โง่งม ที่ 1
น้ำล้างหน้าหรือน้ำล้างเท้า
ต่ำตม
“เป็นฮูหยินอะไรขี้เกียจสันหลังยาว!”
อรินดาในร่างเถียนไต้หรงปวดเมื่อยไปทั้งร่างกาย นางนอนสลบไปกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง แต่นอกจากสาวใช้จะไม่เข้ามาประคองช่วยเหลือด้วยความห่วงใยแล้ว ยังค่อนแคะกระแนะกระแหนราวกับไม่เห็นหัว
หญิงสาวหลับตาแน่น สูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะค่อยๆ หยัดกายที่แสนปวดร้าวลุกขึ้นยืน ร่างนี้ผอมเกินไป อ่อนแอเกินไป เป็นร่างกายที่ไม่เคยทำงานหนักไม่เคยหยิบจับสิ่งใด เนื้อตัวซีดเซียวราวกับขาดสารอาหาร
ในขณะที่ร่างเก่าของนางนั้นเป็นหญิงอวบที่สูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร แข็งแรง ถึก ทนเยี่ยงวัวเยี่ยงควาย สามารถยกกระสอบข้าวสารได้คนเดียวสบายๆ แถมยืนขายข้าวมันไก่ได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
โครม!
“น้ำล้างหน้าเจ้าค่ะ”
น้ำในอ่างไม้กระฉอกออกมากว่าหนึ่งในสามส่วน เถียนไต้หรงคนใหม่มองไปยังอ่างน้ำนั้นนิ่งนาน ความทรงจำต่างๆ เริ่มปะติดประต่อ
ดูเหมือนว่านางจะย้อนกลับมาตอนที่เจ้าของร่างนี้อายุสิบเก้าปี เพิ่งแต่งงานกับสามีได้เพียงสิบเดือน และบิดามารดาของนางเพิ่งเสียชีวิตไปได้สี่เดือนก่อน
ช่วงเวลานี้สินะ...
ที่สามีเริ่มทยอยรับอนุภรรยาเข้าเรือนมาทีละคน ทีละคน ราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด
อีกทั้งเหตุการณ์ในอนาคตก็ยังฉายชัดว่าอีกไม่นานนับจากนี้ราวๆ เก้าเดือน อนุภรรยาคนที่สองจะคลอดบุตรชายออกมา และนั่นจะยิ่งทำให้นางกลายเป็นคนไม่มีอำนาจในเรือนอีกต่อไป
แม้แต่น้ำล้างหน้าสาวใช้ก็จะไม่นำมาให้ ไม่ยกสำรับอาหารมาให้ ไม่ช่วยแต่งตัว ไม่คอยรับใช้หยิบจับสิ่งใดให้ นางต้องไปหากินเองในครัว ซักผ้าเอง ดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็ถูกหัวเราะลับหลังอีกทั้งยังแสร้งนินทาให้ได้ยินว่านางนั้นไร้ประโยชน์และโง่งม
อา...
เป็นเช่นนี้เองสินะ...
หญิงสาวก้มหน้านิ่ง มือสั่น ใจสั่น นี่จะเป็นครั้งแรกที่นางจะลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง นางที่ไม่เคยลุกขึ้นสู้เลยสักครั้งไม่ว่าเรื่องใดๆ ยอมเป็นคนหัวอ่อนว่าง่ายเพราะกลัวว่าจะถูกเกลียด ยอมเป็นคนหน้าโง่คอยรองมือรองเท้าให้ใครต่อใครเหยียบย่ำราวกับผ้าขี้ริ้ว
ข้าต้องทำได้!
ข้าต้องทำได้!!
ข้าต้องทำได้!!!
นางเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง ก่อนจะพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงลุกขึ้นยืน หูเริ่มร้อน ใบหน้าผ่าวแดงก่ำ ไหล่เล็กบอบบางสั่นเทิ้มด้วยความกรุ่นโกรธก่อนจะเอ่ยเรียกสาวใช้ที่กำลังเดินกระแทกส้นเท้าออกจากห้องไป
“เดี๋ยว!”
“มีอะไรหรือเจ้าคะฮู!หยิน!”
‘เหาอิง’ สาวใช้ลอยหน้าลอยตาถามพลางเน้นย้ำคำว่าฮูหยินราวกับกระแทกกระทั้น นึกสมเพชหญิงสาวผอมบางราวกับจะปลิวลมตรงหน้าเหลือกำลัง
ฮูหยินงั้นหรือช่างน่าสมเพชนัก สามีไม่รักไม่แล มีชีวิตอยู่ในเรือนนี้ราวกับสุนัขขี้เรื้อนหัวเน่า ไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ ในเรือน นางนี่ช่างโชคร้ายจริงๆ ที่ต้องคอยมาดูแลรับใช้คนไร้ประโยชน์เช่นนี้ หากนางได้ดูแลอนุเฉิน หรืออนุเยี่ยคงจะดีไม่น้อย เพราะสองท่านนั้นเป็นที่โปรดปรานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีรูปโฉมงดงาม มีอำนาจบารมีแตกต่างจากฮูหยินที่แค่จะยืนยังไม่ไหว
“มาตรงนี้หน่อย ในน้ำเหมือนมีแมลง”
หญิงสาวเอ่ยเรียก แม้จะไร้เรี่ยวแรงแต่ก็พยายามยืนตัวตรงและกำลังรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อทำอะไรบางอย่าง
“จิ๊! เรื่องมากจริง! กับอีแค่แมลงทำไมถึงจัดการเองไม่ได้!”
สาวใช้สะบัดตัวอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินกระแทกเท้ากลับมาที่อ่างล้างหน้า
“ข้าไม่ว่างพอที่จะมาทำเรื่องไร้สาระหรอกนะเจ้าคะฮูหยิน ไม่มีใครในจวนนี้เกียจคร้านวันๆ เอาแต่นอนเหมือนท่าน ทุกคนล้วนมีงานมีการต้องทำทั้งนั้น”
เหาอิงบ่นแหวเสียงดังอย่างไม่พอใจ ก่อนจะก้มหน้ามองลงไปในอ่างน้ำ
“ไหนแมลงไม่เห็นจะมีเลยเจ้าค่ะ”
ว้าย!
แล้วโดยที่ไม่ทันตั้งตัวสาวใช้ก็ถูกกดศีรษะลงไปในอ่างล้างหน้า ยิ่งนางกรีดร้องน้ำก็ยิ่งเข้าปากสำลักออกจมูกและกลืนลงไปในท้อง นางพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด ทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของฮูหยินเถียนกลับกดศีรษะนางเอาไว้ด้วยสองมือจนสุดแรง