EP 30

1192 คำ
“คุณปั่นไม่ถูกใจใครบ้างหรือไงคะ คุณแม่เฟ้นหาแต่สาวระดับท็อปๆ มาให้เลยนะ” “อย่าเสียเวลากับเรื่องนี้อีกเลยนะครับคุณแม่ ยังไงๆ ก็ No way ครับ” ไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนนี้ เขาก็จะไม่เปลี่ยนใจจะหันมาเดินตามหมากของแม่แน่ๆ การมีคู่ การมีครอบครัว ไม่ใช่เรื่องง่ายและเขาไม่คิดจะมีเสมอมาอยู่แล้ว คนบ้านแตกอย่างเขา จะมีปัญญาไปเป็นสามีที่ดีของใครได้ เรื่องจะให้เป็นพ่อที่ดีก็ยิ่งไม่มีหวังใหญ่เลย แค่เห็นยัยแคระร้องกระจองอแงตั้งแต่เกิด ป่วนคนในบ้านให้วุ่นวายไปหมด เขาก็เกลียดเด็กเข้าไส้ละ พอความคิดวกมาเรื่องของยัยแคระ ก็นึกสนุกอยากแกงขึ้นมาเชียว มันเป็นอะไรที่เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงชอบนัก สงสัยจะเสพติดไปเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเจอหน้ากัน ถ้าไม่ได้แกงคงจะลงแดงตายแน่ๆ เลยโน้มกายไปหาคนข้างๆ แล้วกระซิบเบาๆ “ขอโทษนะ” “อะไรคะ” เจ้าของร่างในชุดสีส้มอิฐต้องเอนหนีจนตัวติดประตู ตาก็จ้องเขาอย่างไม่ชอบใจ ปากก็กระซิบด้วย เพราะกลัวจะรบกวนเจ้านายที่อยากพักสายตา “อยากกินน้ำ...” โอป้าขี้แกงมองหน้าหวานๆ จากนั้นก็กวาดสายตาลงไปเรื่อยๆ แม้ไฟในรถไม่มี แต่แสงจากภายนอกก็ส่องสว่างอยู่แล้ว เขาจงใจหยุดกระซิบไปซะอย่างนั้น พร้อมกับยิ้มหน้าหล่อๆ เห็นฟันขาวหลายซี่ “เลยจะเอา...” “เอาอะไรคะ” คนเอนตัวออกห่างเขาส่งเสียงสั่นๆ เบาๆ ไปหา “ก็จะเอา...น้ำ...ตรงนี้ไง” ส่วนเขาส่งเสียงมั่นอกมั่นใจเบาๆ ให้ ใบหน้าหล่อๆ ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “หยิบให้ก็ได้ค่ะ” เดาว่าน่าจะมีขวดน้ำเสียบอยู่ประตูฝั่งของเขาด้วย เลยไม่เข้าใจว่าจะโน้มตัวมาดึงจากฝั่งนี้ทำไม ถ้าไม่เพราะอยากแกง แล้วจะทำ เพื่อ? “ก็เกรงใจไง ไม่อยากรบกวนเลขาคนโปรดของคุณแม่” โอป้าขี้แกงยังคบกระซิบ แล้วตั้งตัวตรงเมื่อได้ขวดน้ำมาถือในมือแล้ว “ทีหลังไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ” กวนกรูมาไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ยังจะมีหน้ามาพูดคำนี้นะ “งั้นก็...” อีกละ ที่คนหน้าหล่อยิ้มอย่างมีเลศนัย ทำเอาคนหน้าหวานสงสัยไม่หาย ว่าจะหาทางแกล้งอะไรอีกวะ “...อะ...” ขวดน้ำในมือหนา ถูกยื่นมาให้คนหน้าหวาน ที่ออกจะงงไม่หาย อะไรของเขาเนี่ย! “เปิด...น้ำ...ให้หน่อยสิ เมื่อกี้บอกไม่ต้องเกรงใจไง” นี่มันงานผู้ชายชัดๆ มาใช้ฉันได้ยังไงยะ! กระนั้น เจ้าของมือบางก็รับขวดน้ำมา พร้อมกับทำตาเขียวปัดให้ เมื่อรู้สึกว่าตรงเอวมีอะไรบางอย่างสอดเข้าไป รู้แหละว่าเป็นแขนเขา เอามือปัดออกก็ไม่ยอม แถมยังนั่งลอยหน้าลอยตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “แกงฉันดีนักใช่มั้ย” มือบางที่จับขวดอยู่ เลยแกงกลับด้วยการเปิดให้น้ำหกใส่ซะเลย “นี่เธอแกล้งฉันเหรอ” อาชากระซิบเสียงหนักๆ ถ้าไม่ติดว่าแม่อยู่ในรถด้วยนะ จะจับจูบสั่งสอนซะเลย ส่วนมือก็รีบดึงทิชชูมาเช็ดน้ำออกจากเสื้อสีขาวตัวใน เพราะเปื้อนเป็นวงๆ เลย “เปล่าค่ะ” ขวดน้ำที่เขาบอกว่าหิว ถูกคนแกงกลับยื่นให้ แล้วรีบขยับห่างออกไปจนตัวติดประตู เอากระเป๋าสะภายบนตักมาวางคั่นไว้ นั่นล่ะถึงกันโอป้าขี้แกงได้ “ส่งน้องรักก่อนนะจ๊ะชล” อาภัสสราส่งเสียงนุ่มเนิบออกมา แม้จะพักสายตาอยู่ แต่ก็ไม่ได้หลับจริงๆ เสียงกุกๆ กักๆ ตรงเบาะหลัง กับเสียงกระซิบกระซาบดังเข้าหูตลอด “ครับ” “ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน น้องรักขับรถกลับเองได้ค่ะ” กลัวเจ้านายจะเหนื่อย เลยอยากให้พักเร็วๆ อีกทั้งรถก็จอดอยู่นั่นแล้ว “ก็ผ่านบ้านน้องรักก่อน จะเสียเวลานั่งไปต่ออีกทำไมจ๊ะ” “ค่ะ” แต่ถ้าคุณท่านจะให้ส่ง ก็ต้องยอมล่ะ พรุ่งนี้ค่อยไปกับแม่แล้วกัน “คุณท่านขอเปลี่ยนวันหยุดน้องรัก จากเสาร์อาทิตย์เป็นจันทร์อังคารได้มั้ย ช่วงนี้แขกเยอะจ้ะ ไว้แขกบางตาค่อยเปลี่ยนกลับมาตามเดิมนะคะ” “ได้ค่ะ แต่ถ้าวันไหนน้องรักมีเรียน ต้องขออนุญาตคุณท่านนะคะ” จะหยุดวันไหนก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ อยู่แล้ว ในเมื่อแม่ก็ทำงานอยู่ไม่ห่างกัน อยากกินข้าวด้วยเมื่อไหร่ ก็ขับรถไปหาเท่านั้น หรือไม่ บางทีแม่ก็ขับมากินด้วย เพราะต้องมาคุยกับคุณท่านเรื่องมูลนิธิอยู่แล้ว ส่วนเรียนต่อระดับปริญญาเอกก็ไม่ได้ไปทุกอาทิตย์ เลยคิดว่ายืดหยุ่นได้อยู่แล้ว “จ้ะ” อาภัสสราชอบในความว่าง่ายของเลขาไม่น้อย การมีคนทำงานที่เข้ากับตัวเองได้ นั่นถือว่าเป็นบุญอีกอย่างหนึ่ง “หลับฝันดีนะจ๊ะ ขอบใจมากที่ไปเป็นเพื่อนคุณท่าน” เมื่อถึงบ้านเลขาส่วนตัว ที่อาภัสสราเป็นคนออกเงินสดให้ก่อน แล้วให้ผ่อนทีหลังแล้ว ก็ยิ้มให้ “ค่ะ สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณปั่น คุณชล” รักศิกาญจน์ไหว้ทั้งสาม ด้วยกิริยามารยาทเรียบร้อย นั่นทำให้ผู้ใหญ่พึงพอใจไม่น้อย โดยเฉพาะชลกร ที่เป็นพนักงานด้วยกัน ยังได้รับเกียรตินี้ “จ้ะ เข้าบ้านก่อน คุณท่านถึงจะให้ออกรถ” “ค่ะ” “กลับบ้านกันเรา” อาภัสสราเอ่ยเสียงเนิบ แล้วกลับมานั่งหย่อนเท้าตามเดิม ปล่อยเบาะข้างๆ ให้ลูกชายนั่ง หลังจากลงไปเปิดประตูให้รักศิกาญจน์แล้ว “ยัยแคระเรียนอะไรครับคุณแม่” “ดอกเตอร์จ้ะ” “ขยันเชีย แล้วจะมีเวลาทำงานให้คุณแม่เต็มที่เหรอครับ” สำหรับเขา แค่โทก็ดีเกินพอแล้ว จะไปต่อทำไมให้เหนื่อยเปล่าๆ แต่ถ้ายัยแคระหวังจะทำงานองค์กรใหญ่ๆ อยู่ ก็ต้องเรียนแหละ “คุณแม่ไม่ซีเรียสมากมายหรอก ถ้าเด็กใฝ่หาความเจริญก้าวหน้าใส่ตัว มีแต่จะสนับสนุน ดีซะอีก จะได้เพิ่มคุณค่าให้เด็กไปด้วย” “Upgrade เหรอครับ” รู้แหละว่าแม่คงออกทุนส่วนตัวให้ยัยแคระเรียนตามเคย และรู้อีกแหละ ว่าแม่ไม่หวังให้ทำงานใช้ทุนเหมือนที่อื่น เขาเองก็เห็นด้วยกับแม่อีกแหละ เงินเหลือเยอะแยะ ช่วยเด็กขยันไปไม่เสียหายอะไร ได้บุญด้วย แต่มันเคืองนิดๆ ตรงที่แม่คิดจะเอายัยแคระไปขายคนอื่นนี่แหละ “จะว่าอย่างนั้นก็ได้” “นายนิคกี้หรือนายแท็กซี่รู้หรือเปล่าครับเนี่ย ว่าคุณแม่เตรียมสาวไว้ให้” “ใครกันคะนั่น” “ก็นายนิคกับนายแท็กไงล่ะครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม