“ครอบครัวเราแล้วก็ครอบครัวของเจ้าสัวศักดิ์”
“เหรอครับ” ภพมองมารดา แต่ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ
“ทำไมต้องไปเที่ยวกับบ้านนั้นด้วยครับ”
“ไปกระชับสัมพันธไมตรีกันไง เราจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วไม่ใช่เหรอ” คุณนายหงส์พูดตามตรงแบบไม่อ้อมค้อม
“อีกอย่างก็พาน้องเรากับว่าที่สะใภ้คนเล็กของแม่ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาด้วย เขาปิดเทอมแล้ว น้องเราก็ลาพักร้อนไปเลย ให้คนอื่นเข้าเวรแทน เพราะน้องเราน่ะทำงานหนักมากไม่เคยลาพักเลย ทำงานแทนคนอื่นไปทั่ว พอตัวเองลาก็เลยมีคนมาอาสาทำงานแทนเต็มไปหมด” เพราะภามเป็นคนมีน้ำใจมาก เมื่อแสดงน้ำใจต่อผู้อื่น ผู้อื่นก็แสดงน้ำใจกับภามตอบแทนมาเช่นเดียวกัน
“ครับ” ภพรับคำ จะให้เขาพูดอะไรได้อีก ก็มารดาพูดตรงเสียขนาดนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือให้เขากับหยกมณีไปทำความรู้จักกันนั่นเอง
การไปเที่ยวพักผ่อนมาถึงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาไปจูบหยกมณีจนเป็นลมวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย
เธอกับเขาจะแต่งงานกันก็จริง แต่ไม่เคยพูดคุยกันเลย ไม่เคยสุงสิง ไม่เคยโทร. หาหรือส่งข้อความหากันเลย
เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกมาก แต่ภพคิดว่าหยกมณีรังเกียจเขา ที่แต่งงานรอบนี้ก็เพราะตามใจพ่อแม่ เขาเลยรู้สึกไม่สบอารมณ์ไปหมด พานไม่อยากคุยกับเธอไปด้วย
“เฮียมายืนทำอะไรอยู่คนเดียวตรงนี้คะ” หยกมณีเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าภพมายืนมองทะเลอยู่เพียงลำพัง ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส รับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
“มีอะไร” เขาถามอย่างเย็นชา เธอเลยยิ้มหวานให้เขา ภพเบือนหน้าหนี เกลียดรอยยิ้มหวาน ๆ กระชากใจของเธอเป็นที่สุด
“หยกเอาปลาหมึกย่างจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ดมาให้เฮียค่ะ เห็นม๊าของเฮียบอกว่าเฮียชอบกิน” เธอหยิบปลาหมึกจากจานที่ถืออยู่ขึ้นมาตรงหน้าของเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“เฮียไม่ค่อยหิว”
“เหรอคะ งั้นหยกกินแทนนะคะ หยกก็ชอบกินปลาหมึกย่างเหมือนกัน” เขาไม่กินเธอเลยเอาปลาหมึกไม้นั้นมากัดกินเสียเอง
ภพเหลือบมองคนที่กัดกินปลาหมึกอย่างเอ็ดอร่อย เขามองปากน้อยของเธอที่ขยับไปมา เธอเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยทำเอาเขาน้ำลายสอตามไปด้วย
จำได้ว่าได้จูบเธอวันนั้นแล้วเขาเอาไปฝันทุกวันคืน ปากเธอแสนหวาน ผิวเธอเนียนละเอียด กลิ่นกายของเธอหอมกรุ่น แม้ในขณะนี้ที่เธอยืนอยู่ใกล้ๆ กลิ่นกายหอมกรุ่นของเธอก็ทำให้เขาเผลอสูดเข้าปอดแรง ๆ ลึก ๆ
“อร่อยนะคะ เฮียชิมไหมคะ ถ้าชิมหยกจะป้อนให้” เธอเลียริมฝีปาก พร้อมทั้งหยิบปลาหมึกอีกไม้ขึ้นมาจ่อที่ปากของเขา
ภพกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกเหมือนกำลังโดนเธอยั่ว แต่แท้ที่จริงก็คือเธอแค่จะป้อนหมึกให้เขาเท่านั้น
“ไม่ต้องป้อนหรอก เฮียกินเองได้”
“ไม่เอาค่ะ หยกอยากป้อน” เธอขยับเข้าหา เขาก็ถอยหนีจนไปติดกับต้นมะพร้าวทางด้านหลัง เป็นอันว่าหนีไม่ได้
“ชิมสิคะหยกป้อน” หยกมณียิ้มขำกับท่าทีเขินอายของภพ เขามีท่าทีแบบนี้ก็น่ารักดี
ภพทำหน้าฟิน ๆ ตาลอย ๆ อ้าปากงับปลาหมึกเข้าปาก ก่อนจะสำลัก
“ทำไมเผ็ดแบบนี้ล่ะ แค่ก แค่ก แค่ก” เขาไอติดกันหลายครั้ง
“คิก ๆ”
“นี่เธอแกล้งเฮียเหรอ”
“เฮียกินเผ็ดไม่ได้เหมือนเดิมเลยนะคะ”
“ยายตัวแสบ” เขารวบเธอมากอดเอาไว้ แต่หยกมณีดิ้นเลยทำให้เสียหลักล้มลงไปกองอยู่กับผืนทรายทางด้านหลัง
เธอมองเขาตาโต ในขณะที่ภพก้มลงมาจุมพิตกลีบปากฉ่ำหวานของเธอ ก่อนที่เขาจะถอนปากออกห่าง
“เฮียเป็นอะไรคะ”
“ปากเธอเผ็ดมาก” ประโยคของเขาทำให้เธอหลุดขำออกมา
“ยังจะมาหัวเราะอีก”
“เฮียยังเหมือนเดิมเลย กินเผ็ดไม่ได้”
“แล้วเธอไปหัดกินเผ็ดมาจากไหน”
“ก็ลองกินดูอร่อยดีค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ถึงวันนี้จะปากเผ็ด แต่วันก่อนที่เธอเป็นลม ปากเธอหวานมากนะ”
อ๊าย... ประโยคของเขาทำให้หยกมณีกรีดร้องอยู่ในใจ
หยกมณีแอบเหลือบมองว่าที่สามีในอนาคตเป็นระยะ ก่อนจะยิ้มเขิน ในขณะที่ภพเองก็หันไปสบตากับเธอด้วยความบังเอิญเช่นกัน
สองครอบครัวเข้ากันได้ดี กินเที่ยว พักผ่อน นอนชายหาด ดำน้ำดูปะการังเป็นกิจกรรมของลูก ๆ เสียมากกว่า ทำงานมาทั้งชีวิต พอได้มีโอกาสเที่ยวสองครอบครัวก็พักผ่อนอย่างเต็มที่
“ทำอะไรอยู่น่ะ” ภพเอ่ยถามหยกมณีที่ปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ เขาไม่คิดว่าเธอจะมีโมเม้นต์แบบนี้ด้วย
“มีนกตกลงมาจากต้นไม้ หยกก็เลยปีนเอานกขึ้นมาใส่รังน่ะค่ะ”
“ทำอะไรเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบนั้น ตกลงมาแข้งขาหักจะทำยังไง” ภพมีสีหน้ากังวลอยู่มาก นั่นทำให้หยกมณีแอบยิ้มในหน้า เธอคิดว่าจะปีนลงไปดี ๆ คงต้องใช้แผนนี้เสียแล้ว
“วะ! ว้าย!” หลังเสียงร้อง ร่างของเธอก็ตกลงมาจากต้นไม้ แม้จะไม่สูงมากนักและคิดว่าเธอคงไม่เจ็บตัวมาก แต่ร่างของภพก็กระโดดเข้ามารับร่างของเธอเอาไว้ได้ทัน