อยู่ที่คาสิโนทั้งเงินทองและความสะดวกสบาย เริ่มเข้ามาในชีวิตอีกครั้งแม้จะต้องแลกกับหยาดเหงื่อแรงกาย ไม่ใช่การขอเอาจากบุพการีเหมือนเมื่อก่อนก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้หลงเนื้อลืมตัว ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด และขยันแม้มันไม่ใช่อาชีพที่สุจริตนัก จนเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจจากเจ้าของคาสิโนแห่งนั้น ทอเลเมียสจึงได้ควบตำแหน่งลูกน้องคนสนิท และหัวหน้าคุมบ่อนในเวลาต่อมา
แต่ยิ่งอยู่สูงก็ยิ่งหนาว ทอเลเมียสไม่เคยคิดอยากได้ลาภยศเหล่านั้นเลย เพราะเท่ากับว่าเขาต้องติดหนี้บุญคุณน้ำใจเจ้านายจนไม่อาจหลุดพ้นไปตามวิถีทางของตนได้ ชายหนุ่มเติบโต ณ ที่คาสิโน และยังหาหนทางในการได้กลับไปทวงคืนความแค้นของตน เขาเฝ้ารอวันเวลาและมองหาช่องทางที่เหมาะสม ในที่สุดเขาก็ได้พบกับทรงภูมิ นักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศ
ชายคนนี้เป็นคนมีลักษณะนิสัยใจดี เอื้อเฟื้อและโอบอ้อมอารี ดูได้จากเวลาที่มาแต่ละครั้ง นักธุรกิจหนุ่มมักมีของกำนัลติดไม้ติดมือมาให้พวกเด็กๆ ในบ่อนเสมอ และการที่เขามาก็ไม่ได้มาเพราะชอบเล่นการพนัน แต่พาลูกค้ามาเอนเตอร์เทนผ่อนคลาย ส่วนตัวเองก็จะไปนั่งดื่มสรวลเสเฮฮาเบาๆ กับพงศ์พิสิทธิ์เจ้าของบ่อน แต่ปัญหาก็คือนานๆ ครั้งทรงภูมิถึงจะแวะเวียนมาเยือน
แต่ทอเลเมียสก็ไม่ได้ท้อถอย เขามองเห็นแล้วว่าคนที่จะปูทางให้เขาก้าวเดินไปถึงตัวฆาตกรชั่วได้อย่างแนบเนียน จะต้องเป็นคนคนนี้เท่านั้น เพราะด้วยหน้าที่การงาน และฐานะของทรงภูมิช่างเอื้ออำนวยเสียเหลือเกิน
และแล้วแผนการก็ได้ดำเนินขึ้นในคืนหนึ่ง เมื่อทรงภูมิพาลูกค้าแวะมาที่บ่อน ทรงภูมิกับบอดี้การ์ดอีกสองสามคนกลับที่พักไปก่อน และปล่อยให้ลูกค้าที่เขาพามาสนุกสนานกับการพนันหลากหลาย เมื่อรถของเป้าหมายไปได้ไม่ไกล ก็มีกลุ่มคนเป็นชายฉกรรจ์ดักทำร้าย ด้วยจำนวนคนที่มีน้อยกว่า ฝั่งทรงภูมิพลาดพลั้งเกือบเสียท่า แล้วทอเลเมียสผู้วางแผนการณ์ทั้งหมดก็ปรากฏตัวขึ้นเข้าให้ความช่วยเหลือ ทอเลเมียสถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากการเอาตัวเองเข้าบังรับกระสุนแทนทรงภูมิ และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งก็เข้ามาช่วยไว้ทัน พวกเขาทั้งหมดรอดพ้นจากเงื้อมมือกลุ่มคนร้าย ซึ่งอาศัยช่วงชุลมุนหนีไปได้หมด
ก็แน่ล่ะ...ทุกอย่างถูกเตรียมการมาอย่างดีแล้วนี่นา ทรงภูมิที่ไม่เคยรู้เลยว่านั้นคือแผนการร้ายกาจของผู้มีพระคุณ รู้สึกซึ้งใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังประจักษ์ในฝีไม้ลายมือ ความกล้าหาญและใจเด็ดของทอเลเมียสนึกอยากได้ไปชุบเลี้ยงเพื่อทำงานกับตนทันที
นักธุรกิจหนุ่มซึ่งก็เคยจับตามองทอเลเมียสอยู่บ้างแล้ว มั่นใจเหลือเกินว่าทอเลเมียสจะมีอนาคตที่ก้าวไกล มั่นคงได้มากกว่าการมาอยู่ในสถานที่อโคจรเช่นนี้แน่ และตัวเขาเองก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือในทุกด้าน โดยส่วนตัวนั้นทรงภูมิรู้สึกถูกชะตาต้องใจกับชายหนุ่มคนนี้มานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก กระทั่งเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นนั่นแหละ เขาถึงได้มั่นใจว่าอยากได้ตัวไปชุบเลี้ยวไว้คอยช่วยงานจริงๆ
แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้กลับเป็นทอเลเมียสเองต้องอยู่ในสภาวะกดดันอย่างที่สุด เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับภาระหน้าที่ ซึ่งแบกเอาไว้ในปัจจุบัน อีกทั้งพงศ์พิสิทธิ์ก็มีบุญคุณกับเขาเหลือหลาย รักและเอ็นดูทั้งยังไว้เนื้อเชื่อใจเสมือนลูกหลานคนหนึ่ง แต่เมื่อพงศ์พิศิทธิ์รู้เรื่องนี้จากทรงภูมิ ก็เข้าใจ และเห็นด้วยหากทอเลเมียสจะไปมีชีวิตที่ดีกว่า มีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าจะมาจมปลักกับแหล่งอบายมุขของตน ทอเลเมียสซึ้งในความเป็นนักเลงของพงศ์พิสิทธิ์มาก ทั้งยังรู้สึกผิดกับคนทั้งสอง แต่เขาเองก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับใคร ทุกอย่างที่ทำลงไปเพียงเพื่อให้เป็นไปตามจุดประสงค์ที่ต้องการเท่านั้น
ความแค้นของครอบครัวเขา...ต้องมาก่อนเสมอและมันจะต้องอยู่เหนือความรู้สึกทุกอย่าง ทอเลเมียสอำลาบ่อนคาสิโนและพงศ์พิสิทธิ์ เข้าสู่ตัวเมืองหลวงอีกครั้งในฐานะเด็กในอุปการะของทรงภูมิ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศ ชายหนุ่มได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังเดียวกับเจ้านายผู้ให้ชีวิตใหม่ ในช่วงแรกๆ จนกระทั่งทรงภูมิจัดการสร้างบ้านหลังเล็กๆ ซึ่งก็อยู่ในอาณาเขตรั้วเดียวกัน ให้เขามีที่อยู่เป็นการส่วนตัว ทั้งยังจัดการเรื่องเอกสารส่วนตัวที่เขาอ้างว่าสูญหายไปแล้วตั้งแต่ครั้งที่บิดามารดาประสบอุบัติเหตุ และในที่สุดเขาก็ได้เข้ารับการศึกษาต่อควบคู่กับการทำงานไปด้วย
หน้าที่หลักๆ ของเขาก็คือดูแลความปลอดภัยให้กับทรงภูมิตลอดเวลา เมื่อว่างจากการเรียน หน้าที่รองคือคอยดูแลรวิภัณดา ลูกสาวของคนเดียวของทรงภูมิที่อายุน้อยกว่าเขาแปดปี ชายหนุ่มเรียนจบปริญญาตรีในวัยยี่สิบห้าปีซึ่งช้ากว่าปกติไปหลายปี ทั้งนี้เขายังเข้าเรียนวิชาต่อสู้เพิ่มเติมอีกหลายแขนงควบคู่กันไปด้วย
เมื่อเรียนจบทรงภูมิก็ให้เข้าทำงานในบริษัทอย่างเต็มตัว ในตำแหน่งเลขาของเขาพ่วงตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัว หลังจากนั้นอีกหนึ่ง ปีวิภัณดาก็ไปเรียนยังต่างประเทศ ทอเลเมียสจึงเปรียบเสมือนลูกหลานคนเดียวที่ทรงภูมิมีอยู่ แม้จะไม่ใช่สายเลือดก็ตาม แต่ด้วยความที่เป็นเด็กดีรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ซื่อสัตย์และขยัน นับวันนักธุรกิจหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจและรู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิดเลยที่รับเอาทอเลเมียสมาชุบเลี้ยงและความคาดหวังของเขา ก็ฉายแววไปไกลเกินกว่าทอเลเมียสจะคาดถึง
ด้วยความที่มีความขยันอดทนเป็นพื้นฐาน และมีความกตัญญูรู้คุณเป็นตัวเสริมที่ดีเยี่ยม ทรงภูมิคาดหวังเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งหากเขาหมดกำลังจะดูทุกอย่างแล้วคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แทนเขา คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากทอเลเมียส เพราะตัวเองนั้นไม่มีลูกชายไว้สืบทอด หรือแม้แต่ลูกสาวคนเดียวที่เขาทั้งรักทั้งหวงนักหนาก็อยากให้มีคนดีๆ อย่างทอเลเมียสคอยดูแลต่อจากเขาอีกเช่นกัน
ทรงภูมิเคยสังเกตพฤติกรรมของสองหนุ่มสาวอยู่หลายครั้งเมื่อตอนที่รวิภัณดายังอยู่ประเทศไทย เขาดูออกว่าบุตรสาวแอบปลื้มทอเลเมียสมากขนาดไหน อาจเป็นด้วยรูปร่างหน้าตาที่เป็นลูกครึ่งออกแนวเถื่อนๆ บุคลิกแบดบอยหน่อยๆ บวกกับอุปนิสัยเคร่งขรึมไม่ค่อยพูดแต่ใจดีและมีความเอื้อเฟื้อ เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ รวิภัณดาถึงได้ติดแจอย่างกับอะไรดี จะไปไหนมาไหนก็ต้องให้ชายหนุ่มเป็นคนพาไปเสมอ
แม้แต่สาวๆ ที่คอยตามมาเกาะแกะหนุ่มหล่อก็ยังถูกเธอจัดการเสียเรียบเป็นหน้ากลอง หรือบางทีอาจจะเพราะเป็นลูกคนเดียว พอเขารับทอเลเมียสเข้ามาอุปการะเลี้ยงดูเด็กสาวจึงได้รู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวตามลำพังอีกต่อไปจึงรู้สึกผูกพัน
แม้จะอยู่ในอีกสังคมหนึ่งที่สามารถยกระดับตัวเองขึ้นได้มากกว่าเก่า แต่ทอเลเมียสก็ไม่เคยหลงลืมตัว ว่าสิ่งสำคัญที่เขาต้องทำนั้นคืออะไร ชายหนุ่มคอยติดตามข่าวคราวของวงศ์ศาสตร์อยู่เงียบๆ หลายครั้งที่เขาใจร้อนอยากเข้าไปเด็ดชีพของฆาตกรชั่วให้ดับคามือ แต่ก็ไม่อาจทำได้เนื่องจากตัววงศ์ศาสตร์เองก็ระวังตัวเป็นอย่างดี จะไปไหนมาไหนแต่ละที่มีทั้งบอดี้การ์ดและตำรวจคอยคุ้มกันไม่ห่าง และน้อยนักที่จะเห็นจิ้งจอกเฒ่าออกมาปรากฏตัวให้เห็นในที่สาธารณะ
อาจเนื่องมาจากการทำมาหากินของวงศ์ศาสตร์ที่ไม่ขาวสะอาดนัก และอาจจะไปกระทบกระเทียบ หรือสร้างความวิบัติให้กับใครหลายคน อย่างที่เคยทำกับเขานั่นเอง ถึงได้ต้องคอยระแวดระวังตัวไม่ไว้ใจใครเลย แม้กระทั่งกับลูกสาวคนเดียว วงศ์ศาสตร์ก็ยังให้คนคอยตามดูแลไม่ให้คลาดสายตา ชนิดริ้นไม่ให้ไต่ไรก็ไม่ให้ตอม
ทอเลเมียสเอง ก็จับตามองผู้หญิงที่เป็นคนสำคัญหนึ่งเดียวของวงศ์ศาสตร์เช่นกัน เพราะเขารู้มาว่าพอคลอดลูกสาวได้เพียงสามเดือนผู้เป็นแม่ก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ปล่อยให้พ่อดูแลลูกน้อยวัยแบเบาะตามลำพัง จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ดังนั้นผู้หญิงคนนี้แหละคือเป้าหมายอันดับต้นๆ ของเขาในการทำลายล้างเอาคืนศัตรูคนสำคัญ จะว่าไปเป็นพ่อลูกกัน ก็ต้องได้รับผลกรรมร่วมกันมันถูกแล้ว
ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าเขาจะใช้วิธีใดที่จะเข้าถึงตัววงศ์ศาสตร์ได้ง่ายๆ บ้าง ตอนนี้แผนจะปลิดชีพให้ฆาตกรเลือดเย็นหมดสิ้นลมหายใจด้วยน้ำมือเขาถูกเก็บเข้ากรุไปแล้ว เนื่องจากเวลาที่ผ่านมานับยี่สิบปีมันสอนให้เขารู้ว่า ความทรมานที่แท้จริงคือการอยู่อย่างตายทั้งเป็น ไม่ใช่การกลายเป็นร่างที่แน่นิ่งไร้ลมหายใจ
และวงศ์ศาสตร์จะต้องได้ลิ้มรสอันโอชะของความเจ็บปวดแสนสาหัส ความทุรนทุราย เห็นความพินาศย่อยยับของอย่างที่เคยทำไว้กับเขา นั่นแหละถึงจะถือได้ว่าเขาได้ประสบความสำเร็จในการแก้แค้นแล้วอย่างแท้จริง