ตอนที่ 5 ห้องหอรัญจวน

3754 คำ
ตอนที่ 5 ห้องหอรัญจวน                 คืนเข้าหอผ่านไปตีสองแล้ว ดนัยกับที่รักยังคงนั่งอิงแอบกันอยู่ที่เดิม ที่รักนั้นเมาตัวอ่อนเอนหลังอยู่กับอกดนัยแล้ว แต่ก็ยังคงพูดคุยกันรู้เรื่อง ดนัยไม่ได้ดื่มจนเมามาย เขายังมีภารกิจที่ยังต้องปฏิบัติอีก ที่รักยืดสองขาเหยียดตรง แขนหนึ่งกอดแขนดนัยไว้             “แต่งกันแล้ว ต่อไปจะกินดื่มฟรีใช่ไหม ที่ผับน่ะ”             “อือ”             “ไม่ขี้งกนะ?”             “มันจะมากมายอะไรกัน ผมเลี้ยงสาวๆ คืนหนึ่งมากกว่าคุณกินทั้งปีเสียอีก”             “งั้นเอามาเพิ่มอีกขวดได้ไหม ฉันเห็นที่บาร์เครื่องดื่มข้างล่างนั่น เหล้าดีๆ หลายปีทั้งนั้น”             “เมามากแล้ว ค่อยดื่มเถอะ คุณนี่ขี้เมาจังนะ”             “ไม่ได้ดื่มทุกวันสักหน่อย เดือนละครั้งสองครั้งเอง” ที่รักแก้ตัวเสียงอ้อแอ้หน่อยๆ             “ก็ดี” ดนัยว่าและก้มลงจูบแก้มที่รัก เพราะเมา ที่รักเลยไม่ได้โวยวาย ยังหัวเราะชอบใจเพราะจั๊กกะจี้             “ถอดชุดให้หน่อย พุงจะแตกแล้ว” ที่รักขยับตัวนั่งตรง แต่ก็ยังเอนซ้ายทีขวาที             ดนัยยิ้มและใช้สองมือปลดตะขอชุดเจ้าสาวแสนสวยให้ทีละตัว ตะขอยาวลงไปถึงสะโพก ที่รักก็พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ดนัยปลดตะขอจนหมดและไล้มือใหญ่ไปตามแผ่นหลังนวลเนียนไร้ชั้นใน เขาแปลกใจ กลัวใจเจ้าทอมเสียจริง ไม่ได้ใส่บราหรอกหรือ             “ปลดตะขอหมดแล้ว” ดนัยก้มลงมากระซิบที่ข้างหูและดึงชุดให้ต่ำลง ที่รักเอนแผ่นหลังกับอกเขาอีก เลยได้เห็นว่าที่รักมีแผ่นปิดหน้าอก คล้ายๆ ปีกนก ปีกนางฟ้าอะไรเถือกนั้น             “คิดว่าไม่ใส่บรา”             “นี่ เขาเรียกบราปีกนก แม่บังคับให้ใส่หรอก ไม่อย่างนั้นคงไม่ใส่แล้ว”             “ก็เห็นบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าเขาเรียกอะไร ส่วนมากก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไร”             “สนใจนมตูมๆ มากกว่าว่างั้น”             “ก็ทำนองนั้น แต่ของคุณก็ไม่หยอกนะ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก กำลังดี” พร้อมทั้งพูดดนัยเลื่อนมือทั้งสองมากุมหน้าอกที่รักไว้และคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ถามหน่อยเถอะ”             “อะไร?”             “ใส่ผ้ารัดอกแล้วทำไมต้องใส่บราด้วย”             “ชิ ก็มีพวกมือบอนอย่างคุณนั่นแหละ ป้องกันไว้หลายชั้นดีกว่า”             “อ้อ เข้าใจแล้ว” ดนัยพยักหน้าเป็นอันรู้เหตุผล             “ชุดยังติดพุง ถอดให้เสร็จเซ่”             ดนัยหัวเราะและดึงชุดแต่งงานออกไปอย่างง่ายดาย ตอนนั้นแสงจากเทียนหอมเริ่มจะดับไปทีละดวงแล้ว แล้วก็ต้องถอนใจเมื่อเห็นกางเกงขาสั้นสีดำ             “ข้างล่างไม่ผ่าน” ดนัยจับขอบยางดึงขึ้นและปล่อย เสียงดังเปรี๊ยะ!             “ยุ่ง!” ที่รักศอกหลังกระทุ้งอกดนัยเต็มแรงแต่เขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรนัก             ดนัยรัดที่รักไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าเขาเริ่มคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของที่รัก “ช่วยถอดให้ผมบ้างสิ”             “ถอดเอง” ที่รักพูดแค่นั้นและยันกายลุกขึ้น แต่ดนัยดึงกลับลงมา คราวนี้นั่งแหมะลงกับตักเขา ขยับยุกยิกจนดนัยต้องครางเสียงแผ่วต่ำออกมา             “ท่อมไม้ฟืนนี่แข็งเป็นบ้า” ที่รักยกสะโพกและใช้ฝ่ามือขยี้แรงๆ             “หยุดนะ!” ดนัยต้องรวบมือที่รักไว้ ตัวสั่นเทา             “ไอ้ยักษ์หื่น” ที่รักลอยหน้าลอยตาล้อเลียนดนัยและนึกสนุกขึ้นมา             ดนัยเลยแก้เผ็ดด้วยการกระชากบราปีกนกออก ที่รักโวยลั่น และหันกลับมากระชากเสื้อดนัยจนกระดุมหลุดกระเด็นไปคนละทิศทาง ดนัยเลยบังคับถอดกางเกงขาสั้นที่รักจนสำเร็จ ที่รักก็ไม่ยอมเช่นกันเลยจัดการดนัยจนมีสภาพเดียวกัน จากนั้นก็ตะลึงมองเจ้าท่อนไม่ฟืนโด่เด่อยู่ข้างหน้าชั่วอึดใจใหญ่             “มันคงไม่หลับ หากว่าไม่ได้ทำหน้าที่ของมันก่อน”             “ก็เข้าห้องน้ำไปสิ แม่นางทั้งห้า ขยับเข้า” ที่รักผลักอกดนัย แต่เขาดึงแขนเธอไว้ จนเขาล้มลงไปนอน ที่รักคร่อมเขาอยู่ด้านบน           “ทำให้หน่อย” ดนัยอ้อนวอน             “ไม่ใช่เรื่อง”             “นิดเดียวเอง ไว้ผมจะทำให้คุณบ้าง” เสียงดนัยแหบพร่า ขณะที่ยกสองมือขึ้นมากุมหน้าอกของที่รักไว้ เธอก้มลงมองแล้วก็ตบหน้าเขาไปทีหนึ่ง ดนัยยังไม่ยอมปล่อย ที่รักเลยเปลี่ยนเป็นต่อยไปข้างแก้มเขา             ดนัยเจ็บเข้าก็เลยรวบมือนั้นไว้และพลิกตัวอย่างรวดเร็วทำให้ที่รักอยู่ใต้ร่างเขา ที่รักยกขาขึ้น และเขารออยู่แล้ว เลยทำได้ไม่สำเร็จ การเล่นกันเล็กๆ น้อยๆ เรียกเหงื่อได้อย่างดี ทั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศเสียเย็นฉ่ำ             “ร้อนจะบ้าตาย ออกไปเลย” ที่รักลุกขึ้นและนั่งหันหลังให้           ดนัยลุกขึ้นตามมากอดไว้จากด้านหลัง “อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวก็เย็น”  เขาได้ยินที่รักถอนใจและคว้าขวดที่มีเหลืออยู่แค่สองสามอึกขึ้นมาเทใส่ปากจนหมด และเอื้อมมืออีกข้างหนึ่งมาทางด้านหลัง จับท่อมไม้ฟืนของเขาไว้มั่น             “ช่วยก็ได้” ที่รักขยับมือหนักๆ ดนัยครางประท้วง และกุมมือที่รักไว้พาขยับเบาๆ แต่ก็โดนปัดมือ             “เบาๆ นะ” ดนัยปรามเพราะคิดว่าที่รักจะแกล้ง ถ้าท่อนไม้ฟืนเขาเป็นอะไรไปล่ะก็ น่าดู!             ที่รักกุมไว้แน่นและปล่อย ใช้ปลายนิ้วค่อยๆ สัมผัสจากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบน “ใหญ่เว่อร์”             “ชอบไหม?”             “แล้วจะยังไงล่ะ”             “รู้สึกดีใช่ไหม” ดนัยสูดปากเมื่อที่รักกุมและขยับขึ้นลงแรงๆ “บอกว่าเบาๆ หน่อยไง ถ้ายังไม่เข้าใจ จะทำให้เข้าใจเดี๋ยวนี้นะ”             “ตัวโตขนาดนี้ยังกลัวแรงฉันอีก”             “แรงน่ะไม่กลัว แต่กลัวลูกเล่นแผลงๆ ของคุณต่างหาก”             “เอานา รับรองว่าจะช่วยแล้วไง แหม นี่คือการเรียนรู้นะ ครั้งแรกด้วย ขอดูชัดๆ สักหน่อย เคยเห็นแต่แนวราบตอนมันสงบ ไม่เคยเห็นแนวตั้งโด่เด่อย่างนี้” ว่าแล้วที่รักก็หันกลับมาจ้องท่อนไม้ฟืน จ้องแล้วจ้องอีก ดนัยใช้แขนสองข้างยันไปข้างหลัง หากที่รักจะศึกษาก็ให้ดูและทำให้เต็มที่             “ครั้งแรกคุณทำผมคลั่งไปแล้วนะ อย่าลืมว่าเราเคยกันมาแล้ว”             “วันนั้นเมา ไม่นับ”             “ตามใจ” ดนัยถอนใจ เขาก็กำลังจ้อง จ้องหน้ายายทอมหื่น ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าทอมจะกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดเล่นจ้อง จับเล่น หยอกล้อกับไม้ฟืนของเขา น่าจับฟาดก้นเสียจริง             “ขยับนะ?” ที่รักเงยหน้าขึ้นมองดนัย ตัวเองยังอยู่ระหว่างสองขายาวกำยำของดนัย และเริ่มขยับมืออีกครั้ง รูดขึ้นลง สายตามองหน้าดนัยไปด้วย เมื่อเห็นดนัยพ่นลมออกจากปากและส่งเสียงแผ่วต่ำอย่างพอใจ จึงอมยิ้มน้อยๆ ดนัยคว้าต้นคอที่รักและก้มลงประกบปากรวดเร็ว สองปากดูดดึงอย่างคนกระหาย ดนัยส่งปลายลิ้นเข้าไป ที่รักก็ใช้ปลายลิ้นดันเอาไว้ จนกระทั่งสู้แรงไม่ได้ เลยยอมให้ดนัยตักตวงตามใจชอบ             ที่รักตัวสั่น เมื่อดนัยกางมือนาบกับหน้าท้อง และไต่ลงไปหาส่วนอ่อนนุ่มกลางกาย เจ้าทอมเลยวางมือจากกลางกายเขา จับข้อมือเขาไว้ “ทำต่อไปสิ” ดนัยส่งเสียงแหบพร่า             ที่รักกุมเขาไว้อีกครั้ง ใบหน้าหงายเพราะดนัยบังคับจูบเอาจนตัวอ่อนไปหมด เจ้ายักษ์หื่นนี่เหลือร้ายนัก ไม่อยากจะเชื่อว่าจะร้อนแรงได้ขนาดนี้ ที่รักครางเบาๆ เมื่อดนัยสอดนิ้วเข้าไป ในตัว แต่สองมือเธอเองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ยังคงกระทำกับดนัยต่อไป ดนัยผละจากริมฝีปากไต่ลงมาที่ข้างแก้ม ต้นคอ จูบเม้ม ลากลิ้นร้อนชื้นไปทั่ว ที่รักยอมรับว่าสยิวซ่านไปทั้งกายเพราะปลายลิ้นเขา             “ชอบไหม?” ดนัยกระซิบถามและเลยไปยังต้นคออีกข้าง ทำเหมือนกัน มือหนึ่งเลื่อนจากต้นคอมาขยี้ปลายยอดดอกบัวสีจาง             “อือ” ที่รักส่งเสียงออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอก็หยุด ดนัยหัวเราะ หึๆ ในลำคอเบาๆ เขากำลังจะทำให้ยายทอมหลงลืมความตั้งใจเดิมแล้ว เขาจะกระชากความเร่าร้อนของเพศออกมาจากที่รักให้ได้ ดูสิว่าจะเรียกหาสาวๆ อกตูมหรือจะเรียกหาเขาที่เป็นสามีกันแน่             ดนัยขยับนิ้วเข้าออก ยั่วอยู่สองสามรอบและเริ่มทำอย่างเป็นจังหวะ ที่รักก้มหน้าลง ศีรษะชนอกดนัย แรงจากมือเขาทำให้กายผอมบางสั่นไหวหนัก ศีรษะส่ายไปมาด้วยความรัญจวนเสียวซ่าน สองมือก็ลงแรงหนักตามไปด้วย ดนัยผลักเบาๆ ให้ที่รักลงไปนอนราบกับพื้น มือของทั้งสองไม่ได้หลุดไปจากส่วนของกายกันและกัน ยอดอกสีจางถูกดนัยดูดเม้มอีกครั้ง สลับซ้ายขาว เจ้าตัวได้แต่ยกศีรษะขึ้นมอง เห็นเขากำลังรัวลิ้น เห็นเขาครอบปากดูดอย่างทารก             “เร็วอีก” เสียงเขาสั่งพร้อมๆ กับมือเขาเร่งจังหวะในกายเธอเช่นกัน ที่รักครางเสียงดังอย่างไม่อาจห้ามอยู่ ผสมกับเสียงหอบแรงของดนัย เขากำลังจะถึงที่สุดแล้ว มือเล็กนั้นร้ายอย่างเหลือเชื่อจริงๆ             “ไม่!” ที่รักร้องขึ้นขณะที่หยัดสะโพกขึ้นสูง เกร็งกาย ทั้งยังเริ่มกระตุกหนักๆ เสียงครางยาวในนาทีสุดท้ายทำให้ดนัยรู้ว่าเขาส่งที่รักไปก่อนแล้ว มือที่กำไม้ฟืนของเขาเหมือนเกร็งค้าง ดนัยเลยทนต่อไปไม่ไหวเช่นกัน ทุกหยาดหยดของเขาละเลงลงบนหน้าท้องของที่รัก เสียงครางหนักๆ ก่อนจะหอบหายใจ ก้มลงจูบริมฝีปากที่เผยอค้าง เสียงหอบหายใจประสานกันอยู่เช่นนั้นนานเท่านาน ดนัยดึงมือเขาออกจากส่วนกายของที่รักและยกขึ้นมาดูอย่างพอใจ             นิ้วมือเขาเปียกชุ่มด้วยการสุขสมของเจ้าทอมใต้ร่างเขาที่ขณะนี้หอบหายใจรวยรินจ้องหน้าเขาไม่วางตา ที่รักปล่อยมือจากของดนัยบ้าง เพราะขณะที่กำลังกุมอยู่นั้น มันเริ่มขยับอีกครั้ง เหมือนกำลังจะแปลงร่างให้โตขึ้นอีก             “บ้านา!” ที่รักร้องขึ้นและปัดเจ้าท่อมไม้ฟืนใหญ่ออกไปพ้นหน้าท้องตัวเอง             “ครั้งเดียวไม่พอหรอก”             “เช็ดด้วย” ที่รักชี้ลงไปที่หน้าท้องแบบราบของตัวเอง สิ่งที่ดนัยปลดปล่อยออกมานั้นทั้งร้อนและกลิ่นแปลกประหลาด มันมากมายเหลือเกินและกำลังจะไหลลงจากหน้าท้อง             ดนัยลุกขึ้น เขาเดินไปที่โต๊ะหน้ากระจก คว้าเอากระดาษชำระมาเช็ดให้ ตอนนั้นแสงจากเทียนหอมดับลงแล้ว แต่ก็ยังเห็นภายในห้องรางๆ ดนัยฉุดแขนที่รักให้ลุกขึ้นและพาไปที่เตียงสี่เสาของเขา             “ถามหน่อยสิ”             “อะไรหรือ?”             “เตียงนี้ไม่ค่อยเข้ากับห้องเลยนะ”             ดนัยปลดม่านเตียงออกทุกด้าน มันลงมาปกปิดไว้จนมิด เขาเปิดโคมไฟหัวเตียง แสงเหลืองอ่อนกระทบสองร่าง เขาดันที่รักขึ้นไปก่อน และกระแซะกายตามไป เตียงใหญ่และนุ่มน่านอน             เขาลากที่รักเข้ามากอด “เป็นเตียงเก่าของพ่อกับแม่ พ่อผมสั่งทำพิเศษเกือบยี่สิบปีแล้ว” ดนัยหยุดพูดและขยับกายหาท่าทางที่พอใจแล้วเอ่ยต่อ “บ้านเดิมผมไฟไหม้ มีแค่เตียงนี้เท่านั้นที่ไม่มีแม้รอยขีดข่วน ลุงเลยบอกให้ผมเก็บเอาไว้ ลุงบอกว่าเตียงนี้พ่อกับแม่ชอบมากเชียวล่ะ”             “มิน่า เตียงเก่าลวดลายสวยดี แต่มันไม่ค่อยจะเข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นของคุณเสียเลย”             “แล้วนอนสบายไหมล่ะ?”             “ก็ดี กว้างด้วย” ว่าแล้วที่รักก็ขยับกายออกจากอ้อมแขนของเขา             ดนัยตามมาคร่อมที่รักไว้ สองแขนเหยียดตรง เขากดที่รักให้อยู่นิ่ง “เปลี่ยนเรื่องเชียวนะ”             “อะไรเล่า!” ที่รักขมวดคิ้ว พอก้มลงก็เห็นไม้ฟืนกำลังผงาดอยู่เช่นเดิม “ลามกจกเปรต ไอ้หื่น!”             “ยอมรับมาสิว่าพอใจมากน่ะ”             “แล้วไง?”             “ขออีกสักยก ครั้งนี้ของจริง รับรองว่าจะติดใจจนต้องร้องขออีกจนเช้า” ดนัยก้มลงมา ที่รักเบี่ยงศีรษะหลบและผลักเขา แต่ดนัยไม่ยอม รู้ว่าที่รักต้องต่อต้านแน่ๆ เลยจำเป็นต้องลงแรงบังคับกันหน่อยแล้ว             ดนัยรวบสองมือที่รักไว้ จับสองขาแยกจากกัน และแทรกตัวเข้าไป แค่จังหวะเดียวที่เขากดกายลง ที่รักกายสั่น ร้องเสียงหลง ก่อนจะต่อต้านเขาอย่างหนัก เพราะเป็นครั้งแรกที่โดนเจ้าท่อนไม้ฟืนเข้าไป             “เจ็บนะ! ออกไปเลย”             ดนัยก้มลงประกบปาก ที่รักส่ายศีรษะไม่ยอมท่าเดียว จนดนัยต้องจับใบหน้านั้นไว้ แล้วก็จูบได้สมใจ ที่รักกัดลิ้นเขา แต่เขาไม่สน ยังคงดูดดึง วนเวียนจนที่รักใจอ่อน เขาเริ่มขยับถอนตัวออกและกลับเข้ามาใหม่ช้าๆ ความคับแคบทำเขาแทบคลั่ง ผิวเนื้อลื่นๆ ชื้นๆ ภายในกำลังบีบรัดใจกลางกายดนัยเต้นตุบๆ             “ผ่อนคลายหน่อย ไม่ต้องเครียดขนาดนั้น” ดนัยกระซิบ             “ไอ้ยักษ์บ้า! โกหกฉันใช่ไหม นี่ครั้งแรกแน่ๆ”             “ยอมรับก็ได้ วันนั้นผมใช้แค่มือน่ะ ผมสงสารหรอก ไม่อย่างนั้นเช้ามาคุณลุกไม่ขึ้นแน่”             “สารเลว!” ที่รักบริภาษและขยับกายหนี             “ที่รัก มาถึงขนาดนี้แล้ว อยู่นิ่งๆ หน่อย ลองดู คุณอาจจะชอบก็ได้” ดนัยหว่านล้อม สะกดกลั้นความกระสันเสียวจากช่องทางคับแคบไว้และเริ่มขยับอีกครั้ง ดนัยขยับกายเร็วเป็นจังหวะ ตอกย้ำซ้ำลงไป ที่รักเริ่มผ่อนคลาย สองแขนอ่อนระทวย เสียงครางเริ่มหลุดออกมาให้ได้ยิน ดนัยอมยิ้มและเริ่มจังหวะต่อไป เพราะที่รักคับแน่น เขาเลยเหมือนหนุ่มน้อยที่ริจะเริ่มรัก กายสั่นครางเสียงต่ำประสานกันและดนัยก็พาที่รักแตะขอบสวรรค์ไปพร้อมกัน เขาปลดปล่อยธาราหลั่งล้นและทิ้งกายลงนอนทาบทับ ที่รักยกสองแขนขึ้นโอบเอวหนาด้วยความลืมตัว             ดนัยบ่นพำฟังไม่ได้ศัพท์ เขายกตัวขึ้น เริ่มขยับกายส่วนล่างอีกครั้ง ที่รักตาเหลือและดันอกเขาไว้ ดนัยไม่สน เขาเริ่มบทรักร้อนแรงอีกรอบ คราวนี้เขาตั้งใจทำให้ที่รักคลั่งไปพร้อมๆ กัน จังหวะเริ่มแรงและเร็ว แต่อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนให้ที่รักนอนคว่ำ จับสะโพกหยัดขึ้นและทะลวงเข้าไปหนักหน่วง             ที่รักครางอู้อยู่กับหมอน ใบหน้าส่ายไปมาอย่างแสนจะทรมานระคนสุขสมอย่างน่าประหลาด ดนัยเลยขยับโยกดั่งใจปรารถนา เสียงครางดังลั่นกว่าครั้งแรก และเขาก็เริ่มเพิ่มแรงกระทำมากขึ้น ทั้งยังโน้มตัวลงไปเกาะกุมหน้าอกของที่รักไว้ บีบเค้นหนักมืออย่างลืมตัว แม้ที่รักจะไม่ห้าม แต่ก็ร้องเสียงหลงเพราะขณะนั้นเขากำลังขยี้ปลายยอดด้วยสองนิ้วจนแทบจะหลุดติดมือเขาออกมา             ดนัยลากลิ้นไปตามแผ่นหลังเนียน ความชื้นผะผ่านไปทั่ว ทิ้งรอยแดงไว้เพราะถูกขบเข้าให้หลายต่อหลายครั้ง ที่รักสมองมึนงง คิดอะไรไม่ออก ทุกอย่างเหมือนล่องลอยไปตามลม ปล่อยเสียงครางแผ่วครั้งแล้วครั้งเล่า และถูกเขาขยับตอกย้ำจนกายเคลื่อนไปข้างหน้า ศีรษะโขกกับหัวเตียง             ดนัยจับที่รักหงายและดึงที่รักกลับด้วยแรงของเขา จนลืมไปว่าเขากำลังกระทำการอุอาจเกินไป นั่นเหมือนการสมสู่ของสัตว์เสียมากกว่า ที่รักยกเท้าถีบเขาเพราะความโกรธ             “ถีบผมทำไม?”             “ไปให้ห่างๆ เลยนะ!” ที่รักร้องห้าม ใบหน้าบึ้งตึง สองแขนกอดอกไว้ กายกำลังสั่น แต่สั่นเพราะความเสียวซ่านที่ยังไม่หมดไป             ดนัยเสยผมอย่างขัดใจและลงไปทาบทับที่รักใหม่ เขาจดจ่อท่อนไม้ฟืนเข้าไป บังคับให้ที่รักตอบรับเขาเข้าไปจนได้ สองมือจับข้อมือที่รักไว้ ดันลงไปยังที่นอน ที่รักจ้องเขาตาแทบหลุด ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ร่วมกับเขาแล้ว เพราะดนัยทำให้เจ็บและรู้สึกเกลียดขี้หน้าเขามาทันใด             “ไอ้ยักษ์! ออกไปเลยนะ”             ดนัยเลิกคิ้ว เริ่มขยับเอวทั้งที่ประสานสายตากับที่รักอย่างไม่เข้าใจ เขาครางออกมาเปลือกตาพริ้มหลับเมื่อยังถูกความคับแน่นทำให้ทรมานปนสุข             ที่รักสะบัดมือหลุดมาตบหน้าเขา นั่นแหละดนัยเลยเปิดตาขึ้น หยุดการกระทำทุกอย่างโดนพลัน “ตบผมทำไม?”             “เจ็บนะ!”             ตอนนั้นเอง ดนัยเลยเพิ่งรู้ว่าเขาหนักข้อกับที่รักเกินไป ลืมเสียสนิทว่านี่คือครั้งแรก เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก มือหนึ่งเสยผม ยกตัวขึ้นเล็กน้อย สองแขนยันกับเบาะข้างตัวที่รัก เขาสำรวจใบหน้าบึ้งตึงนั้น เห็นน้ำใสๆ ตรงหางตาแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อก้มมองต่ำลงก็เห็นตามซอกคอ เนินอก ปลายยอดถัน เต็มไปด้วยรอยแดงๆ แน่ล่ะ ต้องเกิดจากน้ำมือของเขา             “ผมลืมตัว!” ดนัยหลุดเสียงแหบออกมา             ที่รักขยับกายเบี่ยงออกข้าง แต่ดนัยจับเอวไว้ การประสานยังคงยึดแน่นอยู่ข้างใน สิ่งนั้นยังคงผงาดอยู่ในกายอ่อนนุ่ม เขาลงมาทาบทับ สอดมือใต้ร่างบาง ตะแคงลงไปนอนและให้ที่รักขึ้นมานอนทับอกเขา กายยังคงประสานติดกันเหนียวแน่น             “ผมขอโทษ เจ็บมากไหม?”             “มาก!” ที่รักเอ่ยอยู่กับอกเขา             “ให้ตาย ผมลืมตัวมากไป ลืมจริงๆ ว่าเป็นครั้งแรกของคุณ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยกับผู้หญิงหรอกหรือ”             “กอดจูบลูบคลำและตีฉิ่ง ไม่ได้เค้น ไม่ได้คลึง ไม่ได้ขยี้ ไม่กัด...”             “พอก่อน” ดนัยร้องห้ามและถอนหายใจ “คำว่าตีฉิ่งของผู้หญิงไทยเรานี่ไปถึงขั้นไหนนะ” เขาบ่นพำกอดที่รักกระชับขึ้น             “ถอนออกไปสิ”             “ไม่ได้หรอก ผมทำคุณเจ็บ จะแก้ตัวใหม่ ไม่อย่างนั้นคุณจะขยาดผมไปอีกนาน แต่พักก่อนก็ได้ ให้คุณพร้อมแล้วก็บอกผมนะ”             ที่รักยังซบอกเขาอยู่อย่างนั้นนิ่งนาน เสียงหายใจกลับมาปกติและเริ่มขยับกาย แต่ดนัยคราง ที่รักเลยนิ่งไปพักใหญ่และขยับกายอีก ดนัยครางอีกและบอกมาว่าหากเธอยังไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เขาจะเริ่มขยับเองบ้างแล้ว ที่รักเลยนอนอยู่บนตัวเขานิ่งๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไป สองแขนเริ่มวาดเข้ามากอดเขาไว้             “รีบๆ ทำให้เสร็จไม่ได้หรือไง” ที่รักเอ่ยเพราะเริ่มขัดใจ             “พร้อมแล้วแน่นะ?”             “ก็คิดว่านะ”                 ดนัยขยับสะโพกสวนขึ้นไป ที่รักครางออกมาทีหนึ่งและหยิกแก้มเขาค้างไว้ “ยังไม่ทันตั้งตัว ไอ้บ้า ไอ้หื่น ไอ้ลามก”             ดนัยหัวเราะ สองมือประคองสะโพกที่รักและเริ่มขยับทั้งที่เจ้าทอมอยู่ข้างบน จังหวะเนิบช้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรัวเร็ว ที่รักยันสองแขนกับอกดนัย เลยเหมือนกับว่าเธอคุมจังหวะ แต่ทั้งหมดนั้นดนัยเป็นคนขยับ ครั้งนี้ทุกอย่างซาบซ่านไปหมด ที่รักหงายหน้าร้องคราง ขณะที่ดนัยยิ้มอย่างพอใจและขยับโยกให้ดีที่สุดเพื่อแก้ตัว             แสงเหลืองอ่อนจากโคมไฟส่องให้ร่างของที่รักดูเย้ายวนน่าหลงใหลไม่น้อย แขนขายาวไม่ได้ดูเก้งก้าง กลับดูเซ็กซี่เป็นที่สุด มือเขาลูบไล้ต้นขาทั้งสอง สัมผัสความเนียนนุ่มละมุนมือ ไม่น่าจะเป็นทอมเลย ถ้าจับแต่งตัวเป็นหญิงจะสวยเซ็กซี่มากเชียวล่ะ             ดนัยขยับเร็วขึ้นหมายจะส่งที่รักขึ้นสวรรค์ไปก่อน และแน่นอนว่าไม่จบเพียงแค่นั้น ที่รักก้มมามองเขา ใบหน้าหล่อเหลากำลังจับจ้องมาอย่างกับจ้องเหยื่อน้อย สายตานั้นดูน่ากลัวและชวนมองในคราวเดียวกัน ที่รักขนกายลุกชันและต้องครางเสียงสั่น พุ่งตัวซบดนัยหอบหายใจอย่างหนัก เขาปล่อยให้ที่รักปรับตัวก่อนจะจับที่รักนอนราบลง ตัวเขาคร่อมทาบทับไว้ เจ้าสิ่งนั้นผงาดเช่นเดิม ไม่มีแม้จะอ่อนกำลังลงเลย             “เอาอีก” ดนัยก้มลงไปกระซิบและปิดปากที่กำลังจะประท้วงนั้นด้วยจูบที่ร้อนแรง มือหนึ่งลูบไล้แผ่วเบาข้างลำตัวบางและเริ่มขยับ ที่รักไม่อาจต่อต้านเขาได้เลย รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กและไร้เรี่ยวแรงเป็นครั้งแรก             บทรักเร่าร้อนดำเนินต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะต่อต้านแต่ก็ไม่อาจยับยั้งได้ ดนัยทำให้ที่รักเสพติดมันเสียแล้วอย่างที่เขาบอกว่าเธอจะร้องขอไปจนเช้า แน่นอนคนอ่อนประสบการณ์มีหรือจะปฏิเสธความหฤหรรษ์ที่ถูกปรนเปรออย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน แต่ก็ไม่ทำให้เธอเจ็บตัวอีก             “เช้าแล้ว” เสียงอ่อนเบาเอ่ยขึ้นขณะที่ถูกดนัยกกกอดไว้ใต้ร่างหลังจากการปลดปล่อย “ไม่ไหวแล้ว”  ยังคงหอบหายใจ แต่หนังตาก็จะปิดเต็มที             ดนัยพลิกกายลงมานอนข้างๆ กอดที่รักไว้แน่นกระชับ เพียงเสี้ยววินาทีก็รับรู้ได้ว่าที่รักหลับไปเสียแล้ว เขาก้มลงไปจรดริมฝีปากที่ขมับชื้นเหงื่อและเข้าภวังค์ไปอีกคน  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม