ตอนที่ 5 ได้วางขาย

1485 คำ
ลี่ฮวามองขนมที่อยู่บนมือ สีสันดูแปลกตาแต่ดูน่าทาน มีกลิ่นหอมอ่อนๆอีกด้วย และดูคล้ายกับขนมกุ้ยฮวาทั่วไปเพียงแต่ขนมที่คุณหนูซูเม่ยทำขึ้นมีไส้ที่โผล่ออกตรงกลางทำให้แปลกตา "คุณหนูซูเม่ยขนมนี้ชื่อว่าอะไรหรือเจ้าคะ" "ขนมนี้คือขนมไร้กังวลเจ้าค่ะท่านป้าลี่" "ขนมดูคล้ายขนมกุ้ยฮวา ทำเหมือนกันหรือไม่" นางไม่รู้ว่าขนมกุ้ยฮวานั้นทำอย่างไร แต่ก็คิดว่าคงไม่ได้ใช้ส่วนผสมเดียวกันกับขนมที่นางทำ จึงตอบกลับลี่ฮวาไป "ขนมไร้กังวลทำมาซานเหย้าและมันม่วงเจ้าค่ะ" "รูปทรงภายนอกดูคล้ายแต่สีสันและส่วนผสมไม่เหมือนกัน งั้นข้าจะลองชิมดู" ลี่ฮวาพยักหน้ารับคำตอบ ขนมกุ้ยฮวานั้นทำมาจากดอกกุ้ยและถั่วกวนแต่ขนมไร้กังวลนี้ทำมาซานเหย้าและมันม่วง ใช้ส่วนผสมไม่เหมือนกัน เมื่อลี่ฮวาได้รับรู้ว่าไม่เหมือนกันนางจึงยื่นขนมใส่ปากกัดชิมไปครึ่งชิ้นเพื่อให้ได้รสชาติของไส้ที่อยู่ตรงกลางไปด้วย ความหอมอ่อนๆ และหวานกำลังดี และยังมีส่วนผสมของซานเหย้าที่ช่วยบำรุงม้าม ดูแลปอดและไตอีกด้วย ขนมไร้กังวลนี้ทำนางสนใจมากทีเดียว "ขนมไร้กังวลที่คุณหนูซูเม่ยทำมาอร่อยมากเจ้าค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำผึ้ง ความหวานที่กำลังดี การใช้ส่วนผสมอย่างซานเหย้ามาทำขนมก็ถือดีมากเพราะช่วยบำรุงม้าม ดูแลปอดและไต ส่วนมากคนจะนำซานเหย้าไปต้มทำน้ำแกงเพื่อบำรุงแต่ข้ายังไม่เคยเห็นใครนำซานเหย้ามาทำเป็นขนมมาก่อน น่าสนใจยิ่งเจ้าค่ะ ข้ายินดีนำขนมของคุณหนูมาขายในร้านเจ้าค่ะ" ป้าจางได้ยินก็ดีใจแทนคุณหนูของตน ที่ขนมของคุณหนูได้รับความสนใจจากลี่ฮวา เพราะน้อยนักที่ลี่ฮวาจะรับขนมจากที่อื่นมาขายในร้าน "ข้าขอบคุณท่านป้าลี่เจ้าค่ะ" "แล้วคุณหนูยินดีจะขายอย่างไรเจ้าคะ" "ข้าจะขายให้ท่านป้าลี่ชิ้นละสามเหวินเจ้าค่ะ ส่วนท่านป้าลี่สามารถตั้งราคาขายเองได้เลยเจ้าค่ะ" "ถ้าอย่างนั้นในช่วงสองวันแรกข้าจะสั่งขนมไร้กังวลมาขายก่อนวันละสิบห้าชิ้น หากภายในสองวันแรกขายดี ครั้งต่อไปข้าจะขอสั่งเป็นวันละสามสิบชิ้นต่อวัน หรืออาจมากกว่านั้นตามความต้องการของลูกค้าเจ้าค่ะ เรื่องการจ่ายเงินข้าจะจ่ายให้ทุกวันเมื่อนำขนมมาส่งเจ้าค่ะ คุณหนูท่านพอใจหรือไม่" "ข้าพอใจเจ้าค่ะ ท่านป้าลี่จะให้ข้านำขนมมาส่งในยามใดเจ้าคะ" "ยามซื่อ(09.00-10.59น.)เจ้าค่ะ" หลังจากคุยเรื่องการค้าขายเสร็จหมดแล้ว นางก็ขอตัวกลับ ส่วนขนมที่นำมาทั้งหมดนั้นก็มอบให้ลี่ฮวาไป "ข้าว่าพวกเราไปนั่งกินบะหมี่กันเถอะ ไหนๆก็ออกมาข้างนอกแล้ว" ซูเม่ยหยุดและชี้ไปที่ร้านบะหมี่ที่ด้านหน้า "ดีเจ้าค่ะ ข้าก็อยากกินบะหมี่เหมือนกัน" ทั้งซูฉีและซูมี่ต่างเห็นด้วย ทั้งหมดจึงเดินไปร้านบะหมี่ "เอาบะหมี่แปดชามจ้ะ" นางสั่งและเดินไปนั่งที่โต๊ะ ตามมาด้วยซูลี่และซูฉี "ป้าจาง พี่อี๋นั่ว พี่หวังจิ้งนั่งสิ ข้าสั่งบะหมี่ให้แล้ว" "พี่หญิงใหญ่ท่านเรียกอี๋นั่วว่าพี่หรือเจ้าคะ" ซูฉีร้องถาม ทำไมพี่หญิงใหญ่ถึงเรียกอี๋นั่วว่าพี่ อี๋นั่วเป็นเพียงสาวใช้ "ฉีเอ๋อร์ ลี่เอ๋อร์ ที่ข้าเรียกพี่อี๋นั่ว พี่หวังจิ้งว่าพี่ นั่นเป็นเพราะทั้งสองมีอายุมากกว่า และที่สำคัญทั้งสองเป็นคนที่คอยดูแลเรา เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเคารพถึงแม้จะเป็นเพียงบ่าวรับใช้ก็ตาม" นางรู้ว่าคนยุคโบราณที่มีศักดิ์เป็นนายไม่เรียกบ่าวรับใช้อย่างสนิทสนมหรือเคารพ แต่สำหรับนางนั้นหากได้รับรู้ว่าคนที่คุยด้วยอายุมากกว่าก็จะต้องเรียกว่าพี่ จะให้เรียกแค่ชื่อเฉยๆนางรู้สึกไม่สบายใจ "เช่นนั้นจะไม่ถูกผู้อื่นกล่าวว่าหรือนินทาหรือเจ้าคะ ที่เรียกบ่าวรับใช้อย่างสนิทสนม" ซูลี่สงสัย "การที่เราจะเรียกคนที่อายุมากกว่าว่าพี่มันไม่ใช่เรื่องผิดนะ เจ้าไม่ต้องกลัวในเรื่องนี้หรอก ส่วนเรื่องการถูกนินทาต่อให้เจ้าไม่เรียกบ่าวรับใช้ว่าพี่ อย่างไรก็ต้องโดนนินทาในเรื่องอื่นอยู่ดี ไม่มีใครไม่โดนนินทาหรอกนะ" "เช่นนั้นข้าก็จะเรียกซิงอีว่าพี่ซิงอีเจ้าค่ะ" "ข้าก็เช่นกันเจ้าค่ะ" ซูฉีเอ่ยตาม "แล้วเหตุใดถึงยังไม่นั่งกัน ป้าจาง พี่อี๋นั่ว พี่หวังจิ้งนั่งกันสิเจ้าคะ ที่โต๊ะข้างๆนั่น" "จะดีหรือเจ้าคะ บ่าวว่าให้คุณหนูทานกันเถอะเจ้าค่ะ พวกบ่าวจะรอตรงนี้" "ป้าจาง ข้าสั่งบะหมี่มาแล้วนะ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาปฏิเสธเลย นั่งเถอะเจ้าค่ะ...งั้นถือว่าข้าสั่งก็ได้ คำสั่งของเจ้านายป้าจางคงไม่ขัดใช่มั้ยเจ้าคะ" และแล้วบะหมี่ก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ ป้าจาง อี๋นั่ว และหวังจิ้งจึงนั่งลงที่โต๊ะข้างๆ หลังจากท่านเสร็จก่อนจะกลับก็ได้แวะซื้อไก่สองตัวไว้ทำอาหารสำหรับวันพรุ่งนี้ หมดค่าบะหมี่แปดชามไปสี่สิบเหวินและไก่สองตัวตัวละยี่สิบเหวินเป็นสี่สิบเหวิน ตอนนี้นางจึงเหลือเงินอยู่แปดร้อยกับอีกสามเหวิน ยามเซิน(15.00-16.59น.) ทั้งหมดกลับมาถึงจวน ในเวลานี้นางจึงมาทำน้ำมันมะพร้าว การทำน้ำมันมะพร้าวนั้นจะใช้เวลานาน นางเลยต้องรีบทำเพราะจะได้เริ่มทำสบู่เร็วๆ การทำน้ำมันมะพร้าวครั้งนี้มีลูกมือนั่นก็คืออี๋นั่ว ส่วนสาวใช้คนอื่นไปทำความสะอาดเรือนเพราะในช่วงเช้าถูกนางเรียกให้มาช่วยทำขนมจึงยังทำความสะอาดเรือนในบางส่วนยังไม่เสร็จ น้ำมันมะพร้าวที่นางทำนั้นเป็นการทำน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นจะเลือกมะพร้าวแก่ เริ่มด้วยการทำการขูดมะพร้าว ผสมมะพร้าวหนึ่งส่วนและน้ำหนึ่งส่วน คั้นโดยการใช้น้ำอุ่น แล้วกรองใส่ภาชนะหมักจะต้องหมักทิ้งไว้ประมาณสี่ถึงหกชั่วยาม(8-12ชั่วโมง)ปิดฝาตั้งไว้อุณหภูมิห้อง ให้กะทิแยกชั้นจากกัน จะมองเห็นว่าแยกเป็นสี่ชั้น นางจะใช้ชั้นที่สองมาสกัดเย็น โดยใช้ผ้าขาวบางมากรองหกถึงแปดชั้นจะได้น้ำมันสีใส จากนั้นต้องนำมานึ่งต่อเพื่อระเหยน้ำเอาความชื้นออกจากน้ำมัน นึ่งน้ำจนเดือดเกิดเป็นฟองอากาศให้ใช้ช้อนคนจนฟองอากาศหายไปจนหมด ก็ยกขึ้นมาและวางไว้สักพักน้ำมันมะพร้าวจะสามารถใช้ได้ ส่วนชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สามนางจะนำไปเคี่ยวด้วยความร้อนต่อเพื่อจะได้น้ำมันมะพร้าวอีกส่วนมาใช้เพื่อทำอาหาร และชั้นที่สี่จะนำไปรดน้ำต้นไม้ หลังจากที่ได้ทำขั้นตอนแรกเสร็จแล้วจากนั้นคือต้องหมักไว้หกชั่วยาม ในวันพรุ่งนี้นางเพียงเหลือแค่กรองและนึ่งเอาความชื้นออกเท่านั้นเท่านั้นก็จะได้น้ำมันมะพร้าวมาใช้แล้วจะได้เริ่มทำสบู่ นางเดินกลับห้องไปพักผ่อน รอทานอาหารเย็น เช้าวันต่อมานางตื่นขึ้นมาขนมไร้กังวล พร้อมกับอี๋นั่วและสาวใช้อีกสามคน เมื่อทำเสร็จครบสิบห้าชิ้น นางจึงให้อี๋นั่วและสาวใช้อีกคนนำขนมไปส่งที่ร้านลี่ฮวา ส่วนตัวนางต้องทำน้ำมันมะพร้าวต่อจึงไม่ได้ไปส่งขนมด้วย "พี่อี๋นั่ว ท่านนำขนมไร้กังวลไปส่งที่ร้านลี่ฮวากับสาวใช้อีกคนนะ ขนมสิบห้าชิ้นต้องได้รับเงินมาทั้งหมดสี่สิบห้าเหวินนะ ข้าต้องทำน้ำมันมะพร้าวต่อ" "เจ้าค่ะคุณหนู บ่าวจะรีบไปรีบกลับ" ซูเม่ยนางพยักหน้ารับและเดินกลับห้องของตัวเอง ใช้เวลาสองชั่วยามในการกรองชั้นที่สอง และนำไปนึ่งเอาความชื้นออกจะได้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น รวมถึงการเคี่ยวส่วนชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สามเพื่อทำน้ำมันมะพร้าวอีกส่วนมาใช้ แบบสกัดเย็นนางจะนำมาทำสบู่ ส่วนอีกแบบจะเก็บไว้ทำอาหาร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม