ระหว่างเราขอให้จบกัน
ภายในเรือนที่โอ่อ่าแต่กลับไร้ซึ่งจิตวิญญาณ เวลานี้เจ้าของเรือนกำลังนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง ไม่สามารถก้าวเท้าออกจากห้องได้ แม้กระทั่งย้ายไปนั่งบนตั้งใกล้หน้าต่างเพื่อสูดอากาศภายนอกก็ไม่สามารถ
ฤดูหนาวปีนี้เวียนมาถึงเร็วกว่าทุกปี ด้านนอกหิมะสีขาวปลิวว่อนกระจาย ร่วงหล่นทับถมกันเป็นชั้น ๆ บนทางเดินไปตลอดทาง
"เยว่ชิงเจ้าไปเรียนท่านอ๋องทีว่าข้าอยากพบเขา" เจ้าของร่างที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงสตรีที่งดงามที่สุดในเมืองหลวงพยายามแค่นเสียงที่แหบพร่าออกมา เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่นางรอคอยให้เสวี่ยอ๋องมาเยี่ยมนางด้วยความหวัง แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังทุกครั้งไป
เยว่ชิงห่มผ้าแล้วเหน็บชายให้พระชายา ชายาเอกของเสวี่ยอ๋องถูกลงโทษให้คุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนห้าวันติดกัน หลังจากนั้นนางก็ล้มป่วยทันทีเมื่อได้รับการปล่อยตัว แต่ก็ยังลุกขึ้นมาเพื่อจัดการดูแลเรื่องราวต่าง ๆ ภายในตำหนักไป๋ซิ่งให้กับเสวี่ยอ๋องด้วยความทุ่มเทเหมือนที่เคยทำ
เวลานี้ภายในตำหนักอันยิ่งใหญ่กลับมีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มาก บ่าวรับใช้และสาวใช้ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ไม่กี่คน ห้องครัวแทบไม่มีคนคอยหุงหาอาหาร ไป๋ซิ่งที่เป็นสาวใช้ขั้นหนึ่งข้างกายพระชายาเลยต้องไปจัดการทางนั้นด้วยตัวเอง
สองปีก่อนอนุคนหนึ่งของเสวี่ยอ๋องก่อเรื่องขึ้นมา เสวี่ยอ๋องในเวลานั้นมัวแต่ยุ่งอยู่กับการอารักขาความปลอดภัยให้กับชายารัชทายาท แล้วปล่อยให้ชายาเอกที่เขาไม่รักจัดการเรื่องของสตรีในจวนอย่างยากลำบากตามลำพังโดยไม่สนใจ หลังจากนั้นไม่นานพระชายาก็ถูกลอบวางยาพิษทั้งยังถูกผลักตกสระบัวในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
หนึ่งปีก่อนเสวี่ยอ๋องถูกจับเข้าคุกข้อหาขัดราชโองการ ตัดสินเนรเทศไปใช้แรงงานที่ชายแดนไม่มีกำหนด อนุในจวนไม่อยากลำบากรีบมาปรึกษาพระชายาทันที
กู้เฟยหย่าเปิดคลังสมบัติของเสวี่ยอ๋องที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับอนุเหล่านั้นพร้อมกับมอบหนังสือไถ่ตัวเพื่อคืนความอิสระให้กับพวกนาง แต่พวกนางก็ยังบ่นว่าน้อยจนเกินไป ท้ายที่สุดพระชายาก็ต้องใช้สินเดิมของตนเกือบทั้งหมดเพื่อเติมเงินให้กับพวกนางอีกก้อนใหญ่ ๆ เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดตามมา
อนุทั้งหลายเมื่อได้สิ่งที่ต้องการพวกนางก็รีบเก็บข้าวของจากไปทันที
ตำหนักไป๋ซิ่งของเสวี่ยอ๋องเหลือเพียงความว่างเปล่า ไร้อำนาจ ไร้ทรัพย์สมบัติและไร้คนภายในพริบตา ทันทีที่เสวี่ยอ๋องถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องขัง เขาก็มีแค่เพียงกู้เฟยหย่าคนเดียวเท่านั้นที่ติดตามเขาไปยังชายแดนเพื่อรับการเนรเทศด้วยกัน
