Chapter 10 แต่งงานหรือแค่งานแต่ง

1458 คำ
และแล้ววันแห่งการรอคอยของป่านฝันมาถึง กัปตันนวินส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอและหมั้นหมายเธออย่างเป็นทางการ งานหมั้น ที่เธอต้องการแบบเรียบง่ายแค่คนในครอบครัว แขกจะมีก็เพียงเพื่อนสนิทและญาติผู้ใหญ่ของเธอและของนวินเท่านั้น วันที่เฝ้าฝัน... ทว่าความรู้สึกของเจ้าสาวกลับไม่ตื่นเต้นหรือดีใจเกินกว่าชีวิตประจำวันปกติ เจ้าสาวยังนั่งนิ่งทอดมองออกไปนอกหน้าต่างมากว่าชั่วโมง เฝ้าแต่ถามตัวเองในใจว่าเธอควรจะดีใจกับงานแต่งงานในวันนี้มากแค่ไหน เพราะจนกระทั่งถึงวันงาน เธอก็ยังตอบตัวเองถึงความรู้สึกที่มีต่อนวินไม่ได้ ‘เธอยังรักเขาหรือเปล่า’ วันนี้เธออยู่ในชุดไทยบรมพิมานสีงาช้างสวยแปลกตา ชุดเรียบร้อยสง่างามขับผิวนวลผ่องของเธอให้ดูกระจ่างขึ้น ผมสวยถูกเกล้าขึ้นเรียบร้อย ประดับด้วยปิ่นทองเก่าแก่ของมารดา เพิ่มความกระจ่างสง่างามในวงหน้าสวยให้งดงามชวนมอง หลังจากงานหมั้นในตอนเช้าผ่านไปอย่างราบรื่น คุณเดือนประดับมีอาการไม่พอใจมารดาของฝ่ายชายเล็กน้อย เพราะงานแต่งของลูกชายแท้ๆ แต่แม่ของเจ้าบ่าวกลับไม่มาสู่ขอลูกสะใภ้ด้วยตัวเอง ทำเหมือนไม่ให้เกียรติตระกูลนาง แม้ว่าป่านฝันจะไม่ได้เกิดอยู่ในตระกูลผู้ดีเก่าแก่ แต่ทั้งการศึกษาและระดับความเป็นอยู่ในชีวิตก็ไม่ได้น้อยหน้าใครในวงสังคม แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก นางจึงเลือกที่จะเงียบเพื่อที่จะไม่ทำให้ลูกสาวพลอยไม่สบายใจไปด้วย ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมชื่อดัง งานแต่งงานยิ่งใหญ่อีกงานแห่งปี สื่อมวลชนหลายสำนักที่ต่างมาปักหลักรอทำข่าว เจ้าสาวยืนรับแขกอยู่หน้างานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าข้างกายกลับไร้เงาเจ้าบ่าวยืนเคียงคู่เหมือนอย่างที่คู่แต่งงานควรจะเป็น งานถูกตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้อลังการ แต่กลับไร้ภาพพรีเวดดิ้งเหมือนงานแต่งงานทั่วไป จะมีก็เพียงแต่ภาพกิจกรรมของฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวบ้างเท่านั้น มีเพียงไม่กี่คนที่ทราบถึงข้อจำกัดและช่วงเวลาในการเตรียมงาน เจ้าสาวป้ายแดงชะเง้อคอมองหาเจ้าบ่าวเป็นระยะ แต่ก็ยังไร้วี่แววของเขา ป่านฝันเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่ นึกตำหนินวินที่เขาทำให้เธอต้องลุ้นระทึกอยู่ทุกวินาที ยิ่งรอและเวลากระชั้นชิด ป่านฝันก็เริ่มลังเลว่าเธอตัดสินใจถูกหรือผิดกันแน่ที่หาทางออกแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าชุดเจ้าสาวที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษจากดีไซเนอร์ชื่อดังจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สร้างความภูมิใจให้กับเธอ ด้วยอำนาจเงินทำให้นวินสามารถเนรมิตสิ่งที่เป็นความฝันของเจ้าสาวทุกคนได้ แน่นอนว่าประทับใจเธอมาก เพราะสิ่งนี้ทำให้รู้สึกถึงความเอาใจใส่ของเขา แม้จะอยู่ในกรอบเวลาที่กระชั้นชิดก็ตาม เจ้าบ่าวสั่งตรงผ้าดิ้นสีโอลด์โรสที่เป็นสีโปรดของเจ้าสาวมาจากฝรั่งเศส ถึงแม้ว่าทุกขั้นตอนจะกระชั้นชิดจนชุดเจ้าสาวเสร็จก่อนงานเพียงวันเดียว แต่ผลก็ออกเป็นที่หน้าพอใจ แพรผืนเนื้อดีแนบชิดเรือนร่างทรงนาฬิกาทรายของเธอ คอคว้านลึกชิดร่องอกรำไร ด้านหลังเป็นผ้าซีทรูโปร่งลายลูกไม้สีเดียวกัน ยาวจากคอลงมาจดบั้นท้ายอวดแผ่นหลังขาวนวลตา เน้นเอวคอด สะโพกผาย ชายกระโปรงชุดกรุยหลังยาวสองเมตรแผ่ขยายอย่างเด่นสง่า จนแขกของฝ่ายชายต้องแอบกลืนน้ำลายกับแผ่นหลังนวลเนียนขาวละออกันเป็นแถว ทว่าแม้เธอจะยืนเด่นสง่าอยู่กลางซุ้มดอกกุหลาบสีขาว แต่ก็ไม่สามารถปกปิดแววตาวิตกเอาไว้ได้ เพราะนี่คืออีกหนึ่งของความผิดปกติที่หลายคนกำลังจับจ้อง เพราะตั้งแต่เหตุการณ์ช่วงเช้า งานแต่งงานที่หรูหราอลังการ เชิญสื่อมวลชนมามากมาย ทว่าในงานทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นกลับไร้เงาของมารดาเจ้าบ่าว รวมทั้งภาพพรีเวดดิ้งก็สวนทางกับความอลังการของงานที่ถูกจัดขึ้น งานเลี้ยงในตอนเย็นไม่ผิดความคาดหมายของคุณเดือนประดับ นางคิดไว้ก่อนแล้วว่างานในช่วงเย็นคงจะไม่แตกต่างจากงานช่วงเช้า คุณหญิงเจ้ายศเจ้าอย่างคงจะไม่ให้เกียรติเหมือนเดิม ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวมีเพียงน้าสาวของเจ้าบ่าวที่ไปสู่ขอ กระทั่งงานตอนเย็นผู้ใหญ่ฝ่ายเขาก็มีเพียงไม่กี่คน คุณเดือนประดับตั้งใจจะเดินไปคุยกับว่าที่ลูกเขยอยู่หลายครั้ง แต่ก็ต้องระงับความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ เจ้าบ่าวเองก็ดูยุ่งวุ่นวายในการต้อนรับแขกผู้ใหญ่จนไม่มีจังหวะเหมาะที่จะได้ถาม จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาใกล้ถึงช่วงพิธีในตอนเย็น ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต้องการความอลังการในพิธีการตอนเย็น เขาและเธอเชิญสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่จากทางอำเภอ เพื่อจดทะเบียนสมรสท่ามกลางสื่อมวลชนและแขกเหรื่อด้วย ทวัชเดินเข้ามาในงานก่อนเวลา เขามาในนามตัวแทนบริษัท ตัวแทนของบิดามารดาและรั้งตำแหน่งแฟนของเพื่อนรักเจ้าสาวด้วย หลังจากยืนรออยู่หน้างานสักพัก จึงได้ตัดสินใจเดินเข้ามาทักสตรีสูงวัย เพราะพราวลดากำลังวุ่นกับการต้อนรับแขกที่หน้างาน “สวัสดีครับคุณอา ผมยินดีด้วยนะคุณป่าน ผมอดเสียดายไม่ได้ ที่คุณไม่ได้มาเป็นสะใภ้ของกุลบริฉัตรอย่างที่คุณแม่ของผมต้องการ” ชายหนุ่มบอกอย่างที่ใจรู้สึก เขาอดเสียดายความเก่งเพรียบพร้อมของหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ แต่ว่าที่เจ้าสาวกลับหน้าง้ำด้วยความไม่พอใจเพราะเข้าใจไปอีกอย่าง แต่ในฐานะที่เธอเป็นเจ้าสาวก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ “ค่ะ” เจ้าสาวตอบรับเพียงสั้นๆ “ของขวัญครับ” ชายหนุ่มยื่นกล่องของขวัญที่มารดาของเขาฝากไว้ให้หญิงสาว แล้วหันกลับมาหาสตรีสูงวัยที่ยืนอยู่เคียงข้างเธอ “คุณพ่อคุณแม่ฝากผมมากราบขอโทษคุณอาด้วยนะครับ ที่ท่านไม่ได้มาด้วยตัวเอง พอดีท่านทั้งสองติดงานที่ต่างประเทศ แต่ท่านก็ฝากของขวัญมาให้คุณป่าน ฝากบอกอีกว่า...ท่านเสียดายที่ไม่ได้คุณป่านมาเป็นสะใภ้” “ขอบคุณค่ะ ป่านฝากคุณทวัช กราบขอบพระคุณท่านทั้งสองด้วยนะคะ” “ครับ ว่าแต่... ตั้งแต่มาผมยังไม่เจอเจ้าบ่าวเลย อยากรู้ว่าผู้ชายโชคดีคนนั้นเป็นใครกัน ดูเหมือนว่าจะไม่มีภาพพรีเวดดิ้งหน้างานด้วย” ทวัชถามพร้อมมองหาเจ้าบ่าวในบริเวณงาน เพราะเขายังไม่เห็นใครสักคนที่แต่งกายคล้ายกับเป็นเจ้าบ่าวของงาน “เราอยากจัดงานให้แตกต่างค่ะ ส่วนคุณนวิน... เอ่อ... เขาออกไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนน่ะค่ะ ออกไปได้สักพักแล้ว อีกไม่นานก็คงจะกลับมา ยังไงป่านเชิญคุณทวัชข้างในก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวป่านเรียกยัยพราวให้” “อย่าลำบากเลยครับ เดี๋ยวผมไปอยู่กับกลุ่มสาวสวยที่โต๊ะทางโน้นดีกว่า ท่าทางคงสนุกกว่าเดินเข้าไปในงานเป็นไหนๆ อย่าคิดว่าเป็นแขกเลย” ทวัชบอก สายตาคมของเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างบางของพราวลดา ที่กำลังง่วนอยู่กับการแจกของชำร่วยให้แขกที่หน้างานกับรินนี่ ป่านฝันอดแปลกใจกับสิ่งที่ทวัชปฏิบัติไม่ได้ เธอมองออกว่าเขารักพราวลดามาก แต่ทำไมเขาจึงพูดแปลกๆ กับเธออยู่บ่อยครั้ง “อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ตามสบายนะคะ” ทวัชยิ้มให้ป่านฝันเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปยังกลุ่มสาวๆ ในอีกมุมหนึ่งของงาน เจ้าบ่าวกลับมีสีหน้าเคร่งเครียด เขายืนพิงกระถางต้นไม้พร้อมกับโทรศัพท์ที่กำแน่นอยู่ในมือ ความอุ่นจากเจ้าเครื่องขนาดจิ๋วรับรู้ได้ว่าเพิ่งวางสายไปไม่นาน ทว่าเหงื่อที่มือกลับซึมออกมาจนเปียกชื้นไปทั้งฝ่ามือของเขา คิ้วหนาของนวินขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด ไม่รู้จะแก้ปัญหาที่คิดไม่ตกในตอนนี้อย่างไรดี เขายืนมองเจ้าสาวที่ต้อนรับแขกอยู่หน้างานอย่างลังเลและรู้สึกผิด แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจสาวท้าวก้าวยาวขึ้นไปที่ห้องแต่งตัว ชายหนุ่มถอดชุดวางไว้ที่ปลายเตียง หยิบกระดาษมาจดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะวางมันบนชุดที่เขาถอดออก และเดินจากไปเงียบๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม