ภายในบ้านหรือจะเรียกว่าคฤหาสถ์ก็ได้ เพราะมันใหญ่โตดูโอ่อ่ามาก ซึ่งในขณะที่เตชินกำลังจะออกจากบ้าน ก็เจอกับผู้เป็นมารดาที่ดักรออยู่ก่อนหน้าแล้ว วันนี้ฤกษ์ไม่ดีแน่ ถ้ามารดาดักรอแบบนี้ แต่เขาก็เดินเข้าไปหาผู้เป็นมารดาแล้วนั่งลงไปโอบกอดอย่างออดอ้อนเหมือนเด็กๆ วันนี้เตชินได้นัดกับเพื่อนๆ เอาไว้มีปาร์ตี้ที่ริมสระครบเครื่องด้วยสุราและนารี มันคือสิ่งที่เขาหลงรักเป็นชีวิตจิตใจ จนลืมไปว่าเขามีพี่ชายที่ต้องแบกรับภาระทุกอย่างเอาไว้เพียงผู้เดียว หลังจากที่พ่อเสียไป
“แกจะออกไปไหนค่ำมืดป่านนี้ อยู่ติดบ้านติดเรือนบ้างจะเป็นไร งานการก็ไม่ทำ อะไรก็ไม่สนใจ เที่ยวเตร่ไปวันๆ ฉันขอถามแกจริงๆ เถอะแกจะไม่ช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ชายเลยใช่ไหมเตชิน” คำบ่นของผู้เป็นมารดายาวเป็นหางว่าว ถามว่าเขาสะทกสะท้านไหม ก็ขอตอบเลยว่าไม่ เตชินไม่เคยยินดียินร้ายกับคำพูดเหล่านั้นเลยสักนิดเขายังคงทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ไม่สนใจการงานเหมือนดั่งเคย
“วันนี้ฉันจะขอยื่นคำขาดกับแก ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นแม่ก็หยุดอยู่บ้านแล้วฟัง” คำพูดที่ดูจริงจังของมารดาวันนี้ ทำให้เขาถึงกับหน้าเสียไปนิดหนึ่ง
“แม่มีอะไรจะบ่นผมอีกครับว่ามาเลย ผมนัดกับเพื่อนเอาไว้วันนี้ยังไงก็ต้องออกจากบ้าน”
“ได้! แกเตรียมตัวแต่งงานได้แล้ว มันหมดเวลาที่แกจะมาเที่ยวเตร่ไปวันๆ ถึงเวลาที่แกจะสร้างครอบครัวได้แล้วเตชิน” เขายังตลกกับคำพูดของผู้เป็นมารดาอยู่ๆ จะให้แต่งงานกับใครไม่มีทาง เขาไม่มีวันจะแต่ง เมื่อชีวิตโสดแบบนี้มันคุ้มค่ามากกว่าการมีพันธะกับใครสักคน แล้วต้องยึดติดกับคำว่าความถูกต้อง ซึ่งเขาไม่ชอบเอาเสียเลย
“แม่ครับ! แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบการผูกมัดกับใคร ผมไม่มีทางที่จะแต่งงานกับใครเป็นอันขาด” เขายื่นคำขาดกับผู้เป็นมารดาเช่นกัน เพราะยังไงเขาก็ไม่แต่ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มารดาหามาให้
“ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูพุฒตาล!” ผู้เป็นมารดายื่นคำขาดออกมาอีกครั้ง ถ้าเตชินไม่แต่งเขาก็จะไม่เหลืออะไรเลย ดูซิว่าจะยอมไหม นั่นคือสิ่งที่มารดากำลังนึกคิดในใจ
ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เตชินหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินชื่อหมอพุฒตาล ซึ่งชายหนุ่มคิดว่าเธอคงแต่งตัวยังกับป้า แน่นอนว่าไม่ใช่สเปกหรือรสนิยมของเขาแน่
“ผมถามจริงๆ เถอะครับ แม่ไปคว้าผู้หญิงคนนี้มาจากไหน แค่ชื่อก็เธอเชยชะมัด คนอะไรชื่อพุฒตาล ผมไม่มีทางแต่งงานกับยัยเฉิ่มของแม่เป็นอันขาด”
“แม่ให้แกเลือกระหว่างแต่งงานกับหนูพุฒตาล กับโดนริบบัตรเครดิต และรถสปอร์ตของแก รวมทั้งเงินเดือนทั้งหมดที่แกจะได้รับ แกจะเลือกแบบไหนตอบมา” สีหน้าของผู้เป็นมารดาดูเครียด น้ำเสียงของนางดูจริงจังอย่างที่เตชินไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
“โธ่แม่! แม่มีช้อยให้เลือกแค่สองช้อยเอง ก็ไม่ต่างอะไรกับมัดมือชก ทำไมแม่ไม่นำทางเลือกที่สามมาให้ผมล่ะ”
“อะไรคือทางเลือกที่สามไหนแกลองว่ามาซิ”
“ให้ออกจากบ้านได้ไม่รีบบัตรเครดิต ยังใช้รถสปอร์ต แค่เข้าออกบ้านเป็นเวลา จากที่เคยกลับตีสองตีสาม ก็จะกลับตีหนึ่ง เห็นไหมครับผมย่นระยะเวลาเข้าบ้านตั้งเป็นชั่วโมง แค่นี้เองโอเคนะครับแม่” ผู้เป็นแม่ฟังถึงกับส่ายหัว สิ่งที่เตชินพูดมามันไม่ได้ส่งผลให้เขาดีขึ้นเลย ดีไม่ดีมันแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ
“มันคือทางเลือกที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้มาก ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูพุฒตาล แม่เตรียมงานเอาไว้แล้ว แถมแกอาจจะได้รถคันใหม่อีกสักคันก็ได้ เป็นของขวัญในวันแต่งงาน” เตชินกำลังใช้ความคิดและเหตุผล ถึงสิ่งที่แม่กำลังพูดยายนั่นคงไม่มีอะไรมากมาย หากต้องโดนริบบัตรเครดิตและรถสปอร์ตแล้วล่ะก็ เขาคงอยู่ไม่ได้จะเอาเงินที่ไหนไปเปย์สาวๆ พวกนั้น ซึ่งเขามีในสต๊อกนับไม่ถ้วน
“ที่สำคัญตอนนี้งานที่บริษัทเตชิตทำไม่ไหวคนเดียว แกจะเที่ยวยังไงฉันไม่ว่าอะไร ถือว่าแม่ขอเถอะนะเตชินไปช่วยงานพี่เขาหน่อย”
“สรุปแม่จะให้ผมแต่งงานแล้วยังจะต้องเข้าบริษัทอีกเหรอครับ โอ้มายโกสต์ นี่มันหายนะชัดๆ”
“ตกลงตามนี้ แกเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวไว้เลย สำหรับวันนี้แกจะไปเที่ยวไหนก็เชิญตามสบาย เริ่มจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป ให้แกไปช่วยงานบริษัทเตชิตแล้วฉันจะเพิ่มวงเงินในบัตรให้"”
“ขอบคุณครับนายแม่ผมขอตัวนะครับจุ๊บ!” เตชินขับรถสปอร์ตคันหรูออกจากบ้านหลังใหญ่ ตรงไปยังจุดหมายที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ ถือว่าวันนี้เป็นการฉลองสละโสด แบบมัดมือชกก็แล้วกัน ยายเฉิ่มพุฒตาลกล้าดียังไง ถึงได้เข้ามาล้วงคองูเห่า เธอจะได้รับสิ่งตอบแทนที่สาสมอย่างแน่นอน
เมื่อเธอทำให้เขาต้องโดนบังคับให้แต่งงาน ผู้ชายอย่างเตชินไม่ยอมลำบากแน่ ผู้เป็นมารดาจึงยกเอาเรื่องบัตรเครดิตมาเป็นข้ออ้าง เพราะนางรู้จักลูกชายดี เตชินใช้เงินอย่างกับเศษกระดาษ เขาไม่รู้คุณค่าของมันด้วยซ้ำ เมื่อเขาเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านจิรายุพาณิชย์ แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่ผู้เป็นมารดาต้องการในตอนนี้คือการได้อุ้มหลาน ซึ่งหมอพุฒตาลมีคุณสมบัติครบตามที่นางต้องการ เธอเหมาะที่จะเป็นสะใภ้คนเล็กของบ้านอย่างไม่มีเรื่องอะไรให้ด่างพล้อยเลยแม้แต่น้อย