พรีเซ็นเตอร์เด็กหล่อ1

1336 คำ
พรีเซ็นเตอร์เด็กหล่อ เพราะสัญญากับอัณญาไว้แล้วว่าลูกชายปิดเทอมจะพาไปเที่ยวกรุงเทพฯ เจ้าตัวป้อมของบาลีก็ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้เข้าเมืองใหญ่ อยากไปเที่ยว Sea Life Bangkok Ocean World ที่พารากอน แถมอัณญายังบอกลูกชายเธอว่าจะพาไปเที่ยวทะเลด้วย “เที่ยวให้สนุกนะ” ลุงปราบบอก ขณะเดินมาส่งทั้งสองขึ้นรถ “น้องอิฐอย่าซนนะ เวลาไปไหนต้องจับมือแม่ตลอดรู้ไหม” ป้ามอญย้ำอีกครั้ง ทั้งที่ตอนกินมื้อเช้าด้วยกันก็บอกไปแล้ว นางกลัวหลานชายหลงทางกับแม่ หรือกลัวใครอุ้มไป เพราะหน้าตาก็น่ารักขนาดนี้ “คุณย่าไม่ต้องกลัวอิฐหลง อิฐมีมือถือแล้วครับ” เจ้าตัวโชว์มือถือที่บาลีให้มีติดตัวตอนไปเที่ยวกรุงเทพฯ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากว่าพลัดหลงตอนไปเที่ยว อย่างที่ป้ามอญกลัว ก็จะได้โทร. ติดต่อกันได้ ซึ่งปกติบาลีก็ไม่ได้ให้ลูกชายถือโทรศัพท์ติดตัว กำลังจะขึ้นรถ ธรินท์ที่วิ่งออกกำลังกายในตอนเช้าเพิ่งเสร็จ ก็วิ่งมาหา ตะโกนบอกน้องอิฐ “น้องอิฐ อย่าลืมเอาสาวๆ มาฝากลุงดินนะครับ” “ครับ อิฐไม่ลืมหรอก” พอธรินท์เดินมาหยุดตรงหน้าทุกคน ป้ามอญก็หันไปตีแขน “พูดบ้าๆ กับหลานอีกแล้วนะ” ธรินท์หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยน้ำเสียงหยอกล้อ “ก็เห็นป้าบ่นกลัวผมขึ้นคานไง ก็เลยฝากน้องอิฐเสียเลย” “แน่ใจนะว่าพามาฝากแล้วจะถูกใจ” บาลีเอ่ยเย้าบ้าง “ก็...ไม่แน่ใจนักหรอก แต่เอามาฝากก่อน แล้วค่อยว่ากัน” ธรินท์ตอบหน้าตาเฉย “พาลูกขึ้นรถลี อย่ามัวคุยไร้สาระกับคนหาแฟนเองไม่ได้” ป้ามอญบอกแล้วเปิดประตูให้หลานชายตัวป้อมขึ้นไปนั่งข้างหน้า บาลียกมือไหว้ทุกคนแล้วก็ก้าวไปนั่งหลังพวงมาลัย รัดเข็มขัดให้ลูกกับตนเองเรียบร้อย ก็สตาร์ทรถเคลื่อนออกจากบริเวณบ้าน เจ้าตัวเล็กก็หันไปโบกมือลาทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มกว้างจนตาหยี ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงกว่าก็เข้ามาถึงกรุงเทพฯ แต่รถติดเล็กน้อย กว่าจะมาถึงที่พักของอัณญาก็เกือบเที่ยง แต่วันนี้อีกฝ่ายมีงานด่วนเข้ามา แต่ไม่มีปัญหาของการมาถึงของบาลีกับลูกชาย เพราะเธอรู้รหัสห้องของอัณญา เข้ามาในห้องก็ไม่ได้ตกใจอะไร เมื่อเห็นห้องรกๆ ของเพื่อนรัก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าวางระเกะระกะบนโซฟาในห้องนั่งเล่น บาลีเอากระเป๋าของตนเองและลูกชายไปเก็บในห้องนอนเล็ก แล้วเก็บเสื้อผ้าของใช้ตนเองกับลูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ จากนั้นก็เก็บข้าวของที่อัณญาทำรกไว้ให้เป็นที่เป็นทาง แล้วพาลูกชายออกไปหามื้อเที่ยงกิน บาลีเลือกร้านอาหารใกล้ๆ คอนโดฯ ที่พักนั่นเอง กินเสร็จบาลีถือโอกาสพาลูกชายไปซื้อของสดต่างๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ตมาใส่ตู้เย็น เพราะไม่อยากสั่งกินหรือออกไปกินนอกบ้านทุกมื้อ ส่วนอัณญานั้น น่าจะเข้าครัวเฉพาะตอนชงกาแฟ เพราะแพนทรีที่มีอุปกรณ์ครัวครบครันนั้นดูใหม่เอี่ยมเกือบทุกชิ้น เมื่อกลับถึงห้องพัก สองแม่ลูกนั่งกินของเล่นยามบ่าย พร้อมกับดูการ์ตูนในห้องนั่งเล่น ตอนเย็นอัณญาก็กลับมาพร้อมกับของกินที่สั่งมาจากร้านอาหารใกล้ที่ทำงาน พอวางของบนโต๊ะอาหาร อัณญาก็รีบเข้ามากอดเจ้าตัวป้อมที่ยกมือไหว้พร้อมส่งยิ้ม ขณะที่บาลีหยิบอาหารใส่จานตั้งโต๊ะ “โอ๊ย หลานฉันไม่เจอกันไม่กี่เดือน ตัวโตขึ้นมาก นึกว่าเด็กเก้าขวบแล้วนะ และหล่อมากๆ ด้วย” อัณญาพูดจูบก็หอมแก้มยุ้ยฟอดใหญ่ “น้าเอยก็สวยครับ” “อุ้ย หลานฉันน่ารักมากกก” แล้วก็เอียงแก้มให้เด็กชายหอมบ้าง แล้วต่างคนต่างหอมกันอยู่อย่างนั้น “หอมกันพอแล้วก็มากินข้าวเถอะ” บาลีเอ่ยขึ้นเมื่อตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว อัณญากับเด็กชายอิฐจึงแยกย้ายกันไปนั่งโต๊ะ บาลีตักกุ้งผัดหน่อไม้ฝรั่ง เมนูโปรดใส่จานให้ลูกชาย “ขอบคุณครับ” เด็กชายอิฐตักเข้าปากคำโต “อร่อยไหมน้องอิฐ” “อร่อยมากครับ” จากนั้นเจ้าตัวป้อมก็กินอาหารเมนูอื่นๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย ส่วนสองเพื่อนซี้ก็กินไปคุยกันไปตามประสา “ปวดหัวมากแกวันนี้” อัณญาเริ่มบ่น “เรื่องอะไรล่ะ” “ก็ลูกค้าน่ะสิ ไม่ถูกใจเด็กที่มาแคสต์งานสักคน ไม่ว่าจะกี่โมเดลลิ่งไหนก็ไม่เอา ลูกดาราดังๆ หน้าตาดีๆ ก็ไม่โดน บอกไม่ตรงคาแรคเตอร์” “แล้วเขาอยากได้แบบไหนล่ะ” “ก็อยากได้เด็กหน้าตาดี สุขภาพดี สดใส มีความสุข และเล่นฟุตบอลเป็น” “โอ๊ย ธรรมดาจะตาย เด็กสมัยนี้ก็เล่นฟุตบอลเป็นเยอะแยะ” บาลีว่า “ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น แต่เขาก็ดันไม่ปิ๊งเด็กที่มาแคสต์สักคนเลย เลือกมากจริงๆ ทีมงานถึงกับเครียดเลย เพราะไม่รู้จะไปหาเด็กที่ไหนมาแคสต์แล้ว” “แคสต์แปลว่าอะไรครับ” เด็กชายอิฐที่นั่งกินข้าวเงียบๆ มาพักใหญ่ก็ถามขึ้น “หมายถึงคัดเลือกคนเพื่อไปแสดงอะไรสักอย่าง หนัง ละคร โฆษณา หรืออื่นๆ” อัณญาตอบ พร้อมกับเอ็นดูในคำถามจนอดใจไม่ไหวบีบแก้มเบาๆ เจ้าตัวป้อมก็ยิ้มตาหยี “เฮ้ยๆ ฉันรู้แล้วว่าจะหาเด็กที่ไหนไปแคสต์งานนี้” อัณญาหันไปทางบาลี นอกจากน้ำเสียงตื่นเต้นแล้ว ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง “อย่าบอกนะ...” บาลีมองตาเพื่อนก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายหมายถึงใคร “ใช่แล้วเพื่อนรัก ฉันมองข้ามน้องอิฐไปได้ยังไง นี่เลย หล่อ สดใส สุขภาพดี และเตะฟุตบอลเก่ง โอ๊ย รอดแล้วฉัน” จากนั้นอัณญาก็โผเข้าไปกอดน้องอิฐ ปากก็พร่ำบอก “น้องอิฐต้องช่วยน้าเอยนะ ไม่งั้นน้าเอยตายแน่ๆ” “น้องอิฐจะช่วยไม่ให้น้าเอยตายหรอกครับ” คำพูดนั้นยิ่งทำให้อัณญาตื้นตันใจ หอมแก้มยุ้ยซ้ายขวารัวๆ บาลีมองแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ด้วยความขบขัน แต่เรื่องจะให้ลูกไปแคสต์งานโฆษณา มันเป็นเรื่องที่บาลีต้องคิดหนัก แม้ลูกชายจะชอบเต้นโชว์ หรือการแสดงเล็กๆ น้อยๆ ในงานโรงเรียน แต่การไปแคสต์งานโฆษณา มันอาจเกินความสามารถของลูกเกินไป คืนนั้นหลังน้องอิฐเข้านอน บาลีจึงเอ่ยสิ่งที่กังวลในใจให้อีกฝ่ายรับรู้ “มันเป็นโอกาสของน้องอิฐนะแก อีกอย่างน้องอิฐก็อยากทำ” “ก็แหงสิ น้องอิฐไม่อยากเห็นแกตายไง” บาลีพูดขำๆ “เออน่า ลูกแกหน้าตาหล่อ โตขึ้นหน่อยก็ต้องโดนคนในวงการทาบทามเข้าวงการอยู่แล้ว เรามาเริ่มปั้นน้องอิฐกันตั้งแต่ตอนนี้แหละดีแล้ว” “แต่ว่า...” “โอ๊ย ให้น้องอิฐลองไปแคสต์ก่อนเถอะ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง แกจะอยากให้เข้าวงการหรือไม่นั้น ยังมีเวลาคิด ที่สำคัญแกจะต้องให้อิสระลูกในการเลือกด้วยนะโว้ย เป็นแม่รุ่นใหม่อย่าบังคับลูกนะแก” “ฉันรู้น่า แต่...” “ไม่มีแต่ เอาเป็นว่าตอนนี้ให้น้องอิฐไปแคสต์ก่อนเหอะนะ นะ” “เออๆ ก็ได้ ว่าแต่โฆษณาที่ว่านั้นคือสินค้าอะไร” “เครื่องดื่มผลไม้ผสมวิตามินซีน่ะ ดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่” บาลีพยักหน้ารับรู้ จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันไปนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องพาเด็กชายอิฐไปเที่ยว Sea Life Bangkok Ocean World ที่พารากอน ตามที่สัญญากันไว้ ..............
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม