ตอนที่ 7

1154 คำ
     “ถ้าคิดว่าพี่หนึ่งเป็นผู้ชายที่ดีมาก ทำไมมิรินมานั่งเศร้าอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะครับ ทำไมไม่ไปอยู่กับพี่หนึ่งในห้องนอน”          มิรินดาไม่อาจจะซ่อนเร้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว          หล่อนช้อนตาขึ้นมองอนล น้องชายของผู้เป็นสามี          “มิริน... ไม่อยากรบกวนพี่หนึ่งค่ะ” น้ำเสียงของมิรินทั้งสั่นเทาทั้งโศกเศร้า จนอนลเวทนาเหลือเกิน          “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับมิริน ลืมไปแล้วหรือไงว่ามิรินเป็นภรรยาของพี่หนึ่ง...”          คนฟังได้แต่ปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างสุดจะกลั้น          “ระหว่างสามีภรรยา ไม่มีอะไรรบกวนกันหรอกครับ กลับขึ้นไปอยู่กับพี่หนึ่งเถอะครับ”          นี่หากอนลรู้ว่า ตั้งแต่หล่อนกับอินทัชแต่งงานกันมา หล่อนยังไม่เคยทำหน้าที่ภรรยาบนเตียงของอินทัชเลย เขาจะยังคิดแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่านะ          “มิริน... คิดถึงบ้านน่ะค่ะพี่สอง”          อนลส่ายหน้าไปมา มองหน้ามิรินด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย          “พี่ไม่รู้หรอกนะว่ามิรินกับพี่หนึ่งทะเลาะอะไรกัน แต่พี่อยากให้ใจเย็นๆ ใช้เหตุผลคุยกันอย่าใจอารมณ์ แล้วทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี เชื่อพี่สิครับ”          “แต่... มิริน...”          “กลับขึ้นไปพักผ่อนนะครับมิริน เชื่อพี่สิว่าพรุ่งนี้เวลาที่มิรินตื่นขึ้นมาตอนเช้า มิรินจะมีความสุขมากกว่าตอนนี้”          หล่อนจะมีความสุขได้ยังไงกัน ในเมื่อ... อินทัชแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการหล่อน          “ค่ะ อีกเดี๋ยวมิรินจะขึ้นไปนอนค่ะ”          อนลเป่าลมออกจากปากเบาๆ ขณะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง          “ราตรีสวัสดิ์นะครับ พี่สะใภ้คนสวยของพี่”          มิรินดาฝืนยิ้มให้กับอนล และมองเขาเดินจากไปผ่านม่านน้ำตา          หากหล่อนเลือกที่จะแต่งงานกับอนล หรือ อติพัฒน์ แทนการยืนยันทำตามเสียงหัวใจตัวเอง หล่อนก็คงไม่ทุกข์ระบมแบบนี้หรอก          น้ำตาเม็ดโตๆ ไหลรินออกมาเปื้อนสองแก้ม เมื่อนึกถึงคำพูดก่อนแต่งงานของอินทัช           ‘พี่ไม่ได้รู้สึกกับเธอแบบชู้สาว มิริน’        ‘แต่ผู้ใหญ่บอกว่า... เราอยู่ด้วยกันทุกวัน เราก็จะรักกันเอง...’        ‘ไม่ใช่สำหรับพี่ครับ’        ‘แต่มิริน... เอ่อ...’        ‘ถ้ามิรินยังยืนยันจะแต่งงานกับพี่เหมือนเดิมก็ตามใจ แต่ต้องจำเอาไว้ว่าพี่ไม่ได้รักมิริน’          คำเตือนของเขามันจริงทุกอย่าง เขาไม่ได้รักหล่อน และไม่มีวันจะรักด้วย          หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายหยาดน้ำตาจากสองแก้มนวล หัวใจปวดร้าวเหลือเกิน          สองขาเรียวขยับตัวลุกขึ้น เพื่อจะกลับขึ้นไปยังห้องนอน ระหว่างทางก็อดนึกถึงระยะเวลาหกเดือนของชีวิตแต่งงานระหว่างตัวเองกับอินทัชไม่ได้          เขาไม่เคยแตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย ไม่ว่าหล่อนจะพูดอ้อมๆ ให้เขาทำหน้าที่สามี หรือบอกตรงไปตรงมา อินทัชก็ปฏิเสธทุกครั้ง จนหล่อนรู้สึกอับอายและเลิกพยายามไปในที่สุด          มือบางกุมลูกบิดประตู ความเย็นของมันแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจยิ่งทำให้สั่นสะท้าน หล่อนหมุนมันเบาๆ เปิดประตูออก และก้าวเข้าไปอย่างระมัดระวังที่สุด          ภายในห้องนอนยังเปิดไฟสีเหลืองนวลที่หัวเตียงทั้งสองข้างเอาไว้ และมันก็ทำให้หล่อนมองเห็นเรือนร่างสูงใหญ่ของอินทัชที่กำลังนอนเหยียดยาวบนโซฟาได้อย่างชัดเจน          เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา...          อินทัชไม่นอนบนเตียงกับหล่อน เขายึดโซฟาตัวยาวริมหน้าต่างเป็นที่นอนมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา          หล่อนคงน่ารังเกียจมากสินะ...          ใช่...          หล่อนคงน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง อินทัชถึงได้หนีห่างแบบนี้          น้ำตาอุ่นร้อนไหลออกมาลวกสองแก้มอีกครั้ง จนต้องรีบป้ายทิ้ง และก้าวขึ้นไปบนเตียง ซ่อนทั้งตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่          น้ำตายังคงไหลรินออกมาเรื่อยๆ ความเจ็บช้ำยังคงอัดแน่นเต็มอก จนกระทั่งหลับใหลไปทั้งน้ำตานั่นเอง                              “ฮัดชิ้ววว...”          เสียงจามของสร้อยมาลา ทำให้อนลที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่กับเรนนี่ต้องเอี้ยวตัวหันมามองยังต้นเสียง          และเมื่อสายตาของเขาปะทะเข้ากับผู้หญิงในชุดโบราณเหมือนป้าแก่อันแสนคุ้นตา เขาก็ทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ ทักทายเท่านั้น          สร้อยมาลาหน้าเจื่อนลง เมื่ออนลหันหน้ากลับไปไม่ได้ให้ความสนใจอะไรหล่อนอีกเลย          ถุงกระดาษที่ใส่เมล็ดกาแฟคั่วที่เขาบอกว่าชอบรสชาติและกลิ่นหอมของมันถูกซ่อนเอาไว้ด้านหลังเหมือนเดิม ก่อนที่จะปลีกตัวเดินแยกออกไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง          หล่อนไม่ควรจะต้องเสียใจ หรือเสียความรู้สึกอะไร เพราะนี่คือกริยาปกติที่อนลมักจะแสดงใส่หล่อนในทุกครั้งที่เจอ          รอยยิ้มสมเพชตัวเองผุดบนริมฝีปากแดงระเรื่อตามธรรมชาติของสร้อยมาลา ขณะกำลังหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน          “คุณสร้อยเข้ามาหาผมหน่อยครับ”          เสียงของอินทัชดังขึ้นที่เครื่องรับโทรศัพท์ หล่อนรีบกรอกเสียงตอบกลับไปทันที          “ค่ะ บอส”          หญิงสาวคว้าสมุดคู่ใจกับปากกาเดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายตัวเอง ซึ่งก็พบว่าอินทัชกำลังรออยู่          “สวัสดีค่ะบอส”          “สวัสดีครับ” อินทัชทักทายหล่อนเสียงสุภาพ ก่อนจะเอ่ยถามถึงรถยนต์ของหล่อน          “รถของคุณซ่อมกี่วันครับ”          “น่าจะประมาณห้าหกวันค่ะบอส เมื่อเช้าสร้อยโทรไปถามอู่ เขาบอกว่ารออะไหล่มาเปลี่ยนค่ะ”          “งั้นระหว่างนี้คุณคงมาทำงานลำบาก ผมจะให้คนขับรถบริษัทคอยรับส่งคุณก็แล้วกันนะครับ”          อินทัชมีน้ำใจกับเลขาอย่างหล่อนเสมอ แต่หล่อนเกรงใจเกินกว่าจะรับน้ำใจจากเขาเอาไว้ได้          “ไม่เป็นไรค่ะบอส สร้อยนั่งรถแท็กซี่มาเองสะดวกกว่าค่ะ”          “ผมรู้ว่าคุณเกรงใจ แต่ผมก็อยากให้คุณรู้ว่า ผมเป็นห่วงคุณเหมือนกัน ไม่อยากให้คุณต้องลำบากมาทำงานแบบนี้”          “เอ่อ...”          “ทำตามที่ผมบอกนะครับ”          เมื่ออินทัชยืนกรานคำเดิม หล่อนจึงไม่สามารถปฏิเสธเขาได้          “ขอบคุณบอสมากค่ะ งั้นค่าน้ำมันรถ...” หล่อนยังพูดไม่ทันจบ อินทัชก็แย้งขึ้นอย่างรู้ทัน          “เบิกงบบริษัทครับ”          “ให้สร้อยออกเองดีกว่าค่ะ”          “คุณอย่าทำเหมือนผมเป็นเจ้านายจอมงกสิครับ” อินทัชหัวเราะออกมาด้วยท่าทางผ่อนคลาย ซึ่งก็ทำให้หล่อนยิ้มออกมาเช่นกัน          “ก็สร้อยเกรงใจนี่คะบอส”          “ถ้าคุณเกรงใจผม ก็รักษามาตรฐานการทำงานแบบนี้ต่อไป แค่นี้แหละที่ผมต้องการ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม