ทุกคนดูมีความสุขครื้นเครงในความปวดปร่าของป่านฝัน
“ว่าอย่างไรละป่าน ไม่พาแฟนมาเปิดตัวกับเพื่อนบ้างเลย อยากรู้ว่าแฟนของดาวมหาวิทยาลัยจะหน้าตาเป็นยังไง จะหล่อ เพอร์เฟคขนาดไหน”
เสียงกรี๊ดพอใจของเพื่อนในกลุ่มยังดังสนั่นเหมือนเดิม คงมีเพียงเจ้าตัวเท่านั้น ที่ไม่ได้สนุกไปกับเพื่อนในกลุ่มด้วย
“ฉันว่าเนื้อคู่ของยัยป่านยังไม่เกิดมากกว่าเธอ หรือว่าเกิดแล้วแต่ยังไม่โต ฮ่า... ฮ่า...” อีกเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น เรียกเสียงหัวเราะกันอย่าง
ครึกครื้นอีกครั้ง
พราวลดามองหน้าเพื่อนให้กำลังใจ กลัวว่าเหตุการณ์จะเลยเถิด ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เธอรู้ดีว่าเพื่อนสาวคนนี้เป็นยังไง แล้วยิ่งตอนนี้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเพิ่มขึ้นนั่นยิ่งน่ากลัวไปกันใหญ่ ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรออกมา ป่านฝันก็แตะหลังมือเอาไว้ก่อน
“เดือนหน้าฉันจะแต่งงาน!!!”
จู่ๆ ป่านฝันก็โพล่งคำพูดออกมา เพื่อนทุกคนต่างตกตะลึงตาค้างเพราะคาดไม่ถึง ไม่เว้นคนพูด ที่พูดเองก็ตกใจเองไม่แพ้กัน
“เชิญทุกคนล่วงหน้าด้วย ตอนแรกจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์ แต่พวกเธออยากรู้ขนาดนี้ เลยประกาศไปเลยดีกว่า ขอโทษที่ไม่ได้พามาแนะนำก่อน ไม่ต้องห่วงว่าฉันขึ้นคานนะ ส่วนเจ้าบ่าวก็ไม่ใช่ไก่กาที่ไหนหรอก คนที่ป่านฝันเลือกและจะใช้ชีวิตด้วย รับรองได้ว่าโพรไฟล์ต้องเลิศ ไม่มีที่ติ แม้แต่อย่างเดียว”
พูดจบหญิงสาวก็เดินออกจากงานไปทันที เธอตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบและด้วยฤทธิ์น้ำเมาแท้ๆ
‘พูดออกไปได้ไงวะไอ้ป่าน’ ป่านฝันคิดหลังจากก้าวออกมาพ้นงาน เธอเป่าลมหายใจออกมาพร้อมจังหวะการก้าวขาไม่หยุด เธอจะไม่ทนอยู่ในงานอีกต่อไป
“ป่าน.. ป่าน! เดี๋ยวก่อน รอฉันก่อน” พราวลดาวิ่งพลางตะโกนตามเพื่อน ตอนนี้เธอก็เมาไม่ต่างจากป่านฝันสักเท่าไร
“เธอไม่ต้องตามมาหรอกพราว ฉันไม่เป็นไร จะกลับบ้านแล้ว ฝากขอโทษเพื่อนด้วย บอกว่าพรุ่งนี้ฉันมีประชุมแต่เช้า” ป่านฝันหันกลับมาบอกก่อนที่จะเดินออกไป
พราวลดาได้แต่มองตามเพื่อนที่เดินเซออกไปอย่างเป็นห่วง เธอรู้ว่าถ้าเพื่อนของเธอเป็นแบบนี้คงจะเสียใจไม่น้อย ไม่บ่อยมากนักที่เธอจะเห็นเพื่อนดื่มจนเมามายแบบนี้
ป่านฝันเดินหน้าตึงออกมาถึงหน้าโรงแรม อาการมึนๆ ด้วยน้ำเมาทำให้เธอเสียการทรงตัว ไม่ได้เชิดคอตั้งเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น หญิงสาวเดินเซเล็กน้อย ตอนแรกที่เดินออกมาก็ไม่ได้มีอาการเมามากมายขนาดนี้ ค็อกเทลสีสดใสที่เธอดื่มเข้าไปหลายแก้ว ส่งพิษร้ายไม่ต่างจากยาพิษสักนิด
เวลานี้มันเริ่มประท้วงปั่นป่วนมวนในกาย เหมือนสองกองทัพที่กำลังรบพุ่งกันอย่างดุเดือดอยู่ในช่องท้องของเธอ เหมือนว่ากองกำลังอีกฝ่ายกำลังเพลี่ยงพล้ำถอยร่นออกมาหน้าประตูเมือง และในที่สุดกองกำลังไม่ทราบฝ่ายก็ไม่อาจต้านทานความรู้สึกแบบนั้นต่อไปได้
“โอ๊กกก!!!”