รับโทษเนรเทศอยู่ครึ่งปี ท้ายที่สุดเสวี่ยอ๋องก็สร้างความดีความชอบกลับมา ครึ่งเดือนก่อนเขาสามารถล้างข้อกล่าวหาของตัวเองได้อย่างหมดจด ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ด้วยโรคชรา รัชทายาทอภัยโทษให้เขาแล้วขึ้นรับตำแหน่งเป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เสวี่ยอ๋องกลายเป็นเสด็จอาที่เรืองอำนาจของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ทันที
เสวี่ยอ๋องย้ายกลับมาอยู่เมืองหลวงอีกครั้ง ครั้งนี้เขาพากู้เฟยหย่าติดตามมาด้วย นางยังคงเป็นพระชายาของเสวี่ยอ๋องตามเดิม อนุคนอื่น ๆ ไม่กล้ากลับมาเสนอหน้า ด้วยรู้ดีว่าเสวี่ยอ๋องอาจจะไม่ปล่อยพวกนางไป
ครึ่งเดือนให้หลังกู้เฟยหย่าก็ทราบความจริงว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการที่ได้จัดวางเอาไว้แล้วทั้งสิ้น เสวี่ยอ๋องไม่ได้ขัดราชโองการหรือกระทำความผิดจนต้องถูกเนรเทศไปยังเซียงหยางจริง ๆ ทั้งหมดนี้เขาล้วนทำเพื่อสตรีเดียวที่อยู่ในใจ
กู้เฟยหย่าตรอมใจเพราะเรื่องนี้ มีแต่นางที่โง่งมในรักและคิดว่าวันหนึ่งเขาจะหันกลับมามอง
โฉมสราญหัวอ่อนคนหนึ่งที่มีชีวิตสุขสบายมาโดยตลอดต้องเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ที่มีแต่การสู้รบและการฆ่าฟัน แต่นางก็ไม่เคยนึกโทษชะตาหรือบ่นออกมาแม้เพียงครึ่งคำ แม้ในภายหลังนางได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง แต่ร่างกายนี้ที่ถูกเคี่ยวกรำจากความเหน็บหนาวมามากว่าครึ่งปี บัดนี้กลับไร้ทางเยียวยาเสียแล้ว ถูกความเย็นเข้าแทรก ไม่อาจมีบุตรได้อีกต่อไป
ตำหนักไป๋ซิ่งของเสด็จอาฮ่องเต้ไม่อาจขาดผู้สืบทอดได้ ถกเถียงกันอยู่นานในท้องพระโรงของราชสำนัก สุดท้ายเมื่อหกวันก่อน ราชโองการแต่งตั้งชายาเอกคนใหม่ของเสวี่ยอ๋องก็ถูกประกาศออกมา
เสวี่ยอ๋องน้อมรับราชโองการด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่นานก็สั่งให้เทียนคงที่เป็นองครักษ์ข้างกายรีบไปเตรียมม้าเพื่อเข้าวัง
กู้เฟยหย่าไม่ยินยอม รีบวิ่งออกไปขัดขวางที่หน้าตำหนักทันทีพร้อมกับถามว่านางทำผิดที่ใด
เสวี่ยอ๋องสั่งให้นางไปสำนึกผิดที่ศาลบรรพชน ส่วนตัวเขาก็รีบเดินทางเข้าวังทันที
หลังจากนั้นกู้เฟยหย่าก็ไม่ได้เห็นหน้าเสวี่ยอ๋องเอีกเลยแม้เวลานี้นางจะออกมาจากศาลบรรพชนได้แล้วก็ตาม
"พระชายาเพคะ บัดนี้โอรสสวรรค์สิ้นแล้ว ท่านอ๋องยังคงต้องรั้งตัวอยู่ที่ในวัง ไม่อาจปลีกตัวออกมาได้ในตอนนี้ และบ่าวยังได้ยินมาอีกว่าขุนนางภายนอกไม่อาจเข้าไป ส่วนขุนนางภายในไม่อาจออกมา" เยว่ชิงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดห้าวันที่ผ่านมาให้กู้เฟยหย่าฟัง
กู้เฟยหย่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ฮ่องเต้องค์ใหม่เพิ่งจะขึ้นครองราชย์ได้ไม่ถึงครึ่งปีเสียด้วยซ้ำ เรื่องนี่ย่อมมีเบื้องหลังไม่ธรรมดา
การสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้ในครั้งนี่ยังมีเงื่อนงำและจุดที่น่าสงสัยมากมาย
"เจ้าได้ข่าวหรือไม่ ใครคือผู้ที่ได้ครอบครองบัลลังก์"
เยว่ชิงส่ายหน้า เวลานี้ยังไม่มีการประกาศสิ่งใดออกมาจากทางในวังทั้งสิ้น
"กู้เฟยหย่ารีบออกมารับราชโองการ" เสียงแหลมสูงของขันทีคนหนึ่งดังขึ้นมาจากทางห้องโถงทันที
กู้เฟยหย่าเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี รีบลุกจากเตียงแล้ววิ่งด้วยเท้าเปล่าออกไป
เมื่อมาถึงห้องโถงขันทีคนนั้นก็เชิดหน้าขึ้นมา "คุกเข่าลง"
กู้เฟยหย่าทำตามด้วยท่าทางที่เหม่อลอย หวังเพียงแต่ว่าราชโองการฉบับนี้จะยังปรานีนางบ้าง ขออย่าให้เป็นดังที่นางคิดเลย
เยว่ชิงที่รีบวิ่งตามมาก็คุกเข่าลงเช่นกัน
"อดีตฮ่องเต้แต่งตั้งเสวี่ยอ๋องให้เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ สมรสกับฮองเฮาเพื่อปกครองแผ่นดินต้าเซี่ยร่วมกัน กู้เฟยหย่าไม่อาจมีทายาทเพื่อสืบสกุลให้กับเสวี่ยอ๋องได้ ถือว่าทำผิดคุณธรรมจรรยา ปลดออกจากตำแหน่งพระชายาทันที มอบเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทองเพื่อแสดงน้ำใจ ส่งตัวไปยังเซียงหยางแล้วให้ใช้ชีวิตที่นั่นตลอดไป"
กู้เฟยหย่ากระอักเลือดออกมาทันที ที่ตรอมใจจนป่วยไข้ก็นับว่ารักษาแทบไม่หายแล้ว นี่ยังมีเรื่องที่เหมือนกับจะฆ่าให้ตายทั้งเป็นบดขยี้ลงมาซ้ำ
"พระชายาเพคะ ทรงเป็นอะไรไป ใครก็ได้ รีบตามหมอหลวงมาที!" เยว่ชิงรีบเข้ามาประคองพระชายาเอาไว้ โขกศีรษะให้ขันทีผู้นั้นอย่างแรง หวังว่าเขาจะเห็นใจพระชายาบ้าง
"ข้ายังมีเรื่องมงคลอีกเรื่องที่ต้องกลับไปทำ พระชายาค่อย ๆ จัดเก็บข้าวของให้ดีก็แล้วกัน ข้าคงต้องขอตัว"
เรื่องมงคลที่ว่านั้นจะต้องเป็นเรื่องการอภิเษกระหว่างฮ่องเต้องค์ใหม่กับฮองเฮา
เมื่อขันทีคนนั้นจากไป เยว่ชิงก็รีบประคองกู้เฟยหย่าขึ้นมา "หม่อมฉันจะพาพระชายาไปพักผ่อนที่ด้านใน อดทนเอาไว้นะเพคะ หม่อมฉันจะรีบไปเข้าเฝ้าที่ในวัง"
หลังจากนั้นเยว่ชิงก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย กู้เฟยหย่าคิดว่านางคงจะเจอเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี
กู้เฟยหย่าถูกละเลยอีกครั้ง พลังชีวิตของนางก็ถดถอยลงไปทุกวัน นึกโทษตัวเองที่รักมั่นจนเกินไป
วาระสุดท้ายก่อนที่นางจะจากไป นางเห็นบุรุษร่างสูงที่มีสีหน้าเจ็บปวดจนแทบคลั่งคนหนึ่งที่นางคิดถึงทุกลมหายใจกำลังวิ่งมา
กู้เฟยหย่าคิดว่านี่คงเป็นภาพหลอนก่อนตาย ไม่เช่นนั้นนางจะเห็นท่าทางหัวใจสลายของเขาได้อย่างไร
"เฝ**นหลิงหยุน หากชาติหน้ามีจริงข้าจะไม่รักท่านอีกแล้ว ระหว่างเราขอให้จบกัน"