"พี่หมอ!"
หมอธันวาถึงกับหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก เขาอุตส่าห์ใส่ทั้งแมสและหมวกแก๊ปแล้วยังจะมีคนจำได้อีกเหรอ
"แฮ่!วาเองค่ะ"
หมอธันวาหันมามองหญิงสาวตรงหน้าในชุดนักศึกษากระโปรงพลีสยาวเสื้อตัวโคร่งแต่ไม่ถึงกับใหญ่มาก เขามองสำรวจเธอทั้งแต่หัวจรดเท้าทึ่งในการแต่งตัวคล้ายสาวเซอร์ของวาทยา ต่างกับวันที่ไปเจอเขาที่บ้านริบลับ เพราะตอนนั้นเธอแต่งตัวเหมือนจะเป็นลุคคุณหนูๆ
"อ้อ มากับใครน่ะ?"
หมอธันวาเอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังเข็นรถเข็นเดินเลือกซื้อของอยู่ในห้าง
"ก็คุณแม่ถามถึงแต่พี่หมอ วาเลยต้องมาหาสักหน่อย"
"แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่?"
"จริงๆจะโทรไปถามคุณแม่พี่แล้วค่ะ แต่บังเอิญว่าวาเห็นพี่แวบๆเลยวิ่งมาหา บังเอิญมากๆ"
"ทำไมไม่โทรมาถามก่อนล่ะ?"
'ขนาดไลน์ยังไม่ตอบแล้วโทรพี่จะรับเหรอคะ?'
วาทยาได้แต่เถียงเขาอยู่ในใจ
"เอ่อ วาก็คิดว่าพี่หมอไม่ว่างน่ะค่ะ เห็นไลน์ไปไม่ค่อยตอบ"
"อ้อ อย่างนั้นหรอกเหรอ?"
หมอธันวานึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้ตอบวาทยาจริงๆ ก็เธอชอบไลน์มาตอนที่เขายุ่งทุกที แต่ก็ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะสติกเกอร์ที่วาทยาส่งมาแต่ล่ะตัวไม่แลบลิ้นปลิ้นตาก็เป็นสติกเกอร์ง่วงนอน
"แล้วนี่พี่หมอมาซื้ออะไรคะ?"
"มาซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารน่ะ แล้วมีอะไรอีกหรือเปล่า?"
หมอธันวาเหมือนจะรำคาญที่วาทยามาวุ่นวายเลยรีบตัดบทเพราะเขาจะได้ไปคิดเงินที่แคชเชียร์แล้วก็กลับบ้าน
"วาทยาจะไปคอนโดพี่หมอด้วย!"
"เธอว่าอะไรน้ะ"
"ไปด้วยค่ะ"
"นี่เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ถึงขอไปห้องผู้ชาย"
หมอธันวาถึงกับเลิ่กลั่กเพราะเขาไม่อยากให้เธอไป
"ไม่รู้ล่ะวันนี้วาจะไปให้ได้ วาต้องถ่ายรูปไปให้แม่ดูว่าอยู่กับพี่หมอจริงๆ"
หมอธันวาถึงกับถอนหายใจที่ยัยตัวแสบต้องการไปห้องเขาให้ได้
"งั้น ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับนะ พี่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในที่ๆส่วนตัว"
"โอเคค่ะ"
วาทยารับปากทันที
"งั้นก็ไปสิ"
หมอธันวาเดินเข็นรถไปคิดเงินที่เครื่องแคชเชียร์ วาทยาก็เดินตามหลังเขาไปด้วย หญิงสาวรู้สึกหมั่นไส้เขามากกับท่าทางที่หมอธันวาทำอย่างกะรังเกียจเธอมากมาย
แต่ทว่า!
ก็แอบเสียใจนิดๆที่เขาไม่ชายตาแลมองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
'หึ!วาไม่ยอมแพ้หรอค่ะ วาจะเอาพี่หมอมาเป็นแฟนจริงๆให้ได้ อยากจะเห็นรอยยิ้มของพี่หมอบ้าง ไม่ใช่หน้าตาเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนี้'
19:00 น.
คอนโดหมอธันวา
"ไหนล่ะเธอต้องการอะไรก็รีบทำๆจะได้กลับไปสักที"หมอธันวายังไม่หยุดความพยายามที่จะไล่วาทยากลับ
"อืม..งั้นเรามาทำอาหารเย็นค่ะ คอนเทนต์วันนี้ทำอาหารให้แฟนกิน งุ้ยยยย!"
วาทยาไปเกาะแขนหมอธันวาแล้วซบลงไปลงไหล่ เขาถึงกับรีบผละหนีอย่างไว
"ทำบ้าอะไร พี่ไม่เล่นด้วยหรอกนะแบบนั้น"
หมอธันวารีบปฏิเสธเสียงแข็งส่ายศีรษะไปมาสีหน้าของเขายังคงความคีฟลุคนิ่งๆเหมือนเดิม
"จะได้เนียนๆไงคะ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?"
"นั่นมันก็แค่แสดงละครเท่านั้น ไม่ได้บอกให้ทำจริงๆสักหน่อย"
"เดี๋ยวค่ะ นั้นอะไรบนหน้าพี่หมอ"
วาทยาจับแขนทั้งสองข้างของเขาไว้ แล้วเขย่งเท้าขึ้นจ้องเข้าไปในแววตาคมปราบนั้นนิ่ง
หมอธันวาตะลึงที่เธอขยับเข้ามาใกล้ๆจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของหญิงสาวใจเขาถึงกับเต้น ตึกตักๆ เพราะคิดว่าวาทยาจะทำอะไร
"นี่ค่ะ ได้แล้วขนตาพี่หมอหลุด อิอิ"
เขาถึงกับโล่งอกเมื่อหญิงสาวปล่อยออกจากตัวเขา
"อธิษฐานค่ะ"
"อะไรของเธอ?"
หมอธันวายังสาละวนกับการทำน้ำสลัดไม่ได้สนใจกับสิ่งที่วาทยาทำเลยแม้แต่นิด
"ขนตาหลุดต้องอธิษฐานแล้วคำอธิษฐานจะเป็นจริง หลับตาเร็วค่ะ"
"ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้"
"ขอให้พี่หมอเจอกับรักแท้ไวๆด้วยค่ะ สาธุ!"
วาทยาเป็นฝ่ายอธิษฐานแทนเสียเอง หมอธันวาถึงกับสั่นศีรษะไปมาให้กับความไร้สาระไม่ได้เรื่องได้ราวของวาทยา
"พี่จะเจอรักแท้หรือไม่เจอไม่น่าจะเกี่ยวกับเธอ แล้วนี่ไม่ไปไหนกับแฟนเหรอ ถึงได้มาคลุกอยู่นี่อ่ะ วัยแบบเธอเค้าไปทำอะไรกันหลังเลิกเรียน?"
"แฟนที่ไหนกันล่ะคะ? โสดมากก กำลังจีบอยู่นี่ไง อิอิ"
วาทยาจิ้มไปที่หน้าอกของหมอธันวา ทำเอาเขาถึงกับนิ่งอึ้งหยุดชะงักไปเล็กน้อย ที่วาทยาพูดเล่นออกมาแบบนั้น เสียงถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่วาทยายังคงเล่นไม่เลิก
"แฮ่! วาล้อเล่นค่ะ ไหนคะมีอะไรให้วาช่วยบ้าง วันนี้ขอกินข้าวด้วยคน"
"ไปล้างผักสิ หมดนั่นเลย"
หมอธันวาชี้ไปที่ตะกร้าใส่ผักที่วางอยู่บนโต๊ะ
"โอเครับทราบค่าาาา"
เมื่อหญิงสาวเอาผักไปล้าง หมอธันวาถึงกับยิ้มออกมาให้กับความแก่นแก้วของวาทยา วันนี้ห้องของเขาไม่ได้เงียบเหงาอย่างทุกวันเพราะเหมือนมีเด็กสาวคนนึงมาส่งเสียงดังเจื้อยแจ้วถามนั่นนี่ไม่หยุดจนเขารำคาญที่จะตอบ
-ผ่านไป30นาที-
"อ่ะนี่ของเธอ"
วาทยาจ้องมองอาหารในจานที่มีแต่ผักและก็ธัญพืช ราดด้วยน้ำสลัดอีกทีนึง
"พี่หมอธันวาขา คือว่าวาว่ามันมีแต่ผัก วาว่าเราควรจะกินอะไรที่มันหนักท้องกว่านี้มั้ยคะ?"
"ทำไม ไม่ชอบกินผักล่ะสิ มีแต่สลัดนะมื้อนี้ไม่กินก็อด อีกอย่างมื้อเย็นจะกินหนักไม่ได้ด้วย"
"กินก็ได้ค่ะ"
วาทยาตักอาหารเข้าปากด้วยด้วยใบหน้าเครียด คิ้วของเธอถึงกับขมวดชนกันเมื่อต้องกินผักเยอะขนาดนี้
"อ่ะๆ เดี๋ยวก่อนค่ะ!"
"อะไรของเธออีก"
"ต้องเซลฟี่ก่อน"
วาทยายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดไปที่กล้อง
"ยิ้มค่ะ"
"นี่บอกไว้ก่อนเลยนะห้ามเอาลงโซเชียลเด็ดขาด"
"สัญญาค่ะ"
พูดเสร็จเธอก็ถ่ายรูปคู่ที่มีจานสลัดถืออยู่ในมือ ถึงแม้ว่าคนบางคนจะทำสีหน้าไม่พอใจหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้วก็ตาม
-มหาลัย-
"ว้าย!รูปคู่"
พราวรุ้งถึงกับกรี๊ดด้วยเสียงดังกังวานเมื่อเห็นรูปที่วาทยาเอามาอวด
"กว่าจะได้มานะแก ชั้นต้องพลีชีพกินผักเป็นจานๆ โอ้ย!พูดถึงแล้วจะอ้วก เหม็นเขียวไปหมด"
"แต่มันก็คุ้มอยู่นะ น่ารักกก จะว่าไปแกก็ดูเหมาะสมกับคุณหมอธันวาอยู่นะ ฟิวแฟน"
"ชั้นจะเอาพี่หมอธันวามาเป็นแฟนให้ได้ แต่ว่า!...ยากจังเฮ้อ!"
"เอาน่าา นี่ก็เรียนจบกันแล้วต่อไปแกก็น่าจะมีเวลาอยู่นะก่อนที่แกจะไปอเมริกา ภารกิจนี้ต้องสำเร็จ!"
"โอเค!ไฟท์ติ้ง"
สองสาวให้กำลังใจซึ่งกันและกันทั้งคู่คบหากันมานานมีอะไรมักจะช่วยเหลือกันเต็มที่อย่างเสมอมา ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเรื่องยากหรือง่ายอย่างไรก็ตาม