ป่านฝันพุ่งทะยานไปยังกระถางต้นไม้ข้างหน้า มันเป็นเป้าหมายเดียวของเธอ หญิงสาวโก่งคออาเจียนอย่างหนัก ภาพของผู้หญิงหยิ่งผยองกลืนหายไปกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถ้ามีเพื่อนคนไหนมาเห็นเธอในสภาพนี้คงหัวเราะเยาะเธอจนแทบฟันหลุดแน่ และคงเอาไปพูดต่ออย่างสนุกปาก
ดาวมหาวิทยาลัยที่แสนเย่อหยิ่ง อวดดี ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ที่วางตัวดีมาตลอด ตอนนี้กลับมากอดกระถางต้นไม้ข้างลานจอดรถ เมามายไร้สติโก่งคออาเจียนได้น่าสมเพช
ทวิชเดินดื่มน้ำอัดลมฮัมเพลงมาอย่างอารมณ์ดี พลันสายตาคมก็สะดุดกับนางไม้ร่างหนึ่งที่พันร่างกอดรัดอยู่กับกระถางต้นไม้ ช่วงขายาวที่กำลังก้าวเดินชะงักค้าง หันทิศทางขยับก้าวเข้าไปหา
“คุณ... เป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มสะกิดถามมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย ในมืออีกข้างยังถือถุงขนมขบเคี้ยวหลายอย่างจากร้านสะดวกซื้อหน้าโรงแรม
“โอ๊ก! อ้วก!!”
เหมือนว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาถาม เพราะเธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอาเจียนอย่างหนัก ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างใดๆ และเมื่อเขาเรียกอีกครั้ง เธอก็ค่อยๆ หมุนตัวกลับมาหา
เธอเปลี่ยนเป้าหมายจากกระถางต้นไม้มาเป็นที่ขาของเขา หญิงสาวกอดขาของเขา เขย่าและเพ้อรำพันไปอีกเรื่อง ไม่ได้เกี่ยวกับคำถามที่เขาถามมาสักนิด
“คราย! ทำมาย... ทำมาย... คุณช่วยบอกฉันหน่อยสิ ว่าแค่ฉันไม่มีแฟน มันเป็นเรื่องที่ผิดมากเลยหรือยังไง ฉันแค่ขึ้นคาน ไม่ได้ไปทำร้ายใครสัก
หน่อย แต่ ทำ... มาย...”
ป่านฝันถามเสียงอ้อแอ้ ปล่อยมือออกจากขาของเขาและนั่งราบลงบนพื้นถนน คร่ำครวญรำพึงรำพันถึงความโชคไม่ดีของตัวเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ทวิชมองสภาพสาวงามแต่ไม่เข้าท่า เข้าใจว่าคงจะเป็นเพราะฤทธิ์น้ำเมา เธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ ก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงเธอยังปากเก่งอวดดีอยู่เลย
ป่านฝันโก่งคออาเจียนอีกรอบ และตำแหน่งพุ่งตรงก็เฉียดฉิวรองเท้าของเขา ทวิชขยับออกห่างโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นคงเหมาะเหม็ง เมื่อปล่อยของเก่าออกจากสุด เธอก็ไม่ได้สนใจสิ่งสกปรกที่ตัวเองเพิ่งทำออกมา หมุนตัวไปกอดกระถางต้นไม้พร่ำเพ้อร้องไห้อีกครั้ง
ทวิชส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แต่ก็ไม่สามารถทนเห็นสภาพแบบนี้แล้วไม่ช่วยเหลือได้ “คุณ... คุณลุกขึ้นก่อน” เขาขยับตัวเข้าหาและพยุงร่างคนเมาให้ลุกขึ้นยืน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา รับรู้ถึงสัมผัส
ทันทีที่ป่านฝันเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนเธอก็โวยวายขึ้นมาอีกรอบ “ไอ้บ้า! นายจะตามจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหน ชีวิตฉันซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้ก็เพราะนาย!”
“เห็นทีว่าคนที่ซวยคงเป็นผมมากกว่ามั้ง” ทวิชตอบกลับหน้าตาย ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แต่เขาก็ยังเรียกสติหญิงสาวซ้ำอีกรอบ
“คุณ! ลุกขึ้นมาก่อน”
ชายหนุ่มออกแรงพยุง ทว่าหญิงสาวกลับทิ้งตัวหนักไม่ยอมลุกขึ้นตามแรงฉุดดึงของเขา แต่เธอกลับส่งมือไปเขย่าขาของเขาพร้อมยิงคำถามออกไปเป็นชุด
“ฉันดูแย่มากเลยใช่มั้ย คุณว่าฉันสวยหรือเปล่า ตอบฉันมาสิ ตอบมา... ว่าฉันสวยหรือไม่สวย”
ฤทธิ์น้ำเมาที่มีอยู่ในกายทำให้เธอยังเพ้อไม่หยุด ตอนนี้หญิงสาวไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แม้แต่ความสวยที่คนอย่างเธอต้องนึกถึงลำดับแรก
แต่ชายหนุ่มยืนนิ่ง มองคนสวยอย่างระอาปนสมเพช เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาขัดจังหวะพร่ำคร่ำครวญของเธอ ปล่อยให้หญิงสาวพร่ำเพ้อพรรณนาได้ตามความพอใจ นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงเย่อหยิ่งขาวีน คนที่เขาเจอมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า จะมีสภาพดูไม่จืดอย่างนี้
‘มันน่าถ่ายคลิปเอาไว้ให้ดูตอนสร่างเมาจริงจริ๊ง! แม่คุณเอ๊ย!’
“ตอบมาสิคุณ! หรือว่าฉันแย่ จนคุณพูดไม่ออก”
คนเมาจำหน้าชายหนุ่มได้บ้างไม่ได้บ้าง เธอยังจ้องหน้าถามต่อไม่เลิก มือก็จับขาเขาเขย่าไม่หยุด ปากยังพูดพร่ำไปเรื่อย เพื่อคาดคั้นเอาคำตอบที่เธอต้องการ คนที่ยืนนิ่งอยู่นานจำเป็นต้องตอบส่งๆ ไป เพื่อตัดรำคาญ เขาเชื่อว่าคงไม่จบง่ายแน่ ถ้าขืนเขายังไม่ตอบเธอ
“สวย คุณสวยมาก คราวนี้คุณจะลุกขึ้นได้หรือยัง” เขาประชดตอบกลับไป แต่อีกคนตรงหน้ากลับไม่ได้ใส่ใจการประชดประชันของชายหนุ่มสักนิด
หญิงสาวยิ้มร่า รีบดันตัวเองลุกขึ้นยืนโดยที่ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องประคอง แต่ที่มากมายกว่านั้นก็คือสาวเจ้าดันยกแขนโอบรอบคอชายหนุ่ม ลมหายใจผสานกลิ่นแอลกอฮอล์รินรดใบหน้าคม ริมฝีปากอิ่มคลอเคลียไรเคราสาก เผยอปากอิ่มเล็กน้อยจะพูด