คนไม่มีศีล2

1546 คำ
"จะทำอะไรก็อย่าเสียงดังให้มาก เพราะฉันจะอาบน้ำต้องการสมาธิ ไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลาอาบน้ำชำระล้างร่างกายและจิตใจให้สะอาด!" พูดจบหมอพุฒตาลก็หยิบผ้าเช็ดตัว พร้อมทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่เดินเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ได้หันกลับมามองคนทั้งสองแม้แต่หางตา "มินนี่ใส่เสื้อผ้าแล้วกลับไปก่อน" "อะไรกันคะคุณเตชิน คุณยังไม่เสร็จเลยไม่ใช่เหรอ" เธอพูดอย่างยั่วยวนและไม่อายทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่า "คุณกลับไปก่อน" คำพูดที่เรียบเฉยของเตชิน สร้างความไม่พอใจให้กับมินนี่เป็นอย่างมาก "คุณแคร์เธอเหรอคะ ไหนบอกมินนี่ว่าต้องการหย่ากับเธอ ทำยังไงก็ได้ให้เธอขอหย่านี่ไงเรากำลังทำอยู่และมันกำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว” มินนี่ไม่พูดเปล่าแต่เธอยังเอามือไปคล้องคอของชายหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะก้มลงไปจูบเขาอย่างดื่มด่ำและเร่าร้อนอีกครั้ง พลั่ก!! “โอ๊ย! นี่คุณผลักมินนี่ทำไมคะ" "คุณน่าจะรู้กฎดีถ้าผมบอกว่าไม่ก็คือไม่รีบใส่เสื้อผ้าแล้วกลับไปซะ” แม้ว่ามินนี่จะขัดใจกับสิ่งที่เตชินกระทำ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เมื่อเขาให้เธอกลับเธอก็ต้องกลับตามคำสั่งที่เขาบอกมา ไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่ได้รถไม่ได้เงินไม่ได้อะไรจากเขาอีกเลย หมอพุฒตาลอาบน้ำนานกว่าที่เคย ภาพของชายที่เป็นสามีเคลียคลออยู่กับนารีอื่น แวบเข้ามาในหัวของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่ปากก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่ใจของเธอมันกลับรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทุกครั้ง เมื่อภาพเหล่านั้นมันแวบเข้ามาในหัวของเธอ เมื่อหมอพุฒตาลเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอเดินไปหยิบหมอนในตู้ พร้อมกับผ้าห่มผืนบาง ก่อนจะวางหมอนลงที่โซฟาแล้วล้มตัวลงไปนอนเหยียดยาวดึงผ้ามาห่มแล้วหลับตาลง การกระทำของหมอสาวอยู่ภายใต้สายตาของเตชิน ที่เวลานี้เขามีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวเอาไว้ "ไปไหนมาทำไมเสื้อผ้าถึงได้เปื้อนเลือดแบบนั้น" คำถามที่สงสัยปนความห่วงใยเล็กน้อยของชายหนุ่มได้เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อหมอสาวไม่ตอบเขาจึงเดินเข้าไปใกล้ พร้อมทั้งอุ้มช้อนร่างบางขึ้นไว้กับวงแขนกว้าง "ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะคุณจะทำอะไร" หมอสาวพยายามขัดขืน แต่เธอก็ไม่สามารถขัดวงแขนแข็งแกร่งของเขาได้ "ไปนอนที่เตียง" ชายหนุ่มได้พูดออกมาด้วยเสียงนุ่ม "เตียงสกปรกนั่นฉันไม่มีทางไปนอนปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้" หมอสาวพยายามดิ้นเธอดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด ตุ้บ! เขาวางหมอสาวลงกลางเตียงอย่างแรง "ผมเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มปลอกหมอนทุกอย่างหมดแล้ว" ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างลืมตัวนี่เขากำลังแคร์อยู่หรือเปล่า หมอพุฒตาลไม่พูดอะไรเพราะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอจึงล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยหน่ายและเอือมระอา "แล้วไปโดนอะไรมาทำไมถึงเปื้อนเลือดมาแบบนั้น ผมจะไม่ถามเป็นครั้งที่สามตอบ!" คำถามของเตชิน ทำให้หมอพุฒตาลถอนหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งก่อนจะตอบเขาออกไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวจะได้นอนสักที "พอดีฉันเดินไปเจอกลุ่มวัยรุ่นยิงกัน แล้วเด็กโดนลูกหลงก็เลยเข้าไปช่วย!" "ฮ่ะ! คุณว่าอะไรนะ! แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่า" เตชินถามออกมาอย่างร้อนรนใจและลืมตัวกับท่าทีที่กำลังแสดงออกมาราวกับว่าเขากำลังเป็นห่วง "เปล่า อย่าบอกนะว่าคุณเป็นห่วงฉัน” "ผมเนี่ยนะเป็นห่วงคุณ ที่ถามก็เพราะว่าจะได้จองศาลาและนิมนต์พระถูก!" พอพูดจบเตชินก็เดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้หมอพุฒตาลขุ่นเคืองกับคำพูดของเขา ไม่ห่วงก็ไม่ว่านี่ยังจะมาแช่งเธออีก เธอมีมารดาที่ต้องดูแล ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนกับเขา ที่สุขสบายไปทั้งชาติ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจจนเคยตัว เห็นผิดเป็นถูกเห็นขาวเป็นดำ พูดมาแล้วหมอพุฒตาลก็รู้สึกเจ็บใจ ที่ทำอะไรก็ไม่ได้เลย เมื่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ในที่สุดหมอสาวก็หลับปุ๋ย เมื่ออาบน้ำเสร็จเตชินได้เดินออกมาจากห้องน้ำ ปรากฏว่าหมอพุฒตาลได้หลับไปแล้ว เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะก้มลงสำรวจใบหน้างามที่เวลานี้มันปราศจากเครื่องสำอาง แต่ยังคงความมีเสน่ห์กับใบหน้ารูปไข่ที่สวยมาก เหมาะกับปากนิดจมูกหน่อย ดวงตาดังตะวันทอแสงส่องประกาย ทำให้ทุกคนที่มองมาแล้วอยากสบตาเธอเอาไว้ ความเป็นจริงแล้วหมอพุฒตาลแทบจะไม่ได้ใช้เครื่องสำอางพวกนั้น ปกปิดใบหน้าเอาไว้เลยด้วยซ้ำ เธอสวยธรรมชาติต่างหาก ความงามของเธอที่ไม่เคยผ่านการศัลยกรรม มันกำลังทำให้เขานั้นสับสน นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ เขาจะแคร์เธอทำไม นั่นคือเสียงหัวใจของเตชินที่ถามมา หลังจากกลับจากฮันนีมูน หมอพุฒตาลกับเตชินก็ไม่ค่อยได้พูดกัน หมอสาวไม่รู้ว่าเขากำลังคิดแผนอะไรอยู่หรือเปล่า เธอเหนื่อยที่จะตั้งรับแล้ว ลำพังงานที่โรงพยาบาลของผู้ป่วยแต่ละคนที่เธอจะต้องรักษาทำการผ่าตัดนั้น ก็ตึงเครียดมากพออยู่แล้ว ยังต้องมาเจอกับเขาผู้เป็นสามีที่นำแต่เรื่องต้องคิดมากมาให้อีก เมื่อก่อนหมอพุฒตาลมุ่งเป้าไปที่คนไข้เพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ต้องมาคิดอีกเรื่อง นั่นคือการประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่น แม้มันจะไม่ชื่นมื่นก็ตาม ยังไงเธอก็จะพยายามอดทน เพื่อรักษาสถานภาพความเป็นสามีภรรยาเอาไว้ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามจะทำลายให้มันจบลง ด้วยวิธีต่างๆ นานา ที่จะสรรหามาทำร้าย และทิ่มแทงใจให้เธอต้องเจ็บปวดก็ตาม เมื่อแต่งตัวเสร็จหมอพุฒตาลก็เดินลงมาด้านล่าง พบว่าเตชินกำลังนั่งรับประทานของว่างอยู่ เพราะตอนนี้เวลาเพิ่งจะบ่ายสองโมงเศษ แต่ก็น่าแปลกใจที่วันนี้เขาอยู่ติดบ้านได้ "อ้าว! หนูพุฒตาลจะไปทำงานแล้วเหรอลูก" มารดาของสามีเอ่ยถาม ขณะที่เธอเดินมาถึงพอดี และกำลังจะเดินผ่าน เพราะเธอไม่ได้สังเกตว่ามารดาของเตชินก็นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย "ค่ะคุณแม่สายแล้วตาลรีบขอตัวนะคะ" “เดี๋ยวก่อนลูก... เตชินไปส่งเมียแกหน่อยสิวันหนูพุฒตาลออกเวรกี่ทุ่มจ๊ะ” "วันนี้ตาลออกเวรเที่ยงคืนค่ะคุณแม่ แต่ถ้ามีเหตุสุดวิสัยอาจจะเลทกว่านั้นค่ะ" "ไปสิเตชินรีบไปส่งเมียแกเดี๋ยวสาย" ผู้เป็นมารดาเอ็ดลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดไม่จาอะไร "ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่เดี๋ยวตาลขับรถไปเอง" "ไม่ได้ ดึกขนาดนั้นมันอันตราย เตชินไปส่งดีแล้วและก็ไปรับด้วยนะ" “ผมไม่ว่าง” คำพูดสั้นๆ นั้น แต่แฝงไปด้วยความไม่ชอบใจ ในสิ่งที่มารดากำลังบังคับให้เขาทำ "ขอโทษนะคะคุณแม่ สายมากแล้วตาลขอตัวนะคะ" หมอสาวรีบพูดขึ้นก่อนจะเดินออกมา เพราะเธอไม่อยากให้สถานการณ์มันแย่ไปกว่านี้ หากเขากับแม่ต้องมาทะเลาะกันเพียงเพราะเธอเป็นสาเหตุ ในเมื่อมันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลีกเลี่ยงได้เธอก็จะหลีกเลี่ยงมัน ในขณะที่หมอพุฒตาลกดรีโมทกุญแจรถยนต์ และเอื้อมมือกำลังจะเปิดประตูรถนั้น มือหนาของเตชินก็ได้จับกระชากมาที่ข้อมือเล็กเรียวของเธออย่างแรง จนทำให้ร่างบางเซถลาไปตามแรงกระชากจนเกือบล้ม "ขึ้นรถจะไปส่ง ผมอยากรู้จังเลยคุณได้ใส่อะไรลงไปในอาหาร ให้แม่ผมทานหรือเปล่า ทำไมแม่ถึงได้หลงคุณขนาดนี้" หมอพุฒตาลไม่พูดอะไร เธอเดินเลี่ยงไปเปิดประตูรถ ก่อนจะขึ้นไปนั่งแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยจากนั้นเตชินได้ขับรถออกไปอย่างเร็ว บางครั้งก็เล่นเบรกจนหมอสาวหัวทิ่มก็มี สารพัดแต่เขาจะแกล้งเธอ ขอแค่มีโอกาสเตชินก็พร้อมจะลงมือ แม้จะเป็นการทำให้เธอเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย เขาก็จะทำขอแค่ทำแล้วเธอเจ็บเขาก็พอใจ บางครั้งก็แกล้งขับช้าเหมือนกับว่าเขากำลังตั้งใจ ที่จะให้เธอนั้นไปทำงานสาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม