ตอนที่ 5 ผลตรวจ

1582 คำ
“เครียดใช่ไหม ถึงออกมาดื่ม” “ก็ประมาณนั้น” ปรางค์วลัยยอมรับตามตรง “มีใครรู้หรือยัง เรื่องน้าปริม” “ยังไม่ได้บอกใคร กะว่ารอผลตรวจออกมาก่อน” “อื้ม ถ้าจะไม่บอกใครก็ไม่เป็นไร ยังไงพี่ก็ช่วยดูแลน้าปริมอยู่แล้ว” “อือ” “ถามหน่อยเถอะ พี่ไปทำอะไรให้เรา ทำไมเราไม่พูดกับพี่เหมือนเมื่อก่อน” “ก็เปล่านี่ คงเพราะตูนโตขึ้นแล้วมั้ง” “แค่นั้นเหรอ” “อือ” เมฆาเงียบ เขารู้ว่าน่าจะมีอะไรมากกว่าที่เธอบอก แต่ก็ยอมหยุดถามแต่โดยดี เมื่อถึงเวลา ปรางค์วลัยก็คงจะบอกเขาเอง วันฟังผลตรวจ ปรางค์วลัยลางานและพามารดามาฟังผลที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นเหมือนที่เธอคิด เมื่อผลตรวจชิ้นเนื้อออกมาว่าปริมเป็นมะเร็งปอด และที่แย่กว่านั้นคือมันเป็นระยะสุดท้ายเพราะมันเพิ่งออกอาการ จึงทำให้ตรวจเจอช้าไป หมอเจ้าของไข้แนะนำให้ปริมเข้ารับการรักษาทางเคมี แต่ทางปริมและปรางค์วลัยขอกลับมาปรึกษากันก่อน เมื่อกลับมาถึงบ้าน ปริมที่ทำใจอยู่แล้วจึงไม่ได้คิดมากอะไร ในทางกลับกัน ปรางค์วลัยกลับเป็นฝ่ายที่ทำอะไรไม่ถูกแทน “แม่ว่าจะไม่รักษา” “.....” ปรางค์วลัยมองหน้ามารดานิ่ง “การรักษามันไม่ได้หายขาด มันแค่ทุเลาลง แล้วถ้าร่างกายของแม่ไม่รับยา นั่นหมายความว่าแม่ต้องทรมานกับการรักษาไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแย่แค่ไหน อาจจะต้องนอนติดเตียง เจาะนั่นเจาะนี่ สู้เอาเวลาที่เหลือใช้ชีวิตปกติ ใช้เวลาที่เหลือให้มีความสุขที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ” ปริมบอกบุตรสาวพลางยิ้มน้อยๆ เธอทำใจได้ว่ามันคือโรค และเธอไม่อยากทรมานกับมัน “แม่คิดแบบนั้นจริงเหรอ” “จริงสิ แม่ไม่มีห่วงอะไรแล้ว ถึงจะต้องดิ้นรนรักษาตัวต่อ ตูนมีการงานมั่นคง มีบ้าน มีรถ สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องมีแม่ แม่ห่วงแค่เรื่องเดียวคือตูนยังไม่มีคนดูแล” “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ตูนดูแลตัวเองได้” “แม่รู้ แต่ก็อดห่วงไม่ได้ตามประสาคนเป็นแม่นั่นแหละ แต่แม่ว่าเมฆก็ดูสนใจเราอยู่นะ” ปริมพูดตามที่เธอเห็น สายตาที่เธอเห็นเมฆามองบุตรสาวเธอมันไม่ธรรมดา “คิดมากไปแล้วค่ะ พี่เมฆเขาไม่มาสนใจเด็กกะโปโลแบบตูนหรอก แล้วตูนก็ขยาดกับการชอบใครแล้วค่ะ” ดวงตากลมโตมีแววเจ็บปวดออกมาให้เห็น แต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่ “เอาเถอะ แล้วแต่ตูนนะ แม่ก็บอกตามประสาผู้ใหญ่ที่มองเห็น แต่มันก็เป็นเรื่องของเด็ก แม่จะไม่ก้าวก่าย” “ขอบคุณค่ะ วันนี้แม่อยากกินอะไร เดี๋ยวตูนทำให้” “แม่กินได้หมด หนูทำมาเถอะ เอาที่หนูอยากกิน” “งั้นเดี๋ยวตูนมา” ปรางค์วลัยเดินหายเข้าไปในครัวพักใหญ่ ก็กลับออกมาพร้อมด้วยกับข้าว 3 อย่าง ตามด้วยข้าวเปล่าอีก 2 จาน หลังมื้ออาหาร ปริมออกไปเดินเล่นหน้าบ้านก่อนจะกลับเข้ามานอนพัก ปรางค์วลัยเองก็นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างล่างกับมารดาเหมือนเช่นทุกวัน คืนนั้น หลังจากปริมเข้าห้องนอนไปแล้ว ปรางค์วลัยสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก จึงลงมากินน้ำข้างล่าง ก่อนจะเห็นว่ามีรถของเมฆามาจอดอยู่หน้าบ้านและเครื่องยนต์ยังไม่ดับ จึงเดินออกไปดู “พี่เมฆ” “อ้าว ตูน ยังไม่นอนเหรอ” “สะดุ้งตื่น กลับมานานหรือยัง ทำไมไม่เข้าบ้าน” “ลืมกุญแจบ้านไว้ที่วอร์ดน่ะสิ แล้วพรุ่งนี้เวรดึกแทนหมออีกคน เลยขี้เกียจกลับไป” “แล้วทำไมไม่โทรเรียกล่ะ” “ก็คิดว่าหลับแล้ว” “เข้าบ้านเถอะ” เมฆาดับรถแล้วเดินเข้าบ้านหญิงสาวที่เปิดประตูรั้วเอาไว้ เมื่อเขาเข้ามาก็ปิดล็อกกุญแจ แล้วเข้ามาในบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ปรางค์วลัยเดินลงมาจากชั้นบนพอดี “เปิดแอร์นอนโซฟาไปก่อนนะคะ” “ขอบใจจ้ะ” หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร เธอช่วยเขาปรับโซฟาออกมาเตียงนอน แล้วเธอก็กลับขึ้นชั้นบนไป ด้วยรู้ดีว่าเขารู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เมื่อสมัยเขายังวัยรุ่นเขาเข้าออกบ้านเธอเป็นประจำ และบ้านของเธอไม่เคยจัดและปรับเปลี่ยนอะไรใหม่เลย “อ้าว เมฆ มาอยู่นี่ได้ไงล่ะลูก” “ผมลืมกุญแจไว้ที่วอร์ดครับ แล้ววันนี้เข้าดึก เลยไม่อยากกลับไปเอา” “อ้อ ตามสบายนะลูก” ปริมลงมาแต่เช้าก็เจอเมฆาที่เพิ่งออกมาจากห้องครัวและกำลังวางชามโจ๊กลงบนโต๊ะ ปกติตอนเช้าเธอจะลงมาเตรียมอะไรง่ายๆ ให้ปรางค์วลัยก่อนไปทำงานอยู่แล้ว วันนี้เธอจึงลงมาเหมือนเช่นปกติ ไม่นานปรางค์วลัยก็ลงมาข้างล่าง หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นเมฆา อันที่จริงเธอลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนเขามานอนอยู่ที่บ้านของเธอ “.....เดี๋ยวสายๆ พี่เมฆขึ้นไปนอนบนห้องตูนก็ได้นะ จะได้นอนได้ ถ้าจะอาบน้ำผ้าเช็ดตัวผืนใหม่อยู่ในตู้เสื้อผ้า ตูนยังไม่เคยใช้” หญิงสาวบอกเมื่อเห็นว่าเขายังมีอาการสะลึมสะลืออยู่ “อื้ม ขอบใจจ้ะ” เขายิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ “กินมื้อเช้าหน่อยนะตูน เมฆเขาอุตส่าห์ออกไปซื้อมาให้” “ค่ะ” หญิงสาววางกระเป๋าลงบนโซฟา ก่อนจะนั่งกินโจ๊กที่กำลังอุ่นๆ จนหมด แล้วรีบออกจากบ้านไป ถึงแม้เมฆาอาสาออกไปส่งก็ไม่ยอม “เขาเป็นแบบนี้แหละ ไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากใคร” ปริมบอกเมื่อเห็นเมฆาทำท่าทางไม่เข้าใจ “อ้อ ครับ” “เมฆขึ้นไปนอนพักก็ได้นะลูก” “ครับ งั้นผมขอตัวนะครับ” เมฆารอจนปริมอนุญาตจึงหยิบโทรศัพท์แล้วเดินขึ้นไปยังชั้นบน