แผนไถ่ตัวเองออกจากสกุลอู๋ที่แสนเลวทราม
1. หาทางหย่าขาดกับไอ้ปลากระโห้อู๋ซั่วกู่ แล้วทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของไอ้ผัวเฮงซวยตกต่ำยิ่งกว่าขอทานข้างถนน
2. เล่นงานแม่ผัวให้หลาบจำ ถอนหงอกบนกบาลให้หมดทุกเส้น! อย่าสงสาร! อย่าใจอ่อน! แต่จงสงเคราะห์ให้มันตายเร็วขึ้น!
3. ปั่นหัวอนุภรรยาให้ตบตีกัน ทำให้พวกมันไม่มีความสุข ให้มีชีวิตอยู่เหมือนตกนรกทั้งเป็น
4. สั่งสอนเหล่าสาวใช้ปากดี ใครที่มันเคยดูถูกเหยียดหยามเถียนไต้หรง ข้าจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า
5. ยึดอำนาจการเงินกลับคืน เข้าควบคุมกิจการค้าไม้ของบิดา
6. กลับไปใช้สกุลเดิม ‘เถียน’ เป็นแม่หม้ายวัยสิบเก้าปีที่โคตรรวยและสวยมากเวอร์ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนกองเงินกองทองอย่างที่ชาติก่อนไม่เคยมีโอกาสได้ใช้
หญิงสาวมองหกข้ออย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเคาะไปยังข้อที่หนึ่งอย่างวิเคราะห์หาหนทางหย่าขาดจากสามี
ในโลกนี้มีกฎ ‘เจ็ดขับ’ และ ‘สามไม่หย่า’ อยู่ ซึ่งกฎเจ็ดขับนั้นเอื้อต่อการขอหย่าของฝ่ายชายโดยไม่มีข้อใดที่เอื้อต่อสตรีเลย
ขับที่ 1 ไม่ปรนนิบัติพ่อแม่สามี
ขับที่ 2 ไม่มีบุตร
ขับที่ 3 คบชู้
ขับที่ 4 อิจฉาริษยา
ขับที่ 5 มีโรคร้ายแรง
ขับที่ 6 พูดมาก
ขับที่ 7 ลักขโมย
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดศีรษะจนนิ่วหน้า นี่มันกฎเจ็ดขับบ้าบออะไรกัน หญิงสาวอยากจะดึงทึ้งหัวในความอยุติธรรมนี้ ก่อนจะทบทวน ‘สามไม่หย่า’ ของฝ่ายหญิงที่สามารถนำมาคัดค้านไม่ยอมหย่า
1. ก่อนแต่งฝ่ายหญิงมีบ้านอยู่ หลังแต่งไม่มีบ้าน หากหย่าขาดกับสามี หญิงสาวจึงไม่มีที่ไป
ข้อนี้สามารถใช้เป็นข้ออ้างในการไม่หย่าได้ แต่อรินดาก็อดกัดฟันไม่ได้ ที่ผู้หญิงต้องทนอยู่กับสามีที่หมดรักเพียงเพราะไม่มีที่ไป ชีวิตแม่งโคตรบัดซบเลย!
2. เคยไว้ทุกข์ให้พ่อแม่สามีถึงสามปี ถือเป็นลูกสะใภ้ที่ดี
หญิงสาวคิดถึงข้อนี้แล้วก็แอบแสยะยิ้ม นางก็อยากจะไว้ทุกข์ให้อยู่หรอกนะ หากแม่สามีจะรีบๆ ตายไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย
3. หากวันใดสามีร่ำรวยได้ดิบได้ดี ไม่สามารถทิ้งภรรยาที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขได้
ข้อนี้ค่อยดูเป็นธรรมแก่ผู้หญิงขึ้นมาบ้าง แต่ในกรณีของนาง นางไม่คิดจะใช้กฎสามไม่หย่าอย่างแน่นอน เพราะทุกลมหายใจเข้าออกคือการหาทางหย่ากับไอ้ปลากระโห้และนำเงินของตระกูลเถียนกลับคืนมาให้เร็วที่สุด
คิดสิ...
นางควรกำจัดสามีเฮงซวยออกไปจากชีวิตอย่างไรดี อรินดาหลับตาแน่นพยายามครุ่นคิด ก่อนจะคิดไปถึง ‘เสียหลี’ คือสองสามีภรรยาต่างสมัครใจหย่ากันเอง โดยไม่ต้องอ้างอิงจากกฎเจ็ดขับและสามไม่หย่า
ซึ่งหากตกลงใจกันได้ฝ่ายชายต้องเขียนหนังสือหย่า หรือที่เรียกว่า ‘ซิวซู’ ให้แก่ฝ่ายหญิง ถือเป็นอันเรียบร้อยมีผลทางกฎหมาย
เช่นนั้นนางต้องเริ่มแผนการทำให้อู๋ซั่วกู่เขียนหนังสือหย่าให้นางโดยเร็วที่สุด และดูเหมือนว่าผู้ที่จะช่วยนางจัดการเรื่องนี้อย่างแยบยลได้ก็คือ
‘สำนักข้อมูลสวรรค์’
ที่นั่นนางจะสามารถจ้างวานนักฆ่า สาวใช้ ผู้ช่วยมือฉกาจ คนคุ้มกัน หรือสืบหาข้อมูลเบื้องต้น ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลเชิงลึกที่ยากจะเข้าถึง เป็นสำนักที่มีอิทธิพลเสียยิ่งกว่าหน่วยข่าวกรองของพระราชวังเสียอีก ซึ่งไม่เคยมีใครรู้ว่าสำนักข้อมูลสวรรค์ทำวิธีใดจึงได้มีข้อมูลหายากมากมายในกำมือ
และที่สำคัญว่ากันว่า...เจ้าของสำนักข้อมูลเป็นชายรูปงามใจคอโหดเหี้ยม และบูชาเงินยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
จ้างนักฆ่ามาปาดคอสามีเสียก็คงสิ้นเรื่อง แต่ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้ หากทำเช่นนั้นข้าจะติดอยู่ในสกุลอู๋ไปตลอดชีวิต ในฐานะ ‘หญิงหม้ายสามีตาย’ อีกทั้งยังต้องคอยดูแลตระกูลเฮงซวยนี่ คอยดูแลแม่สามี ดูแลอนุภรรยาทั้งหกอีกทั้งเลือดเนื้อเชื้อไขของปลากระโห้ที่กำลังจะเกิดมาอีกเล่า
นางต้องการหย่า โดยที่นางต้องไม่สูญเสียอะไรเลย! และต้องไม่ใช่ฝ่ายผิด จะไม่ยอมให้ใครมาชี้หน้าว่าเป็นหญิงชั่วช้าเป็นอันขาด
จะหย่าโดยไม่มีรอยด่างพร้อยใดๆ
“เฮ้อ...”
หญิงสาววางความคิดลงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ค่อยๆ เดินไปทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง ก่อนจะออกไปพบเจ้าของสำนักข้อมูลสวรรค์ นางควรรักษาอาการเจ็บป่วยและบำรุงร่างกายให้แข็งแรงก่อนสินะ
คิดพลางค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง พร้อมๆ กับเสียงเคาะประตูของเหาอิง สาวใช้นำหมอเข้ามาตรวจดูอาการเจ้านายสาวอย่างละเอียด
“ท่านหมอ”
“ขอรับนายหญิงอู๋”
ให้ตายเถอะนางไม่ชอบให้ใครเรียกนางว่านายหญิงอู๋เลย เพราะนางไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆ กับสกุลอู๋ที่น่าขยะแขยงนี่อีก
“ข้ายินดีจ่ายอย่างเต็มที่ ขอให้ท่านหมอจัดยาที่ดีที่สุดที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย พละกำลัง และปราณของข้าให้แข็งแรงโดยเร็ววันที่สุด ท่านหมอทำได้หรือไม่...”
“ได้เลยขอรับนายหญิงอู๋ ข้ามียาตัวหนึ่งเพิ่งได้มาไม่นานนี้ เดี๋ยวข้าจะจัดยาให้ท่านเดี๋ยวนี้เลย”
หมอถึงกับยิ้มกว้างเมื่อพบลูกค้าเงินหนาที่ป่วยจนร่างกายผ่ายผอม หากจะกลับมาแข็งแรงแน่นอนว่าต้องกินยาปริมาณมากจนแทบจะเรียกได้ว่ากินยาต่างข้าวเลยทีเดียว
แต่หากผู้ป่วยมี ‘เงิน’ ปริมาณยาก็จะลดน้อยลง แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะมากขึ้นและเห็นผลไวขึ้นนั่นเอง เพราะเงินนั้นสามารถดลบันดาลได้ทุกสิ่งอัน