bc

ห่วงรัก ไร้วิวาห์

book_age18+
1.8K
ติดตาม
7.4K
อ่าน
เซ็กส์
ครอบครัว
ชายจีบหญิง
like
intro-logo
คำนิยม

เขาผลักดันตัวเองจนเก่งทุกด้านจากคนไม่เอาไหน

และวันหนึ่งเขาอยากแต่งงานกับผู้หญิงที่คบมานาน

แต่...........ทุกอย่างกลับพัง

เธอขอทำงานแลกเงิน แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นใจ

มีเหตุจำเป็นทำให้เธอต้องเปลี่ยนตัวเองจากพนักงานบริษัท

เป็น...........คนหลอกลวง

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
เหมือนจะสัมภาษณ์
“พรุ่งนี้มีสัมภาษณ์เลขาคนใหม่” ฐานมาศผู้เป็นมารดาและเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดกับชายหนุ่มตรงหน้ากำลังนั่งอ่านประวัติของคนที่มาสมัครงานในตำแหน่งเลขาอยู่อย่างตั้งใจ มีหน้าคนประวัติดีหลายคนเข้ามากรอกใบสมัครงานจนเธอตัดสินใจไม่ได้และเรื่องนี้เธอก็อยากให้เจ้าของเรื่องเป็นคนตัดสินใจเอง ตำแหน่งเลขาประจำหน้าห้องที่เธอต้องมานั่งทำแทนเปลี่ยนมานับไม่ถ้วนเป็นว่าเล่นตั้งแต่เจ้าของห้องเข้ามารับตำแหน่งงาน คนแรกเธอจำได้ดีคนนั้นก่อเรื่องงามหน้าเอาไว้และก็ทำงานได้เพียงวันเดียวก็โดนไล่ออก เพราะเข้ามาจู๋จี๋กับลูกชายของเธอถึงในห้องและในเวลาทำงานและคนที่มาเห็นก็คือลูกชายคนโตของเธอ เรื่องนี้ทำให้เจ้าของห้องทำงานโกรธมากและประกาศว่าจะไม่อยากมีเลขาอีก แต่ด้วยความจำเป็น ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องมีคนเข้ามาช่วยและดูแล ตำแหน่งเลขาก็เลยจำเป็น มีผู้หญิงมากมายเข้ามานั่งทำงานในตำแหน่งนี้ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีและก็มีผู้ชายด้วย แต่ไม่มีใครถูกใจลูกชายของเธอเลย จนเธอต้องแวะเข้ามาช่วยงานอยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้สำหรับการคัดเลือกเลขาคนใหม่เธออยากให้อรรณพจัดการด้วยตัวเองเพื่อจะได้ใครสักคนที่ทำงานถูกใจ “ครับ” เขาพยักหน้ารับรู้และในมือก็กำลังกดมือถือดูความเรียบร้อยของงานที่ลูกน้องส่งมาให้ดู เลขาสำหรับเขาก็ไม่ได้สำคัญอะไร เป็นปกติที่เขาจะไม่มีเลขาเพราะยังไงงานก็เดินต่อไปข้างหน้าได้โดยไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว และอีกอย่างการมีมารดามาช่วยงานอยู่บ่อยๆก็ทำให้เขาเบาใจที่จะไม่ต้องมีผู้หญิงอื่นมากวนใจให้ว่อกแว่กออกนอกลู่นอกทาง เบี่ยงความสนใจจากงานไปที่ผู้หญิงเหมือนอย่างแต่ก่อน “ณพต้องจัดการด้วยตัวเองนะ จะได้ถูกใจสักที” ฐานมาศยกเอกสารกองใหญ่ที่มีประวัติของคนที่จะมาสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้วางลงตรงหน้าลูกชายคนเล็กของเธอ เธอดูวนมาหลายรอบแล้ว ในกองนั้นมีทั้งเด็กเส้นเด็กสายที่บรรดาคนรู้จักฝากฝังมาก็มาก และก็ไหนยังคนมีประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะอีกก็เยอะ และยังเด็กจบใหม่ที่พ่วงด้วยเกียรตินิยมอีกก็แยะ คนเหล่านี้ล้วนอยากมาทำงานกับลูกชายเธอทั้งนั้น เด็กฝากฝังก็อยากจะจับลูกชายเธอเพราะส่วนมากก็เป็นลูกคนรวยงานการไม่ทำแต่อรรณพขึ้นชื่อเรื่องความหล่อและไหนยังจะรวยมีหลายคนยอมทำงานก็เพราะแบบนี้ คนมีประสบการณ์อันนี้เธอก็อยากได้แต่บางคนก็อายุเยอะที่อยากจะเข้ามาทำเพราะค่าตอบแทนที่นี้ค่อนข้างสูงมากกว่าบริษัทอื่นๆ อันหลังเธอก็ยังกังวลเพราะคนจบใหม่ไม่มีประสบการณ์อาจจะพาอรรณพที่ยังใหม่สำหรับงานล่มด้วยกันทั้งคู่ถึงเขาจะเก่งขึ้นมาในระยะเวลาหนึ่งปีก็ตาม “คนไหนก็ได้ครับหม๊า” เขามองหน้ามารดาสลับกับกองใบสมัครงาน ยังไงก็ไม่มีใครทำงานถูกใจเขาอยู่ดีจ้างมาได้ไม่กี่วันก็ออก พวกผู้หญิงส่วนมาเช้ามาก็แต่งหน้าและจับกลุ่มคุยกันแต่เขาเข้ามาถึงบริษัทแต่เช้าและต้องการเริ่มงานเลยไม่ใช่มารอให้ใครแต่งหน้าเสร็จก่อน บางคนไม่แต่งหน้าก็ทำอะไรชักช้าแม้แต่ชงกาแฟกว่าจะมาถึงห้องก็กาแฟเย็นชืดไม่น่ากิน บางคนก็ทำงานไม่ดี ดีแต่บีบตาก็มี “ก็ไหนบ่นอยากได้คนทำงาน คนขยัน” ฐานมาศอดถอนหายใจใส่ลูกชายตัวดีไม่ได้ คนโตกว่าจะจัดการลงเอยได้ก็เล่นเอาเหนื่อยไปคนหนึ่งแล้วตอนนี้ก็เป็นพ่อคนไปเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่คนเล็กนี้แม้แต่เลขาก็ยังหาไม่ได้เรื่องจะให้มีครอบครัวเธอก็คงเลิกหวังไปได้เลย เรื่องมากซะขนาดนี้ไม่มีใครเกินไม่รู้ไปได้นิสัยแบบนี้มาจากใคร “ก็ขอให้ดีกว่าคนเก่าก็พอ” คนล่าสุดที่เขาไล่ออกก็เพราะทำงานไม่เป็น วันๆเอาแต่แชทกับโทรศัพท์มือถือและก็วุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขาเหมือนอยากจะจับเขาเป็นสามีให้ได้อย่างไงอย่างงั้น นึกแล้วก็ขนลุกเพราะว่าเธอค่อนข้างบุกหนักจนเขาที่เรียกได้ว่าเป็นเสือผู้หญิงยังวิ่งหนีแทบไม่ทัน “งั้นก็มาจัดการเอง พรุ่งนี้หม๊าไม่ว่างจะไปช่วยหนูอัญเลี้ยงตี๋น้อย” คุณนายผู้มีอำนาจเหนือเจ้าของห้องพูดจบก็เดินจากไป วันนี้เธอคงไม่เข้ามาที่นี้เพื่อช่วยลูกชายทำงานอีกแล้วและก็คงยาวไปทั้งอาทิตย์เพราะจะบีบให้ลูกชายรับใครสักคนมาเป็นเลขาสักที เธอจะได้เบางานในมือลงบ้างและหาเวลาไปเล่นกับหลานได้อย่างเต็มที่ อรรณพอยากจะร้องเรียกแม่ของเขาให้กลับมาแทบขาดใจ แต่ถ้าลองคุณนายฐานมาศตัดสินใจอะไรไปแล้วไม่มีใครไปเปลี่ยนแปลงได้หรอก เพราะฉะนั้นเขาคงต้องทนกับเลขาคนใหม่ให้ครบอาทิตย์แล้วค่อยไล่ออก ต่อจากนั้นก็โทรไปง้อแม่ให้มาทำหน้าที่นั้นแทนเหมือนทุกครั้งไป “แม่จ้า” หญิงสาวที่สองมือเลอะเทอะไปด้วยกลีบดอกไม้ที่มาจากการนั่งร้อยพวงมาลัยตั้งแต่เช้าจนสายวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นแม่ที่เพิ่งจะลุกขึ้นนั่งไหวที่ในห้องนอน ใบหน้าของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจทั้งที่ภายในกำลังทุกข์ระทมเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ไม่มีแรงแม้แต่จะยิ้มตอบกลับมาหาเธอได้แต่มองด้วยสายตาอิดโรย “แหวะ น้ำเน่า” ชมพูนุทลูกสาวอีกคนของบ้านในวัยกำลังเรียนอยู่มอปลายแต่กลับไม่ยอมไปเรียนและก็เพิ่งตื่นนอนเดินแต่งตัวสวยออกมาจากในห้องส่วนตัวของตัวเองที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เธอผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีก็ไม่พลาดที่จะแวะทักทายลูกรักสุดดวงใจของคนเป็นแม่ที่ไม่มีอะไรดีเทียบเธอได้เลย แถมกำพร้าพ่อติดท้องแม่เธอมาให้พ่อของเธอลำบากต้องเลี้ยงลูกมาตั้งหลายปีอีก “มิ้งค์” น้ำเสียงแหบพร่าพูดกับลูกสาวคนเล็กเพียงแผ่วเบาเพื่อให้อีกฝ่ายได้สติ ไม่พูดว่าพี่สาวของตัวเองที่เป็นฝ่ายทำงานเลี้ยงดูมาตั้งแต่เธอล้มป่วย ถึงลูกสาวคนนี้จะค่อนข้างก้าวร้าวแต่ก็ยังเด็กและเธอก็หวังอบรมให้ได้ดีเหมือนลูกสาวคนโตก่อนที่เธอจะตายจากโลกนี้ไป หลังจากเธอไม่อยู่ภาระดูแลลูกคนนี้ก็ต้องตกเป็นของลูกสาวคนโตเธอก็อยากให้ลูกๆรักกันเข้าไว้ “ทางบริษัทโทรมาให้ไหมไปสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้แล้ว ไหมกำลังจะได้งานทำแล้วนะจ๊ะ” แพรวาไม่ได้สนใจคำพูดของน้องสาวเท่าไหร่นักรีบเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ด้วยความดีใจ หวังเอาข่าวดีนี้ไปช่วยให้แม่แข็งแรงขึ้นพอจะเข้ารับคีโมอีกรอบที่กำลังจะมาถึงให้ได้ ถึงแม้หมอจะบอกว่าแม่ของเธออ่อนแอเกินกว่าจะเข้ารับการรักษาแล้วก็ตาม “ลูกของแม่เก่งที่สุดเลย” น้ำเสียงของคนป่วยยังคงเบาเท่าเดิมหรือแทบจะไม่ได้ยินพร้อมกับมือที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงยกขึ้นลูบศีรษะเล็กๆของลูกสาวอันเป็นที่รักสุดหัวใจ ถ้าไม่มีแพรวาอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจสำคัญให้กับเธอชีวิตของเธอคงจากโลกนี้ไปแล้วเพราะลำพังสามีกับลูกสาวคนเล็กสองคนนี้แทบจะไม่ดูดำดูดีเธอ บางครั้งขู่เอาเงินกับเธอก็มีทั้งที่เธอป่วยหนักอยู่แบบนี้ “ก็แค่เขาโทรมาตามไปสัมภาษณ์ ใช่ว่าจะรับซะหน่อย หลงตัวเองไม่เลิก” ร่างบางกับเสื้อยืดแขนกุดที่แขนกว้างจนเห็นชั้นในสีชมพูกับกางเกงขาสั้นแค่คืบยืนเกาะขอบประตูมองแม่กับลูกที่กอดกันกลมราวกับวันนี้ได้ไปทำงานแล้วอย่างนั้น “มิ้งค์ ทำไมพูดแบบนั้นกับพี่เขา เดี๋ยวเถอะนะห่างไม้เรียวมานานชักจะดื้อซะใหญ่แล้ว” น้ำเสียงอ่อนแรงพูดฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็อยากจะอบรมลูกสาวคนเล็กที่ต่อไปก็ต้องพึ่งพาคนที่กำลังยืนว่าอยู่เต็มตัว เพราะเธอคงตายก่อนที่ชมพูนุทจะเรียนจบ จะหวังให้พึ่งพ่อบังเกิดเกล้าก็คงจะไม่ได้เพราะรายนั่นตั้งแต่ออกลายวันๆก็เอาหัวมุดอยู่กับขวดเหล้าและหมกหมุนอยู่แต่กับการพนันเท่านั้น ไม่เคยทำงานทำการให้ได้เงินได้ทองกลับมา วันไหนโชคดีหน่อยก็เล่นการพนันได้มีเงินใช้จ่ายต่อชีวิตไปอีกหลายวัน “แม่เองก็เหมือนกัน ป่วยจนจะยกมือไม่ไหวแล้ว เก็บแรงเอาไว้ก่อนเถอะ” ได้ยินคำพูดของแม่แว่วๆมาต่อว่าตัวเธอ เสียงสูงปรี้ดแสบแก้วหูของเด็กสาวก็แหวดใส่แม่เต็มเสียง ไม่สนว่าคนตรงหน้าจะมีบุญคุณท่วมหัวแค่ไหน สนใจแต่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น ยังไงคนในบ้านนี้ก็ให้แต่ความอับอายกับเธอไม่เคยให้หน้าตาทางสังคมที่ทัดเทียมกับเพื่อนให้กับเธอเลย “มิ้งค์ พูดจากับแม่ให้มันดีๆหน่อย แม่เสียใจรู้ไหม” แพรวาเสียงดุใส่คนตรงหน้า คำพูดคำจาของน้องสาวทำให้แม่ของเธอหายใจผิดจังหวะจากที่เป็นอยู่ นอกจากโรคมะเร็งที่คนเป็นแม่ต้องต่อสู้กับมันแล้วยังมีโรงแทรกซ้อนที่เพิ่งจะตรวจเจอตามมาด้วยคือโรคหัวใจที่ทำให้เธอต้องดูแลแม่เป็นพิเศษ ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวน้องให้ต้องเสียน้ำใจต่อกันเพราะรักน้องมากแต่ก็ต้องทำเพื่อให้แม่มีชีวิตที่ยืนยาวต่อไป “เสียใจ งั้นก็ปลอบกันไปก็แล้วกัน” เจ้าของผมสั้นแค่บ่าที่บ่งบอกได้ดีว่ายังเรียนไม่จบมอปลายสะบัดหน้าเดินออกไปจากหน้าประตูห้อง ก้าวเท้ากระแทกเสียงดังบนพื้นบ้านที่เป็นไม้ด้วยความเอาแต่ใจ บ้านนี้ไม่ได้น่าอยู่ทั้งเก่าและจน เธอเกลียดที่นี้มากที่สุด และก็ไม่อยากไปเรียนด้วยเพราะใครๆก็มองว่าเธอจน เธอไม่เคยมีอะไรเหมือนที่เพื่อนๆเขามีกันเลย ไม่เคยมีเงินซื้อของฟุ่มเฟือยไปอวดเพื่อนๆเลย “มิ้งค์จะไปไหน มิ้งค์” คนเป็นแม่ยังคงเรียกลูกสาวให้หันกลับมาทั้งที่ตัวเองกำลังหมดแรงและหายใจติดขัดเต็มทน ลูกที่รักดั่งแก้วตาดวงใจ เธอไม่เคยจะรักใครไปมากกว่ากัน ความรักของคนเป็นแม่อย่างเธอมีให้ลูกเท่าเทียมกันมาโดยตลอดแต่ลึกๆกลับเป็นห่วงคนเล็กมากกว่าคนโต ด้วยเพราะยังเล็กและก็เอาแต่ใจจนลืมมองสิ่งรอบๆตัว “เสียงดังอะไรกัน คนกำลังนอน” สมบูรณ์ที่เมากลับมานอนที่บ้านได้ไม่ถึงชั่วโมงก็เดินโซเซลุกขึ้นมากด้วยความหัวเสีย ใครมันบังอาจเสียงดังทั้งที่ตอนเดินกลับเข้าบ้านมาเขาก็ประกาศแล้วว่าเขาจะนอนห้ามเสียงดัง เขาเสียการพนันมาจนเงินหมดกระเป๋ากลับมานอนที่บ้านก็หวังจะได้พักจะได้มีสมาธิกลับไปเล่นใหม่อีกรอบแต่กลับเสียงดังจนนอนไม่ได้ คงต้องจัดการสองแม่ลูกที่คงน่าจะไปดุด่าลูกสาวของเขาจนเกิดเสียงดังเป็นแน่แท้ แพรวาสติไวพอ เธอได้ยินเสียงสมบูรณ์แว่วดังมาจากหลังบ้านก็รีบลุกไปปิดประตูห้องของคนเป็นแม่ และลงกลอนล๊อคอย่างดีก่อนจะกลับมากอดผู้เป็นแม่และปลอบใจกันสองคน ด้วยเพราะสมบูรณ์ที่วันๆเอาแต่กินเหล้าเมายาข้าวปลาไม่ค่อยได้แตะต้องไม่มีแรงพังประตูเข้ามาพูดอะไรให้แม่ของเธอเสียใจเป็นแน่นอน จะมีก็แต่เสียงเรียกที่ดังโหวกเหวกเข้ามารบกวนเท่านั้น แต่ทุกอย่างจะผ่านไปโดยเร็วเพราะเธอเอาความรักพยุงทุกอย่างให้แม่ก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ในห้องทำงานใหญ่ที่เจ้าของห้องกำลังก้มหน้าเคลียร์งานอะไรบางอย่างอยู่อย่างวุ่นวายที่ดูจะด่วนสุดๆ ก็ต้องสลับกับเงยหน้าขึ้นมาสัมภาษณ์งานเป็นระยะด้วยความเบื่อหน่ายแถมยังไม่มีใครถูกใจเขาเลยทั้งที่คนประวัติดีการศึกษาสวยหรูเขาก็เลือกมาสัมภาษณ์งานเกือบจะหมดแล้วด้วย ทำให้ต้องลำบากใจบวกกับงานที่ยุ่งเหยิงแต่เช้าในวันนี้ อรรณพหน้ามีสีหน้าเคร่งเครียดหนักขึ้น จนคนที่เข้ามารับการสัมภาษณ์บางคนอยู่ในอาการตกประหม่าตอบคำถามผิดๆถูกๆ และนั่นทำให้เขาอารมณ์เสียถึงจุดสูงสุดพร้อมจะระเบิด เขาสั่งยกเลิกการสัมภาษณ์และให้เริ่มใหม่ตอนบ่ายทั้งที่นี้ก็เพิ่งจะสิบโมงเช้า “ชื่ออะไร” หญิงสาวคนสุดท้ายกับเวลาเกือบห้าโมงเธอก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้าแทบจะไม่มีเครื่องสำอางอะไรเลยก็เพราะคงจะเย็นมากแล้ว แต่ริมฝีปากกลับอวบอิ่มอมชมพูอย่างน่าประหลาดและน่าเข้าไปมองใกล้ๆแถมด้วยการสัมผัส นับว่าสวยน่ามองตั้งแต่แรกเห็นเพราะไม่มีเครื่องสำอางบนใบหน้านั่นละมั้งผิดกับคนก่อนๆที่เหมือนพยายามแต่งตัวให้ตัวเองดูสวย เธอนับว่าโชคดีที่เขาคงต้องเลือกหลังจากปฏิเสธทุกคนออกไปหมดแล้ว การสัมภาษณ์ของเขาก็เลยไม่มีอะไรมากมายนอกจากทำความรู้จักกับเธอที่ดูก็รู้ว่ากำลังหวาดกลัวเขาอย่างไม่เข้าท่า “แพรวาค่ะ” น้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือด้วยความกลัว คนตรงหน้านับว่าหล่อกว่าในรูปที่เธอไปอ่านประวัติเขามาตามหน้าข่าวออนไลน์ ผิวของเขาดีกว่าผิวของเธอที่เป็นผู้หญิงซะอีก แต่ใบหน้ากับน้ำเสียงของเขากลับดุดันไม่น่าเข้าไปพูดด้วยเลย นี่นะเหรอผู้บริหารที่มีแต่คนอยากจะเข้ามาเป็นเลขา ทำไมถึงดุอย่างนี้นะ “ชื่อเล่น” เขาอ่านประวัติของเธอจบภายในรวดเดียวที่ก้มหน้ามอง ไม่มีอะไรพิเศษ เธอไม่มีประสบการณ์ทำงาน ไม่มีเกียรตินิยมอย่างคนก่อนๆ แต่น้ำเสียงกลัวๆ ของเธอน่าฟังดี ช่างแปลกที่เขาอยากถามเธอให้ลึกลงไปอีกมากกว่าที่ประวัติเขียนเอาไว้ คงเป็นเพราะอีกหนึ่งอาทิตย์เธอต้องทำงานกับเขาละมั้งก่อนที่เขาจะไล่เธอออก “ไหมค่ะ” “หนอนไหม หรือว่าผ้าไหม อื้มหรือไหมอย่างอื่น” ลองตั้งใจมองหน้าของคนตรงหน้าดีๆ ก็ทำเอาเขาอย่างคุยกับเธอนานขึ้นอีกนิด ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยผ่านๆ มาแล้วแต่เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาสนใจผู้หญิงแสนธรรมดา ที่ใส่ชุดที่เรียกได้ว่าเหมือนครูระเบียบมานั่งให้สัมภาษณ์ และชื่อของเธอก็ชวนให้หนุ่มเจ้าคารมอย่างเขาเอามาล้อเล่นนิดหน่อยดีซะด้วย “ไหมเฉยๆ ค่ะ” คนที่นั่งเกร็งไปทั้งตัว ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกล้อเลียน เธอเข้าใจว่าเขาคงไม่เคยเจอคนชื่อธรรมดาและแสนจะเชยอย่างเธอ ไม่แปลกคนรวยก็ต้องเคยพบเจอแต่คนชื่อเพราะในระดับเดียวๆ กัน “พรุ่งนี้มาเริ่มงานเลยก็แล้วกันคุณไหมเฉยๆ ที่เหลือคุณสมพงษ์จัดการต่อด้วย” ก่อนที่เขาจะให้ทุกคนออกจากห้องและก้มหน้าทำงานต่ออีกนิดหน่อยก่อนจะกลับบ้าน เขาให้สมพงษ์ที่เข้ามายืนรออยู่ก่อนหน้านี้แล้วจัดการแนะนำเรื่องหน้าที่กับเลขาคนใหม่ของเขาต่อจากเขา เพราะเขาคงไม่ลงไปวุ่นวายกับรายละเอียดพวกนั้นและหวังว่าพรุ่งนี้คุณไหมเฉยๆ คงจะพร้อมทำงานไม่ยืนหวาดกลัวเขาจนเขาต้องไล่ออกก่อนจะครบหนึ่งอาทิตย์ “ครับ” แพรวาถูกพาออกไปจากห้องโดยผู้ชายร่างท้วมที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ท่าทางใจดีของเขาทำให้เธอลดความกลัวและความตื่นเต้นในใจลงได้ เธอถูกพามาสอนงานคราวๆ และพามารู้จักกับโต๊ะทำงานของตัวเองก่อนที่จะกลับบ้าน แต่เรื่องนิดหน่อยก็ทำให้หญิงสาวต้องกลับบ้านเย็นจนฟ้าเกือบมืดทีหลังพนักงานประจำคนอื่นๆ เป็นชั่วโมงพร้อมด้วยในหัวที่หนักอึ้ง เพราะต้องจดจำอะไรมากมายกลับมาด้วยให้พร้อมเริ่มต้นทำงานในวันพรุ่งนี้

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

กระชากกาวน์

read
8.0K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
15.3K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.1K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
26.4K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
7.1K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
6.2K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook