คมเดชวางแผนติดตามเพื่อจับคุมขบวนการค้ายาเสพติด ที่จะมีการขนย้ายยาเข้ามาทางรอยตะเข็บชายแดนร่วมกันกับทีมตำรวจตระเวนชายแดน หลังจากวางแผนและสืบข่าวกันมาเป็นระยะเวลาหลายวันก็ทำให้ทราบว่าจะมีการขนย้ายยาล็อตใหญ่ในอีกห้าวันข้างหน้า ก่อนจะออกปฏิบัติการคมเดชก็ได้กลับบ้านมาหาพ่อแม่และพี่ชายทั้งสองของตน
"ตาเดชพักหลังไม่ค่อยกลับบ้านมากินข้าวกับแม่เลยนะลูก" คุณพริ้มเพราแม่ของคมเดชพูดกับลูกชาย มือก็ตักกับข้าวใส่จานให้ลูกชายไปด้วย
"ขอบคุณครับแม่ ช่วงนี้ผมงานยุ่งครับมีคดีสำคัญ งานที่รีสอร์ตก็ให้แม่ช่วยจัดการให้ไปก่อน รบกวนแม่ด้วยนะครับ" คมเดชขอบคุณที่แม่ตักกับข้าวให้และเล่าเรื่องงานที่เป็นสาเหตุทำให้ไม่ได้มาหาแม่
"มีงานด่วนแต่ก็ยังแอบไปหาเมียที่กรุงเทพฯ ได้บ่อยๆ" คมกริชพูดแซวน้องชาย
"หาเมียอะไรของพี่กริช" คมเดชพูดแก้ตัว
"แกอย่าลืมนะไอ้คอนโดที่แกไปพักฉันเป็นเจ้าของโครงการ ลูกน้องฉันรายงานมาว่าแกเข้าไปพัก แล้วพาสาวสวยที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ขึ้นห้องไปด้วยกัน จริงหรือเปล่า" คมกริชพูดต้อนน้องชาย
"พี่กริชนี่หูตาเป็นสับปะรดจริงๆ นะครับ จมูกดีแบบนี้มาเป็นสายให้ตำรวจเลยดีไหมครับ" คมเดชพูดชมกึ่งเหน็บพี่ชายของตัวเอง
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยไอ้เดช เล่ามาเดี๋ยวนี้แอบกินเด็กหรือมึง" คมพยัคฆ์คาดคั้นถามน้องชายบ้าง
"ไม่ได้ตั้งใจจะแอบกิน ผมตกลงคบเป็นแฟนกับพลอยมาสักพักแล้ว แต่ที่บ้านพ่อเขาห่วงลูกสาวมากไม่อยากให้พลอยมีแฟน ผมเลยยังไม่เคยได้เข้าบ้านเขาเลยได้แต่ไปส่งหน้าบ้าน ก็กำลังศึกษาดูๆ กันอยู่ครับพี่พยัคฆ์" คมเดชอธิบายให้พ่อแม่และทุกคนได้เข้าใจเขาด้วย
"แล้วคนนี้คิดจะจริงจังไหม ที่บ้านเขาทำมาหากินอะไร จะพามาให้พ่อแม่รู้จักเมื่อไหร่" นายอาคมถามลูกชายขึ้นบ้าง
"โธ่พ่อครับ มาแบบรัวคำถามเลยนะครับ ก็คิดจะจริงจังสิครับแฟนผมสวยเป็นดาวมหาลัยเลยนะครับ ที่บ้านพลอยเขาเปิดร้านทอง ร้านเพชร พ่อเขาเป็นคนจีนแม่เป็นคนใต้ฐานะร่ำรวยมากครับ ส่วนเรื่องจะพามาให้รู้จักเมื่อไหร่ผมจะพยายามพามาเร็วๆ นี้ครับ"
"ชื่อหนูพลอยเหรอ ชื่อน่ารักดีจังแม่อยากเจอตัวจริงแล้วสิพามาให้ได้นะลูก" นางพริ้มเพราบอกลูกชายสีหน้ายิ้มแย้มดีใจที่จะได้ลูกสะใภ้เสียที
"เออเว้ย ไอ้เจ้าเดชมันเก่งนะหาเมียได้ก่อนพวกพี่ๆ มันสองคนเสียอีก ว่าแต่หนูพลอยเขาเรียนใกล้จบยังไม่ใช่ว่าแกจะโดนออกจากราชการเพราะโดนคดีพรากผู้เยาว์เข้าให้นะเจ้าเดช" พ่อของคมเดชพูดชมลูกชายแต่ไม่วายเป็นห่วงถามถึงอายุของว่าที่ลูกสะใภ้ด้วย
"เรียนปีสี่แล้วครับพ่อ อายุจะ21ปีแล้ว รอดคุกครับพ่อสบายใจได้ แต่ก็มีลูกชายพ่อบางคนนะครับที่แก่แล้วไม่เจียมตัวแอบหลงเด็กยังไม่ทันเข้ามหาวิทยาลัยเลย" คมเดชบอกพ่อยิ้มๆ แล้วปรายตามองไปยังพี่ชายคนรอง
"มึงพูดบ้าอะไรของมึงไอ้เดช มึงว่าใครหลงเด็ก" คมพยัคฆ์ร้อนตัว
"ก็เสือมันริอ่านอยากจะกินกวางสาว มันก็เป็นธรรมดาแต่ระวังหน่อยนะพี่ยายกวางมันพึ่งจะสิบเจ็ดเรียนอยู่ม.6 เองนะครับ ยังไม่พ้นคุกนะครับ" คมเดชพูดแซวพี่ชายแล้วหัวเราะชอบใจ
"หนูกวางไหนนะ ใช่หนูกวางหลานสาวคุณประพลเพื่อนของพ่อแกนะเหรอพยัคฆ์ เด็กไปไหมลูก แต่เริ่มแตกเนื้อสาว แล้วก็สวยมากด้วย คุณประพลเขารักหลานตาคนนี้มากนะเพราะหนูกวางเขากำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก"
"แม่ก็ไปฟังไอ้เดชมัน ผมก็แค่ไปคุยงานบ้านคุณลุงประพลแทนพ่อก็เท่านั้น"
"แล้วเงินบริจาคสร้างโรงพยาบาลให้นางนพมาศในงานลอยกระทงประจำปีคืออะไรครับ อย่าบอกนะว่าบริจาคเงินซื้อพวงมาลัยเป็นล้านให้น้องกวางโดยที่ไม่คิดอะไรเลย" คมเดชต้อนพี่ชาย
"กูบริจาคเพื่อต่อยอดธุรกิจ งานรับเหมาก่อสร้างโรงพยาบาลเว้ย" คมพยัคฆ์แก้ตัว
"พอเถอะลูกไม่ต้องเถียงกันแล้ว แม่น่ะอยากให้ลูกชายทั้งสามคนแต่งงานเสียเร็วๆ แม่อยากมีหลาน ลูกแต่ละคนก็อายุเยอะๆ กันแล้วทั้งนั้น ว่าไงตากริชเราน่ะมีคนที่ชอบพอบ้างแล้วหรือยัง" นางพริ้มเพราถามลูกชายคนโตบ้าง
"ยังไม่มีหรอกครับแม่" คมกริชบอกแม่
"รายนี้เขาชอบซื้อกินครับแม่" คมเดชได้ทีว่าพี่ชายบ้าง
"เสือก ซื้อกินก็ดีแล้วไม่ต้องปวดหัว"
"พอ ๆ ไม่ต้องเถียงกันเรื่องมีเมียแล้ว เอาเป็นว่าใครมีหลานชายให้พ่อได้อุ้มก่อนพ่อจะยกสมบัติที่ยังเป็นส่วนของพ่อให้หลานครึ่งหนึ่ง" นายอาคมพูดห้ามทัพแต่ก็ยกเอาสมบัติของตนมาเป็นเดิมพันให้ลูกชายแข่งกันหาเมียมีหลานชายให้ตนเร็วๆ
"โธ่พ่อ แบบนี้ผมก็แพ้ไอ้เดชมันตั้งแต่ยังไม่ได้ลงแข่งสิ ก็มันมีเมียแล้ว" คมพยัคฆ์พูด
"นั่นสิพ่อ ว่าที่เมียผมก็ยังไม่เกิดเลยนะครับ" คมกริชพูดสนับสนุน
"ก็ไม่รู้แหละ พ่อว่าก็โอกาสเท่ากันเพราะยังไม่มีใครแต่งงานสักคน"
"แม่ก็คิดเหมือนพ่อนะลูก พ่อเดชเดี๋ยวกินข้าวอิ่มแล้วตามแม่ไปห้องพระนะลูก แม่มีของเครื่องรางของขลังให้ลูกเป็นเครื่องคุ้มภัยตอนออกไปปฏิบัติหน้าที่นะลูก" นางพริ้มเพราบอกลูกชาย
"ครับแม่" คมเดชรับคำ วันนั้นแม่ของคมเดชได้มอบพระเครื่องให้คมเดชห้อยแขวนคอติดตัวไว้ เพื่อให้พุทธคุณเป็นเกราะป้องกันภัยให้คมเดชออกไปปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงและปลอดภัยกลับมา
หลังจากแยกย้ายไปพักผ่อนแล้วคมเดชก็ได้โทรหาแพรพลอยแต่แพรพลอยไม่รับสาย เพราะพี่วิวพี่เลี้ยงสาวของแพรพลอยยังอยู่ในห้องนอน แพรพลอยจึงตัดสายทิ้งแล้วส่งข้อความไลน์ไปแทน
"พี่วิวยังอยู่ในห้องของฉันอยู่เลยค่ะ ไม่สะดวกรับสายคุณมีอะไรก็พิมพ์มานะคะ" แพรพลอยส่งบอกคมเดช
"ไม่มีอะไร พี่แค่คิดถึงเมีย คิดถึงอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียง"
"คิดถึงแต่หายไปสามวันไม่โทรมาเลย คนขี้โกหก"
"พี่เข้าป่าไปสืบคดีมา อีกไม่กี่วันก็จะมีการปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่นะ พี่เลี้ยงน้องพลอยออกไปยัง หาเรื่องไล่ไปหน่อยสิอยากเปิดกล้องอยากเห็นหน้าเมีย" คมเดชบอกแพรพลอย แพรพลอยจึงต้องหาวิธีบอกให้พี่วิวออกจากห้องตนเองไป
"พี่วิวพลอยง่วงนอนแล้ว ฝากพี่วิวปิดไฟล็อกประตูให้พลอยด้วยนะคะ พรุ่งนี้พลอยมีเรียนแต่เช้า"
"ค่ะคุณพลอย เดี๋ยวพี่ปิดไฟล็อกประตูให้ ว่าแต่วันนี้เข้านอนไวมากยังไม่สามทุ่มเลยนะคะ"
"พลอยคงเหนื่อยมั้งคะ วันนี้มีเรียนทั้งวัน เมื่อคืนก่อนก็นอนดึก"
"ค่ะ งั้นพี่จะไปนอนแล้วเหมือนกัน หลับฝันดีนะคะ" พี่วิวพี่เลี้ยงสาวของแพรพลอยปิดไฟปิดประตูแล้วออกจากห้องไป หลังจากพี่วิวออกไปแล้วแพรพลอยก็เปิดไฟหัวเตียงแล้วโทรหาคมเดช
"ทำไมห้องมืดจัง พลอยปิดไฟจะนอนแล้วเหรอ" คมเดชถามเพราะเห็นห้องมืดมีแค่ไฟหรี่ดวงเล็กที่เปิดไว้ที่หัวเตียงเท่านั้น
"ก็โกหกพี่วิวว่าจะนอนแล้ว พี่วิวก็เลยปิดไฟให้ฉัน ตั้งแต่ฉันพลาดท่าเสียทีให้คุณวันนั้น คุณรู้ไหมฉันต้องกลายเป็นคนโกหก โกหกพ่อแม่และคนรอบตัวฉันทุกคนแล้วเนี่ย"
"แล้วพลอยโกหกทำไม พี่ก็มีตัวตนเป็นผัวพลอยพร้อมจะรับผิดชอบ พี่บอกที่บ้านเรื่องของเราเรียบร้อยแล้วนะ แม่พี่ยังบอกให้รีบพาพลอยมาหาท่านเลย ส่วนพ่อพี่ก็อยากได้หลานชายถึงกับตั้งรางวัลยกสมบัติให้หลานชายครึ่งหนึ่งเลยนะ พลอยบอกพ่อกับแม่พลอยสิ พาพี่ไปสวัสดีพ่อพลอยเลยพี่อยากเปิดตัวจะตายไป"
"คุณไม่กลัวพ่อฉันเหรอ พ่อฉันดุมากเลยนะ เคยจัดการพี่หรัญญ์เสียจนเข้าหน้าไม่ติดมาแล้ว และพี่หรัญญ์ก็ไม่เคยกล้ามาบ้านฉันอีกเลย" แพรพลอยพูดบอกคมเดชแต่ก็แอบอมยิ้มเขินๆ แอบใจพองโตที่คมเดชบอกว่าได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับที่บ้านแล้ว และยินดีจะพาแพรพลอยไปเปิดตัวกับพ่อแม่ครอบครัวที่บ้านของเขาด้วย
"อย่าเอาพี่ไปเทียบกับมัน ไอ้ตี๋หน้าอ่อนนั่นมันอ่อนไงเลยพลาดเสียพลอยให้พี่ คนอย่างพี่นะไม่กลัวพ่อตาหรอก" คมเดชได้ทีโอ้อวดตัวเองเต็มที่
"ขี้โม้ไปเถอะเดี๋ยวจะเจอดี"
"อยากเจอ ถ้ามีชีวิตรอดไปหา อาทิตย์หน้าพาไปกราบสวัสดีพ่อตาหน่อยสิ" คมเดชพูดเสียงอ้อนเมียและรู้สึกกังวลใจเรื่องปฏิบัติการในครั้งนี้อยู่ไม่น้อย
"พูดอะไรของคุณ ถ้ามีชีวิตรอดอะไร คุณจะไปเสี่ยงมากเหรอคะคราวนี้" แพรพลอยถามน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
"ทำไมเป็นห่วงพี่เหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกยังไงพี่ก็ต้องรอดกลับไปหาเมีย เมียสวยขนาดนี้ใครมันจะยอมตายง่ายๆ" คมเดชพูดและมองเมียตาหวานผ่านกล้องวิดีโอคอลจนทำให้แพรพลอยเขินยกมือขึ้นลูบผมยาวสลวยของตัวเองเบาๆ แล้วเอามือดึงปิดเสื้อคลุมชุดนอนให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น
"ชุดนอนน่ารัก อยากนอนกอดพลอยจัง วันหลังใส่ชุดนอนแบบนี้ค้างกับพี่บ้างสิ" คมเดชพูดชมเมียยิ้มๆ
"บ้าฉันจะไปนอนกับคุณได้ไงกันเล่า แค่นี้นะฉันจะนอนแล้วพรุ่งนี้มีเรียนตอนเช้า" แพรพลอยบอกคมเดชอยากวางสายหนีอายเต็มทนแล้ว
"ยังไม่หายคิดถึงเลย คุยต่ออีกหน่อยนะ เมียจ๋า"
"จะคุยอะไรอีกละคะ ไปพักผ่อนได้แล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงานหรือไง"
"ไปสิ แต่ไม่ได้คุยกันนาน ๆ เปิดกล้องแล้วเห็นหน้ากันแบบนี้ตั้งหลายวันแล้วนะ เออวันนี้แม่พี่ให้พระห้อยคอกับพี่ด้วยเป็นเครื่องรางคุ้มกันภัยให้พี่ พลอยอยากดูหรือเปล่า" คมเดชชวนแพรพลอยคุยต่อ
"อือดูก็ได้"
"นี่ไง" คมเดชถอดกระดุมเสื้อนอนโชว์พระที่ห้อยคออยู่ แพรพลอยมองพระแต่ก็อดมองหน้าอกแกร่งที่มีขนหน้าอกขึ้นให้เห็นอยู่ประปรายนั้นด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ดูแล้วก็นึกถึงวันที่อาบน้ำในอ่างกับคมเดชขึ้นมาในมโนสำนึกของตัวเอง หน้าของแพรพลอยจึงแดงแบบไม่ทันรู้ตัว
"พลอยนี่พี่เปิดอกให้ดูพระนะ ทำไมต้องหน้าแดงด้วยนี่คิดอะไรอยู่หรือเปล่าเนี่ย" คมเดชเอ่ยแซวเมียและหัวเราะออกมาเบาๆ
"เปล่า ฉันไม่ได้คิด"
"จริงอะ พลอยไม่คิดแต่พี่คิดนะ"
"คิดบ้าอะไรของคุณอีกล่ะ"
"ก็คิดว่าอยากเอาเมียจัง"
"ไอ้บ้า ลามก ฉันวางโทรศัพท์แล้วนะ" แพรพลอยรีบกดวางโทรศัพท์ด้วยความอายคมเดชที่กล้าพูดเรื่องอย่างว่ากับตนเองแบบตรงๆ ปากเสียจนแพรพลอยคิดว่าตัวเองหน้าด้านตามคมเดชไปแล้วด้วย แต่คมเดชก็ระดมโทรกลับมาใหม่อีกหลายรอบจนแพรพลอยต้องกดรับสาย
"อะไรอีกล่ะ โทรมาอยู่ได้ฉันไม่อยากคุยกับคนปากเสียแบบคุณแล้ว พูดจาอะไรหัดเห็นใจคนฟังอย่างฉันบ้างก็ได้ไหม" แพรพลอยรับสายแล้วใส่คมเดชแบบไม่ยั้ง
"ปากเสียตรงไหน โกรธที่พี่พูดตรงๆ ว่าอยากเอาพลอยนะหรือ ก็พี่พูดความจริงอย่างที่ใจคิดมันผิดตรงไหน ทำไมพลอยไม่ชื่นชมว่าพี่เป็นคนพูดตรงไม่โกหกบ้างล่ะครับ"
"คุณนี่มันบ้า เถื่อน ลามกจริงๆ เลย"
"เถื่อน ลามก ก็เป็นผัวพลอย อือ คิดถึงเมียอ๊ะ อยาก....." คมเดชพูดโอดครวญ
"ไอ้ผู้กองบ้า หยุดพูด ไปนอนได้แล้วขืนฉันฟังคุณต่อฉันต้องนอนฝันร้ายแน่ๆ"
"ฝันร้ายอะไร ฟังต่อจะนอนฝันดีจนเผลอร้องครางละสิไม่ว่า เอาป่าวได้อยู่นะเซ็กส์โฟนกันไหม" คมเดชยังคงพูดแกล้งเมียชวนเล่นเซ็กส์โฟนเสียอย่างนั้น
"ไอ้คนบ้า ไม่เอาหยุดพูดเลยนะ พูดแต่เรื่องแบบนี้ห้อยพระอยู่พระเจ้าท่านจะคุ้มครองคุณไหมนั่น เดี๋ยวก็โดนพวกค้ายายิงตายหรอก" แพรพลอยว่าคมเดชอย่างเหลืออด
"พระท่านไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะพี่ยังมีเครื่องรางที่พกติดตัวไว้อีกชิ้น พกชิ้นนี้ไว้นะมีสติดีตลอดเลย เวลาออกไปปฏิบัติหน้าที่นะท่องไว้ตลอดต้องรอดกลับไปเอาเมีย หน้าเมียลอยมา แล้วก็......"
"เครื่องรางบ้าอะไรของคุณ พกไว้แล้วทำให้คิดถึงหน้าฉันขนาดนั้น ฉันไม่ได้เล่นของใส่คุณเสียหน่อย บ้าหรือเปล่า"
"อยากดูหรือเปล่าล่ะ เห็นแล้วของขึ้นทุกทีเลยนะ ยิ่งกว่าโดนไสยดำอีกบอกเลย" คมเดชหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี เมื่อได้เล่าถึงเรื่องเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง
"อะไรของคุณ เครื่องรางที่ว่ายิ่งกว่าโดนไสยดำน่ะ" แพรพลอยถามสีหน้าสงสัยขึ้นมา
"นี่ไง เครื่องรางของคมเดช" คมเดชพูดแล้วโชว์กางเกงในตัวบางสีดำขอแพรพลอยที่ทำตกไว้ตอนได้กับคมเดชครั้งแรกให้ดู
"นี่มัน....."
"กางเกงในของเมียจ๋าไง พี่เห็นแล้วนะคิดถึงตอนเรา...... คืนนี้พี่ก็คงต้องใช้มันอีกแล้วแหละ" คมเดชพูดอธิบายเป็นฉากๆ จนแพรพลอยนั้นขนลุกคิดตามที่คมเดชพูดบรรยายไปด้วย
"ไอ้คนบ้า โรคจิต ไม่เอาแล้วไม่คุยแล้วนอนๆ..." แพรพลอยแหวใส่คมเดชทันที
"นอนก็ได้ แต่เมียจ๋าอย่าเก็บไปฝันจนร้องครางล่ะ รอพี่ก่อนนะเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะรีบไปหานะ พี่ใช้เครื่องรางเป็นตัวช่วยให้หลับสนิททุกคืนเลย เครื่องรางชิ้นนี้ของเมียนี่ดีจริงๆ ทำให้พี่หลับฝันดีสบายเนื้อสบายตัวทุกคืนเลย" คมเดชพูดหยอกล้อเมียแล้วหัวเราะเสียงดัง ทำให้เมียเขินจนหน้าแดง
"ไอ้ผู้กองบ้ากาม" แพรพลอยพูดว่าคมเดชแล้วกดวางโทรศัพท์ หลับตาลงแล้วก็ยังได้ยินเรื่องเครื่องรางชิ้นนั้น สมองก็ยังนึกคิดถึงฉากรักที่ผ่านมาของตนเองกับคมเดชอยู่
"ไอ้เครื่องรางบ้า แล้วฉันจะนอนหลับมั้ยเนี่ย"