“ฟ้า ฝน เร่งมือหน่อยสิจ๊ะ ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว”
เบญญา สาวสวยวัยสามสิบสองแห่งบ้านชลทิพย์บอกคนงานเสียงหวาน ขณะเดียวกันก็ไม่อยู่นิ่งช่วยหยิบจับ กลัวจัดเตรียมของเสร็จไม่ทันเวลานัด เพราะเช้าวันนี้บริษัทเอชพีพาวเวอร์ที่เบญญาทำงาน มีงานทำบุญใหญ่ ฉลองครบรอบสามสิบปีในการดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศไทย
“ขอโทษนะคะคุณหนู เมื่อวานเด็กสองคนน่าจะง่วงนอนมาก สมองถึงเบลอ จำไม่ได้ว่าคุณหนูสั่งงานอะไรบ้าง” แม่นมบัว คนเลี้ยงเบญญามาตั้งแต่แรกเกิดตอบแทนฟ้ากับฝนที่เร่งทำงานมือระวิง
“ไม่เป็นไรค่ะนม ช่วยกัน เรายังพอมีเวลา”
“ทำไมคุณหนูให้ฟ้ากับฝนจัดของเยอะคะ”
“เบญอาสาจัดเผื่อหินด้วยค่ะ ทั้งที่บริษัทกับที่วัด เบญจะชวนหินไปทำบุญให้พ่อแม่ของเขา เบญคิดว่าหินน่าจะไม่ได้ไปนานแล้ว”
เบญญาตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่ปิดบังว่าแอบหลงรักเพื่อนชาย
“ถ้าคุณหินรู้ จะต้องดีใจที่คุณหนูใส่ใจเธอมากขนาดนี้”
แม่นมบัวยิ้มปลาบปลื้ม แตะฝ่ามือเหี่ยวย่นลงบนท่อนแขนเล็ก
“นมอยากให้คุณสองคนแต่งงานกันค่ะ”
“พูดอะไรอย่างนั้นคะนม เบญกับหินเป็นเพื่อนกันเท่านั้น”
เบญญาหลบสายตา รอยยิ้มแสนหวานบนกรอบใบหน้างดงามเศร้าลงทันตาเห็น ไม่อยากคิดไปเองกลัวจะเจ็บปวดในตอนท้ายหากเขาไม่เปิดใจให้ เพราะตลอดเวลาหลายปีที่รู้จักกันเขามองตัวเองเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น เขาให้เกียรติ ไว้ตัว ราวกับว่าไม่ต้องการให้คนรอบข้างเข้าใจผิด ด้วยเหตุนี้เบญญาถึงไม่อยากออกตัวแรงขออยู่เงียบๆ ตามแบบกุลสตรี
สีหน้าแม่นมบัวไม่ได้ต่างไปจากเดิม ยังคงมั่นใจว่าคุณหนูของตัวเองดีที่สุดสำหรับชายหนุ่มคนนั้น
“นมเชื่อว่าความดีของคุณหนูจะเอาชนะใจคุณหินได้ แค่รอวันที่คุณหินเปิดใจคุณหนูก็จะสมหวัง”
“ถ้าไม่ใช่อย่างที่นมคิดล่ะคะ”
เบญญาช้อนสายตาขึ้นมองหญิงชรา ขณะเดียวกันฟ้ากับฝน สาวรับใช้ประจำบ้านก็แทรกเสียงเข้ามา
“ฟ้าเห็นด้วยกับคุณนมนะคะ คุณเบญดีที่สุดสำหรับคุณหิน”
“ใช่ค่ะ ถ้าคุณหินไม่ชอบคุณเบญ ฝนว่าคุณหินตาถั่ว”
“เอ๊ะ! แม่สองคนนี้ พูดมากจริงเชียว คุณหนูอย่าถือสาเลยนะคะ” แม่บัวเอ็ดเสียงเขียว
เบญญาไม่คิดมากมอบรอยยิ้มให้ทุกคน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะนม เบญว่าดีเสียอีก ถือว่าฟ้ากับฝนอวยพรให้เบญ”
อนาคตจะเป็นอย่างไรใครจะล่วงรู้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ เพราะนอกจากเขาเบญญาก็ไม่รู้สึกอยากอยู่กับใครได้เท่านี้
นึกถึงใบหน้าปราศจากอารมณ์ของเพื่อนชายคนสนิทแล้วเบญญาสุขใจ ชีวิตของเขากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์วนเวียนอยู่กับงาน เขาไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบดื่ม ไม่ชอบไปในที่คนมากๆ คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ กินเหมือนเดิม มาทำงานเวลาเดิม กลับเวลาเดิม อยู่บ้านหลังเดิม เขาเป็นคนเดียวที่ต่อให้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเบญญาก็รู้ว่าเขาอยู่ไหน และกำลังทำอะไร
‘หฤษฎ์ หิรัญพฤกษ์’ เขาเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุสิบห้า พวกท่านเสียชีวิตต่อหน้าโดยที่เขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้ บาดแผลครั้งนั้นใหญ่เกินกว่าจะรักษาให้หายด้วยตัวเอง หฤษฎ์เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางกลุ่มญาติละโมบ อยากแย่งบริษัทที่พ่อแม่เขาสร้าง
หฤษฎ์เข้ามาบริหารบริษัทหลังเรียนจบและทำได้ดีเรื่อยมา ทำงานไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายชีวิต เขามีบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพ แต่กลับชอบไปอยู่บ้านหลังเล็กในหัวหิน บ้านแห่งความทรงจำที่พ่อมอบให้แม่เป็นของขวัญ
หฤษฎ์ไม่เคยคบผู้หญิงคนไหน เบญญาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีโอกาสใกล้ชิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เว้นระยะห่าง ไม่ให้เบญญาล่วงล้ำข้ามเขตแดนเข้าไปใกล้ เขาปิดกั้นตัวเอง ด้วยความกลัวว่าจะดูแลปกป้องคนรักไม่ได้ ถ้าเขาสูญเสียคนรักไป เขาจะอ่อนแอลงและอาจจะรุนแรงถึงขั้นไม่อยากมีชีวิต
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เบญญาไม่เคยท้อกับการรอคอย ไม่ว่าปลายทางคนที่อยู่ข้างหฤษฎ์จะใช่ตนเองหรือไม่ แต่ถ้าหากเขามีความสุข กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปเบญญาก็จะยินดีกับเขา
เบญญาจัดเตรียมของยังไม่เสร็จมีเสียงรถยนต์เคลื่อนเข้ามาในบ้านชลทิพย์ เบญญาหยุดมือ เงยหน้าขึ้นมองคนงานสองสาวที่พร้อมใจกันทิ้งงานวิ่งออกไปชะเง้อคอมองนอกหน้าต่างดูว่ารถใคร
“แอบมองอยู่ตรงนั้นจะเห็นไหมจ๊ะ ไป! ออกไปดูข้างนอก!”
แม่นมบัวร้องไล่หลังสองสาว หน้าต่างบานเล็กนิดเดียวเบียดกันอยู่ได้ สองสาวรับคำสั่งทันใดวิ่งออกไปไม่นานก็เหนื่อยวิ่งกลับมารายงาน
“คุณหนู คุณนม คุณหิน… คุณหินมาถึงแล้วค่ะ!”
“ตายแล้ว! ทำไมคุณหินมาถึงเร็วนักคะคุณหนู นมจัดของยังไม่เสร็จเลย แม่ฟ้า แม่ฝน เลิกยืนค้ำหัวฉันได้แล้ว นั่งลงเดี๋ยวนี้! เร่งมือเตรียมของ จะได้ช่วยกันยกออกไปใส่รถคุณหิน ประเดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์”
แม่นมบัวพลอยตื่นเต้นตกใจตามไปด้วย วิ่งเต้นเป็นเจ้าเข้าให้แม่สองคนกลับมาทำงาน ในห้องครัวดูเหมือนจะมีแค่เบญญาที่มีสติมากที่สุด
“ใจเย็นๆ ค่ะนม หินน่าจะเผื่อเวลามาทักทายคุณพ่อคุณแม่ เบญจะออกไปรับหน้า ทางนี้ฝากนมช่วยดูแลงานด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะคุณหนู อ้าว! แม่สองคนเร่งมือเข้า”
หญิงชรายังไม่หายตื่นเต้นสั่งงานเสียงดังลั่นห้องครัว
เบญญาไม่ได้อยู่มองนาน เคลื่อนตัวออกจากเก้าอี้ไปล้างไม้ล้างมือให้สะอาด ยกถ้วยน้ำชาหนึ่งชุดออกไปด้วย
เบญญาสวยดุจดั่งนางฟ้าในชุดกระโปรงยาวสีขาว หล่อนสวยงามทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การยืน การเดิน คนในครัวมองตามเป็นทิวแถวไปจนถึงชายหนุ่มผู้มาใหม่ที่นั่งบนโต๊ะน้ำชา บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านร่วมกับบิดาและมารดาของเบญญา เบญญาเอียงอายไม่กล้าประสานสายตาเพื่อนชาย ก้มหลบ ขณะที่เขาปลีกตัวออกจากโต๊ะมาช่วยรับชุดน้ำชา นำไปวางตรงกลางโต๊ะ ก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกย้ายไปนั่งบนเก้าอี้ตัวว่าง
“น้ำชารสชาติโปรดของพ่อมาแล้ว พ่อกำลังบ่นว่าไม่มีเด็กในบ้านออกมาต้อนรับแขกพอดีเลย”
คุณชรัสชวนลูกสาวคุยหลังจากยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับภรรยา ที่ได้เห็นภาพน่ารักกุ๊กกิ๊กของเด็กๆ
“ฟ้ากับฝนจัดเตรียมของทำบุญอยู่กับนมในครัวค่ะ เบญก็เลยยกออกมาแทน คุณพ่อคุณแม่กำลังคุยอะไรกับหินเหรอคะ” เบญญาเอ่ยถามพลางรินน้ำชาลงถ้วยเล็ก เพิ่งจะหกโมงเช้าบิดามารดาอยู่ในชุดสบาย ออกมานั่งพักรับสายลมเย็นเป็นกิจวัตร
“หินเพิ่งมาถึงจ้ะ กำลังถามไถ่สุขภาพของพ่อแม่ เบญก็เข้ามาพอดี”
คุณเบญญาภา สตรีวัยกลางคนผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับลูกสาวโปรยรอยยิ้มไปให้ ‘ว่าที่ลูกเขย’ คุ้นเคยกับชายหนุ่มตั้งแต่เขายังเด็ก กลายเป็นความชินชาที่ได้เห็นใบหน้าไม่สื่ออารมณ์ ดังนั้นคุณเบญญาภาจึงไม่ใส่ใจมากแม้ว่าตอนนี้เขาจะวางตัวเรียบเฉย
“เบญตอบแทนก็ได้นะคะ คุณแม่สบายดี สุขกาย สบายใจ มีความสุขอยู่กับร้านเพชรสาขาใหม่ที่หุ้นกับเพื่อน ส่วนคุณพ่อไม่ค่อยสบาย เครียดว่าสุดสัปดาห์หน้าจะไปออกรอบตีกอล์ฟที่ไหนดี”
“ลูกคนนี้ร้ายนัก นินทาพ่อได้ลงคอ” คุณชรัสหัวเราะชอบใจ ส่งผลให้บรรยากาศบนโต๊ะน้ำชาครื้นเครง
“ถ้าคุณอาอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปต่างจังหวัด สนามที่กอล์ฟหัวหินใกล้บ้านพักของผมก็สวยนะครับ ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด” หฤษฎ์เสนอความคิดเห็น ชายวัยกลางคนฝั่งตรงข้ามมีสีหน้าพอใจ