เนื่องจากฌอนเพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่ถึงสามเดือน ส่วนมากเขาจะมาทำงานที่นี่มากกว่าบริษัทผลิตอุปกรณ์การแพทย์ จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักเขาในนามทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน อีกทั้งชายหนุ่มไม่ชอบเปิดเผยตัวตน
“ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว ภาพถ่ายงานแต่งก็มีพร้อมแล้ว ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะคุณฌอน ถ้าไม่ได้คุณฉันคงหาเหตุผลกลับไปปฏิเสธ พ่อกับแม่ไม่ได้อย่างแน่นอน” ทะเบียนสมรสไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับฌอน เขาส่งเอกสารสำคัญให้ผู้ช่วยคนสนิทจัดการให้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย
“ผมต้องกลับไปกับคุณด้วยไหม” ตั้งแต่เขารู้จักกับจารวี แม้เพียงไม่กี่วัน แต่ความผูกพันราวกับเนิ่นนานนับแรมปี ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ทำไมต้องทำตามในสิ่งที่หญิงสาวเรียกร้อง ทั้งที่ฌอนไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้เลยสักนิด
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน เพราะบางทีอาจถูกไล่ออกจากบ้าน พ่อของฉันไม่เหมือนใคร เขาผิดหวังจากพี่สาวของฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ฉันได้เดินตามรอยพี่ภา ฉันรู้นะคะว่าทำแบบนี้มันผิด แต่ความรักมันบังคับกันไม่ได้”
จารวีนั่งระบายความในใจของเธออกมา ขณะที่คนทั้งคู่กำลังนั่งดูพระอาทิตย์ตกอยู่ริมชายหาด ซึ่งฌอนเริ่มรู้สึกชอบในความใสซื่อของเธอ เพราะหญิงสาวเป็นคนเปิดเผย ไม่มีมารยาเหมือนกับผู้หญิงที่เขาเคยรู้จัก
“คืนนี้ขอผมนอนด้วยได้ไหม” น้ำเสียงทุ้มดังอยู่ข้างใบหูเล็ก ทำให้หญิงสาวเขินอายนิดหน่อย เธออดคิดไม่ได้ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“คุณมีสิทธิ์ในตัวฉันร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วนี่ค่ะ แต่ถ้าหมดสัญญาเมื่อไหร่ ต่างคนต่างไปคุณไม่ต้องกลัวว่าฉันจะใช้วิธีสกปรก ยังไงถ้าถึงวันนั้น ฉันพร้อมเซ็นใบหย่าให้คุณทันทีค่ะ” เพียงแค่ได้ยินประโยคนี้จากจารวี ยิ่งทำให้ฌอนชอบพอเธอมากขึ้น ผู้หญิงอะไรใจถึงเป็นบ้าเลย
Rrrr!!! เสียงสมาร์ทโฟนเครื่องแพงของชายหนุ่มดังขึ้น ซึ่งคนสนิทของเขาโทรมา คงเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนั้นที่บ่นว่าห้องวีไอพีมีฝุ่นเกาะ “ฮัลโหลว่าไงอัศวิน”
“นายน้อยครับ ท่าทางคุณผู้หญิงเขาจะไม่จบเรื่องนี้ง่าย ๆ”
“เดี๋ยวฉันไปเคลียร์เอง”
“โอเคครับนายน้อย” อัศวินถึงกับถอนหายใจโล่งอก เมื่อเขาไม่ต้องรับมือกับผู้หญิงเอาแต่ใจอย่างคุณหนูปานมุกอีก
“ผมมีธุระต้องไปจัดการนิดหน่อย”
“เชิญตามสบายเลยค่ะ”
“แต่คุณต้องกลับขึ้นห้องพักนะจารวี ตอนนี้ใกล้มืดแล้วมันอันตราย เดี๋ยวผมจะสั่งอาหารขึ้นไปให้ทาน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องอาหาร ถ้าคุณจะสั่งเพิ่มก็เอาเงินนี่ไป ถ้าขาดเหลืออะไรก็ให้บอกฉันนะคะ” จารวียัดธบัตรใส่มือให้กับชายหนุ่มไปสองพันบาท ก่อนที่เธอจะยืนขึ้นแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังโรงแรมหรู ฌอนได้แต่มองตามแผ่นหลังหญิงสาวร่างอรชรออกไป ด้วยแววตาชื่นชมในความน่ารักของเธอ เขาไม่เคยรับเงินจากผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอคือคนแรกและคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงชีวิตที่แสนธรรมดา บางทีความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ดีต่อใจได้เช่นกัน
/////
ภายในห้องรับรองแขกของโรงแรมหรู ซึ่งฌอนได้สั่งให้ผู้ช่วยของเขาพาหญิงสาวไปรอที่นั่น พอไปถึงชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก เพราะคนที่เรื่องมากกว่าใครในโลกใบนี้ คือปานมุก
ผู้หญิงที่บิดาของเขาเคยเปรยเอาไว้ อยากให้ฌอนลองคบกับเธอดู เผื่อเคมีตรงกันทั้งสองตระกูลจะได้ทำธุรกิจร่วมลงทุนกันอย่างราบรื่น เพราะเรือร่มในหนองเงินทองจะไปไหนเสียได้
“ผมไม่คิดว่าจะเจอคุณปานมุกที่นี่”
“มุกเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณเหมือนกัน คุณฌอนกลับเมืองไทยนานหรือยังคะ” หล่อนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บังเอิญเกินไปไหม ที่ปานมุกจะอาละวาดใส่พนักงานทุกคน จนเขาต้องมาเคลียร์ด้วยตัวเอง
“ไม่นานครับ มีแค่คนในครอบครัวที่รู้ ว่าแต่คุณปานมุกได้รับผลกระทบอะไร จากการเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้บ้างครับ” ชายหนุ่มไม่รอให้หล่อนได้แสดงละครต่อ เขารีบถามถึงจุดประสงค์หลักที่ทางพนักงานแจ้งมาทันที
“ฝุ่นค่ะ ห้องของมุกเต็มไปด้วยฝุ่น คุณฌอนต้องจัดการให้มุกนะคะ” หล่อนทำหน้ามุ่ยแสดงความออดอ้อนชายหนุ่ม
“เดี๋ยวผมจะให้พนักงานไปจัดการให้นะครับ ถ้าคุณปานมุกยังเห็นว่ามีฝุ่นเกาะอยู่ อยากย้ายห้องก็ได้นะครับ ทางเรายินดีให้บริการลูกค้า จนกว่าจะพอใจ” ฌอนมั่นใจว่าพนักงานของเขาไม่ผิด ทุกแผนกล้วนทำงานกันอย่างขันแข็ง
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่คุณฌอนเป็นธุระจัดการเปลี่ยนทุกอย่างในห้องให้ใหม่ มุกเองก็เกรงใจจะแย่แล้ว” “ถ้าคุณปานมุกโอเค ผมก็ขอบคุณ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนสิค่ะ ถ้าคุณฌอนไม่รังเกียจ มุกอยากเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ไปทานมื้อเย็นด้วยกันนะคะ” “เอาไว้โอกาสหน้านะครับ พอดีว่าผมติดธุระสำคัญ” ฌอนพูดพลางกระตุกยิ้มมุมปาก เมื่อเขานึกถึงใบหน้าของจารวี
“คุณรับปากมุกแล้วน๊า... มุกจะรอวันที่คุณฌอนว่างนะคะ” หล่อนพูดพลางใช้แววตายั่วยวนชายหนุ่ม แต่เขากลับไม่มีทีท่าสนใจหล่อนเลยแม้แต่น้อย เพราะฌอนมัวแต่นึกถึงหญิงสาวอีกคน ความน่ารักสดใสของเธอ ทำให้โลกของเขากลายเป็นสีชมพูได้อย่างง่ายดาย
“ผมขอตัวนะครับคุณปานมุก”
“เชิญค่ะ”
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจในความเซ็กซี่ของปานมุกแม้แต่น้อย เขาเดินเข้าไปในลิฟต์ มุ่งสู่ห้องของจารวีอย่างรวดเร็ว เพราะได้ส่งข้อความให้พนักงานจัดส่งอาหารไปยังห้องหญิงสาวได้สักพักแล้ว
ซึ่งคราวนี้เขามีคีย์การ์ดห้องของเธอ จึงทำให้ฌอนแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ให้กับตำแหน่งสามีกำมะลอ เขาจะทำให้ค่ำคืนนี้พิเศษกว่าค่ำคืนไหน ๆ
ไม่ว่าเขาและเธอจะจดทะเบียนสมรสกันด้วยเหตุผลใด ยังไงความเป็นสามีภรรยาก็ถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร้ข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น
“คุณมาแล้วเหรอ เงินที่ฉันให้ไปพอหรือเปล่า แค่ไวน์ขวดนี้ราคาตั้งหลายหมื่น คุณคิดจะปล้นฉันรึไง” คำทักทายของจารวีทำเอาฌอนแทบหลุดขำ เพราะเธอใช้สายตามองค้อนเขา ราวกับคนรักกำลังงอนกัน
“ผมจ่ายไปแล้ว คุณไม่ต้องเป็นกังวลหรอกครับ”
“แต่มันแพงมากเลยนะคุณ เงินแสนที่ฉันให้ไว้ คุณจะใช้มันให้หมดภายในวันสองวันเลยรึไง” เธอเอ็ดเขาออกไป ราวกับตัวเองเป็นผู้ปกครองของฌอน
“คร้าบ... เมียที่รัก ผมจะประหยัดให้มากกว่านี้”
“ใครเมียคุณ”
“ก็คุณไง เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายเสียด้วยสิ”
“เงียบไปเลยนะฉันหิวแล้ว” หญิงสาวพูดออกมาด้วยความเขินน้อย ๆ พลางลงมือรับประทานอาหาร ที่ฌอนสั่งมาเต็มโต๊ะไปหมด จนเธอเลือกไม่ถูกว่าจะชิมจานไหนก่อนดี
“พรุ่งนี้คุณจะกลับแล้วเหรอ” เขาใช้น้ำเสียงอ้อน
“ใช่ค่ะ”
“คุณไม่ต้องห่วงเรื่องที่พัก ถ้าหากพ่อของคุณไล่ออกจากบ้าน ผมมีบ้านสวนอยู่ชานเมือง บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นคุณสนใจไปพักที่นั่นก่อนก็ได้นะ”
“อืม... ก็ดีเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นคุณคำนวณค่าเช่ามาได้เลย เป็นรายปีหรือรายเดือนก็ได้ ฉันยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง บางทีอาจถึงเวลาที่ฉันต้องลาออกจากงานประจำสักที”
“ทำไมต้องลาออก” น้ำเสียงทุ้มแฝงความสงสัยเอาไว้ในที สายตาของเขาจ้องใบหน้าหญิงสาวเขม็งรอคำตอบ
“ทำไมต้องใช้สายตาแบบนี้มองฉันด้วยค่ะ ฉันไม่ได้ขี้เกียจหรอกนะ แค่ไม่อยากทำงานร่วมกับคุณตรีภพ เมื่อฉันตัดสินใจเลือกที่จะไม่แต่งงานกับเขา ก็ต้องกล้าที่จะลาออกจากบริษัทของเขาด้วย จริงไหมคะ” เมื่อฌอนได้รู้ถึงเหตุผล ที่ทำให้จารวีต้องลาออกจากงานประจำ ยิ่งทำให้เขารู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอมากขึ้น
“แล้วคุณจะทำงานอะไร ผมฝากงานให้เอาไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันตั้งใจจะเปิดร้านเสื้อ แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้หรอกนะคะ เพราะฉันจะเป็นคนออกแบบและก็ลงมือตัดขายเอง”
“คุณต้องขายดีแน่ ๆ ผมเชื่อมือคุณ”
“ขอบคุณนะคะ ฉันอาจจะหาร้านเล็ก ๆ ทำเลดี ๆ ราคาพอไปได้ แต่มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก”
“อย่างน้อยคุณก็ได้ลงมือทำ ผมเป็นกำลังใจให้นะ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ความจริงแล้วมีลูกค้าหลายคน สนใจงานออกแบบของฉัน แต่พ่อไม่ชอบชุดที่ฉันออกแบบ ฉันก็เลยทิ้งความฝัน ทำตามในสิ่งที่พ่อต้องการ”
หญิงสาวตัดพ้อต่อบิดา พลางยกไวน์ขึ้นมาจิบ เธอรู้สึกได้ถึงรสชาติที่มันนุ่มลิ้น จึงถือโอกาสนี้ ยกดื่มหมดไปหลายแก้ว ภายใต้สายตาของฌอน เขาแอบมองเธอด้วยความรู้สึกสิเน่หาอย่างบอกไม่ถูก