เขาประคองท้ายทอยเธอไว้แล้วดันลงมาประทับบดเบียดเบาๆอย่างอ่อนโยนไล้ลิ้นนวดเฟ้นแผ่วเบาให้เธอรู้สึกเหมือนลอยบนปุยเมฆ ก่อนจะแทรกเนื้อนุ่มร้อนเข้าไปในโพรงปากแสนหวานผิดจากที่คิดไว้ถนัดใจ มันเร้าความรู้สึกเขาจนปุญญ์ตื่นตัวอย่างที่สุด หาได้จืดชืดเหมือนที่คิดเอาไว้เสียที่ไหน ปุญญ์ดูดดึงเร้าเอาอย่างหลงใหลในรสสัมผัส ทั้งมือไม้อีกข้างยังไม่ยอมอยู่นิ่ง ออกแรงนวดเฟ้นแถวสะโพกเต็มตึงแล้วเคลื่อนลงไปแถวบั้นท้ายของเธอ จนพิชชาอรใจสั่นวูบวาบ เธอตัดสินใจยกมือขึ้นดันอกเขาเอาไว้ บอกเสียงสั่นๆ
“พอแล้วค่ะ”
หลบตาเขา มองนิ่งได้แค่ที่ริมฝีปากแดงของปุญญ์เท่านั้น ใบหน้าแดงซ่านเมื่อรู้สึกถึงแท่นแข็งขึงของเขาตรงหน้าท้องของเธอ
เสียงลมหายใจของเขากระเส่าหนักหน่วงทีเดียว ก่อนจะตอบรับออกมาเบาๆ “ครับ”
เธอดันตัวออกจากเขาได้ในที่สุด ปุญญ์ไม่ได้บีบบังคับทั้งที่อยากแทบขาดใจ เธอผ่อนลมหายใจตนเองเบาๆลุกนั่งหันหลังให้เขา
“โกรธผมหรือเปล่า”
ได้ยินเสียงเขาถามตามมา พิชชาอรเอี้ยวตัวไปมองก่อนจะส่ายหน้าแล้วยิ้มบางๆตอบให้“ไม่ค่ะ จะโกรธเรื่องอะไรคะ”
ปุญญ์ไม่พูดว่าอะไรอีก เขายกมือขึ้นลูบหน้าแล้วลุกออกจากเก้าอี้ตัวนั้นกระโดดตูมลงในสระน้ำ ออกว่ายไปแตะขอบสระอีกด้านแล้วจึงวนกลับมาที่เดิม พิชชาอรเม้มปากแน่นมองเขาครู่เดียวเธอค่อยกลับมาคว้ารูปของตนเองที่ตกอยู่ที่พื้น พอตามเก็บจนครบ หงายดูทีละใบได้ไม่ทันครบถ้วนดี ก็ถูกดึงจากทางด้านหลังให้หันไปหา
ปุญญ์ที่เปียกไปหมดทั้งตัวดึงเธอเข้ามาแนบชิด เขาประคองใบหน้าของเธอเอาไว้แล้วประกบจูบลงอย่างร้อนแรงจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
ไม่นานจากนั้นฝ่ามือของเขาก็จัดการกับชุดเดรสตัวสวยที่เขาซื้อให้จนมันหลุดออกจากเรือนร่างของเธอได้อย่างง่ายดาย หลงเหลือไว้ให้เพียงผ้าสองชิ้นน้อยๆที่ช่วยปกปิดความเป็นสตรีเพศอยู่ ปุญญ์ตวัดแขนอุ้มเธอขึ้นแล้วตรงดิ่งไปยังด้านในห้องที่มีเตียงนอนขนาดใหญ่อยู่ภายในนั้น วางเธอลงอย่างนุ่มนวลทะนุถนอมก่อนจะตามติดลงมา
ปากของเธอถูกปิดลงอีกครั้ง เขาดูดลิ้มควานหาความหวานจนพอใจแล้วถึงเลื่อนใบหน้าลงไปตามลำคอระหง ลากไล้ลิ้นอุ่นตามพร้อมซุกไซ้ใบหน้าหล่อเหลาที่อกอวบอิ่มขนาดพอเหมาะของเธอ
ปุญญ์อ้าปากครอบลงตรงตำแหน่งที่ทำให้เธอสะดุ้งไหวเพราะอารมณ์ปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าอย่างช่ำชอง เขามอบความอุ่นชื้นเร้าให้ต้องแอ่นตัวตอบสนองรองรับบทรักที่กำลังเริ่มขึ้น เขาเดินหน้าส่งปลายลิ้นแตะแต้มส่วนที่หดรัดตัวอย่างถี่กระชั้นจนพิชชาอรหลุดเสียงครางออกมาให้ได้ยิน
“อ๊ะห์....”
ร่างของเธอแอ่นโค้งเข้าหาเขา บอกความต้องการผ่านท่วงท่าและเสียงครวญแผ่วราวเร่งเร้าให้เขาเดินหน้าต่อ ใบหน้าของปุญญ์แดงกล่ำด้วยสีของโลหิตที่สูบฉีด มันบ่งบอกความต้องการที่อัดแน่นอยู่ภายใน ไม่ต่างกันเลยกับเธอที่ผิวกายแดงจัดและออกร้อนไปทั่วเช่นกัน
หญิงสาวบิดกายด้วยความเสียวซ่านอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงมือเขาที่เคลื่อนลงแตะแต้มยังหน้าท้องแล้วแตะต่ำลงเรื่อย เพียงแผ่วในคราวแรกก่อนลงนำหนักบดขยี้ที่ใจกลางแกนกายของเธอ
“ฮื้อ”
เธอแว่วเสียงตนเองครางคล้ายคนเจ็บปวด เด่นชัดจนใจสั่น ร่างกายตอบสนองด้วยการหุบขาปิดทางรุกเร้าของเขา เนื้อตัวนี้เหมือนไม่ใช่ของเธออีกต่อไป เหตุใดเขาถึงรู้ว่าตรงไหนของเรือนกายสาวที่ทำให้ปั่นป่วนรัญจวนถึงปานนี้
ปุญญ์บดคลึงนิ้วจนสัมผัสได้ถึงความชื้นผ่านผ้าเนื้อบางจากเธอ เขาเกี่ยวขอบดึงรูดมันออกอย่างนุ่มนวลแผ่วเบาทว่าวาบหวามจนหญิงสาวขนลุกเกรียว สมองของเธอด้านชาไร้ซึ่งความนึกคิดและสัมปะชัญญะได้แต่นอนระทดระทวยปลดปล่อยความต้องการที่เขานำทางไป
และแล้วปุญญ์ก็ทำให้เธอต้องครางเสียงสั่นอีก เมื่อเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลานั่นก้มลงไปยังเบื้องล่างกว่าที่หน้าท้องแบนราบ จมูกเป็นสันคมของปุญญ์ดอมดมตรงเนินเนื้อที่ปกคลุมด้วยขนอ่อนนุ่มราวแพรไหม มือแหวกเนื้อนุ่มออกอย่างนิ่มนวลอ่อนโยน ไม่กี่อึดใจเขาส่งลิ้นทักทายทันทีตรงตุ่มไตใจกลางความเป็นหญิงของเธอ
“ยะ...อย่าค่ะ”
เธอใช้เรี่ยวแรงที่มีติดตัวเพียงน้อยนิดเอื้อมมือลงไปตรงจุดนั้น แต่กลับพบกลุ่มผมนุ่มสลวยของเขาที่ขวางทางอยู่ พิชชาอรเกร็งขาหนีบปิดหนทางไม่ให้เขาเร้ามากไปกว่านี้ แต่ก็จนซึ่งเรี่ยวแรง กระแสเสียดเสียวแล่นแปลบปลาบที่ฝ่าเท้าสองข้างก่อนจะวิ่งตรงมายังบริเวณที่รับสัมผัสของเขา
ปุญญ์ตวัดปลายลิ้นอย่างชำนาญ มือของเขาตรึงขาของเธอไม่ให้หลบหลีก ระรัวเร่งส่งจนพิชชาอรแตกพ่ายในที่สุด เธอครางกระเส่าดิ้นพล่านสองมือบางพยายามไขว่คว้าหาคนที่กระทำการทรมานเรือนกาย
“คุณปุญญ์...เพาะ พอเถอะค่ะ”
เธอครางเรียกชื่อเขาสอดมือเปะปะแทรกนิ้วไล้ผมดกดำสนิท ทั้งยังเอื้อมไปดึงต้นแขนกำยำให้หยุดทรมานเสียที ปุญญ์เองก็ทรมานไม่ต่างกันกับหญิงสาว แต่เขายังหยุดไม่ได้ นอกจากเรียวลิ้นที่แตะกระตุ้น มือหนาอุ่นยังสะกิดเย้าอย่างเร้าอารมณ์ จนพิชชาอรหวีดเสียงเกร็งตัวกระตุกปลดปล่อยความชุ่มชื้นท่วมท้นทะลักทลาย
ปุญญ์ยังคงรุกต่อเมื่อเห็นว่าเธอแตะขอบอารมณ์หวามแล้ว เขาสัมผัสบดเขี่ยตรงพื้นที่ผืนน้อยของเธออีกครั้งด้วยมืออันร้อนผ่าวและช่ำชอง คลึงเค้นแทรกลึกเข้าไปแทนที่ลิ้นร้อนร้ายกาจนั่นถึงเอ่ยปากพูดบางอย่าง เธอได้ยินเสียงของเขาสั่นพล่าไปเช่นกัน
“อีกรอบนะกี๋ คุณไหวผมรู้”
ทั้งยังเดินหน้าต่อด้วยการปลุกเร้ายังตำแหน่งเดิม เขาต้องการให้เธอทรมานด้วยรสสวาสจนตายเลยอีกหรือไร ความชื้นอุ่นมีมากล้นพรั่งพร้อมเพื่อการสอดประสาน แต่ปุญญ์ยังไม่หยุดมือเขาค่อยๆแทรกนิ้วยาวเข้าไปทีละนิดๆ สัมผัสได้ถึงความคับแน่นของช่องทางแสนอ่อนนุ่มของเธอ พิชชาอรเกร็งร่างส่ายหนีแต่ไไปไหนไม่พ้น ได้แค่ครางราวเจ็บปวด แต่หาใช่ความรู้สึกนั้นไม่ เธอซ่านสยิวจนเกินทนกับความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้
“มะ ไม่ค่ะ กี๋ไม่ไหว”
เขายังคงขยับรุกรานด้วยนิ้วที่แสนอุ่นจนสุดทางก่อนจะแน่นิ่ง แล้วขยับเข้าออกเนิบช้า เธอตอบรับเขาด้วยการส่ายสะโพกบิดไปมาอย่างทุรนทุรายทั้งยังครวญครางไร้สำเนียงจับคำไม่ได้
“อื้อม์... ช่วยกี๋ด้วย กี๋ไม่ไหว”
นิ้วร้อนเร่งจังหวะเข้าออกเร็วขึ้น ถี่ขึ้นจนในที่สุดร่างบอบบางก็จนซึ่งการปลุกเร้า หวีดร้องอย่างทรมานพร้อมเกร็งกระตุกทั้งตัวซ้ำๆอีกครั้งปลดปล่อยความฉ่ำหวานจนหมดสิ้น หัวใจเต้นราวกับจะระเบิด คล้ายออกวิ่งมาเป็นระยะทางไกลแสนไกล เหงื่อซึมออกตามไรผมรอบกรอบหน้าแสนหวานเย้ายวน ก่อนจะไหลหายเข้าไปในกลุ่มผมด้านหลังเคลียลงลำคอสร้างความหวิวอีกระลอก หญิงสาวนอนหายใจหอบเหนื่อยสายตาปิดลงอย่างช้าๆ ใจหายไปกับความวาบหวิวที่เกิดขึ้นติดๆกันสองครั้งโดยมีเขาเป็นผู้กระทำ
“กี๋ครับ เชื่อใจผมไหม”
เสียงทุ้มละมุนเรียกชื่อเล่นของเธอเป็นครั้งแรก ปุญญ์ไม่รู้ตัวว่าชื่อนี้ซึมเข้าก้นบึ้งหัวใจตอนไหน เขาครางเรียกเธออีกครั้งแล้วก้มลงประกบปากจุมพิตเรียกร้อง แน่นอนว่ามันเร่าร้อนปลุกเร้าให้ตื่นตัวจนปั่นป่วนไปหมดทั้งร่างกาย
เขาจูบไล่ตั้งแต่ปากลงไปที่ปลายคาง แตะลิ้นหาใบหูแล้วไต่ริมฝีปากไล่เรื่อยลงมาตามลำคอ ก่อนแวะทักทายยอดทรวงงามอีกครั้ง ทำสลับสองข้างไปมาหนักบ้างสลับแผ่วเบา แล้วถึงแต้มสัมผัสไปตามหน้าท้องแบนราบ สุดท้ายเขาวกลงไปหาส่วนที่อ่อนนุ่มไวต่อการปลุกเร้านั้นอีกครั้ง
เธอหยัดกายแอ่นขึ้นหาทั้งที่เพิ่งสุขสมไปแล้วสองครั้งติดๆ อกใจสั่นไหวไม่เป็นท่าเมื่อโดนสัมผัสด้วยปลายลิ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สายตาของปุญญ์มองสำรวจความพร้อมของคนใต้ร่างอยู่ตลอดเมื่อเห็นถึงสัญญาณอันพร้อมเพรียงถึงขีดสุด เขาเปิดทางด้วยการแยกขาเรียวงามออกอย่างนุ่มนวลแต่ตรึงไว้มั่นคงเสียเหลือเกิน แล้วเลื่อนตัวขึ้นให้ส่วนที่ตื่นตัวจนแข็งขึงอุ่นจัดสัมผัสเข้าด้วยกัน เริ่มจากถูไถด้วยปลายทางของการประสานค่อยๆแทรกเข้าช้าๆแล้วดึงออกเบาๆ
“ซี้ด กี๋ครับ”
เสียงเขาเอาแต่เรียกชื่อของเธอทั้งเว้าวอน ดวงตายังมองจ้องราวกับจับเธอกลืนลงท้องไปแล้วทั้งตัว พอรับรู้ถึงการรุกรานที่แปลกใหม่เธอถดกายหนีโดยอัตโนมัติ แต่ไปไหนไม่ได้เพราะถูกเขาตรึงสะโพกไว้มั่นให้อยู่ภายใต้ร่างกำยำของเขา
“ผม...ไม่ใช้คอนดอมนะ”
ปุญญ์อ้อนจะเอาแต่ใจเพราะรู้ได้จากสัญชาตญาณนักล่าว่าเหยื่อยังสะอาดและบริสุทธิ์ผุดผ่องมากพอที่จะโจนเข้าหาแบบเนื้อแนบเนื้อได้จนกว่าจะพอใจ หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธเขา แต่ปุญญ์กลับก้มหน้าลงปิดปากเธออีกครั้ง พร้อมดันสะโพกเข้าหาอย่างไม่ยอมให้หลีกหนีได้อีก เธอส่ายหนีแต่กลับถูกเขาจุ่มแช่กายแกร่งค้างเอาไว้มั่น
“ใจเย็นๆก่อน”
เสียงเขาพร่าไหวบอกข้างขมับ ที่ไม่รู้ว่าบอกใครให้ใจเย็นๆ ปุญญ์บดกรามกรอดอย่างต้องการระงับความตื่นตัวที่พุ่งพล่านเพราะความอ่อนนุ่มที่รัดล้อมเอาไว้เสียแน่นนั่น
เมื่อเห็นว่าร่างกายงดงามเริ่มแข็งขืน จึงหยุดทุกการกระทำ ก้มลงหายอดปทุม นิ้วแกร่งเคลื่อนลงไปไล้ตรงจุดประสานให้ปลดปล่อยหยาดหยดแห่งความสุขสมออกมาอีก แล้วถึงเดินหน้าต่อด้วยความเร่าร้อนแต่แสนนุ่มนวล
“เจ็บไหมกี๋”
เขาถามด้วยความห่วงใยเมื่อเข้าไปจนสุดทางเขาหยุดนิ่งไว้แค่นั้น คนใต้ร่างนอนน้ำตาคลอด้วยความหน่วงแต่ปนไปกับความสุขล้ำ ทั้งอารมณ์แปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้นี่อีกมันคืออะไรกันเหตุใดถึงทำให้เธอทั้งอยากผลักไสและกอดรัดเขาไปพร้อมๆกันเช่นนี้
ตาสวยลอยคว้างก่อนจะกลับมาไหวระริกอีกเมื่อสะโพกแกร่งขยับกระตุ้นความปรารถนา พิชชาอรขยับรับเขาอย่างลืมตัวก่อนที่ปุญญ์จะบดคลึงกระแทกกระทั้นเข้าใส่อย่างมีจังหวะจะโคนทั้งยังรุกเร้าด้วยมือไปด้วย
“อ๊า...คุ คุณปุญญ์ขา”
สะโพกทั้งสองยังคงดันดึงเข้าหากัน ปุญญ์ก้มลงจูบปลอบพร้อมบอกเสียงสั่น
“พร้อมกันนะกี๋ ”
ปุญญ์ส่งจังหวะเข้าหาเร็วขึ้นๆก่อนจะปลดปล่อย แตกพ่าย กระตุกเกร็งพร้อมเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมไปพร้อมกัน ปุญญ์ยังคงขยับกายเบาๆเข้าออกในกายเธอ เขาคว่ำทับตัวเธอไว้อยู่อย่างนั้นไม่ยอมผละออกเสียที พิชชาอรหอบหายใจรัวจนปรับให้กลับมาได้เกือบเท่าจังหวะเดิม ถึงยกมือแตะหน้าท้องตึงแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทั้งยังชื้นเหงื่อของเขาเอาไว้คล้ายจะบอกให้เขาพอ เธอหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนบอกเสียงสั่นๆ
“พะ พอแล้วค่ะ กี๋ไม่ไหว”
เขาก้มลงจูบบนพวงแก้มของเธอแรงๆยังคงสุขสมกับรสสวาทที่ได้รับ ขยับอีกครู่พิชชาอรก็ลืมตาโตเมื่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่ยังคงขยับเข้าออกไม่ยอมหยุด ปุญญ์ยิ้มมุมปาก แววตาเต้นระริกราวกับไม่เหนื่อยอ่อนเลยสักนิด
“กี๋นอนเฉยๆ ที่เหลือผมทำเอง”
เธอได้ยินเสียงเขากระซิบแหบพร่าบอกข้างหู แล้วก็จริงอย่างว่า เธอทำเพียงนอนนิ่งให้เขาขยับพลิกซ้ายขวาคว่ำหงายแต่อย่างนั้นใครว่าไม่เหนื่อยกัน เธอครางจนเสียงแหบพร่าเมื่อถูกเขารุกรานเร้าเอาครั้งแล้วครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วนทั่ว ปุญญ์ถึงยอมผละออกแต่โดยดี
ร่างแกร่งค่อยๆพลิกตัวนอนหงายก่อนจะสอดแขนเข้าไปรัดเธอมากอดซบ ความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของพุ่งกระแทกหัวใจของปุญญ์อย่างจัง
‘เธอเป็นของเขา’
เหตุใดคนไม่เคยอยากเป็นเจ้าของใครจึงคิดอยากเป็นเจ้าของเธอ เขาแปลกใจยิ่งนักแล้วลูบไล้มือของตนเองไปตามส่วนโค้งส่วนเว้าของพิชชาอรที่เนียนนุ่มละมุนทั้งยังหอมหวานจนความต้องการที่เพิ่งดับลงไปพลุ่งพล่านขึ้นมาอีก เขาพลิกตัวแตะจุมพิตทั่วใบหน้าของเธอแล้วหักห้ามใจให้หลับตามร่างนิ่มในอ้อมกอดไปเสีย ไม่อยากเอาเปรียบเธอตอนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เพราะหากเขาต้องการ เธอก็ควรต้องรู้สึกต้องการเฉกเช่นเดียวกัน
พิชชาอรตื่นแล้ว เธอลอบมองปุญญ์ที่นอนคว่ำหน้าอยู่ด้วยสายตาหลงใหล เขาหล่อเหลาทั้งยังช่างเอาอกเอาใจจนเธอแทบละลายอยู่ในกำมือที่เพียงแค่บีบก็คงตายอยู่ในนั้นด้วยความสมยอม สายตาหวานซึ้งสะดุดเข้าที่รอยสักตรงด้านหลังหัวไหล่ของปุญญ์ เธอเอื้อมมือไปลูบมันเบาๆก็สะดุดเข้ากับแผลไม่เล็กนัก
นี่ไงที่เขาบอก เธอยิ้มมองเขาอย่างอ่อนโยนลุกออกไปยังห้องพักของตนเองด้วยเสื้อผ้าของเขาที่ไม่รู้เลยว่ามาอยู่บนเรือนร่างของตนเองเมื่อใด
คิดแล้วก็อดหน้าแดงจนร้อนจัดไม่ได้
พิชชาอรรู้สึกอิ่มเอมในใจ ตัวเบาๆลอยๆเหมือนเคลื่อนที่ไปโดยที่เท้าไม่แตะพื้น คิดไปเองหรือไรว่าทุกสิ่งรอบกายช่างสวยงามแลดูมีความสุขจนล้นขนาดนี้ เธอเลือกเสื้อผ้าอยู่นาน ทาบแล้ววางจนครบทุกชุดที่นำมา ก่อนจะตัดใจเลือกตัวที่มั่นใจที่สุด สวมเสร็จตรงไปยังห้องปุญญ์อีกครั้ง คิดไปยิ้มไปเพียงลำพัง
เขาจะตื่นแล้วหรือยัง
และเช้านี้เธอจะทำอะไรให้เขากินดี
คิดแบบนั้นแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้ เธอกับเขากระโดดข้ามขั้นความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้ว พิชชาอรยิ้มแล้วแตะมือลงที่ประตู ผลักเบาๆเพราะเกรงว่าหากเขาไม่ตื่นจะเป็นการรบกวนเขาเสียเปล่าๆ
“ถามอะไรแบบนั้น”
“เออน่า คลิปมีสิเด็ดด้วย อยากดูไหม”
“ผู้หญิงแบบนั้นใครจะจริงจังด้วยวะ ครั้งเดียวก็เกินพอ เดี๋ยวเซ็นเช็คให้แล้วก็แยกย้ายกันไปไง ตามสเต็ป”
พิชชาอรยืนตัวแข็งทื่อกับบทสนทนาฝั่งเดียวจากปากของปุญญ์ แล้วค่อยๆก้าวออกจากตรงนั้น เธอตรงกลับเข้าห้องพักโดยไวแล้วรีบคว้าข้าวของใส่กระเป๋าอย่างลวกๆตรงไปยังท่าเรือข้ามฟากทันที โชคดีเป็นของเธอที่มีเรือกำลังจะกลับเข้าฝั่งพอดี
ลงเรือมาแล้วก็ได้แต่พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
พลาดไปแล้วกับความสัมพันธ์เมื่อคืนนี้ แต่เธอจะไม่เอาความผิดพลาดเหล่านั้นมาเป็นบ่อนทำลายตัวและหัวใจของตัวเอง มีผู้หญิงอีกมากมายที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ และเธอต้องผ่านมันไปให้ได้
หญิงสาวกลับถึงที่พักในเวลาต่อมา เธอวางข้าวของลงบนพื้นโดยไม่สนใจจะเก็บมันโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วล้มตัวลงนอนหลับตาลงไปทันที ค่ำคืนที่ผ่านมามันแสนหวานและวาบหวามจนนึกว่าฝันไปเพียงเท่านั้น เขาทำให้เธอลืมความถูกผิดดีงามทั้งหมดทั้งมวลที่เคยมีในสติสัมปชัญญะของเธอ เขาจัดการโยนมันทิ้ง และทำให้เธอพร้อมที่จะกระโจนลงไปในหลุมของราคะและอารมณ์ปรารถนาที่ก่อขึ้นมาล่อลวง เพื่อทำร้ายเธอทั้งตัวและหัวใจ
พิชชาอรหลับตาลงด้วยความรู้สึกย่ำแย่ ภาพความจริงซ้อนกับความฝันมั่วซั่วปนกันไปหมด แม้จะนอนไปนานหลายชั่วโมงแต่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับไม่สดชื่นเลยสักนิด เธอเหนื่อยอ่อนและเพลียจนอยากปิดตาหลับลงไปอีกครั้ง
แต่ต้องจำใจฝืนลุกออกจากที่นอนเพราะรู้สึกตัวว่าจะมีไข้ เธอต้องรักตัวเอง เรื่องเลวร้ายพวกนั้นผ่านมาอีกไม่นานมันจะผ่านเลยไป เธอจะค่อยๆลืมมันในที่สุด พอลุกขึ้นนั่งได้ก็เห็นข้าวของกองอยู่บนพื้นห้อง จึงคว้าเอากระเป๋ามาเปิดดูโทรศัพท์ หยิบมันขึ้นมาใจนึกหวังว่าจะมีสายเรียกเข้าจาก…
ช่างมัน เธอเลิกสนใจโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าแบตหมด และเธอควรจะเลิกคิดได้แล้ว ลืมไปหรืออย่างไรว่าถูกเขาหลอก