“ว่าแต่บอกพ่อบ้านไปเช่นนั้น ฮูหยินจะไม่ยิ่งดูแย่ในสายตาของพ่อบ้านและเหล่าสาวใช้หรือเจ้าคะ”
เหาอิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเอกสารเหล่านี้ปกติแล้วพ่อบ้านจะเป็นผู้นำไปให้นายท่านซั่วกู่ประทับตรา ทว่าผู้เป็นเจ้านายสาวกลับสั่งให้นางไปขอเอกสารเหล่านี้โดยอ้างว่า
‘ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะท่านพ่อบ้าน ได้โปรดช่วยฮูหยินของข้าสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ นับจากนายท่านมีอนุภรรยาทั้งหกก็ไม่เคยมาหาฮูหยินที่เรือนอีกเลย ฮูหยินนอนร้องไห้ด้วยความคิดถึงนายท่านแทบทุกคืนจนซูบผอม จึงอยากอาศัยช่วงเวลาที่นำเอกสารเหล่านี้ไปให้นายท่านประทับตราเพื่อเป็นการผูกสัมพันธ์พูดคุยฉันสามีภรรยา และเพื่อที่จะได้เห็นหน้าสามีเพื่อคลายความคิดถึงเจ้าค่ะ’
คำพูดนี้เองที่ทำให้พ่อบ้านยอมมอบเอกสารทั้งหมดแก่นางโดยไม่อิดออด กระนั้นเหาอิงกลับขัดใจที่เห็นพ่อบ้านแค่นหัวเราะเหยียดหยันราวกับกำลังดูถูกดูแคลนเจ้านายของตน
“เช่นนั้นแหละดีแล้ว ให้ข้าเป็นคนโง่ที่น่าสมเพชในสายตาพวกมันไปเถิด เจ้าอย่าได้ร้อนใจไปเลยเหาอิง เอ้านี่รับไปเสียสิ...”
พูดพลางหันไปหยิบแหวนทองส่งให้สาวใช้ เหาอิงเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง รีบแบมือรับแหวนทองที่เจ้านายสาวหย่อนลงมา
“ทำงานให้ดี รูดปากให้สนิท เจ้าจะได้มากกว่านี้หากตาไวหูไวแต่ไม่ปากไว”
“จะ...เจ้าค่ะฮูหยิน ข้าจะตั้งใจทำงานและซื่อสัตย์ต่อนายหญิงยิ่งกว่าชีวิตเลยเจ้าค่ะ”
เหาอิงรีบเก็บแหวนราวกับกลัวเจ้านายจะทวงคืน ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างประจบ
“อ้อ... หาสาวใช้ที่ทำงานส่วนกลางให้ข้าสักคนสิ หาคนที่โลภและปากหนัก บอกไปว่าหากทำงานดีข้ามีรางวัลให้อย่างงาม”
ระบบการจัดการสาวใช้และบ่าวในเรือนสกุลอู๋นั้นเหมือนกับเรือนทั่วๆ ไป คือมีสาวใช้ประจำแต่ละเรือนคอยดูแลใกล้ชิดนายของตน และมีสาวใช้ส่วนกลางที่รับหน้าที่ดูแลโดยรวมทั้งหมด
ซึ่งสาวใช้ส่วนกลางนี่แหละ ที่จะช่วยเป็นมือเป็นเท้าคอยปั่นป่วนเรือนสกุลอู๋ให้ร้อนเป็นไฟ
“ได้เลยเจ้าค่ะ ข้ามีสหายสนิทอยู่คนหนึ่ง รับรองว่าปากหนักและโลภเหมือนข้าเลยเจ้าค่ะ นางกับข้าเกิดและเติบโตมาด้วยกัน รับรองว่าไว้ใจได้เจ้าค่ะฮูหยิน”
“เช่นนั้นยิ่งดี”
เถียนไต้หรงหยักยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก สมองของนางกำลังครุ่นคิดว่าจะเริ่มแผนปั่นประสาทเหล่าอนุภรรยาทั้งหกอย่างไรดีจึงจะสนุก
อาจเป็นโชคดีก็ว่าได้ ที่ชาติก่อนนางคืออรินดาแม่ค้าขายข้าวมันไก่ที่ชื่นชอบการดูซีรีส์ อ่านนิยายทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นนิยายรัก วาย สืบสวน ผี ฆาตกรรม หรือแม้แต่อิโรติก สมองจึงเต็มไปด้วยจินตนาการที่พลุ่งพล่าน ทำให้รู้สึกสนุกที่จะได้เริ่มลงมือทำอะไรเลวๆ เพื่อเป็นการแก้แค้นคนเหล่านี้
เลวมา! เลวกลับ! ไม่โกง!
“น่าจะได้เวลาแล้ว แต่งหน้าให้ข้าหน่อยสิ แต่งให้ดูโทรม ป่วย ราวกับใกล้จะตาย”
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
เหาอิงรับคำแข็งขันโดยไม่ซักถาม พยายามหูตาไวแต่ปากไม่ไวเพื่อประจบเจ้านาย เถียนไต้หรงเพียงแค่เหลือบมองกิริยาท่าทางของสาวใช้แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก นั่นเพราะนางรู้ดีว่าเหาอิงนั้นเป็นหญิงเห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา และชอบยกตนข่มคนอื่น แต่เป็นคนฉลาด ว่องไว ทำงานดี ซื่อสัตย์เหมือนสุนัข หากซื้อใจได้เมื่อไหร่ถึงขั้นยอมทำงานจนตัวตาย
คนแบบนี้แหละเหมาะที่จะช่วยนางทำเรื่องชั่วๆ หากหาสาวใช้ที่จิตใจดีกว่านี้ ก็เกรงว่าจะพามาแปดเปื้อนด่างพร้อย สู้ใช้คนที่มันเปื้อนและถูกย้อมด้วยสีเทาสีดำอยู่ก่อนแล้ว ย่อมใช้งานได้ถูกที่ถูกเวลา