เดินตรงไปยังห้องที่เขามั่นใจว่าน่าจะเป็นห้องของหญิงสาว เปิดประตูช้าๆ สายตาคมมองสำรวจด้วยความพอใจ ทุกอย่างถูกจัดเข้าที่เข้าทางเป็นระเบียบเรียบร้อย “เรียบร้อยกว่าที่คิด” เสียงนุ่มนวลสมกับอาชีพหมอพึมพำเบาๆ เตียงนอนขนาด 5 ฟุตถูกจัดชิดริมผนัง ทางปลายเท้าถูกจัดวางด้วยตู้หนังสือกับโต๊ะทำงาน อีกฝั่งเป็นห้องน้ำที่ถูกกันพื้นที่เพิ่มเข้ามาในภายหลัง และข้างๆ ก็มีตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ มือไวเท่าความคิด เมื่อก่อนที่จะเดินไปยังเตียงนอนต้องผ่านตู้เสื้อผ้าก่อน มือหนาเปิดตู้เสื้อผ้าอย่างถือวิสาสะก่อนที่จะปิดมันลงตามเดิม ในใจอดชื่นชมความเป็นระเบียบของหญิงสาวไม่น้อย ร่างสูงเดินไปยังหน้าโต๊ะทำงาน เมื่อสายตาดันเหลือบไปเห็นว่ามีช่อดอกไม้ที่ถูกเก็บใส่กล่องวางโชว์เอาไว้ คิ้วหนาขมวดมุ่น เมื่อหยิบขึ้นมาดูแล้วมั่นใจว่ามันคือดอกไม้วันวาเลนไทน์ เมฆาวางมันกลับลงไปที่เดิม สายตาสอดส่ายมองหาอย่างอื่นที่เขามั่นใจว่าต้องมี ก่อนจะเห็นกล่องแบรนด์เครื่องประดับใบหนึ่งวางอยู่ สัญชาตญาณบอกให้เขาเปิดมันเพื่อดูข้างใน และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เขาขุ่นใจไม่น้อย เมื่อมันมีสร้อยข้อมือสวยงามพร้อมกับการ์ดอวยพรวันเกิด “นี่หมายความว่ายัยตัวแสบมีคนมาจีบงั้นเหรอ” เสียงนุ่มนวลแข็งขึ้นเล็กน้อยราวกับไม่พอใจ เมฆาควบคุมอารมณ์ความขุ่นเคืองใจของตัวเองให้สงบลง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปลือยเปล่า คว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ผืนที่เขารู้ดีว่าเป็นผืนที่ปรางค์วลัยใช้ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสียงสายน้ำไหลที่ดังตามออกมาเพราะเขาไม่ได้ปิดประตู ไม่นานชายหนุ่มก็กลับออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัว และทิ้งตัวลงนอนบนเตียงทั้งอย่างนั้น ทางด้านปรางค์วลัย หลังจากออกมาจากบ้านเธอเดินไปเรื่อยๆ ด้วยใจที่สับสน เธอเคยเจ็บปวดจากคำพูดของเขาอย่างแสนสาหัส ในเวลานั้น เธอรู้สึกปลื้มในความใจดีและเป็นกันเองของเขา เขาเป็นคนเดียวที่เธอรู้สึกว่าเธอชื่นชมในความเป็นเขา แต่ก็ไม่เคยหวังอะไรมากกว่านั้น เพราะตอนนั้นหญิงสาวรู้ดีว่าเธอไม่ได้สวยหรือดีเด่นอะไร แต่คำพูดของเขาที่เธอได้ยิน มันทำร้ายเธออย่างแสนสาหัส จนตัวเธอเองไม่ได้คิดว่าจะได้กลับมาอยู่ในจุดที่สามารถพูดคุยติดต่อกันได้อีกครั้ง หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆจนถึงปากทาง เธอไปยืนรอรถที่ป้ายรถประจำทาง รอจนรถมาก็เดินหายขึ้นไปบนรถ ปรางค์วลัยขึ้นรถประจำทางเพื่อไปต่อรถไฟไปยังมหาวิทยาลัยที่เธอกำลังทำงานอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม