“ขอโทษนะครับถ้าผมอยากได้ผู้หญิงคนนี้ผมต้องจ่ายเท่าไหร่ครับ” ศิลามองหน้าเจ้าขาที่ฟกช้ำจากการถูกตบตีแถมจมูกยังมีเลือดกำเดาไหลไม่หยุด เห็นแบบนี้จรรยาบรรณแพทย์มันพุ่งขึ้นมาเลย
“คุณต้องสมัครเมมเบอร์ก่อนครับ เท่าที่ดูแล้วคุณไม่ใช่สมาชิกของที่นี่นะ” การ์ดที่กำลังจับตัวเจ้าขาเอ่ยปากท้วงพร้อมกับแสยะยิ้ม ศิลาเลยขอเวลา5นาทีเพื่อเดินกลับไปที่รถและเอาเมมเบอร์ของเพื่อนรักมาใช้ การ์ดเลยจำยอมพาไปคุยกับเจ๊ด้านใน
ผมเดินมาจัดการเรื่องเงินหลักหมื่นที่ผมรู้สึกว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า ปกติผมซื้อแพงสุดก็แค่3,000เอง บ้าบอนี่ตั้ง25,000 แถมสภาพยับเยินขนาดนี้ขึ้นเตียงนี่ช้ำในตายได้เลยนะ
ผมพาเด็กที่กำลังพยุงตัวเองเดินตามผมมาที่รถ สายตาเธอยังคงหวาดกลัวนี่คงเป็นครั้งแรกสินะที่ต้องมาทำงานแบบนี้ เธอพยายามอยากจะพูดอะไรกับผมแต่พอเปิดประตูเข้ามาเห็นไอ้นพนอนอยู่เธอก็ถอยหลังทันที
“ไม่ต้องกลัวมันไม่มีแรงทำอะไรเธอหรอก ขึ้นรถฉันจะพาเธอไปแจ้งความ” เธอยอมขึ้นรถมากับผมแต่โดยดีผมไม่ได้อยากรับรู้เรื่องของเธอเลยปล่อยให้เธอนั่งมาเงียบๆจนถึงโรงพัก
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู เดี๋ยวหนูจะรีบหาเงินมาคืนคุณนะคะ” เจ้าขายกมือไหว้ศิลาเลยพยักหน้าและลงมากับเธอ พอลงบันทึกประจำวันเสร็จเจ้าหน้าที่ก็เดินมาหาผมเพื่อจะจัดการส่งเธอกลับไปบ้านเด็กกำพร้าเหมือนเดิม แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อยผมเลยเลยเดินไปบอกเธอเพื่อที่จะได้กลับไปนอนสักที
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ หนูจะไม่ลืมพระคุณเลย”
“อืม โชคดีแล้วกันนะ” ผมเดินลงมาข้างล่างเพื่อรับสายริต้าแฟนสาวของผมที่โทรหาผมหลายสายแล้ว แต่หูของผมดันไปได้ยินตำรวจชั้นผู้น้อยที่นั่งตบยุงสูบบุหรี่อยู่ด้านข้างโรงพักคุยกันเสียก่อน
[ไปเถอะนายให้เอาเด็กไปส่งซ่อง]
ผมถึงกับต้องวางสายริต้าแล้วเดินกลับขึ้นไปเอาตัวเด็กนั่นลงมา แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะห้ามไว้แต่ผมก็ท้วงกลับไป
“ผมว่าผมไปส่งเธอเองดีกว่าครับ ผมต้องไปส่งเพื่อนพอดี” ผมมองออกไปที่รถตอนนี้ไอ้นพมันกำลังเปิดประตูวิ่งมาอาเจียนอยู่ใต้ต้นไม้ จากนั้นผมก็พาเธอมานั่งที่รถแล้วเดินไปดูอาการเพื่อนผมต่อ
“ทำไมถึงไม่ให้ตำรวจไปส่งคะ แต่หนูไม่กล้าปฏิเสธเพราะหนูรู้สึกว่าตำรวจที่นี่ไม่น่าไว้ใจเลย” เจ้าขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทำให้นพที่พอได้สติต้องยื่นหน้ามามองเจ้าของเสียง
“น้องงง ยอมปายยยกับพี่แล้วเหรอออ” นพชะโงกหน้ามาถามเจ้าขาทำให้เจ้าขาต้องเอี้ยวตัวหลบ ศิลาเลยดันเพื่อนให้กลับไปนอนเงียบๆอยู่ด้านหลัง
“เอางี้ไหมไปนอนบ้านผมก่อน เช้าผมจะไปส่งที่บ้านเด็กกำพร้าจากนั้นคุณก็บอกเรื่องราวนี้กับคนดูแลเอา ผมช่วยคุณได้แค่นี้จริงๆผมเป็นหมอผมมีงานต้องทำ”
“ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้ฉันก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว”
รถของศิลาขับมาส่งเพื่อที่คอนโดจากนั้นก็รีบกลับบ้านแต่ก็ไม่ลืมโทรบอกแฟนสาวของตัวเองว่าถึงบ้านแล้ว เจ้าขามองไปด้านหน้าก็ต้องตกใจเมื่อเห็นบ้านหลังใหญ่พอๆกับบ้านของเจ้าของซ่องที่เธอไปมาเมื่อเช้า เพียงแค่รถจอดแม่บ้านก็เดินลงมาช่วยกันถือของแต่ก็ต้องตกใจที่เห็นสภาพของเธอ
“ตายจริงคุณศิลานี่มันอะไรกันคะ” สาวใหญ่เอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาววัยรุ่นเนื้อตัวเปื้อนเลือดแถมยังมีร่องรอยถูกทำร้ายไปทั้งตัว
“ป้าผมฝากจัดการด้วยนะ เอาเสื้อผ้าของริต้ามาให้เธอใส่ก่อนก็ได้ผมขอไปอาบน้ำก่อน ให้นอนห้องข้างล่างก็ได้” ศิลาเดินดิ่งขึ้นห้องนอนเพื่ออาบน้ำวันนี้ตนทำงานหนักแถมยังมาเจอเรื่องวุ่นวายจนต้องเสียเวลาไปหลายชั่วโมง โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดจึงสามารถตื่นสายได้
//เจ้าขา//
ฉันได้อาบน้ำล้างเลือดที่เปอะเปื้อนออกจนหมด แต่พอออกมาก็เจอผู้ชายคนนั้นที่ช่วยฉันไว้ ฉันยังไม่รู้จักชื่อเขาเลยอย่างน้อยเขาก็ช่วยฉันให้รอดพ้นจากน้ำมือคนชั่ว
“เจ็บตรงไหนบ้างนี่ยาทา ทาเองได้ใช่ไหม” ศิลาหยิบยาทาออกมาจากกล่องพร้อมกับยาแก้ปวด วันนี้เจ้าขาโดนตี โดนตบไหนจะโดนกระทืบอีก ดีที่พวกมันออมแรงเพื่อขู่ให้เธอกลัวเท่านั้น ไม่งั้นป่านนี้คงได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มอยู่โรงพยาบาลแล้ว
“ค่ะ” สาวน้อยรับยามาไว้ในมือสายตาของเธอที่มองชายหนุ่มทำให้ชายหนุ่มต้องหลบอย่างไว เธอเลยต้องก้มหน้าเพื่อดูยาในมือที่ชายหนุ่มส่งมาให้
“ฉันชื่อศิลา อายุมากกว่าเธอหลายปีอยู่หรอก” ผมมองดูเด็กคนนี้เธออายุแค่18เอง เท่าหลานชายผมเลยนะ
“ค่ะ หนูขอตัวไปนอนก่อนนะคะ รู้สึกเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมดเลย” ฉันรีบเดินกลับมานอนที่ห้องด้านหลังติดกับคุณป้าแม่บ้าน อย่างน้อยที่นี่ก็ปลอดภัยคืนนี้ฉันคงได้นอนหลับฝันดี พรุ่งนี้ก็ได้กลับไปหาแม่นกแล้ว
วันต่อมา...
ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวกลับไปบ้านเด็กกำพร้าแต่นี่09.00น.แล้วทำไมคุณศิลายังไม่ลงมาอีก ฉันพยายามมองหาคุณป้าแม่บ้านเพื่อถามหาคุณศิลาแต่ไม่ทันไรเจ้าของบ้านก็เดินลงมาในชุดลำลอง กางเกงยีนเสื้อยืดสีขาวสวมเสื้อคุมสีดำเท่ห์ชะมัดเลย
“เมื่อคืนหลับสบายไหมเจ้าขา” ศิลาเอ่ยถามเด็กสาวที่นั่งรออย่างเจียมตัว เธอไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้าเบาๆ
“คุณศิลาคะแม่หนูคนนี้ตื่นมาทำอาหารเช้าให้เรียบร้อยแล้วค่ะ เธอบอกว่าไม่รู้จะตอบแทนอะไรคุณศิลา” คุณป้าแม่บ้านยิ้มร่าเมื่อได้เห็นสาวน้อยที่รู้จักงานบ้านงานเรือนแถมยังเป็นเด็กเรียบร้อยอีก
“ครับ” เจ้าของบ้านเดินมานั่งที่โต๊ะเจ้าขาเลยรีบเข้าไปช่วยคุณป้าแม่บ้านยกมาเสิร์ฟ วันนี้เธอทำเมนูง่ายๆอย่างข้าวต้มกุ้ง ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่านี่คือเมนูโปรดของศิลาเลย
หลังจากที่ศิลาทานข้าวอิ่มแล้วก็พาเจ้าขาขึ้นรถเพื่อมาส่งเธอที่บ้านเด็กกำพร้า รอยยิ้มของความดีใจเผยออกมาพร้อมหยดน้ำตาแต่ไม่ทันที่เจ้าขาจะเอ่ยขอบคุณศิลาก็มองเห็นความผิดปกติด้านนอก
“ฉันว่าเธอคงกลับมาที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ” สายตาของเด็กน้อยมองหน้าศิลาด้วยความไม่เข้าใจ ศิลาเลยชี้ให้เธอดูการ์ดที่ซ้อมเธอเมื่อคืนที่กำลังป้วนเปี้ยนอยู่หน้าบ้านเด็กกำพร้า
“หนูไม่มีที่ไปแล้วค่ะ หรือหนูจะต้องกลับไปที่ซ่องจริงๆ” น้ำเสียงและแววตาที่เริ่มทนความหวาดกลัวไม่ไหวทำให้ศิลาต้องจำใจขับรถออกมาจากที่นั่น