EP 21

1241 คำ
ขณะเดียวกัน เขาก็ไม่เข้าใจเขมิกาด้วย ว่าจะคบเพื่อนที่พร้อมจะฉกคู่ควงตัวเองไปตลอดเวลาได้ยังไง ต่อหน้าก็เห็นว่ารักกัน คบหากันดี ปาร์ตี้ทีไรก็สนุกสนานกันสุดเหวี่ยง ราวกับรักกันจะเป็นจะตาย ผิดกับเพื่อนของเขาที่ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่รักกัน จริงใจให้กัน และพร้อมจะช่วยเหลือเมื่อเพื่อนมีปัญหา ก็คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็มีหลากหลายอาชีพด้วย บ้างก็ตำรวจ บ้างก็เจ้าของโรงแรม บ้างก็เจ้าของสถานบันเทิง ส่วนเพื่อนในวงธุรกิจที่เพิ่งคบหากัน เขาไม่กล้านับเป็นเพื่อนแท้ เพราะเวลาเรียนรู้กันยังน้อยนัก ก็เขามันเป็นประเภทคบคนยาก รักและไว้ใจใครยาก แต่ถ้าได้ใจเขาไปแล้ว ไปไหนไปกัน มีอะไรก็ช่วยฝ่าฟันหมด อย่างสองแสบผู้ช่วยเนี่ย เขาถือว่าเพื่อนตายได้เลย ถึงจะทำงานเป็นแค่ผู้ช่วย แต่ทั้งสองก็ให้ใจเขาเต็มร้อย เขาเองก็ให้ใจเช่นกัน ก็เลยไม่เข้าใจว่าพวกผู้หญิงคบกันแบบไหน “กลับไปเลยไม่ต้องรอหรอก” ถึงที่หมายแล้ว ก็หันไปหาคนสิรภพ “แล้วคุณปั่นจะกลับยังไงล่ะครับ” “จำไม่ได้หรือไง ว่าฉันเพิ่งไปซื้อรถให้ใครวันก่อน” “ครับ” สิรภพไม่คิดจะพูดอะไรต่อ นอกจากขับรถกลับ แต่ในใจนั้นคิดว่า “เจอหญิงแล้วทิ้งลูกน้องเลยนะเจ้านาย ฮึ คำก็เบื่อยัยแคระ สองคำก็เซ็งยัยแคระ แต่ก็เห็นว่าจะตามประกบยัยแคระตลอดนี่นา” คนถูกลูกน้องนินทาในใจ กำลังพาใบหน้าโอป้าที่แสนจะหล่อเหลา มีแว่นกันแดดราคาหลายหมื่นครอบไว้ เดินตรงไปยังบ้านเรือนไทยเก่าแก่ เพราะเห็นยัยแคระกับสองหนุ่ม ชี้มือชี้ไม้ไปตามแนวเขตแดนอยู่โน่น “ช่างกล้านะยัยแคระ มาอยู่ในป่ากับผู้ชายถึงสองคนนี่นะ” บ่นดังๆ เพราะไม่มีใครมาได้ยินอยู่แล้ว จากนั้นก็จ้ำอาดๆ ตรงไปหาสามคน ในใจก็ถามตัวเองไปด้วยว่า มึงจะมาทำ Here อะไรกันวะไอ้ปั่น รกฉิบห๊าย “กูจะมาดูที่ให้คุณแม่ และจะคุยกับนายนิคว่าจะออกแบบยังไงต่างหากโว๊ย ไม่ได้หวงหรือห่วงใครสักหน่อย” “หน้าอย่างนั้นนะ แคระอย่างนั้นนะ” “ใครจะอยากทำอะไร ต่อให้นอนแก้ผ้ารอด้วยเอ๊า!” หาเหตุผลอันสมควรยิ่งให้ตัวเองได้อย่างลงตัวแล้ว เจ้าของส่วนสูงร้อยเก้าสิบห้าก็เข้าไปยืนใต้ชายคาบ้าน เห็นหญิงวัยกลางคนเดินออกมายกมือไหว้ จำไม่ได้หรอกว่าชื่ออะไร รู้แต่ว่าคงเป็นคนดูแลที่นี่ของแม่แน่ๆ “ไปทำอะไรกันอยู่แถวนั้นล่ะครับ” “คุณน้องรักกำลังไปดูหมุดปักเขตแดนค่ะ คุณปั่นจะตามไปมั้ยคะ ป้าจะได้พาไป” “ไม่ต้องหรอกครับ ผมไปเอง ป้าจะทำอะไรก็ตามสบายเลยครับ” “ป้าจะไปเก็บบัวแดงที่บึงทางโน้นค่ะ คุณท่านโทรบอกว่าให้เก็บเยอะๆ จะทำกับข้าวเลี้ยงแขกเย็นนี้ค่ะ” “แล้วนี่คุณแม่อยู่ไหนครับ” “ไม่เห็นนะคะ” “สรุปว่าคุณแม่ไม่มาเหรอครับ” “ป้าไม่รู้ค่ะ เห็นแต่คุณน้องรักมาคนเดียว แล้วก็มีคุณแท็คกับคุณนิคตามมาค่ะ” "เอ๊า ก็บอกผมว่าจะมากัน” วันก่อนยัยแคระยังบอกเลยว่าจะมากันเป็นพรวน ไหงตอนนี้ไม่มีใครเลย แกงฉันเหรอยัยแคระ เดี๋ยวจะโดนแกงกลับนะ “ป้าไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นมีมาแค่สามคนเท่านั้นค่ะ” “ครับ” อาชาขี้เกียจอยู่นาน กลัวคนเฝ้าบ้านจะคุยมากกว่านี้ เลยรีบเดินหนีไปยังสามคนที่ไกลพอสมควร แต่ไปถึงใกล้ๆ กลายเป็นสี่ เพราะมีลุงแก่ๆ กำลังถืออีโต้ ฟันต้นไม้นำทางไปอยู่ เขาเลยไม่เห็น “ผมคิดว่าคุณปั่นจะไม่มาซะอีกครับ” สุภรกณ์ยิ้มให้ทายาทคนเดียวของราชรักษ์ ที่ดันไม่ปลื้มนามสกุลนี้ แล้วไปตั้งเองซะอย่างนั้น “ก็ยัยแคระบอกว่าคุณแม่จะมากับหลายๆ คนนี่ครับ แต่ทำไมมีแค่นี้ล่ะครับ” “คุณท่านเปลี่ยนแผนนิดหน่อยครับ” “แล้วจะให้ผมมาทำอะไรล่ะเนี่ย” อาชางงนิดๆ “คุณปั่นมาก็ดีแล้วครับ ผมจะได้ถามความเห็นเรื่องแบบหน่อยครับ” ภาคินัยก็ยิ้มให้เขาเช่นกัน ผิดกับยัยแคระที่หน้าบูดเป็นตูดลิงใส่ สงสัยจะยังเคืองเรื่องวันก่อน “อีโธ่เอ๊ย แค่แกล้งหอมเล่นๆ ยังจะมาเคืองอีก คิดเหรอว่าฉันจะพิศวาสเธอ สวยไม่ได้เสี้ยวคนที่ฉันควงด้วยซ้ำ” “คุณน้องรักเดินระวังๆ นะครับ เกาะผมไว้ดีกว่าครับ” นอกจากหน้าบูดใส่แล้ว ยังเดินหนีอีก แถมมือบางยังเกาะแขนเจ้าทนายหน้าหล่อ ที่เขาแอบตั้งฉายาด้วยความหมั่นไส้ว่าไอ้แท็กซี่อีก หึ ยอมได้ที่ไหน เด็กในปกครองใครกันล่ะ ให้มันรู้ซะบ้างนะ ข้าไม่ให้ ใครก็อย่าเสือกมายุ่ง “ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมดูแลเด็กในปกครองของผมเองดีกว่าครับ” เขาส่งเสียงหนักๆ บอกให้รู้ว่ามั่นใจ สองเท้าก็ก้าวเฉิบๆ ไปหา ไม่สนใจกับตอไม้ ต้นไม้ที่ลุงถางนำทางสักนิด “มานี่ยัยแคระ เกาะฉันไว้ดีๆ ยิ่งซุ่มซ่ามๆ อยู่” มือหนาของยักษ์ขี้แกง คว้ามือบางของยัยแคระไปกุมไว้ “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องเกาะใครหรอกค่ะ” “ยังจะอวดดีอีก” “ไม่ได้อวดดีค่ะ แค่ดูแลตัวเองได้” “อุ๊ย!!” “ว้าย!!!” คนอวดดีเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็สะดุดตอเล็กๆ จนร่างเกือบร่วง หากไม่มีสองแขนแข็งแรง ของยักษ์ขี้แกงเข้าไปรับตัวไว้ “เป็นไงล่ะ อวดดีเกิ๊น มันน่าจับโยนเข้าไปในป่านัก” ยักษ์ส่งเสียงหนักๆ หน้าดุๆ ใส่ยัยแคระ ทำเอาสองหนุ่มต่างมองแล้วก็ขำไปตามๆ กัน รวมทั้งลุงที่ถางป่านำหน้าอยู่ก่อน ก็หัวเราะด้วยความชอบใจ “จับโยนไป เดี๋ยวไม่มีคนทำงานให้คุณท่านนะครับ” ภาคินัยแซวแล้วยิ้มน้อยๆ แล้วก้มหน้าไปหาไอแพด เพื่อเก็บข้อมูลเอาไว้ ก่อนเริ่มทำงาน “ตรงโน้นมีอะไรครับคุณปั่น” มือชี้ไปข้างหน้า “น่าจะทะเลมั้งครับ ผมเองก็ไม่ค่อยได้มาที่แปลงนี้เลย จำได้ว่ามาตอนเด็กๆ หรือไงนี่ล่ะครับ” “ใช่ครับ ทะเล” สุภกรณ์กำลังง่วนกับการหาหลักเขตแดนอยู่กับลุง หันมาให้คำตอบ เพราะรู้ดีว่าทายาทคนเดียวของราชรักษ์ ไม่ได้สนใจใดๆ กับสมบัติพัสถานของแม่ ส่วนตัวเองนั้น เอาจริงๆ ก็เพิ่งมาเป็นครั้งที่สอง “ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าติดทะเลครับ” ครั้งแรกคือหลังจากคุณท่านโทรบอกว่าอยากเอาที่มาทำประโยชน์บ้าง ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ครั้งที่สองก็นี่ล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม