Episode 2
“เดี๋ยวกูตามไป” สิ้นเสียงของ ปาร์ค หนุ่มหล่อคณะวิศวกรรมโยธาปีสี่ จัดได้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่น่าคบหามากที่สุด ใบหน้าคมคายที่ไม่ได้นิ่งเย็นชาเพียงแค่ไม่ได้มีใบหน้าที่เป็นมิตรกับทุกเพศทุกวัยก็เท่านั้น จิตใจไม่ได้ดีเพราะไม่ใช่คนดีอะไร แต่แปลกที่สาวๆ ในมหาวิทยาลัยต่างกรี๊ดกร๊าดกันทุกครั้งเมื่อพบเห็นเขา ซึ่งโคตรจะเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากๆ สำหรับเขาเลย
‘ทำตัวเหมือนอยู่ตลาด น่ารำคาญฉิบหาย!’
รู้ไหมว่าขณะที่ปาร์คพูดประโยคนี้ ใบหน้าของเขาแทบไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย มีเพียงหัวคิ้วที่ชอบขมวดติดกันอย่างยุ่งเหยิงด้วยความรู้สึกหงุดหงิด ภายใต้ความหล่อเหลาเอาเรื่องของปาร์คถูกแทรกซึมด้วยความรู้สึกน่ารำคาญใจและอยากเดินเข้าไปถอดรองเท้ายัดปากคนพวกนั้นให้หุบปากลงเสียที
“อย่าช้า พวกไอ้ธันว์รอ” ปริ๊นซ์ หนุ่มหล่อเย็นชาหน้าตาย ส่วนสูงสูงกว่าปาร์คเล็กน้อยเท่านั้น ดำรงตำแหน่งเดือนคณะของสาขาโยธา และพ่วงมาด้วยการเป็นเพื่อนสนิทของปาร์ค
ว่าจบปาร์คก็พยักหน้ารับก่อนที่ปริ๊นซ์จะหมุนตัวเดินไปทางลานกีฬา เพราะช่วงพักกลางวันของทุกวัน กลุ่มพวกเขาจะชอบนัดกันไปเตะตะกร้อบ่อยๆ ซึ่งเป็นจุดเรียกแขกได้ดีเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะหนุ่มสาวคณะไหนก็มักจะชอบมานั่งดูพวกเขาเล่นตะกร้อกันทุกวันหลังจากที่กินอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว เรียกได้ว่าคนกลุ่มนี้ถือเป็นหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยเราเลยก็ว่าได้
หลังจากที่แยกย้ายกันกับปริ๊นซ์หน้าคณะ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงห้านาที ยังพอมีเวลาให้ปาร์คอยากที่จะเดินไปซื้อน้ำอัดลมใต้อาคารกินสักกระป๋องให้มันชื่นใจเนื่องจากอากาศของวันนี้ค่อนข้างร้อนอบอ้าวน่าดู แล้วค่อยเดินตามไปที่ลานกีฬาทีหลัง เพราะพวกที่เหลือกำลังรอเขาอยู่
ปาร์คใช้เวลาไม่นานในการเลือกหยิบเครื่องดื่มมาหลายอย่างก่อนที่จะจ่ายเงิน ใส่ถุง และเดินออกมาด้วยใบหน้ายากที่จะอธิบายคิ้วที่ชอบขมวดเข้าหากันยังไงตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ดีหรือไม่ดี คือใบหน้าก็ยังคงความไม่เป็นมิตรอยู่เช่นเคย
ป๊อก! ซ่า!
ฝากระป๋องน้ำอัดลมถูกมือหนาจับงัดขึ้นเพื่อเปิดออกแล้วกระดกดื่มลงคอดัง อึก ๆ เพื่อขับไล่ความกระหาย ปาร์คกวาดสายตามองไปรอบ ๆ คิดอะไรเพลิน ๆ แล้วจะเดินออกจากใต้อาคารเพื่อไปรวมกับกลุ่มเพื่อนพร้อมกับถุงเครื่องดื่มหลายชนิดที่เขาซื้อไปให้พวกนั้นหลังเล่นกันเสร็จ
สักพักใบหูข้างขวาก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกลุ่มผู้หญิงต่างคณะกลุ่มหนึ่งที่กำลังวิ่งมาทางนี้ บ้างก็หันไปหัวเราะคิกคักกันเหมือนกำลังวิ่งหนีจากอะไรมาแต่ก็ยังมีความสนุกและสะใจจนปาร์คก็ไม่เข้าใจ ‘เป็นบ้าอะไร’
กระทั่งมุ่งตรงมาทางเขาแล้วเลี้ยวเข้าไปใต้อาคารที่เขาเพิ่งเดินออกมาไม่ไกลมาก ยังพอให้ได้สังเกตเห็นนักศึกษาสามคนนั้นอย่างชัดเจน แต่คนที่สะดุดตาเขามากกว่าคนอื่นก็คงจะเป็นคนตัวเล็กที่มีใบหน้ารูปไข่กับแก้มกลม ๆ คนนั้น…
‘ผู้หญิงอะไร หน้าอ้วนแถมยังตัวเตี้ย’
และนี่คือสิ่งที่ปาร์คคิดในใจเมื่อสายตาเหลือบเห็น หมูแฮม กับเพื่อนอีกสองคนที่เดินมาด้วยกัน เนื่องจากพวกเธอพากันวิ่งหนีรุ่นพี่สองคนนั้นมาจากโรงอาหารอย่างสุดกำลัง มาถึงใต้อาคารก็ขอแวะซื้อน้ำท่าดื่มกันสักหน่อยก่อนจะเป็นลมกันเสียก่อน
Mooham Part
“โอ๊ย! เหนื่อยมากเลยอะ แฮก ๆ” ฉันเดินเข้ามาด้านในของใต้อาคารพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน เพื่อจะไปซื้อน้ำมาดื่มกินกัน เนื่องจากเมื่อสักครู่ได้มีการฟาดฟันกันทางคำพูดกับรุ่นพี่สองคนนั้นอย่างถือดีแล้วรีบวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็วโดยลากอัญชันวันใหม่มาด้วย แล้วมันใช่เรื่องที่ไหนกัน ไม่ชอบก็อยู่ส่วนไม่ชอบสิมันไม่ถูกเหรอ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีตัวเลือกที่จะจัดการกับความไม่ชอบของตัวเองตั้งมากมาย แต่ก็ยังเลือกที่จะตามมาระรานกันแบบนี้ โดนฉันสวนกลับไปแบบนั้นมันก็สมควรแล้วล่ะ
“วันนี้สุดมากอะแฮม โคตรเลิศเลย เขาก็ทำตัวสมควรให้เด็กมันด่าเนอะ ฮ่าฮ่า” วันใหม่พูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันอารมณ์ดีหลังจากที่พวกเราสามคนจ่ายเงินค่าน้ำอัดลมกันเรียบร้อยแล้ว ฉันเลยหันไปยักคิ้วให้วันใหม่เป็นเชิงบอกว่าพวกนั้นต้องเจอฉันสวนกลับแบบนี้บ้าง ไม่งั้นก็ตามระรานกันไม่เลิกสักที จะได้รู้กันไปเลยว่าหมูแฮมมันก็สู้คนนะ!
“แต่แฮมพูดออกไปแบบนั้น เขาจะยิ่งไม่ชอบแฮมหรือเปล่า” อัญชันถามขึ้นต่อ สีหน้าอัญชันตอนพูดดูไม่ค่อยดีเลยอะ คงจะเป็นห่วงฉันมาก กลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นตามมาทีหลัง ฉันก็เข้าใจในความเป็นห่วงของเพื่อนนะ แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ฉันก็สู้ไม่ถอยอยู่แล้วถึงจะสู้ไม่ได้ก็ตาม เอาเป็นว่าสู้ได้ก็สู้ สู้ไม่ได้ก็วิ่ง วิ่งแบบเมื่อกี้ เหนื่อยมากเลยอะ วิ่งมาโคตรไกลเลยขอกินน้ำก่อนนะ
ก่อนหมดเบรกพวกเราสามคนเลยสั่งขนมปังปิ้งราดนมมากินกันก่อนขึ้นตึกเรียน โดยเลือกที่จะนั่งกินนั่งเล่นกันอยู่คาเฟ่ข้างบันไดทางขึ้นพอดี ฉันเลือกที่จะสั่งให้เขาราดนมข้นให้เยอะๆ เพราะฉันชอบกินหวานมาก อัญชันวันใหม่ก็ชอบเหมือนกัน เราสามคนนี้มีอะไรคล้ายกันเยอะแยะไปหมด แถมยังสวยเหมือนกันอีกต่างหาก ฮ่าฮ่า
“เอ๋!? กำไลข้อเท้าแฮมหายไปไหนอะ” แล้วหลังจากที่ฉันกำลังนั่งกินขนมปังมาสักพัก สายตากลมโตของตัวฉันเองก็เหลือบไปเห็นความว่างเปล่าของข้อเท้า ที่ปกติมักจะมีเครื่องประดับชิ้นโปรดสวมอยู่ แต่ตอนนี้มันกลับ… หายไป
ไม่น้าาาาาา!
นี่ฉันวิ่งหนีรุ่นพี่สองคนนั้นมาจนไม่ระวังทำกำไลข้อเท้าที่ยายซื้อให้หลุดหายกลางทางเลยเหรอเนี่ย บ้าจริง ๆ เลย! แล้วมันหลุดออกไปตั้งแต่ตอนไหนกันอะ วิ่งมาไกลมากด้วยสิ
กำไลข้อเท้าอันนี้เป็นของขวัญที่ยายฉันซื้อให้ เป็นของสำคัญของฉันที่มีค่ามากที่สุด เพราะหลังจากแม่เสีย พ่อมีภรรยาใหม่ ฉันก็อยู่กับยายแค่สองคนเท่านั้น เรามีกันแค่นี้ ยายเลยเป็นทุกอย่างสำหรับฉัน แต่ตอนนี้ความสะเพร่าของตัวเองส่งผลให้ของรักของหวงของฉันหลุดหายกลางทาง แฮมจะร้องไห้!
“จริงด้วย ปกติแฮมจะใส่ไว้ตลอดเลยนี่” ที่วันใหม่พูดคือเรื่องจริง ฉันไม่เคยถอดของสำคัญออกจากตัวเลยกระทั่งตอนอาบน้ำก็ไม่เคยถอด
“งั้นช่วงเลิกเรียนเดี๋ยวเราช่วยหานะ แฮมไม่ร้องสิ” อัญชันพูดต่อ แต่เมื่อเธอเห็นฉันเบะปากเหมือนจะร้องไห้ก็รีบลุกขึ้นมาลูบหลังปลอบฉันทันที
“แต่ถ้าไม่รีบไปหาแล้วมีคนเจอเก็บไปทิ้งล่ะ แฮมจะทำไง” ยายจ๋า แฮมขอโทษ