เทศกาลชีซี
เทศกาล "ชีซี" ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ซึ่งจะตรงกับเดือนสิงหาคม ตามปฏิทินสากลในแต่ละปีวันจัดงานเทศกาลดังกล่าวจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับว่าขึ้น 7 ค่ำตรงกับวันที่เท่าไรในเดือนสิงหาคมของแต่ละปีนั่นเอง ตามตำนานของหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า ถือเป็น "วันวาเลนไทน์จีน" และยังมีชื่อเรียกอื่นเช่น "ชีเฉี่ยวเจี๋ย" มีความหมายว่า เทศกาลขอให้ประสิทธิประสาทความประณีตละเอียดอ่อน "เซ่าหนี่ว์เจี๋ย" เทศกาลเด็กสาว หรือ "หนี่ว์เอ๋อร์เจี๋ย"เทศกาลหญิงสาว
พอถึงวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน บรรดาหญิงสาวก็จะเตรียมด้ายหลายๆ สีและเข็ม 7 เล่ม หากใครสามารถร้อยด้ายเข้ารูเข็มทั้ง 7 เล่มได้ ก็จะเป็นผู้มีฝีมือในด้านการเย็บปักถักร้อยเหมือนสาวทอผ้าในนิทาน และจะมีการอวยพรให้มีความสุข
ร่างระหงของจ้าวมี่อิงเดินเตร็ดเตร่มาเรื่อยๆ แถวหุยหมินเจีย ซึ่งเป็นถนนคนเดินดั้งเดิมของชาวจีนมุสลิม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซีอาน สองข้างทางบนถนนมีร้านรวงขายของทั้งอาหารพื้นเมืองอย่างของแห้งและขนมมากมาย มี่อิงทานอาหารเช้า กลางวันและเย็นรวดเดียวเสร็จสรรพในมื้อเดียว
ภายในมือของหญิงสาวถือถ้วยไอศกรีมเดินตักกินไปด้วยตามท้องถนนที่ถูกประดับประดาด้วยแสงสีมากมาย เนื่องด้วยเป็นเทศกาลชีซีกำลังถูกจัดขึ้นไปทั่วทั้งเมืองซีอาน ฉับพลันสองขาเรียวยาวหยุดลงทันใดเมื่อสายตามองตรงไปเบื้องหน้า เห็นแผ่นป้ายขนาดใหญ่ระบุสถานที่จัดงานเทศกาลชีซีในปีนี้
“เทศกาลชีซีในปีนี้จัดขึ้นที่กำแพงเมืองซีอานอย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวยืนอ่านข้อความบนป้ายประกาศและแผนที่เดินทางไปสถานที่จัดงานก่อนจะรีบตักไอศกรีมที่ถืออยู่ในมือใส่ปากของตัวเองจนหมด
“แท๊กซี่!!!” แม่สาวน้อยร้องเรียกรถโดยสายสารที่มีอยู่มากมายบนท้องถนนพร้อมโบกมือขึ้นลงให้รถหยุดรับเธอ
ทันทีที่รถโดยสารชะลอตัวและหยุดรถรับหญิงสาว มี่อิงเปิดประประตูกระโดดขึ้นนั่งด้านหลังคนขับอย่างรวดเร็ว
“ไปกำแพงเมืองซีอานค่ะ” เธอบอกจุดหมายปลายทางที่ต้องการไปยังสถานที่จัดงานเทศกาลชีซีในปีนี้อย่างรวดเร็ว
ในเวลาต่อมา
เพียงไม่นานร่างระหงของจ้าวมี่อิง มาหยุดยืนมองกำแพงเมืองซีอานซึ่งถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังและถูกบูรณะมาเรื่อยๆ จากหลายราชวงศ์และสร้างต่อเติมครั้งใหญ่ในสมัยราชวงศ์หมิงบริเวณทางเข้าของประตูโบราณถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสีมากมายตลอดความยาวของกำแพง
อีกทั้งยังถูกประดับประดาด้วยโคมแดงและดอกไม้นานาพรรณไปทั่วทั้งงาน ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปตลบอบอวลเป็นวงกว้างและสวยงามตระการตาอย่างยิ่งยวด ภายในงานเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างย้อนไปในสมัยโบราณตั้งแต่เดินเข้าลอดเข้าประตูกำแพงยาวไปตลอดแนวเลยทีเดียว จนผู้คนที่มาเที่ยวงานดังกล่าวต่างใช้โทรศัพท์มือถือของตนหรือกล้องชั้นดีถ่ายภาพเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ครั้นแหงนหน้ามองไปด้านบนประตูของกำแพงเมืองพบป้ายขนาดใหญ่แขวนไว้เห็นอย่างเด่นชัด
เชิญเที่ยวงานเทศกาลชีซี ณ เมืองจำลองฉางอาน ดื่มด่ำกลิ่นอายของแผ่นดินในยุคราชวงศ์ถัง
“ว้าว! เข้าท่าแฮะที่ซีอานจัดเทศกาลชีซีแบบย้อนยุคไปในราชวงศ์ถังเสียด้วย น่าสน น่าสน” มี่อิงไม่รอช้าเดินตรงปรี่ไปยังกำแพงเมืองซีอานที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ซึ่งเต็มไปด้วยคู่รักทั้งวัยหนุ่มสาว วัยผู้ใหญ่จนกระทั่งวัยชราต่างพากันทยอยเข้ามาร่วมชมและเดินเที่ยวงานเทศกาลชีซีกันอย่างคับคั่ง
ในขณะที่ดวงตาสีชาเริ่มสังเกตเห็นคนที่มาร่วมงานต่างแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าในสมัยโบราณด้วยกันทั้งสิ้น บางคนที่มิได้ใส่ชุดโบราณดังกล่าวก็มาเช่าชุดอยู่ตรงหน้างานซึ่งมีให้บริการนับสิบๆ ร้าน แต่ละร้านตกแต่งและสร้างบรรยากาศในยุคโบราณสมัยราชวงศ์ถังราวกับว่ากำลังอยู่ในยุคนั้นก็มิปาน
ครั้นมี่อิงเห็นเช่นนั้นอดไม่ได้ที่จะถามไถ่กลุ่มเด็กสาววัยแรกรุ่นที่มาด้วยกันหกคนกำลังต่อคิวเช่าชุดโบราณอยู่บริเวณประตูทางเข้าด้านหน้าก่อนจะเข้าไปภายใน คนสวยเดินตรงเข้าไปถามเด็กสาววัยรุ่นคะเนว่าน่าจะอยู่ระดับมัธยมปลาย
“น้องสาวคะต่อแถวยาวเหยียดแบบนี้ทำอะไรกันเหรอ” มี่อิงถามกลับไปด้วยความอยากรู้
กลุ่มสาววัยรุ่นหันกลับมาก่อนจะหยุดชะงักครั้นเห็นหญิงสาวหน้าตาสวยจัดถามไถ่เช่นนั้น
“อ่อ...พวกเราต่อแถวเช่าชุดโบราณค่ะพี่สาว จะได้เข้าไปชมเทศกาลชีซีข้างใน” กลุ่มเด็กสาวตอบเธอกลับมา
ครั้นมี่อิงได้ยินเช่นนั้นเธอแปลกใจอย่างยิ่งยวดพลางก้มลงมองชุดที่กำลังสวมใส่ของตัวเองพร้อมเอ่ยขึ้น
“เข้าไปชมงานด้วยชุดที่เราใส่มาจากบ้านไม่ได้เหรอ จำเป็นต้องเช่าชุดโบราณเพื่อเข้าไปชมเทศกาลด้วยอย่างนั้นเหรอจ๊ะน้องสาว” มี่อิงอดไม่ได้ที่จะถามกลับไปด้วยความสงสัย
“อ่อ..ถ้าใครไม่อยากเช่าชุดก็ไม่ต้องเข้าไปในงานก็ได้ค่ะ ธีมจัดงานในปีนี้คือสวมชุดฮั่นฝูเพื่อเข้ามาร่วมงานในเทศกาลชีซีกันทั้งนั้น บางคนก็แต่งมาจากบ้านเลย บางคนก็มาเช่าชุดตามร้านที่มีให้บริการหรือจะมาเช่าด้านหน้าของงานก็ได้ค่ะ ค่าเช่าอยู่ที่ตัวชุดว่าจะมีเอาแบบธรรมดาชาวบ้านทั่วไปหรืออยากได้ระดับนางสนมชาววังก็มีค่ะพี่สาว แต่ถ้าใครไม่อยากเดินเที่ยวงานก็จะไม่เช่าชุดและพากันกลับค่ะ”
กลุ่มเด็กสาวตอบได้ใจความและชัดเจนทำให้มี่อิงพยักหน้าขึ้นลง เมื่อเธอเข้าใจในสิ่งที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นบอกกลับมาเช่นนั้น ดวงตาคู่สวยเหลือบมองผู้คนที่มาเที่ยวงานซึ่งกำลังยืนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อเช่าชุดโบราณเข้าไปเที่ยวเทศกาลอันเป็นที่นิยมของประเทศและจัดขึ้นพร้อมกันทุกมุมเมือง
“แถวยาวเหยียดแบบนี้ไม่ไหวจะต่อคิวกลับดีกว่า” มี่อิงรำพึงอยู่ภายในใจพลางส่งยิ้มสวยกลับไปให้กลุ่มเด็กสาว
“ขอบใจมากจ๊ะที่อธิบายให้ฟัง” มี่อิงกล่าวขอบคุณพลางเดินเลี่ยงออกมา
“เดี๋ยวคะพี่สาวคนสวย” เสียงของกลุ่มเด็กสาวหนึ่งในนั้นเรียกตามหลัง
ร่างระหงหยุดชะงักหันกลับไปมองตามเสียงเรียก พร้อมร่างเล็กๆ ของเด็กสาวนางหนึ่งก้าวเดินออกมา
“พี่สาวลองไปเที่ยวชมงานเทศกาลชีซีสักครั้งสิคะ เห็นพี่มาคนเดียวแสดงว่ายังไม่มีแฟนเข้าไปชมเทศกาลแล้วขอพรกับเทพจันทราและเทพธิดาทอผ้าที่อยู่ในงานสิคะ มีอยู่ร้านหนึ่งตั้งอยู่ตรงใกล้ประตูทางเข้าไม่มีลูกค้าไปต่อแถวเลยสักคนเดียว ร้านนั้นแหละคะเขามีบริการเช่าชุดแต่เจ้าของร้านจะยอมให้เช่าก็ต่อเมื่อได้เห็นลักษณะของลูกค้าว่าสมควรสวมชุดของร้านเขาได้หรือเปล่า เงื่อนไขของร้านแบบนั้นก็เลยทำให้มีลูกค้าน้อยมากเลยค่ะ พี่สาวสวยขนาดนี้น่าจะได้สวมชุดของร้านนั้นนะคะ ลองดูนะคะแล้วพบกันในงานค่ะ” เด็กสาวแนะนำมี่อิงกลับมา
ใบหน้าสวยพยักหน้าขึ้นลงครั้นได้ยินคำแนะนำเช่นนั้น
“ขอบใจมากนะจ๊ะน้องสาวที่แนะนำ” มี่อิงกล่าวขอบคุณกลับไป
เด็กสาวส่งยิ้มตอบกลับมาพร้อมหันหลังเดินกลับไปเข้าแถวต่อคิวตามเดิม เด็กสาวกลุ่มนั้นต่างส่งยิ้มให้เธอพลางชี้มือให้ไปร้านเช่าชุดดังกล่าวเป็นการใหญ่
ดวงตาสีชาคู่สวยมองตรงไปตามนิ้วของเด็กสาวกลุ่มนั้นต่างพากันชี้ไม้ชี้มือเป็นการใหญ่ ร้านเช่าชุดดังกล่าวตั้งป้ายไว้หน้าร้านเขียนข้อความบางอย่าง ที่ผู้คนทั่วไปซึ่งตั้งใจมาร่วมงานและตั้งใจเช่าชุดต่างพากันหยุดอ่านก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว บางรายก็ก้าวเข้าไปภายในร้านและเพียงครู่ก็ต้องออกมาในเวลาไม่ถึงอึดใจเช่นกัน
“อยากจะรู้เหมือนกันว่าร้านนั้นเขามีเงื่อนไขอะไรมากมายถึงกล้าปฏิเสธลูกค้าที่ต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมากขนาดนี้ เขาไม่อยากได้เงินค่าเช่าชุดอย่างนั้นเหรอแปลกจริงเชียว” มี่อิงพูดพลางก้มลงสำรวจตัวเองเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง
หญิงสาวพาเรือนร่างอรชรเดินตรงไปร้านเช่าชุดโบราณที่ติดป้ายขนาดใหญ่เอาไว้หน้าร้าน ก่อนจะมาหยุดยืนอ่านข้อความบนป้ายดังกล่าว
หนุ่มหล่อ สาวสวย รูปร่างดี เชิญข้างใน บริการชุดฮั่นฝูฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย หากคุณคิดว่าหล่อและสวยจริงดั่งเช่นบุรุษและสตรีในยุคโบราณ
“โอโห่! ตกลงให้บริการเช่าชุดหรือต้องการสแกนนายแบบ นางแบบกันแน่ เงื่อนไขเหมือนจะคัดเลือกไปถ่ายปกลงนิตยสารหรือถ่ายซีรีสอย่างไงก็อย่างงั้นเลย” หญิงสาวบ่นพึมพำพลางหมุนตัวกลับเดินออกจากร้าน ตั้งใจจะเดินทางกลับเข้าที่พัก
“น้องสาวเดี๋ยวก่อนค่ะ” เสียงเรียกรั้งร่างไว้ให้รอดังอยู่ด้านหลัง
มี่อิงหยุดชะงักพลางหันกลับมามองด้านหลังของเธอและพบว่า มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบปลายๆ ยืนส่งยิ้มให้
“พี่สาวเรียกหนูเหรอคะ” มี่อิงถามพร้อมยกนิ้วชี้หันเข้าหาตัว
ร่างอวบอิ่มเดินออกจากร้านดังกล่าวตรงเข้ามาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว
“เรียกน้องสาวนั่นแหละคะจะเรียกใครซะอีก” หญิงคนดังกล่าวตอบกลับไปท่ามกลางความแปลกใจของอีกฝ่าย
“มีอะไรหรือเปล่าคะถึงเรียก” มี่อิงถามกลับไปด้วยความอยากรู้ก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบกลับมา
“พี่สาวเห็นมายืนอยู่หน้าร้านก็เลยคิดว่าคงต้องการอยากได้ชุดโบราณเพื่อสวมเข้าไปชมงานเทศกาลชีซี แต่ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเข้ามาภายในร้านจู่ๆ ก็เดินออกไป ก็เลยรีบออกมาเรียกนะจ๊ะ” หญิงคนดังกล่าวตอบกลับมา
และนั่นทำให้คนงามพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันครั้นได้ยินเช่นนั้น
“อ่อ...อย่างนี้เองถึงได้ออกมาเรียก หนูอยากมาเดินชมเทศกาลชีซีจริงคะเพราะยังไม่เคยมาเที่ยวงานนี้สักครั้งเลย และไม่รู้ว่าธีมปีนี้ต้องแต่งชุดโบราณเข้าชมงาน บริเวณหน้างานมีบริการให้เช่าชุดก็จริงแต่คิวยาวมาก เห็นร้านพี่สาวไม่มีคนหนูก็เลยเดินเข้ามา แต่พออ่านเงื่อนไขก็เลยคิดว่ากลับไปนอนต่อดีกว่า” มี่อิงตอบกลับไปอย่างไม่อ้อมค้อม ตามนิสัยที่เป็นคนพูดตรงไปตรงมา
ครั้นหญิงวัยกลางคนซึ่งแลดูจะเป็นเจ้าของร่างได้ยินเช่นนั้น สองมือยกขึ้นทาบอกของตัวเองไว้ทันใด
“อุ้ยตายแล้ว! ทำไมน้องสาวจึงคิดว่าตัวเองไม่สวยพอที่จะสวมชุดร้านพี่อย่างนั้นเหรอจ๊ะ” เจ้าของร้านถามกลับไปด้วยความอยากรู้
“ใครบอกละคะว่าไม่สวย ตรงกันข้ามหนูสวยมากๆ เลยแหละแต่ที่ไม่เข้าก็เพราะเงื่อนไขของร้านพี่ก็อีตรงที่ สวยแบบโบราณนะสิพี่สาว หนูไม่ได้สวยแบบผู้หญิงโบราณแต่เป็นผู้หญิงสวยยุคใหม่และแบบธรรมชาติด้วยนะคะ” จ้าวมี่อิงอวยตัวเองอย่างภาคภูมิใจเป็นยิ่งนัก
“โธ่! ทำไมถึงคิดมากเรื่องข้อความที่ระบุว่าสวยแบบโบราณด้วยนะ นี่แสดงว่าไม่เคยอ่านประวัติศาสตร์ของชนชาติเลยใช่ไหมว่าสี่สาวงามสวยที่สุดในแผ่นดินล้วนเป็นสตรีในยุคโบราณทั้งนั้น ไซซี ที่ได้ฉายาว่ามัจฉาจมวารี หวังเจาจวินที่ได้ฉายาว่า ปักษีตกนภา แม่นางเตียวเสี้ยนที่ได้ฉายาว่าจันทร์หลบโฉมสุดา หรือแม้กระทั่งหยางกุ้ยเฟย ที่ได้ฉายาว่ามวลผกาละอายนาง ทั้งสี่นางล้วนเป็นคนสวยที่สุดในแผ่นดินของยุคโบราณเมื่อหลายพันปีก่อนทั้งสิ้นเลยนะ”
คำอธิบายกล่าวเสียยืดยาวของอีกฝ่ายทำให้มี่อิงก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ยกขึ้นมาพูดให้ฟังอยู่ดี
“แล้วสี่สาวงามเกี่ยวอะไรกับหนูด้วยเหรอคะ ฟังอย่างไงก็ไม่เข้าใจ” มี่อิงถามกลับไป
และนั่นทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
“ก็หมายความว่า น้องสาวเป็นผู้หญิงสวยที่สุดในแผ่นดินเหมือนในตำนานไงละจ๊ะ เหมาะสมมากที่จะสวมชุดโบราณของทางร้านพี่ พอเห็นหน้าน้องสาวรู้ไหมว่าพี่สาวแทบร้องกรี๊ดลั่นร้านเลย หน้าตาแบบนี้แหละหามานานหลายปีแล้วเพิ่งจะเจอก็วันนี้ พี่ให้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ขอแค่อนุญาตให้ทางร้านพี่ถ่ายแบบน้องสาวเป็นพรีเซนเตอร์โปรโมทร้านให้พี่ และอนุญาตนำภาพของน้องไปลงในเว่ยป๋อเพื่อเผยแพร่ชุดของทางร้านซึ่งมีให้บริการครบจนถึงเครื่องประดับเลยละจ๊ะ”
คำกล่าวของอีกฝ่ายเล่นเอามี่อิงกะพริบตาขึ้นลงปริบๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆ ออกมา
“พี่สาวก็พูดเกินไป หนูสวยก็จริงแต่ไม่ได้สวยที่สุดในแผ่นดินเหมือนสี่สาวงามในตำนานหรอกค่ะ” เธอตอบกลับไป
“ไม่เกินจริงหรอกจ๊ะแต่เป็นความจริงที่สุดเลย และขอบอกเลยนะว่าน้องผู้หญิงคนไหนถ้าร้านพี่ถ่ายแบบส่งขึ้นเว่ยป๋อแล้วละก็ ติดเทรนขึ้นมาทันทีรับรองว่าเอเจนซี่มากมายต้องติดต่อมาหาน้องสาวทันทีเลย” เจ้าของร้านพูดอย่างมั่นใจ
“โอ้ย!หนูไม่รับหรอกค่ะพี่ เพราะหนูมีงานประจำทำแล้ว ไม่มีเวลามารับงานนอกอะไรแบบนี้” มี่อิงพูดพลางยกมือปฏิเสธกลับไปเป็นพัลวันท่ามกลางความแปลกใจของอีกฝ่ายเมื่อได้ยินเด็กสาวตรงหน้าไม่สนใจที่จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง
“เอาเป็นว่าเก็บเอาไปคิดก็ได้นะ ว่าแต่ที่พี่สาวพูดออกมาทั้งหมดตกลงจะสวมชุดร้านพี่และอนุญาตให้ถ่ายแบบตามที่บอกเมื่อครู่ได้หรือเปล่าจ๊ะ” เจ้าของร้านถามกลับไปเพื่อต้องการคำตอบอนุญาตจากหญิงสาวตรงหน้าทันที
มี่อิงยืนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ดวงตาสีชามองไปทั่วบริเวณงานเทศกาลชีซี ซึ่งเป็นงานที่เธออยากมาเที่ยวตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนยังเด็กคิดว่าต้องมีแฟนแล้วจึงจะมาเที่ยวงานนี้ได้ ครั้นเมื่อโตขึ้นและก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จึงได้เข้าใจว่าคนโสดและยังไม่มีแฟนเช่นเธอก็สามารถเดินเที่ยวเทศกาลนี้ได้เช่นกัน
“ตกลงค่ะก็ไม่ได้เสียหายอะไร วินๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเพราะพี่ไม่คิดค่าใช้จ่ายของชุด มิหนำซ้ำยังมีบริการมาพร้อมชุดเครื่องประดับด้วย อีกอย่างอยากเห็นตัวเองในชุดฮั่นฝูเหมือนกันค่ะ ว่าแต่งออกมาแล้วจะเป็นอย่างไง” มี่อิงตอบตกลงกลับไปท่ามกลางความดีใจของอีกฝ่าย
“ว้าย! ดีใจจังเลยขอบคุณมากนะ เชิญเข้าร้านเลยจ๊ะ เชิญเข้าไปเลยจะได้รีบแต่งตัวออกไปเดินชมงานและทันเปิดงานตอนสองทุ่ม งานปิดตีสองน้องสาวเดินได้อย่างเต็มที่ไม่จำกัดเวลา แต่จะต้องเอาชุดมาคืนที่ร้านหลังงานปิดแล้วนะจ๊ะ”
อือ! หญิงสาวส่งเสียงตอบรับในลำคอก่อนจะถูกอีกฝ่าย เดินนำหน้าพาเข้าไปในร้านพร้อมนำป้ายมาแขวนไว้ด้านหน้า
*ขออภัยลูกค้าเต็ม ชุดหมด*
บานประตูชั่วคราวของร้านถูกปิดลงทันที พร้อมร่างระหงเริ่มถูกทางร้านจัดการแปลงโฉมจากสาวสวยในยุคใหม่ให้กลายมาเป็นสี่สาวงามในตำนานซึ่งถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีความงามเป็นเลิศในแผ่นดิน