“แค่คุยแน่นะคะ” มาดามเกดหลิ่วตามองนาฬิกาข้างผนัง นังชมพู่เพิ่งเข้าห้องคาราโอเกะกับแขกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คงจะยังไม่ย้ายไปห้องเชือดแล้วอะบึลาฮึ่มกันหรอกมั้ง เพื่อตัดปัญหาไม่ให้เสี่ยเงินกู้รายใหญ่พาลูกน้องมาถล่มร้าน มาดามเกดยอมเอาใจเขา “ค่ะ ได้ค่ะ เชิญตามเกดมาทางนี้ เกดจะพาเสี่ยไปหาน้องชมพู่ค่ะ”
“เสี่ยขา...”
ตามทางเดินมีน้องๆ หนูๆ หว่านเสน่ห์เสี่ยไก่ บางคนแต่งกายปกติ บางคนแหวกแนวใส่ชุดคอสเพย์ พยาบาลบ้าง นักศึกษาบ้าง มาดามเกดส่งสัญญาณให้เด็กในร้านยั่วแรงขึ้นถึงขั้นเข้ามาเลื้อย แต่เสี่ยไก่ทำหน้าตาซีเรียสปัดมือเด็กพวกนั้นทิ้งทั้งหมด ดูจากลักษณะท่าทางแล้วคงจะหลงชมพู่หัวปักหัวปำจึงนำทางพาเสี่ยมายังห้องคาราโอเกะวีไอพีที่มีอยู่แค่ 3 ห้อง คนรวยเท่านั้นจะจองห้องระดับนี้เพราะแค่ค่าเปิดห้องอย่างเดียวก็แพงเท่านอนโรงแรมสี่ดาวหนึ่งคืน
“เข้าไม่ได้ครับ”
ลูกน้องของลูกค้าที่อ๊อฟชมพู่ไปเข้ามาขวางทาง มีสองคนตัวหนาถึกบึกบึน คนละเรื่องกับลูกน้องเสี่ยไก่ มีสองคนเหมือนกันแต่รุ่นพี่ของพ่อมาดาม น่าจะขับรถเป็นอย่างเดียว ถึงเวลาจำเป็นต้องคุ้มครองเจ้านายพวกเขาอาจจะเพ่นแนบไปอย่างไว
“ฉันเป็นมาดามเจ้าของร้าน อยากเรียกเด็กที่เข้าไปในห้องออกมาคุยกันสักหน่อย พวกนายช่วยเข้าไปบอกเจ้านายแทนฉันได้ไหม อ้อ ฉันจะแนะนำให้รู้จัก คนนี้เสี่ยไก่ เจ้าพ่อเงินกู้กับบ่อนตีไก่รายใหญ่ เรียกเด็กคนนั้นออกมาคุยเถอะนะ ฉันขอร้อง”
“ไม่ได้ครับ คุณคณาสั่งห้ามไว้ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน”
“คณา ชื่อนี้คุ้นๆ” เสี่ยไก่เค้นสมอง
“เจ้าของฟาร์มวัวนมกับโรงงานแปรรูปนมวัวค่ะเสี่ย” พรายมาดามเกดเข้ามากระซิบ
หล่อนรู้จักคนรวยทุกคนที่อาศัยในจังหวัดหรือจะแค่มาทำธุรกิจก็รู้จักหมด คณาธิปใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ เพิ่งจะเคยมาเที่ยวคาราโอเกะของหล่อนครั้งแรก
“ไอ้หมอนั่น คนที่มันแย่งซื้อที่ดินแข่งกับเสี่ยไม่ใช่เหรอครับ” ลูกน้องรุ่นลุงความจำดีมากกว่าเสี่ยเงินกู้
ไอ้เศรษฐีหนุ่มจากกรุงเทพฯ คนนั้นนั่นเอง!
หน้าตายียวนกวนประสาทของคณาธิปฝังในเซลล์สมองส่วนที่ลึกที่สุดของเสี่ยไก่ มันทำให้เขาอับอายต่อหน้าคนจำนวนมาก เพราะไม่กล้าเสนอเงินในราคาที่สูงขึ้นต่อเจ้าของที่ดินคนเก่า ทำให้ที่ดินแปลงงามมากกว่าห้าสิบไร่ตกอยู่ในมือคณาธิปง่ายดาย
“เสี่ยขา!”
ผลัวะ!
เสียงมาดามเกดลอดผ่านเข้าไปในห้องคาราโอเกะ เนื่องจากเสี่ยไก่ใช้ร่างกายอ้วนถ้วนสมบูรณ์ของเขาเบียดคนของคณาธิปเข้ามาหมุนลูกบิด เปิดประตูเข้าไปเผชิญหน้ากับศัตรูคู่แค้น
ภาพตรงหน้าทำให้เสี่ยเงินกู้ชีช้ำกะหล่ำปลีถึงขั้นร้องโหยหวน “น้องชมพู่!”
พู่... พู่... พู่... พู่...
มีเสียงสะท้อนกลับเข้ามาในหูเสี่ยไก่
“ทำอย่างนี้กับเสี่ยได้ยังไง!”
“ว้าย เสี่ย!”
สาวบริการคายส่วนหัวเบ่งบานมาร้องกรี๊ด
มาดามเกดโผล่หน้าเข้ามาดูตามประสาคนสอดรู้สอดเห็น หายใจเฮือกยกมือขึ้นมาปิดปากไม่ให้ร้องกรี๊ดอีกคนกับ ‘ขนาด’ ของลูกค้าที่ใหญ่และตั้งลำแข็งตรงจนระทดระทวย โอ้มายก๊อด! คณาธิป เจ้าของโรงงานแปรรูปนมวัว มาดามเกดต้องลิสชื่อเขาไว้เป็นลูกค้าวีไอพี มารอบหน้าเด็กในร้านอย่ามาเสนอหน้ามาดามจะรับแขกเอง!
“อะไรของมึงวะ!”
คนไม่ ‘เสร็จ’ ตะเบ็งเสียงเข้มใส่เสี่ยเงินกู้ที่เคยมีปัญหากัน
คณาธิปไม่สนใจจะคว้าหมอนหรือกางเกงมาสวมปิดบังความอลังการที่ ‘เปล่าเปลือย’ ยังนั่งอยู่ท่าเดิม เอนกายสูงใหญ่พิงพนักโซฟา ท่อนขาคู่แข็งแรงกางออกเล็กน้อยเว้นพื้นที่ให้สาวบริการเบียดกายเย้ายวนเข้ามาใช้ปากอุ่นชื้นเล่นกับอวัยวะที่ไวต่อความรู้สึก ชมพู่ใช้ปากเก่งสมกับเป็นเบอร์หนึ่งของร้าน เขากำลังเคลิบเคลิ้ม เกือบจะปล่อยเสร็จคาปากหล่อนอยู่แล้วเชียวแต่ไอ้เสี่ยหมูตอนบุกเข้ามาก่อน
“เสี่ย... เสี่ยเข้ามาได้ยังไงคะ”
สาวบริการใช้เสียงสองอ้อนลูกค้าประจำที่เป็นดั่งบ่อเงินบ่อทอง
“มึงรอก่อน กูขอห้านาที จะเสร็จแล้ว!”
หล่อนอาลัยเสี่ยไก่แค่สายตา แต่อุ้งมือสองข้างของหล่อนยังกอบกุมตัวตนของลูกค้าไว้ คณาธิปเถื่อนได้ใจ เขาไม่แคร์กลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคว้าท้ายทอยบางกดหัวชมพู่ให้อมต่อ
มาดามเกดร้องว้ายยกมือปิดตา ส่วนเสี่ยไก่รับไม่ได้ถึงขั้นเข่าอ่อนไปชนประตูลูกน้องได้เข้ามาหิ้วปีก
“น้องชมพู่ของเสี่ย!”
เสี่ยขา ชมพู่ขอโทษ
สาวบริการไม่ใช่คนหน้าหนา อายเป็น แต่ของอย่างนี้เข้าปากแล้วคายไม่ได้ หิวกระหายชายตรงหน้าจนหน้ามืด ซอกหลืบกายสาวหลั่งน้ำจนกางเกงในชิ้นเล็กเปียกเฉพาะจุด ดูดกลืนตัวตนเขาเร็วแรงรับจังหวะการรูดมือเพิ่มความเซียวซ่านให้เขา ลูกค้าหนุ่มอารมณ์ค้างจากเมื่อครู่กดแรงมือลงบนศีรษะให้ชมพู่ทำเร็วขึ้นจนแตกดับคาปากบาง
สาวบริการกวาดเอาทุกหยาดหยดจากรอบริมฝีปากเข้ามากลืนกิน รสชาติของเขาน่าพิสมัยมากกว่าเสี่ยไก่ รายนั้นนกเขาไม่ขัน ชักจนเมื่อยมือไม่มีน้ำออกมาสักหยด ชมพู่ไม่เคยมีอารมณ์ร่วมกับเสี่ยเท่ากับตอนนี้ที่อยากจูงมือลูกค้าหนุ่มไปลงอ่างให้เสร็จกันทั้งคู่
“ไปได้แล้ว” เขาลุกขึ้นหยิบกางเกงชั้นในคาลวิน ไคลน์มาสวมตามด้วยกางเกงขายาวผ้าดี
“ไป... ไปไหนคะ”
ชมพู่อารมณ์ค้าง มันเขี้ยวบั้นท้ายเปลือยน่าฟัด
“ไปให้พ้น”