"เมียขาหายโกรธผัวขาแล้วเหรอคะ" ตอนนี้กลายเป็นผมที่มีน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน กล้ายอมรับแบบแมนๆ เลยว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมกลัวเท่ากับการโดนเมียรักทิ้งไปแล้วละครับทุกคน
"หายโกรธตั้งแต่ผัวขาบอกว่ารอเมียขาแล้วค่ะ" เธอเผยยิ้มอ่อนๆ น่ารักน่าชังน่าจับมาจุ๊บปากซะให้เข็ดส่งมาให้ผม
"แล้วสรุปเรื่องที่ผับวันนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของเราคะผัวขา"
"ก็ที่ผัวขาเข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์เสน่ห์ จริงๆ แล้ว ผัวขาแค่อยากจะขอให้เสน่ห์ช่วยเป็นแม่สื่อรักติดต่อเมียขาให้ผัวขาค่ะ" ผมพูดด้วยท่าทีจริงจัง และแน่นอนว่าทุกคำพูดของผมล้วนแต่เป็นความจริง...
"ก็แล้วทำไมผัวขาถึงไม่ยอมเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์ของเมียขาไปเลยละคะ?"
"คืองี้... ที่ผัวขากล้าที่จะขอเบอร์โทรศัพท์เสน่ห์เพราะปกติรายนั้นเขาไม่เคยมีแฟนแบบจริงๆ จังๆ และขอสารภาพมาจากใจจริงเลยว่าผัวขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเสน่ห์กับเฮียอั๋นเขาไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่น่าตลกไปกว่านั้นก็คือผัวขากลัวว่าบางทีเมียขาอาจจะมีคนที่รักอยู่แล้วด้วย ก็เลยไม่กล้าที่จะเข้าไปทักทายเมียขาแบบตรงๆ แต่ดันกลับกลายเป็นว่าผัวขาคิดผิดทั้งหมด ก็เลยได้โดนไอ้เฮียอั๋นต่อยฟรีไปหนึ่งหมัดอย่างที่เห็น" ผมยิ้มและจับปอยผมเธอมาลูบอย่างหวงแหน
"สรุปเมียขาเข้าใจผัวขาแล้วใช่ไหมคะ" ผมเอ่ยถามซ้ำอย่างยังนึกกล้าๆ กลัวๆ
จุ๊บ!
อึ้งไปเลยสิครับรออะไรอยู่! ผมโดนเมียขาเธอขโมยจูบครับทุกคน!
"ค่ะ...หายโกรธแล้ว ขอโทษนะคะที่งี่เง่าไปหน่อย" เธอยกมือพุ่มไหว้ก่อนก้มลงกราบบนอกของผมเบาๆ
"แต่เพื่อนของเมียขาแสบมากนะคะ" คิดแล้วผมก็ยังรู้สึกมันเขี้ยวเสน่ห์ไม่หายเลยนะเอาจริงๆ ถึงขั้นลงทุนทุ่มเงินซื้อบ้านหลังใหม่ให้กับเพื่อนเพื่อที่จะแกล้งผมโดยเฉพาะ เธอแสบมากจริงๆ ครับทุกคน
"มันก็สุดโต่งของมันแบบนี้แหละค่ะ" เธอหัวเราะ "แต่ครั้งหลังเมียขาจะไม่หนี ไม่วางแผนอะไรแบบนี้ เมียขาจะถามผัวขาก่อนนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ"
"แต่ผัวขาว่าแผนครั้งนี้ของเสน่ห์ก็ดีเหมือนกันนะคะ" ผมยิ้มกริ่มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าแผนการณ์อันแยบยลในครั้งนี้ของน้องเสน่ห์มันก็ไม่ได้มีแค่ผลเสียเพียงอย่างเดียว
"ดียังไงคะผัวขา?"
"แผนนี้มันทำให้เมียขารู้ใจตัวเองสักทีนะสิคะ" ผมยิ้มกว้างเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเธอนั้นหลงรักไอ้จ้าว คนที่สันดานเปรตๆ คนนี้เข้าให้แล้ว ฮ่าๆๆ
"ขอบคุณที่รักผัวขาตอบค่ะ"
"เมียขารักผัวขาตั้งแต่เริ่มแผนแล้วค่ะ แต่เมียขาเจียมตัวมาตลอด จนได้มารู้ว่าผัวขาเองก็รอเมียขามานานแล้วเหมือนกัน เมียขาก็เลย...หมดข้อกังขาไปเลยค่ะ" เธอยิ้มกว้างตอบกลับมา
"เมียขา... ตอนนี้พ่อของเมียขาท่านนอนหลับพักผ่อนอยู่หรือเปล่าคะ" ก็ยังคงมีอีกอย่างที่ผมสมควรที่จะกระทำ
"พาผัวขาไปหาพ่อหน่อยค่ะ"
"คุณพ่อ...สวัสดีครับ"
"ฉันไม่ใช่พ่อแก" ว่าจบคุณพ่อของเมีขาก็ตั้งท่าที่จะเดินหนีผมไปอีกครั้ง อารมณ์ประมาณว่าหน้ามึงกูก็ไม่อยากที่จะมอง ประมาณนั้นเลยครับทุกคน
"พ่อคะ..." เมียขาเธอเดินตรงเข้าไปดึงแขนให้พ่อทรุดตัวนั่งลงตามเดิม เพื่อที่จะให้ผมได้ทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ...
"ผมขอกราบขอโทษคุณพ่อครับ" ผมค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาผู้ที่อวุโสกว่าก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้าท่านด้วยความรู้สึกผิดจากใจจริง
"ผมขอหมั้นลูกสาวของคุณพ่อไปแล้ว ถ้าหาก... คุณพ่อไม่ว่าอะไร น้องเรียนจบเมื่อไหร่ผมจะแห่หันหมากมาสู่ขอน้องอย่างถูกต้องตามประเพณีครับ" ผมยกมือไหว้ท่านอย่างนอบน้อมอีกครั้ง
"แล้วแต่แกละกันน้ำหวาน ถ้าที่จะพูดมีแค่นี้ฉันขอตัว"
"ผัวขาคงต้องให้เวลาพ่อของเมียขาหน่อยสินะ" ผมหันไปยิ้มเจื่อนๆ กับเมียขา จริงๆ ผมเองก็ค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของท่านดีครับ เพราะถ้าหากกลับกันในวันนั้นเป็นท่านที่ยกปืนขึ้นมาจ่อขมับผม และถึงแม้เวลามันจะผ่านล่วงเลยไปนานมากแล้วก็ตาม... แต่ผมก็คงจะยังเคืองขุ่นไม่ต่างไปจากที่ท่านกำลังเป็นอยู่หรอก...
"ไม่เป็นไรนะคะผัวขา..." เธอส่งยิ้มหวานที่ทำให้ผมใจฟูทุกครั้งที่ได้เห็นอย่างให้กำลังใจ
"ฉันกลับก่อนนะน้ำหวาน" พิซี่...เดินออกมาจากที่ซ่อนด้วยท่าทีที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอรู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำเมื่อก่อนหน้านี้ของผมมากแค่ไหน
"ขอโทษที่ทำให้ตกใจครับ" ผมก้มหัวให้พิซี่น้อยๆ เชิงขอโทษที่ทำให้เธอต้องเสียขวัญ
"เอ่อ...อย่าทำอย่างนั้นเลยค่ะ เอ๊ย! ครับ ผมลาก่อนครับสวัสดีครับ" ว่าแล้วพิซี่ก็วิ่งออกไปอย่างเร็วจนผมกับเมียขาแทบจะหลุดหัวเราะออกมา
"ผัวขาทำให้เพื่อนของเมียขากลัวนะคะ" เธอพูดยิ้มๆ
"แต่...ผัวขาไม่ได้ตั้งใจนะคะ" ผมเองก็รีบแก้ตัวแทบจะในทันทีเพราะกลัวเธอจะโกรธและหนีหายไปจากผมอีก "เมียขาคะ"
"คะ?"
"วันเสาร์นี้ไปทานข้าวที่บ้านผัวขากับครอบครัวผัวขานะคะ"
แกเจอศึกหนักแล้วไอ้จ้าว ดูเหมือนว่าพ่อเมียเขาจะไม่อยากจะเสวนากับแกเลยนะนั่น