บทที่2

1140 คำ
อินทุอรแน่นิ่งไปนาน ก่อนจะยอมตวัดมือไปโอบรอบคอแกร่งเมื่ออีกคนทำท่าจะลุกหนีกันไปอีกรอบ เขารอจนแน่ใจว่าเธอจะไม่ก่อเรื่องอะไรอีก ถึงได้ค่อยๆ ลุกขึ้น ความใกล้ชิดที่มากกว่าครั้งไหนๆ ส่งผลให้ใจดวงน้อยเต้นรัวแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “นี่ เดินเบาๆ หน่อยสิ!” “เรื่องมากจริง!” ถึงปากจะเอ่ยบ่น แต่ฝีเท้าที่ก้าวเดินไปเบื้องหน้าก็ยอมชะลอลงอย่างช้าๆ นั่นเลยทำให้อินทุอรถึงกับลอบยิ้ม เมื่อในที่สุดยกนี้เธอก็สามารถเอาชนะเขาอีกจนได้! ใช้เวลาร่วมสิบนาทีเห็นจะได้ ก่อนคนทั้งคู่จะมาถึงจุดหมาย กล้าตะวันค่อยๆ วางร่างเล็กที่แบกมาไกลหลายกิโลลงพื้น ก่อนจะเฝ้ามองจนแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายเดินหายเข้าไปในบ้านแล้ว ถึงได้หมุนตัวเดินกลับไปยังบ้านพักของตนเองกับมารดา โดยไม่รู้เลยว่าทุกย่างก้าวของตนเองนั้น ถูกจ้องมองจากสายตาสองคู่ตลอดเวลา “กลับมาแล้วเหรอจ๊ะน้องเรย์” กระทั่งหนึ่งในนั้นเห็นร่างของน้องสาวนอกสายเลือดเดินเข้ามาในบ้านถึงได้เอ่ยทักทายขึ้น ต่างจากคนถูกเรียก ที่ได้แต่จ้องมองคนตรงหน้ากลับไปด้วยความชิงชัง หากเทียบกันแล้ว คนตรงหน้าก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องทดสอบความอดทนอดกลั้นของเธอเลยสักนิด “จะรีบไปไหนละ ไม่อยู่คุยเรื่อง ‘น้อง’ ของพวกเราหน่อยเหรอ” ยิ่งเห็นเธอนิ่ง อีกฝ่ายก็เหมือนจะยิ่งได้ใจ ถึงได้เอ่ยขึ้นต่อ “อีกหน่อยพอเด็กคนนั้นคลอด แกคงกลายเป็นหมาหัวเน่าสมใจ!” “หลีกไป นังบ้า!” หนนี้ไม่พูดเปล่า แต่อินทุอรเลือกที่จะชนไหล่ของอีกคนให้พ้นทาง ก่อนจะพาตัวเองเดินหลบหนีเข้ามาในห้องนอน ไม่สนเลยสักนิดว่าไล่หลังกันนั้น จะมีเสียงกรีดร้องของอีกคนดังตามมาติดๆ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่ต้องไปให้ความสนใจ กระทั่งทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตามติด ราวกับจะมีบางสิ่งบอกให้ได้รู้ ว่าคืนนี้สำหรับเธอแล้ว ยังไม่ผ่านพ้นไปง่ายๆ ที่จริงไม่มีคืนไหนจะง่ายสำหรับเธอเลยดีกว่า “ค่ะแม่” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากข่มใจอยู่นาน ว่าควรต้องกดรับสายนี้ดีไหม แต่สุดท้ายก็ต้องกดรับเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้น “เรื่องที่ดินของคุณยายแกที่ฉันขอไว้ ไปถึงไหนแล้ว!” ไม่มีแม้แต่คำทักทายให้ได้ยินจากปลายสาย จะมีก็แต่เรื่องสำคัญที่ผู้เป็น ‘แม่’ ต้องการอยากจะได้ไปครอบครองจากเธอเท่านั้น ที่เหมือนว่ามันจะสำคัญมากกว่าทุกสิ่ง แม้จะบอกตัวเองว่าควรจะ ‘ชิน’ ได้แล้ว แต่ใจเจ้ากรรมก็ยังอดที่จะรู้สึกเจ็บไม่ได้อยู่ดี เมื่อต้องมารับรู้ว่าสำหรับแม่แล้ว เธอคงเป็นได้มากสุดแค่บ่อเงินบ่อทองสำหรับท่านกับพี่เท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เธอก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร! “ถ้าเรื่องนั้น…เรย์ยังไม่ได้คุยกับคุณพ่อเลยค่ะ” อย่าว่าแต่คุยเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องที่โต๊ะอาหารจนกระทั่งตอนนี้ บิดาก็แทบไม่ยอมปริปากคุยกับเธอเลยสักคำ เพราะมัวแต่เอาเวลาทั้งหมดไปวุ่นวายอยู่กับภรรยาใหม่ และลูกอีกคนที่กำลังจะเกิดมาของท่าน ในขณะที่ลูกชังอย่างเธอ คงเป็นได้มากสุดคือฝุ่นธุลีที่แสนน่ารำคาญใจเท่านั้น “แล้วแกมัวรออะไรอยู่ ที่ดินแค่หยิบมือแค่นั้น เจียดแบ่งมาให้พี่เขาสักสิบ ยี่สิบไร่มันจะเป็นไรไป! เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ทำไมถึงไม่รู้จักแบ่งปันห๊ะ ฉันเคยสอนให้แกเป็นคนหวงของแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!” มันคงไม่เป็นอะไร หากมูลค่าของที่ดินผืนนั้น มันไม่ได้มีมากถึงหลายสิบล้านบาท อีกทั้งยังเป็นสมบัติที่เธอได้รับจากผู้เป็นยาย เมื่อตอนที่เปิดพินัยกรรม “แต่พี่ริวก็ได้ในส่วนของเขาไปหมดแล้วนะคะ” แม้ใครๆ จะรู้ว่ายายของเธอรักหลานไม่เท่ากัน แต่กระนั้นยามเมื่อท่านจากไป ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มี ก็ถูกแบ่งให้กับเธอกับพี่อย่างเท่าเทียมตามพินัยกรรมซึ่งพี่ชายของเธอก็ได้ในส่วนที่เขาสมควรจะได้ไปหมดแล้ว “ได้ไปแล้วแล้วมันยังไง! ที่ดินผืนแค่นั้นจะไปทำอะไรได้ แกก็รู้ว่าพี่เขากำลังขยายธุรกิจ เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยๆ กันสิ อีกอย่างแกยังเด็ก ขืนยังเก็บไว้ก็มีแต่จะถูกนังปลิงพวกนั้นมันดูดเอาไปจนหมด โยกย้ายมาให้ฉันกับพี่แกช่วยทำประโยชน์ให้ มันจะไม่ดีกว่ารึไง!” หากไม่เพราะลูกชายสุดที่รักย้ำนักย้ำหนา ว่าปรารถนาอยากจะได้ที่ดินที่เหลือของน้องมาครอง ก็อย่าฝันเลยว่านางจะยอมลดตัวโทรหา เป็นอันรู้กันดีว่าความสัมพันธ์ฉันแม่ลูกไม่สู้ดีนับตั้งแต่วันที่นางตัดสินใจหย่าขาดกับอดีตสามีแล้วให้ลูกๆ เลือกว่าจะอยู่กับใคร แน่นอนว่าลูกชายเลือกที่จะอยู่กับนาง ต่างจากลูกสาวที่ไม่ว่าจะพูดยังไง อีกฝ่ายก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่าจะอยู่กับพ่อเสียให้ได้ แล้วสุดท้ายเป็นยังไง ก็กลายเป็นหมาหัวเน่า เมื่อไอ้แก่นั่นมีเมียใหม่! “ไว้เรย์จะคุยให้ แต่ไม่รับปากนะคะ ว่าจะพ่อจะยอมรึเปล่า” เพราะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่จบลงไม่สวยเท่าไหร่นัก สถานะเดียวที่เหลืออยู่ระหว่างพวกท่านถึงกลายเป็นเกมชิงดีชิงเด่นกันอยู่เสมอ และคนที่ต้องยืนอยู่กลางสมรภูมิรบที่ว่านั้น ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเธอ ที่ต้องแบ่งรับแบ่งสู้ เมื่อแม่ต้องการบางสิ่งจากเธอ บางสิ่งที่พ่อไม่อยากให้เธอยกให้ เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น “ไม่ยอมก็ต้องยอม รีบจัดการให้เรียบร้อย อย่าให้ฉันต้องบินไปเอาเองถึงที่!” พูดจบอีกฝ่ายก็ตัดสายทิ้ง ราวกับจะตอกย้ำให้เธอได้รับรู้ ว่าเรื่องที่ท่านอยากจะพูดคุยด้วยนั้นมีเพียงเรื่องที่ดินเท่านั้น ส่วนเธอจะเป็นตายร้ายดียังไงนั้น คงไม่มีใครสน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม