III ชีวิตประจำวัน ต่อจากนี้ [3/3]

1513 คำ
และเมื่อเป็นที่เข้าใจและรับรู้ของทุกคนในสมาชิกในวงต่างแยกย้ายกันกลับ แต่ก็มีเพียงหนึ่งคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ยังไม่มีการพูดอะไรเลยจากคำสุดท้ายที่เขาบอกให้หนูนา ‘หายใจ’ เมื่อเห็นแบบนั้นหนูนาไม่ได้พูดหรือถามอะไรทั้งสิ้น เธอก็ไปทำหน้าที่ของเธอคือทำความสะอาดห้องเครื่องดนตรี  และทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาเขาซึ่งเธอก็รับรู้ได้แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตาทำงานของเธอต่อไป ปีเตอร์สังเกตุเห็นกระเป๋าเป้ของเธอไม่ได้ปิด เห็นหนังสือเล่มหนึ่งก็ถือวิสาสะหยิบออกมาเปิดดู และให้ความสนใจกับเนื้อหาในหนังสือ ส่วนหนูนาเมื่อทำงานของเธอจนเสร็จไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็เดินมาที่สัมภาระที่เธอวางไว้เพื่อเตรียมกลับเช่นกัน “ขอหนังสือคืนด้วย” พูดพร้อมกับยื่นแขนในระยะห่างกันพอสมควร แต่ก็สามารถหยิบหนังสือคืนจากปีเตอร์ได้หากเขายื่นสุดแขนส่งให้เธอ แต่ เงียบ!!!!! ไม่มีปฎิกริยาใดตอบกลับมา “คุณ...ขอ...หนังสือ...คืน...ด้วย...” พูดอีกครั้งดังกว่าเดิมและย้ำเน้นทุกคำ แขนก็ยังยื่นค้างเหมือนเดิม แต่ก้าวเข้าไปใกล้อีกสองก้าว   “สอง” พูดพร้อมยื่นมือออกไปจับมือของหนูนาและกระชากดึงตัวหนูนาเข้าหาตัวเองเบาๆ แต่ทำให้หนูนาเสียหลักเซถลาล้มมานั่งอยู่บนตักเขา  “ว้าย!!!”  เสียงร้องของหนูนาด้วยความตกใจ  ตอนนี้หน้าทั้งสองคนห่างกันแบบปลายจมูกชนกัน ดวงตาประสานกันคู่หนึ่งจ้องมองด้วยอาการตื่นตกใจ ส่วนอีกคู่จ้องมองด้วยแววตาหวานเคลิ้มและค่อยๆลดสายตามาที่ริมฝีปากอิ่ม พร้อมกับขยับปากของตัวเองไปประกบปากอิ่มทันทีตามความรู้สึกที่ไม่อาจกักกั้นมันไว้ได้อีกต่อไปแล้ว หนูนาหลับตาลงอย่างรวดเร็วด้วยอาการตกใจทำอะไรไม่ถูกที่จู่ๆโดนขโมยจูบ ‘จูบแรก’ ตามความเข้าใจของเธอ ซึ่งเธอรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นที่ริมฝีปากอย่างนุ่มนวลเมื่อเขาค่อยๆส่งลิ้นเลียริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างนุ่มนวล ปีเตอร์รับรู้ได้ถึงความสั่นเทาของร่างเล็กที่อยู่ในวงแขน  หนูนาไม่รู้จะทำอย่างไรมือไม้ดูเกะกะไปหมด แต่แทนที่เธอจะขัดขืนกลับปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ ปีเตอร์ค่อยๆส่งลิ้นเข้าไปหาความหอมหวานอย่างนุ่มนวลในโพรงปากอิ่ม หนูนาเปิดทางให้กับเขาอย่างเผลอไผลไปกับความอ่อนโยนที่เขามอบให้ ปีเตอร์หยอกล้อกับลิ้นในโพรงปากอิ่มนั้นอย่างผู้ชำนาญ ทำให้หนูนาตอบสนองกลับแบบไม่ประสา สร้างความพึงพอใจให้กับนักร้องหนุ่มอย่างมาก ไม่แน่ใจผ่านไปนานแค่ไหนปีเตอร์ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างเสียไม่ได้  “หายใจ” เขากระซิบเบาๆบริเวณริมฝีปากอิ่มหนูนาเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำตามอีกครั้ง พอสติเริ่มกลับมา ก็เตรียมจะลุกออกไปจากตักที่แสนจะอบอุ่นนี้ ก็ถูกวงแขนรัดแน่นพร้อมกับประกบปากเธออีกครั้ง เปลี่ยนไปจากคราวแรกเพราะปีเตอร์ทั้งเรียกร้อง  เร้าร้อนจนหนูนาต้องยกแขนโอบรอบคอเขาทันที กระตุ้นให้เขาต้องรุกหนักขึ้นทำให้หนูนาหายใจหายคอไม่ทันและตั้งรับกับความรู้สึกใหม่นี้ยังไม่ได้ ปีเตอร์จึงต้องถอยออกอีกครั้งอย่างเสียดาย และอดไม่ได้ที่จะก้มมองริมฝีปากอิ่มนั้นที่เจ่อแดงด้วยฝีปากของตัวเอง และแอบยิ้มอย่างมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ “จะกลับเหรอยัง?” ตั้งคำถามแต่ก็ยังไม่ยอมคลายวงแขนหนูนาได้แต่พยักหน้าเพราะตอนนี้เธอต้องหายใจทางปาก เพื่อช่วยเอาอากาศเข้าไปในปอดเหมือนตัวเองกำลังจะจมน้ำหมดแรงไปดื้อๆ และรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าเหมือนจะเป็นไข้ ปีเตอร์มองอย่างขำๆและคิดไปด้วยว่า “นี่แค่จูบ...หนูนาเหมือนคนจมน้ำ หายใจด้วยตัวเองแทบไม่ได้ แล้วถ้าเขาจะไปต่อมากกว่านี้เธอจะน่ารักแค่ไหนนะ” “งั้นกลับกัน” พูดพร้อมพยุงเธอให้ยืนขึ้นพร้อมกับเขา แต่ยังไม่ปล่อยมือมองจนแน่ใจว่าเธอสามารถยืนได้ตัวเอง  และก้มไปหยิบหนังสือของเธอที่วางไว้ใส่เข้าไปในเป้พร้อมปิดให้เรียบร้อย และไปหยิบเสื้อโค้ชทั้งของเธอและของตัวเองเอาเสื้อของเธอมาสวมให้เธอ แต่ในมืออีกข้างก็มีเป้ของเธอกับเสื้อของตัวเองที่หยิบมาพาดไหล่ และมืออีกข้างก็เอื้อมไปจับมือเธอและจูงออกจากตรงนั้น “เปิดประตูสิ” จูงมือหนูนาเดินไปที่ประตูและก็หันมาพูดกับเธอ  “คุณก็เปิดเองสิ” หนูนาที่ตอนนี้สติของเธอยังไม่กลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้แต่มองตามพฤติกรรมของเขาจนมาถึงหน้าประตูแบบ งงๆ เงยขึ้นไปมองหน้าเขากับคำสั่งนั้นของเขา    “สาม...มือไม่ว่าง”  เขาตอบออกไปและก้มลงมามองที่หน้าเธอ   “อะไรของคุณเนี่ย ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ สอง สาม คืออะไร?”  ถามออกไปด้วยอารมณ์เคืองๆ ในความไม่เข้าใจและพยายามบิดมือออกจาการเกาะกุมของเขา “สี่”  ปีเตอร์พูดพร้อมกระชับร่างบางเข้ามาใกล้หันหน้าเข้าหากัน   “พีท ผมบอกให้หนูนาเรียก ‘พีท’ ไม่ใช่คุณอย่างนั้นคุณอย่างนี้ จำไว้และต่อไปอย่าให้ได้ยินอีก” พูดน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปเขาคุยกัน  หนูนาเมื่อได้ฟังคำตอบก็จ้องเขาตาโตอย่างคาดไม่ถึงว่าปีเตอร์จะให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆแค่นี้    “เปิดประตูสิ!” ปีเตอร์พูดออกคำสั่งอีกครั้ง แบบนุ่มนวล  “เดี๋ยวก่อน ฉันมีคำถามที่จะถาม คุ......พีท อีกอย่าง” เกือบไปแล้ว ‘คุณ’ เกือบหลุดออกจากปากของหนูนาอีกครั้งไม่งั้นป่านนี้คงได้ยิน ‘ห้า’ ออกมาจากปากแสนเซ็กส์ซี่นั้นอีกแน่  “พีท รู้ได้ยังไงว่าฉันมีชื่อเล่นเป็นภาษาไทยว่า ‘หนูนา’ เพราะฉันไม่เคยบอกใครเลย แม้แต่คุณเอียนยังไม่ทราบ?” ถามอย่างเอาเรื่อง เพราะหนูนาเริ่มสงสัยพวงกุญแจที่หายไป หัวขโมยอาจอยู่ตรงหน้าเธอก็ได้ หนูนามองหน้าปีเตอร์ด้วยสายตาจ้องจับผิดอย่างเห็นได้ชัด ปีเตอร์เมื่อเห็นสายตาแบบนั้น เขาก็เดาได้ทันทีว่าหนูนากำลังจับพิรุธเขาเรื่องตุ๊กตาพวงกุญแจแน่ เขาก็เลื่อนสายตาไปมาอย่างใช้ความคิด แต่ก็เฉไฉเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน... “ต่อไปนี้ ขอสั่งห้ามให้หนูนาแทนตัวเองกับผมว่า ฉันอย่างนั้นฉันอย่างนี้ให้แทนตัวว่า ‘หนูนา’ เท่านั้นเข้าใจตามนี้และเปิดประตูได้แล้ว” พูดไปและก้มหน้าลงมา คิดว่าถ้ายังไม่ยอมจบและเปิดประตู จะจูบสูบวิญญาณกันไปเลย หนูนาเมื่อเห็นอย่างนั้น ก็ยื่นมือที่ว่างอยู่อีกข้างไปเปิดประตูทันที เมื่อทั้งสองกำลังจะออกจากห้องปีเตอร์ก็หยิบแว่นที่เกี่ยวไว้กับคอเสื้อตรงหน้าด้วยมืออีกข้างที่ถือเสื้อโค้ชเอามาสวม โดยที่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากหนูนา และก็จูงเดินไปยังลิฟท์เพื่อลงไปลานจอดรถที่ประจำ โดยที่ไม่มีใครได้พูดคุยอะไรกัน เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟท์ปีเตอร์แอบชำเลืองมองสาวน้อยข้างกายตลอดและยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ตลอดเวลาที่ลิฟท์เลื่อนลงไปชั้นที่ต้องการสีหน้าหนูนาดูออกจะบูดบึ้งคิ้วขมวดอย่างคนอารมณ์ไม่ดี ตั้งแต่เดินออกจากสตูดิโอแล้ว  “เอ๊ะ!!!” หนูนาอุทานออกมา เมื่อนึกอะไรมาได้ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดที่ชั้นจอดรถและกำลังถูกจูงไปยังทิศทางที่นักร้องนำพาไปนั้นคือที่จอดประจำของเขา   “คุ......อืม...พีท....” เรียกไปพร้อมกับก้าวตามแรงจูงไปด้วย  “เดี๋ยว! นี่พีทจะพาหนูนาไปไหน”   “ไปกินมื้อเย็นกัน หิวแล้ว”ปีเตอร์เมื่อได้ยินแบบนั้น ตอบคำถามแบบเป็นเรื่องปกติ และเมื่อเดินมาถึงรถก็ไปเปิดประตูฝั่งคนนั่ง ปล่อยมือจากหนูนาอย่างเสียดายและดันให้เข้าไปนั่งปิดประตูและตัวเองก็เดินมานั่งประจำตำแหน่งคนขับ โดยเอาเป้กับเสื้อที่ถือมาวางไว้เบาะหลัง  สตาร์ทรถและขับออกไปโดยไม่มีการอธิบายหรือพูดอะไรอีก ❅❈❅❈❅❈❅❈
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม