ตอนที่ 1. เพียงหวัง...

1572 คำ
เสียงเด็กชายตัวเล็กร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้หญิงสาวที่ง่วนอยู่ในครัว รีบเงยหน้าขึ้นหันไปทางทิศทางของเสียงที่ได้ยิน นางรีบวางมือจากงานตรงหน้า ก้าวเร็วๆ ไปที่ด้านนอก สายตากวาดมองหาร่างเด็กชายผอมกะหร่องผู้หนึ่ง แต่มองหาอยู่นานก็ไม่เห็น   “จ้าวต้า” หญิงสาวร้องเรียกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ มองหญิงรับใช้ผู้อื่นที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก เห็นเพียงพยักพเยิดไปทางห้องเก็บฟืน นางจึงรีบเดินไปพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนที่คาดเอวบางของตนอยู่   “จ้าวต้า” หญิงสาวเรียกอย่างอ่อนโยน มองเข้าไปในห้องเก็บฟืน กวาดตามองก็เห็นร่างเล็กขดตัวที่มุมห้อง นางเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ดึงร่างนั้นเข้ามากอดอย่างไม่รังเกียจ แม้อีกฝ่ายสกปรกมอมแมมเพียงใด   “คุณหนูหนิงเหมย ตัวข้าสกปรกนัก ท่านอย่ามากอดข้าเลย”  เด็กชายวัยสิบเอ็ดขวบเอ่ยขึ้น เขาพูดจาอู้อี้ พลางยกหลังมือปาดน้ำตา “ข้าก็สกปรกไม่เห็นเป็นไรเลย” หญิงสาวพูดปนหัวเราะ พิศดู ใบหน้าของเด็กชาย หัวใจกระตุกวูบแต่ฝืนยิ้มให้ “เจ้าโดนคุณชายทั้งสองแกล้งเอาอีกละสิ”  เด็กชายไม่ตอบแต่กลั้นเสียงสะอึกสะอื้นไว้ หัวใจของหญิงสาวพลอยเจ็บปวดไปด้วย นางเองก็ใช่ว่าจะมีฐานะปกป้องผู้ใดได้ จึงได้แต่ปลอบประโลมโดยการโอบกอดเด็กชายตัวน้อย   “เอาอย่างนี้ ประเดี๋ยวพี่หนิงเหมยคนนี้จะทำขนมปลอบใจเจ้าเอง เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลยนะ” นางช่วยเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อย “ถ้าข้าหาบ้านดีๆให้เจ้าอยู่ได้ก็ดีสินะ”   “ไม่เอา ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่รับใช้คุณหนูหนิงเหมย” เด็กชายเผลอพูดเสียงดังออกมา    “แต่เจ้าอยู่กับข้าแบบนี้ จะถูกผู้อื่นรังแกเอาอยู่เรื่อยนะสิ”  “คุณหนูไม่ต้องการข้าแล้วหรือ” “แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าถูกผู้อื่นรังแกเช่นนี้” นางยิ้มให้ แม้เป็นรอยยิ้มปนเศร้าก็ตาม “เจ้าเรียกข้าว่าคุณหนู แต่กลับช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ข้าลำบากใจไม่น้อย”  เด็กชายเช็ดน้ำตาด้วยตนเอง จ้องมองหญิงสาวด้วยท่าทีมุ่งมั่น “ข้าจะเข้มแข็งและจะไม่ร้องไห้อีก ข้าจะปกป้องคุณหนู ตอบแทนพระคุณที่คุณหนูซื้อตัวข้ามา ขอเพียงคุณหนูไม่ผลักไสข้าก็พอแล้ว”    “ขอบใจเจ้า ขอบใจที่เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้านะ” หญิงสาวลูบผมของเด็กชายให้เข้าที่เข้าทางแล้วจูงมือออกมาจากห้องเก็บฟืน   “เจ้าไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย ข้าจะไปทำขนมให้เจ้ากิน”    หญิงสาวมองดูร่างเล็กของเด็กชายวัยสิบเอ็ดขวบรีบเดินจากไป ว่านหนิงเหมยถอนหายใจเบาๆ นางเองแม้ถูกเรียกว่า ‘คุณหนู’ แต่เพราะเป็นเพียงแค่ ‘ลูกอนุ’ ซ้ำยังมีแผลเป็นบนใบหน้า ทำให้ไม่ใคร่มีใครใส่ใจนางนัก อาจหลงลืมไปแล้วว่ามีนางอยู่ในบ้าน แต่สำหรับนางแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดียิ่ง เพราะนางเองชอบชีวิตสงบท้ายเรือนมากกว่าไปวุ่นวายที่เรือนหลังใหญ่   หญิงสาวเดินกลับไปที่ครัว ล้างมือแล้วไปช่วยงานในครัวอย่างไม่นึกรังเกียจ บิดาของนางคือใต้เท้าว่านรองเจ้ากรมอากร นางเป็นเพียงลูกอนุ แม้แต่มารดาก็ยังชิงชังที่นางเกิดมาเป็นหญิง ไม่ใช่ชาย ซึ่งไม่อาจช่วยในฐานะอนุของท่านแม่ดีขึ้นแต่อย่างใด ท่านพ่อมีอนุถึงสี่คน นางจำได้ว่า เดิมทีภรรยาเอกของท่านพ่อมีบุตรสาวเพียงคนเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ตั้งครรภ์อีก จึงเป็นสาเหตุทำให้บิดารับอนุมาเพิ่มอีกสี่คนในเวลาไล่เลี่ยกัน จนกระทั่งอนุตั้งครรภ์ ภรรยาเอกก็ตั้งครรภ์แต่ครั้งนี้ได้ลูกชายสมใจ ส่วนอนุได้ลูกหญิง จากนั้นบรรดาอนุต่างแข่งกันตั้งครรภ์เพื่อมีบุตรชาย ทว่ากลับมีแต่บุตรสาวมาเกิด นั่นรวมถึงนางด้วย แล้วภรรยาเอกตั้งครรภ์อีกครั้งและได้บุตรชายอีก   คุณชายว่านซือสือ ปีนี้อายุสิบแปดปีเท่ากับนาง ส่วนคุณชายว่านซือจี๋อายุสิบสองปี รุ่นราวคราวเดียวกับจ้าวต้า แต่เพราะเป็นลูกชาย จึงได้รับความรัก ความเอาใจใส่จากบิดามาก จะเรียกว่ามากจนเสียนิสัยก็ย่อมได้ กระนั้นไม่มีผู้ใดกล้าตำหนิ รวมถึงตัวนางเองด้วย ว่านหนิงเหมยชินชากับโชคชะตาของตน บิดาไม่รักไม่เท่าไหร่ มารดาไม่ใส่ใจอีกต่างหาก คนที่เลี้ยงดูนางไม่ใช่แม่นมกลับเป็นแม่ครัว ‘ป้าฮุยเหอ’ คนเก่าคนแก่อยู่มานานและไม่มีลูก ป้าฮุยเหอเองรักและเอ็นดูนางประดุจลูกในไส้ แม้ตนเองเป็นเพียงแม่ครัวก็ตาม แต่สิ่งที่นางเป็นอยู่ตอนนี้ นางไม่เห็นเป็นเรื่องราวให้ชวนน้อยใจ การที่มีป้าฮุยเหอดูแลนาง ก็ทำให้นางกินอิ่มทุกมื้อ แน่ละ เพราะนางเติบโตในครัวเสียมากกว่า จะไม่ให้อิ่มได้อย่างไร บิดาเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือคุณชายทั้งสอง แต่เพราะตามใจคุณชายมาก ทั้งสองจึงไม่ใคร่ใส่ใจการเล่าเรียน นางที่คอยยกน้ำชาและขนมของว่าง จึงได้แอบจดจำ เรียนรู้และฝึกฝนด้วยตนเอง เรื่องใดที่ไม่รู้ก็แอบถามท่านอาจารย์ นางโชคดีที่ท่านอาจารย์เมตตาคอยให้คำแนะนำ แม้ไม่สอนนางโดยตรงก็ตามที นางจึงพอมีความรู้บ้าง เรื่องงานเย็บปักถักร้อย นางต้องทำแทนพี่น้องผู้อื่น นางทำบ่อยจนคุ้นชิน สองมือเรียวบางจึงไม่ได้อ่อนนุ่ม แต่มีปุ่มเนื้อด้านอยู่หลายแห่ง เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้นางไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ แต่เพราะรอยแผลเป็นคล้ายพระจันทร์เสี้ยวบนแก้มขวาต่างหาก แผลเป็นที่หนานูนอัปลักษณ์ชวนให้รู้สึกสยดสยอง หากเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้อื่น นางจะมีผ้าโปร่งปิดครึ่งหน้า มิให้เห็นรอยแผลน่าเกลียดของนาง     หากเมื่ออยู่ในครัวเช่นนี้ นางไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าโปร่งปิดครึ่งใบหน้า เพียงคิดถึงรอยแผลเป็นนี้ หัวใจก็เต้นรัวทุกทีไป รอยแผลนี้เกิดเมื่อตอนที่นางอายุสิบสอง ครานั้นได้ติดตามพี่สาวร่วมบิดาเข้าวังไปงานเลี้ยงฤดูใบไม้ผลิในวังหลวง แต่เพราะนางเป็นเพียงลูกอนุ จึงไม่ใคร่มีใครอยากสนทนาด้วย ด้วยความสนใจต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณแสนงดงาม  ซึ่งไม่ได้พบเห็นทั่วไป ทำให้นางชื่นชมเพลิดเพลินจนพลัดหลงกับพี่น้องคนอื่นๆ    บุรุษร่างสูงสง่ายืนใต้แสงตะวัน เขาดูงดงามดุจภาพวาด แม้สวมชุดสีดำขลิบแดง ซึ่งนางไม่เคยพบเห็นมาก่อน รวมทั้งปลายผมยาวของคนผู้นั้น มีสีแดงราวกับจุ่มหมึกโลหิตด้วย ภาพเบื้องหน้าดึงดูดนางให้เดินเข้าไปใกล้ราวกับถูกมนตร์สะกด บุรุษผู้นั้นรู้ตัวจึงหันมามอง ดวงตาคมจ้องมองทำเอานางแทบหยุดหายใจ นางมิได้หวาดกลัว แต่เพราะเขาหล่อเหลาดุจเทพเซียน จนหัวใจน้อยๆ ของนางเต้นไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็น ร่างสูงสง่าหมุนตัวแล้วเดินตรงมาทางนาง  ท่าทางคุกคามของเขาทำให้อยากถอยหนีแต่ทำไม่ได้ นางเห็นเพียงเขายกมือขึ้นก็รีบหลับตาแน่นด้วยความตกใจ เพียงพริบตา นางรู้สึกเจ็บแปลบที่แก้มขวา เมื่อลืมตาขึ้นจึงเห็นสีหน้านิ่งขรึมแต่แววตาฉายความประหลาดใจ มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มตนเอง รู้สึกถึงน้ำเหนียวหนืดเมื่อหงายฝ่ามือขึ้นดู จึงรู้ว่ามีเลือดไหลออกมา  ตกใจแต่ไม่ได้กรีดร้อง งุนงงและได้แต่ทำตาปริบๆ ดวงตาคมวาวคู่นั้นเองเพียงแค่หรี่มองอย่างประหลาดใจ ทั้งสองตื่นจากภวังค์เพราะเสียงนางกำนัลที่บังเอิญผ่านมาและกรีดร้องเสียงหลงเพราะตกใจที่เห็นซีกขวาของนางมีรอยแผล เลือดสีสดไหลจากแก้มลงมาที่คางเปรอะปกเสื้อ นางรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมากดแผลตนเองเพื่อห้ามเลือด ในขณะที่ชายผู้นั้นยกมือขึ้นกอดอกยืนนิ่งดู ครู่ต่อมาฮองไทเฮารีบเสด็จมาดูด้วยพระองค์เอง ‘เฟยเทียน! ไยเจ้าทำร้ายนางซึ่งเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งเท่านั้น’    นางจำได้ว่าตนตะลึงลานทำสิ่งใดไม่ถูก บรรดาองค์หญิงและท่านหญิงต่างพามามุงดู ทุกคนหวาดกลัวชายผู้นั้นไม่กล้าสบตา นางรีบส่ายหน้าไปมา พยายามเค้นเสียงพูดออกมาด้วยความตกใจ “มิได้เพคะ แผลนี้มิใช่ฝีมือของ...” นางไม่รู้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร ได้ยินเพียงฮองไทเฮาเรียกชื่อเขา อีกฝ่ายก็ไม่แสดงความยำเกรงใดๆ แสดงว่าชายผู้นี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม