บทที่6

1176 คำ
“ปล่อย!” ท่าทีคุกคามของคนตรงหน้า บวกกับมือหนาที่เอื้อมมากำข้อมือของเธอเอาไว้อย่างจาบจ้วงนั้น ทำให้อินทุอรตัดสินใจตวาดขึ้น ยอมรับว่าพ่อเลี้ยงพันแสงคือเจ้าหนี้ที่คุยยากที่สุด อีกอย่างเขายังเป็นเพียงคนเดียว ที่มีเจตนาชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการแค่เงินที่พ่อของเธอหยิบยืมไปคืนเท่านั้น แต่เขายังต้องการอะไรที่มันมากกว่านั้น บางสิ่งที่ผู้ชายหลายๆ คนต่างต้องการมันจากตัวเธอ แต่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องฝันต่อไป เพราะเธอจะไม่มีวันยอมขาดศักดิ์ศรีของตัวเอง ด้วยการทำเรื่องต่ำๆ แบบนั้นแน่ ไม่มีวัน! “จับนิดจับหน่อยจะเป็นไรไปครับ หรือน้องเรย์อยากให้พี่ทำมากกว่าจับ!” “แต่ผมว่าสิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดตอนนี้ คือปล่อยเธอมากกว่านะครับพ่อเลี้ยง!” ไม่ทันที่เธอจะได้โต้ตอบอะไรกลับไป กลับกลายเป็นเสียงเข้มคุ้นหูของใครบางคนที่ดังขึ้นมาแทนที่ ก่อนที่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นต้นแขนของเธอจะถูกกระชากให้ไปยืนหลบที่แผ่นหลังกว้างของคนที่เธอไม่เคยลืม ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือตอนไหน “วันนี้น้องเรย์มีแขก ถ้างั้นเอาไว้พี่จะแวะมาเยี่ยมใหม่ก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นหวังว่าน้องเรย์จะมีคำตอบดีๆ ให้พี่นะครับ” พ่อเลี้ยงพันแสงตอบ ก่อนจะจ้องมองคนที่เข้ามาขัดจังหวะเขาด้วยสายตาไม่พอใจ จากนั้นไม่นานก็หมุนตัวเดินจากไป พร้อมๆ กับอินทุอรที่ตวาดถามขึ้น ทันทีที่คนเบื้องหน้าตัดสินใจหันกลับมาจ้องมองกัน “นายมาทำอะไรที่นี่!” ต่อให้เวลาจะผ่านไปอีกสักกี่ปี เธอก็ไม่มีวันลืมคนตรงหน้านี้ไปได้ ข่าวว่าเขาตกถังข้าวสาร กลายเป็นหลานชายเจ้าของไร่ชาขนาดใหญ่ ชีวิตสุขสบายเสียยิ่งกว่าตอนอยู่เป็นคนงานที่นี่เสียอีก แต่นั่นมันก็ไม่เท่ากับการที่เขาพยายามปิดกั้นเธอกับแม่ของเขาทุกช่องทาง ซึ่งการกระทำนั้นต่างหาก ที่มันทำให้เธอโกรธเกลียดเขามากขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า! “ไม่เกี่ยวกับคุณ!” กล้าตะวันตอบ ก่อนจะหมุนตัวเดินเลี่ยงขึ้นมายังบ้านหลังใหญ่ ที่ตอนนี้สภาพทรุดโทรมลงไปมาก สาเหตุคงไม่พ้นเจ้าของไม่มีเงินปรับปรุง แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญอะไรกับเขาเท่ากับเรื่องที่อยู่ๆ ‘ผู้มีพระคุณ’ ก็โทรไปเรียกให้เขามาพบด่วน เดินหาไม่นานเขาก็พบกับท่านอยู่ในห้องนอน โดยมีอินทุอรเดินตามหลังมาติดๆ เหมือนไม่คิดจะไว้ใจกัน แต่ไม่นานเธอก็ถูกผู้เป็นพ่อไล่ออกไปรอด้านนอก เพราะท่านอยากคุยกับเขาแค่สองคน “คุณท่าน สบายดีนะครับ” พ้นหลังคนเอาแต่ใจได้ไม่นาน กล้าตะวันถึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น สายตาที่จ้องมองคนตรงหน้านั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงอย่างถึงที่สุด ด้วยพอจะรู้มาบ้างว่าท่านกำลังเจอกับเรื่องที่หนักหนาสาหัส และแน่นอนว่าเขาเองก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ขอเพียงแค่ท่านเอ่ยปากมาคำเดียว! “ก็เรื่อยๆ ตามประสาคนแก่นั่นแหละ ว่าแต่เรากับจิตรีเถอะ เป็นยังไงบ้าง” ท่านเองก็พอจะทราบข่าวมาบ้าง ว่าสองแม่ลูกในตอนนี้มีชีวิตที่สุขสบาย เผลอๆ อาจจะสบายมากกว่าท่านกับลูกเสียด้วยซ้ำ แต่กระนั้นก็ไม่คิดที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ด้วยถือคติที่ว่า คนเราควรแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ควรโยนให้คนอื่น “ผมกับแม่ เราสองคนสบายดีครับ” อย่างน้อยก็สุขสบายกว่าตอนอยู่ที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นเขากับแม่ก็ไม่เคยลืม ว่าคนที่นี่นั้นเคยให้การช่วยเหลืออะไรบ้าง ถึงได้ยังคงตามติดชีวิตของทุกคนอยู่ห่างๆ โดยเฉพาะคนตรงหน้าที่ถือเป็นผู้มีพระคุณคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ “สบายดีก็ดีแล้วล่ะ ที่ฉันเรียกให้นายมาพบที่นี่ก็เพราะ…” เกือบชั่วโมงเห็นจะได้ กว่าร่างสูงของคนหายเข้าไปในห้องทำงานของพ่อเธอจะกลับออกมา อินทุอรจึงไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปดักหน้าเขาเอาไว้ อย่างไรซะก็ต้องถามให้รู้เรื่อง ว่าเขามาที่นี่ทำไม! “นายเข้าไปคุยอะไรกับพ่อฉันตั้งนานสองนาน!” แม้จะไม่รู้ว่าเขากับพ่อเธอคุยอะไรกันไปบ้าง แต่มันจะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากแน่ๆ ไม่อย่างนั้นสีหน้าของเขาคงไม่เคร่งเครียดแบบนี้ ไหนจะเรื่องที่เธอถูกไล่ให้ออกมารอข้างนอกอีก นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ทำไมเธอถึงอยู่ฟังด้วยไม่ได้! “ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องรู้!” “ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์รู้ ในเมื่อคนที่นายเพิ่งจะเข้าไปคุยด้วยคือพ่อฉัน! บอกมาเดี๋ยวนี้นะไอ้กล้า ฉันสั่งให้นายบอกไง!” เพราะคนตรงหน้าแสดงท่าทีเรียบเฉยใส่ นั่นเลยทำให้เธอทนไม่ไหว เผลอฟาดมือลงบนท่อนแขนของเขาเพื่อระบายความโกรธ ก่อนที่ในนาทีถัดมา มันจะถูกกระชากอย่างแรงจนเธอเซเข้าไปปะทะเข้าร่างกายของเขาอย่างจัง ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นฉับพลันทำให้เธอชะงัก “นี่ปล่อยนะ ฉันเจ็บ!” เสียงหวานตวาดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาเริ่มออกแรงบีบที่ต้นแขน. ซึ่งนั่นมันทำให้เธอเจ็บจนต้องตะโกนขึ้น “ขอโทษผมก่อนแล้วจะปล่อย!” อดีตเคยไม่น่ารักยังไง ถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นี่หรือคนที่แม่เขาเฝ้าคิดถึงตลอด “ฝันไปรึไง ปล่อย! ไม่ปล่อยใช่ไหม ได้!” สิ้นเสียงหวาน ริมฝีปากอิ่มก็กัดเข้าให้ที่ท่อนแขนแกร่งอย่างแรง ไม่สนเลยสักนิดว่าอีกคนจะเจ็บสักแค่ไหน ถึงต่อให้เขาจะเจ็บมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ “โอ้ย นี่คุณ เป็นหมารึไง!” แรงกัดที่แขนทำให้กล้าตะวันต้องพยายามอย่างหนักที่จะสะบัดตัวหนี กระทั่งเมื่อสบโอกาสถึงได้ล็อคตัวแม่ตัวดีเอาไว้ แต่ก็ทำได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะแม่คุณดันไวกว่า รู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกเตะอัดเข้าที่หว่างขาอย่างจัง ก่อนที่ร่างบอบบางจะพาตัวเองหนีกลับเข้าไปในบ้าน ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เอาคืน “ยัยตัวแสบ ฝากไว้ก่อนเถอะ!” ชายหนุ่มได้แต่คาดโทษ ก่อนจะจ้องมองแผ่นหลังบอบบางที่ค่อยๆ หายลับสายตาไปอย่างคาดโทษ เชื่อเถอะว่าสบโอกาสเมื่อไหร่ พ่อจะเอาคืนให้สาสมเลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม