หลังจากตรวจร่างกายของเจ้าขาจนเสร็จแล้วศิลาก็รีบพาเจ้าขากลับมาพักที่บ้านคืนนี้คงต้องนอนระบมแน่ ๆ เท่าที่ศิลาตรวจดูมีรอยฟกช้ำหลายจุดเลย ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลก็ไม่ยอม
กลับมาถึงบ้านศิลาก็พยุงสาวน้อยเข้ามาพักที่ห้องแม้สาวน้อยจะเกรงใจที่ตนนั้นเป็นสาเหตุให้ชายหนุ่มต้องทิ้งแฟนสาวให้อยู่คนเดียวแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเธอเลยมีแต่เธอที่คิดมากอยู่คนเดียว
“กินข้าวกินยาด้วย พรุ่งนี้คงจะระบมกว่านี้ มีอะไรก็เรียกนะป้าผึ้งทำกับข้าวอยู่ ส่วนนี้ของเธอ” ศิลามองดูเจ้าขาที่พยายามตักข้าวทานเองแต่ด้วยความไม่ถนัดของบาดแผลที่แขนศิลาเลยต้องลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเพื่อป้อนข้าวเอง
“คุณอา...หนูกินเองก็ได้ค่ะ” เจ้าขาพยายามดึงจานข้าวกลับแต่ถูกสายตาของชายหนุ่มดุเข้าเธอจึงต้องจำยอมให้ชายหนุ่มป้อนต่อ
“ฉันมาคิด ๆ ดูแล้วถ้าเธอสนใจอยากจะเรียนต่อฉันจะช่วยส่งนะ สนใจไหม” ผมมองหน้าเด็กน้อยที่กำลังเคี้ยวข้าวแต่พอผมพูดจบเธอก็ทำตาโตขึ้นมาทันที
“หนูเกรงใจค่ะ หนูเก็บเงินเรียนเองก็ได้ค่ะแค่นี้หนูก็ตอบแทนพระคุณของคุณอาไม่ไหวแล้ว” รอยยิ้มของสาวน้อยส่งมาให้ศิลาที่นั่งมองหน้าเธออยู่แม้จะอยากเรียนมากแค่ไหนแต่ถ้าภาระค่าใช้จ่ายศิลาต้องแบกรับคนเดียวเธอก็คงทนไม่ได้เหมือนกัน
“ถ้าอยากเรียนฉันส่งเสียได้ ยังไงก็อยู่ที่นี่ในฐานะหลานของฉันอยู่แล้ว เรียนจบจะได้หางานทำตั้งตัวได้เมื่อไหร่เธอจะไปจากที่นี่ก็ได้แต่ช่วงนี้คนของซ่องมันยังวนเวียนตามหาตัวเธออยู่เพราะฉะนั้นช่วงนี้ก็อย่าพึ่งไปไหนมาไหนคนเดียวรู้ไหม” มือหนาเผลอวางลงบนหัวของเจ้าขาก่อนจะโยกเบาๆ
“ค่ะ” ฉันตอบสั้นๆหลังจากอิ่มแล้วคุณอาก็จัดยาให้ฉันทานส่วนตัวเองกลับขึ้นไปอาบน้ำบนห้องฉันเลยได้งีบหลับเพราะฤทธิ์ยา หวังว่าหลังจากนี้คงไม่มีเรื่องอะไรอีกนะ แค่นี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองซวยซ้ำซวยซ้อนจะแย่อยู่แล้ว
//ศิลา//
ผมปล่อยให้เจ้าขานอนหลับพักผ่อน ส่วนตัวเองก็กลับขึ้นมาดูข้อมูลมหาวิทยาลัยไว้ให้เจ้าขาได้เลือก และข้อมูลแผนกสาขาของแต่ละที่ พอลงมากลางดึกก็เห็นเด็กตัวเล็กพยายามเดินมาเปิดตู้เย็นในครัวผมเลยต้องวางไอแพดในมือและรีบไปช่วยเธอไว้
“อ๊ะ!” สาวน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อถูกมือหนาของคุณอาจับเอาไว้ไม่งั้นเธออาจจะล้มไปแล้ว
“หิวน้ำหรือไง” ผมมองหน้าเด็กตัวเล็กที่มองผมด้วยสายตากลมโต เธอพยักหน้าให้ผมเป็นคำตอบผมเลยพาเธอมานั่งจากนั้นก็เปิดตู้เย็นหยิบน้ำมาเทใส่แก้วให้เธอ
“ขอบคุณค่ะคุณอา” สาวน้อยยิ้มหวานให้เบาๆ วันนี้เธอหลับไปหลายชั่วโมงแล้วทำให้คืนนี้เธอนอนไม่หลับเลยออกมาหาผลไม้ทาน โชคดีที่ศิลาลงมาพอดีเลยอาสาปลอกผลไม้ให้เธอ
เจ้าขานั่งทานเงียบๆสายตาก็มองชายหนุ่มเป็นระยะแต่เหมือนว่าศิลาเองก็รู้สึกว่าเธอนั้นแอบมองตนเองอยู่เหมือนกัน ความเงียบที่กำลังกลืนกินทั้งสองทำให้เสียงหัวใจของเจ้าขาเต้นผิดปกติ
“หนูอิ่มแล้วค่ะคุณอา” เจ้าขารีบช่วยศิลาเก็บจานแต่ศิลาดึงทุกอย่างไปเก็บเองจากนั้นก็พาเธอเข้ามานอนพักในห้อง เพียงแค่เจ้าขาเอนตัวลงนอนศิลาก็หยิบหนังสือที่เธออ่านค้างไว้ขึ้นมาดู ถึงได้เห็นหนังสือเกี่ยวกับการเตรียมสอบเข้าสาขาบัญชี
“อยากเรียนบัญชีหรือไง”
“แค่อ่านเฉยๆค่ะคุณอา” สายตาของเจ้าขาที่มองมาทำเอาศิลาแอบหวั่นใจเล็กน้อย หรือเป็นเพราะตนอยู่ใกล้ชิดกับเธอมากเกินไปถึงได้รู้สึกหวั่นไหวแบบนี้
“ลองไปคิดดูนะอยากเรียนอะไร ค้นหาตัวเองให้เจอฉันไปนอนแล้ว เธอก็อย่านอนดึกนักล่ะ”
“ค่ะคุณอา...”
หลังจากวันนั้นศิลาก็พยายามเว้นระยะห่างกับเจ้าขามากขึ้น เลิกงานแล้วก็แวะเวียนไปหาแฟนสาวบ่อยๆเพื่อกระชับความสำพันธ์กับเธอ ดูเหมือนว่าริต้าจะพึงพอใจเป็นอย่างมาก บางคืนที่ทั้งสองร่วมรักกันจนดึกดื่นศิลาก็เลือกที่จะนอนคอนโดของเธอ
ผับอโคจร
หลังจากที่ศิลาได้ลงเวรแล้วก็ได้โทรนัดเพื่อนสนิทอย่างนพดลเพื่อมานั่งดื่มปรับทุกข์กับตนเองความอึดอัดในใจมันทำให้ศิลายกแก้วถี่กว่าทุกครั้ง
“มึงเป็นอะไรวะทำไมแดกถี่ขนาดนี้” นพดลมองเพื่อรักที่ดูมีเรื่องหนักใจแต่ก็ไม่ยอมปริปากพูดออกมา
“กูอึดอัด ตั้งแต่เจ้าขามาอยู่ที่บ้านกูรู้สึกว่ามันมากเกินไป”
“อะไรที่มากเกินไป นิสัยไม่ดีเหรอหรือยังไง”
“เธอเก่งงานบ้าน เอาใจเก่ง รู้จักดูแลคนอื่นยิ้มสวยแต่กูไม่ชอบ เจ้าขาจะทำหน้าที่ทุกอย่างแทนริต้าไม่ได้!!” ศิลาเริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหวจึงระบายทุกอย่างในใจออกมาให้นพดลฟัง
“แล้วริต้าเคยทำอะไรแบบนี้เหรอวะ เท่าที่รู้จักแม้แต่ข้าวยังซื้อกินเลย” คำพูดของนพดลทำเอาศิลาแทบสำลัก เพราะเพื่อนตนนั้นก็รู้จักริต้าเป็นอย่างดี สังคมของริต้าค่อนข้างสูงเธอเป็นนางแบบ งานค่อนข้างหนักต้องดูแลตัวเองตลอดเวลาเลยไม่ถนัดเรื่องงานบ้านเท่าไหร่
“แต่วันข้างหน้าถ้าแต่งงานไปริต้าก็ต้องทำหรือเปล่า”
“ถ้างั้นมึงให้เจ้าขามาอยู่กับกูไหมหรือไม่ก็ส่งกลับไปเลย ขืนมึงมาเลี้ยงไว้แบบนี้สักวันริต้าก็ต้องรู้ว่าเจ้าขาไม่ใช่หลานของมึง”
เมื่อเวลาผ่านไปศิลาก็เริ่มทรงตัวไม่อยู่ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ได้ดื่มเริ่มแผลงฤทธิ์จนนพดลต้องพามาส่งที่บ้าน เพียงแค่รถมาจอดนพดลก็เห็นเจ้าขานั่งรออยู่กลางบ้านเธอจึงมาช่วยนพดลพยุงร่างของเจ้านายขึ้นไปพัก
นพดลมองสายตาของเจ้าขาที่มองเพื่อนรักก็ยังแอบหวั่นใจ ทำไมเธอถึงดูเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนของตนเหลือเกิน สาวน้อยวิ่งไปลองน้ำเย็นใส่กะละมังใบเล็ก ๆ แล้วหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าของเพื่อนที่สะลึมสะลืออยู่บนเตียง
“น้องเจ้าขาพี่ฝากหน่อยแล้วกันนะ เดี๋ยวพี่ต้องกลับไปเอารถที่ผับอีก” นพดลยิ้มหวานให้เจ้าขาเธอจึงรีบเดินตามมาส่ง
“ให้หนูเรียกรถให้ไหมคะคุณนพดล”
“ไม่เป็นไรเพื่อนฉันมารออยู่หน้าบ้านแล้ว ฝากดูไอ้ศิลาหน่อยนะมีอะไรก็โทรหาฉันได้” นพดลส่งนามบัตรให้เจ้าขาเธอจึงรับเอาไว้และยกมือไหว้ลาชายหนุ่ม จากนั้นก็รีบขึ้นไปจัดการกับเจ้านายที่นอนบ่นอยู่บนเตียง
“คุณอาคะนอนดีๆค่ะ” สาวน้อยถอดถุงเท้าให้ แล้วเช็ดหน้าเช็ดตาจนศิลาเริ่มรู้สึกตัว สายตาที่มองมามันเริ่มแปลกไป เจ้าขาทำไมถึงได้สะสวยขนาดนี้
มือหนาคว้าเอาข้อมือเล็กๆที่กำลังเก็บโทรศัพท์ของศิลาขึ้นมาวางเธอจึงตกใจหันไปมอง แรงของคนบนเตียงจึงกระชากร่างของเธอเข้ามากอด
“อ๊ะ! คุณอาอย่าค่ะ!!” สาวตัวเล็กพยายามดิ้นแต่กลับถูกร่างหนาโถมทับมาทั้งตัวจนเธอไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้เลย
“อย่า...ดิ้นนน...อืมมม” ริมฝีปากหนาพยายามยัดเยียดเข้ามาหาเธอเจ้าขาเลยร้องขอให้หยุดแต่ดูเหมือนว่าคำขอร้องของเธอจะไม่เป็นผลศิลากำลังหน้ามืด ทั้งกอด ทั้งจูบ มือไม้ก็ลูบคลำไปทั่วเลือนร่าง
“หวานจังเลย...” ซอกคอขาวถูกสร้างรอยเอาไว้จนเด่นชัด ชุดนอนที่เธอใส่ถูกเลิกขึ้นจนเห็นจุกสีสวยศิลาเลยปาดลิ้นเข้าที่ยอดอกอย่างลืมตัว เสียงดังลามกทำเอาแก่นกายเริ่มแข็งจนอยากจะถอดกางเกงแล้วเสียบเข้าร่องรักของสาวน้อยตรงหน้า
“ฮึก! คุณอา...พอแล้วเจ้าขากลัวแล้วค่ะ” เสียงร้องไห้สะอื้นของเจ้าขาทำให้สติของศิลากลับมาอีกครั้ง ศิลารีบผละออกจากตัวเจ้าขาเธอจึงรีบใส่เสื้อผ้าที่ถูกดึงจนเปิดเห็นสองเต้าให้เข้าที่
“เจ้าขา!!”
“คุณอาฮือออ!” เจ้าขารีบวิ่งแจ้นออกไปจากห้องทำให้ศิลาหัวใจหล่นวูบกับการกระทำของตัวเอง อยากจะวิ่งตามไปแต่ตอนนี้เจ้าขาคงไม่กล้ามองหน้าตนแล้วแน่ ๆ