วันต่อมา
ศิลาลงมาข้างล่างก็เห็นป้าผึ้งกำลังจัดโต๊ะรอมองเข้าไปในครัวก็ไม่เห็นเจ้าขาจะถามก็ไม่กล้าจึงเดินมานั่งรอที่โต๊ะเผื่อเธอจะยกกาแฟมาเสิร์ฟเหมือนทุกวัน แต่ทุกอย่างกับผิดคลาดเพราะวันนี้ป้าผึ้งทำทุกอย่างเองโดยไม่มีเด็กตัวเล็กเข้ามาวุ่นวายเลย
อาหารเช้าวันนี้ไม่อร่อยเหมือนทุกวันทำให้ศิลาต้องวางช้อนเพื่อเปลี่ยนมาจิบกาแฟแทน
“เจ้าขายังไม่ตื่นหรือไง” ผมมองเวลาที่ข้อมือตอนนี้07.30น.แล้วนะปกติเธอไม่เคยตื่นสายหรือเพราะเมื่อคืนเธอเลยไม่ยอมออกจากห้อง
“ตื่นตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ เธอมาขอป้าออกไปทำธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับ”
ศิลารีบวางแก้วกาแฟลงแล้วขอตัวออกมาทำงานทำเอาป้าผึ้งมองตามจนพ้นสายตา หันกลับมามองของบนโต๊ะถึงได้รู้ว่าเจ้านายของตนแทบไม่แตะอาหารเลย
ด้านศิลาเมื่อมาถึงโรงพยาบาลก้พยายามสงบจิตสงบใจของตัวเองแต่ก็ยังพวงเรื่องเมื่อคืนไม่หาย รสชาติความหวาน ไหนจะภาพความสวยงามของเธอมันยังติดตาไม่หายแต่ก็ต้องสลัดความคิดเมื่อประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของแฟนสาวอย่างริต้า
“ที่รักขา..เมื่อคืนทำไมไม่กลับไปหาริต้าคะ” สาวสวยเดินสับเข้ามานั่งตักของแฟนหนุ่ม สองแขนก็โอบกอดจนในหน้าของศิลาแนบอยู่กับหน้าอกของเธอ
“เมื่อคืนผมเมาไอ้นพมันเลยพามาส่งบ้าน แล้วทำไมวันนี้ถึงมาหาผมได้ล่ะไม่ได้ทำงานหรือไง”
“เฮ้ออ เบื่อค่ะเลยขอกลับก่อนงานของริต้ามันน่าเบื่อ วันนี้มีถ่ายแบบเครื่องใช้ไฟฟ้ามันไม่เข้ากับริต้าเลย อย่างริต้าควรได้งานมีระดับกว่านี้สิ อย่างแบรนด์เสื้อผ้าวาริส หรือไม่ก็เครื่องสำอางแบรนด์ดัง พี่ลิลลี่รับแต่งานอะไรก็ไม่รู้!”
“แต่เงินก็ได้เท่ากันไม่ใช่หรือไง หรือจะมาเป็นเจ้าสาวให้ผมมาคอยดูแลผม ผมอยากมีครอบครัวแล้วนะริต้า” ศิลาสวมกอดแฟนสาวด้วยความรักที่มี แต่ริต้ากับดันตัวออก
“แม่บ้านก็มีทำไมต้องให้ริต้าทำด้วยค่ะ ริต้าเป็นเมียนะไม่ใช่แม่บ้าน อีกอย่างถ้าแต่งงานไปแล้วคะแนนนิยมของริต้าจะลดลงทันที ตอนนี้ริต้ายังไม่ได้ขึ้นไปจุดสูงสุดเลย เพราะฉะนั้นรอไปก่อนนะคะ” สาวสวยรีบลุกขึ้นเพื่อไปนั่งเล่นในห้องพักด้านหลังห้องทำงานของแฟนหนุ่ม คำตอบของริต้าทำให้ศิลาถอนหายใจด้วยความเอือมระอา เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิลาถามถึงเรื่องอนาคตการมีครอบครัว
เวลาผ่านไปจนกระทั้งเลิกงานริต้าเธอมีนัดกับเพื่อนๆจึงขอตัวกลับก่อนศิลาเลยรีบกลับมาบ้านแต่พอกลับมาก็ยังไม่เห็นเจ้าขาจึงเดินมาด้านหลังพอเห็นสาวน้อยเดินเข้าห้องก็โล่งใจ แต่ตรงนี้มีคนสวนอย่างลุงเรืองกับป้าผึ้งอยู่ตนจึงเดินกลับขึ้นมาบนห้อง อยากจะโทรคุยแต่ก็ลืมไปว่าเจ้าขาไม่มีโทรศัพท์ วันนี้เธอไปไหนมาไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย
วันต่อมา
ผมเดินลงมาด้านล่างก็ไม่เจอเจ้าขา อีกแล้ว!! โทรศัพท์เครื่องเก่าของผมที่หยิบติดมือมาด้วยต้องรีบเก็บใส่กระเป๋าทันที ป้าผึ้งยกอาหารเช้ากับกาแฟออกมาผมเลยถามหาเจ้าขาแต่ก็ได้คำตอบว่าเธอออกไปทำธุระข้างนอก ธุระอะไรสองวันแล้วยังไม่จบไม่สิ้นอีก
“ป้าก็รู้ว่ามันอันตรายไม่ใช่เหรอทำไมปล่อยให้ออกไปแบบนั้น!” น้ำเสียงของศิลาดูไม่พอใจแต่ป้าผึ้งก็ไม่รู้จริงๆเพราะเจ้าขาไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้เลย
“ไว้ป้าจะถามให้นะคะ”
“เมื่อวานเจ้าขากลับมากี่โมง”
“3โมงเย็นค่ะ” อะไรกันสามโมงเย็นนี่เท่ากับว่าเธอหายไปทั้งวันเลยนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไงขนาดผมลงมาแต่เช้ายังไม่เจอเธอเลย ไปไหนไม่บอกเจ้าของบ้านมันใช้ได้ที่ไหนกัน
“แล้ววันนี้คุณศิลาไม่ไปทำงานหรือคะ” เมื่อเจ้านายถอดชุดที่สวมใส่ออกแถมยังมีสีหน้าหงุดหงิดป้าผึ้งก็ต้องรีบเอ่ยถาม
“ไม่ไป!!” ผมเดินกลับขึ้นมาบนห้องเพื่อหยิบเอกสารการเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่เตรียมไว้ให้เจ้าขาทิ้งลงถังขนะ เด็กแบบนี้จะส่งเสียไปทำไม
เวลาผ่านไปจนเย็นเจ้าขาก็เดินกลับเข้ามาแต่ก็ถูกสายตาของเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่มองอย่างไม่ละสายตา เธอเลยเดินกลับเข้ามาในห้องเพื่อเตรียมเข้าครัวแต่จู่ ๆ ประตูห้องก็เปิดแถมชายหนุ่มยังเดินเข้ามาโดยไม่เคาะประตูอีก
“คุณอา!” เจ้าขาอุทานด้วยความตกใจขาของเธอก้าวถอยออกไปอย่างอัตโนมัติแต่ก็ไม่อาจพ้นมือของศิลาที่คว้าตัวเธอไว้
“ไปไหนมา หายไปทั้งวันแบบนี้ทำไมไม่รู้จักบอกฮะ!!” เสียงของศิลาทำเอาเจ้าขาแทบร้องไห้ เธอไม่เคยถูกดุขนาดนี้มาก่อนศิลาเลยปล่อยมือออกจากแขนของเธอ
“หนูไปทำธุระมาค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอก”
“ธุระอะไรทำไมต้องไปทุกวันแถมยังไปทั้งวันอีก”
เจ้าขาหันไปหยิบเอกสารสมัครเรียนให้ศิลาดูทำให้ศิลาเห็นแผลที่นิ้วของเธอจึงดึงมือขึ้นมาดูแต่เจ้าขากลับดึงมือออก
“ไปโดนอะไรมา แค่ไปสมัครเรียนทำไมต้องหายไปทั้งวัน เธอไปทำอะไรมากันแน่!” ศิลายังคงคาดคั้นเอาคำตอบจนเจ้าขาต้องยอมบอกความจริง
“หนูแค่ไปสมัครเรียนมาค่ะ แต่หนูไม่อยากรบกวนคุณอาหนูก็เลยไปทำงานที่ร้านอาหารมา หนูเห็นว่าคุณอาทำงานก็เหนื่อยพอแล้วถ้าต้องไปรบกวนเรื่องเรียนอีกมันจะมากเกินไป คุณอาขา...หนูขอโทษนะคะ”
ศิลาหยิบเอกสารการสมัครเรียนมาดูถึงได้เห็นว่าเป็นมหาลัยที่ค่าเทอมไม่ได้แพงมากแต่ก็ต่างจากที่ตัวเองหาไว้ให้ลิบลับ
“คราวหลังบอกกันก่อนเธอก็รู้ว่าข้างนอกมันไม่ปลอดภัย ถ้าโดนจับตัวไปอีกจะทำยังไง ครั้งนี้ฉันคงไปช่วยไม่ได้แล้วนะ” คำอธิบายของศิลาทำให้เจ้าขาต้องก้มหน้าลง เธอรู้ว่าครั้งนี้เธอผิดที่ไม่ได้บอกแต่เธอแค่ไม่อยากเอาภาระของเธอมาให้เจ้าของบ้านเพิ่มเท่านั้นเอง
“ค่ะ จะไม่มีแบบนี้อีกแล้วค่ะ”
“อืม ส่วนเรื่องคืนนั้นฉันขอโทษนะ ฉันเมามากจนคุมตัวเองไม่ได้ จะพยายามเลี่ยงถ้าเมาจะไม่กลับบ้านเธอจะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้อีก” ผมมองรอยแดงที่คอแม้จะมีพลาสเตอร์แปะไว้แต่ก็ไม่มิดเอาซะเลย ทนไปก่อนนะเป็นอาทิตย์นั่นแหละกว่าจะหาย
“หนูรู้ค่ะว่าคุณอาเมามาก ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขออาบน้ำก่อนนะคะเดี๋ยวจะออกไปทำกับข้าวให้”
“อืม”