“ยายหลิน นี่แกก็พลอยเป็นไปกับไอ้พันด้วยหรือวะ” ปวรุตม์ถลึงตามองน้องสาว
“อ้าว...คุณรุต ภรรยาเขาก็ต้องเข้าข้างสามีสิ” พันธวุธเอ่ยท้วงกลั้วหัวเราะ
“เออ...ให้มันได้ยังงี้สิ เห็นสามีดีกว่าพี่” ปวรุตม์เอ่ยเสียงงอนๆ ค้อนน้องสาวตาคว่ำ
ขวัญชนกลุกขึ้นจากโซฟาแล้วไปนั่งติดกับพี่ชาย ใบหน้างามเนียนซบลงกับบ่าแข็งแรงแล้วเอ่ยประจบออดอ้อนเสียงหวาน
“โธ่...อย่าเพิ่งน้อยใจสิคะ หลินอยากให้พี่รุตมีครอบครัวที่น่ารักเหมือนหลินบ้าง ท่าทางคุณนาราจะน่ารักนะคะ หลินอยากได้เธอมาเป็นพี่สะใภ้”
“รีบๆ มีครอบครัวไปเถอะจะได้ไม่มีเวลาว่างมาแกล้งคนอื่น รำคาญ!” พันธวุธลอยหน้าลอยตาต่อว่าพี่ภรรยา
“ไอ้พัน! กูชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ”
ปวรุตม์นับหนึ่งถึงสิบกำมือแน่นเพื่อระงับความโกรธทั้งๆ ที่เรื่องที่น้องเขยพูดมาก็ถูกทุกอย่าง วันดีคืนดีเขานึกครึ้มอกครึ้มใจก็ไปลากตัวน้องเขยมาจากห้องนอนให้มานั่งก้งเหล้าด้วยกัน วันไหนกลับถึงบ้านดึกน้องเขยตัวแสบหลับไปแล้ว เขาก็เดินไปเคาะห้องนอนของอีกฝ่ายเล่นจนขวัญชนกทนไม่ไหวต้องเปิดประตูออกมาต่อว่า หรือบางทีสามีภรรยากำลังคุยหยอกล้อกันกะหนุงกะหนิง เขาก็เดินอาดๆ เข้าไปนั่งแทรกกั้นกลางหน้าตาเฉย
“หรือว่าไม่จริง จะให้พูดถึงวีรกรรมที่คุณรุตทำไปหรือเปล่า” สารวัตรพันธวุธเลิกคิ้วเอ่ยท้าอีกฝ่าย
“ไม่ต้องพูด กูรู้ว่ากูทำอะไรลงไปบ้าง”
ปวรุตม์เอ่ยห้ามหน้าแดงก่ำรู้ว่าตัวเองก็แสบไม่น้อยไปกว่าน้องเขย
“จะไปประจำการที่เลยเมื่อไหร่” จู่ๆ พันธวุธก็เอ่ยถามคู่กัดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเหมือนเป็นห่วงเป็นใย
“ถามทำไม มึงจะไปส่งกูหรือไง” ปวรุตม์ย้อนถามนึกดีใจที่น้องเขยกับน้องสาวจะไปส่ง
“เปล่า! ใครบอกว่าจะไปส่ง แต่กำลังนึกคำนวณดูว่า...เสืออย่าง พ.ต.ท.ปวรุตม์จะกลายเป็นแมวภายในกี่วัน” สารวัตรพันธปฏิเสธเสียงสูงแล้วเอ่ยกลั้วหัวเราะ ลอยหน้าลอยตาไม่สนใจอาการโกรธของอีกฝ่าย
“ไอ้พัน! พูดแบบนี้มึงไปหยิบนวมมาเลยดีกว่า”
ปวรุตม์โกรธหน้าแดงก่ำลมออกหู หมดความอดทนกับสายตาและน้ำเสียงเยาะเย้ยถากถางของอีกฝ่าย
“ได้! วันนี้จะไม่ออมแรงให้แล้ว” พันธวุธลุกขึ้นจากโซฟาจ้องปวรุตม์โดยไม่หลบสายตา
“ชิชะ! ใครกันแน่ที่ออมแรงให้ วันก่อนถ้ากูไม่ออมแรงให้มึง ปานนี้มึงนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้ว”
สารวัตรปวรุตม์เถียงกลับทันควันด้วยความโมโหพลางตะโกนให้สมหมายเอานวมไปให้ที่สนามหน้าบ้าน
“เฮอะ! ทำเป็นขี้คุย วันนี้เอาให้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่าใครเก่งกว่าใคร”
สารวัตรพันธวุธโต้กลับเหมือนกัน ร่างสูงใหญ่กำยำของสารวัตรทั้งสองเดินเถียงกันไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน
ขวัญชนกกลอกตาขึ้นบนด้วยความระอาขี้คร้านที่จะไปห้ามมวย “หน่อย เดี๋ยวไปบอกป้านิ่มให้ทำข้าวต้มไว้สำหรับนักมวยทั้งสองด้วย”
ขวัญชนกบอกเด็กหน่อยที่นั่งอยู่แถว ๆหน้าห้อง จากนั้นก็ให้น้องอาร์ตไปหยิบสมุดระบายสีมา แล้วช่วยกันระบายสีไม้อย่างสนุกสนาน ไม่สนใจ 2 เสือที่กำลังต่อยกันอยู่ที่สนามหน้าบ้าน
ผ่านไปสามสิบนาที สารวัตรพันธวุธก็พาร่างสะบักสะบอมเข้ามาให้ห้องรับแขกแล้วทิ้งตัวลงนอนบนตักนุ่มอ้อนให้ภรรยาทำแผลให้
“เมียจ๋า...เจ็บจังเลย ทำแผลให้พี่พันหน่อย”
สารวัตรพันธวุธอ้อนเสียงหวาน ทำหน้าเหมือนเจ็บหนัก พอหันไปเห็นคู่ชกกำลังเดินผ่านหน้าห้องรับแขก พันธวุธก็ทำหน้าทะเล้นเลิกคิ้วล้อเลียนใส่
สารวัตรปวรุตม์มีสภาพไม่ต่างกับน้องเขย คิ้วแตกทั้งสองข้าง มุมปากแตกมีเลือดซิบ โหนกแก้มมีรอยช้ำแดง ขวัญชนกเห็นพี่ชายทำหน้าตูมเดินผ่านห้องรับแขกก็เลยเรียกไว้
“พี่รุตไม่กินข้าวเย็นก่อนหรือคะ หลินสั่งให้ป้านิ่มทำข้าวต้มรอแล้ว”
ขวัญชนกเอ่ยล้อกลั้วหัวเราะใช่ว่าปวรุตม์ต้องกินข้าวต้มแค่คนเดียวเสียเมื่อไหร่ สามีเธอก็ต้องกินข้าวต้มเหมือนกันเพราะมุมปากแตกมีเลือดซิบทั้งสองข้าง
“ไม่หิว! ไม่กิน!”
ปวรุตม์หันมาแยกเขี้ยวใส่น้องสาวกับน้องเขยตัวแสบตวาดเสียงดังลั่นแล้วเดินดุ่มๆ ขึ้นไปบนห้องนอน นายตำรวจหนุ่มเอาผ้าขนหนูขาวสะอาดชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ มาเช็คคราบเลือดตรงหัวคิ้วและมุมปาก ถึงตอนนี้ก็รู้สึกอิจฉาไอ้น้องเขยเหลือกำลัง เวลาเจ็บทีไรก็ทำสำออยอ้อนให้เมียทำแผลให้ ส่วนเขาก็กลับมาทำแผลตามมีตามเกิด สารวัตรหนุ่มนึกถึงคำพูดของน้องสาวขึ้นมาตะหงิดๆ
‘หลินอยากให้พี่รุตมีครอบครัวที่น่ารักเหมือนหลินบ้าง’
ปวรุตม์โยนผ้าขนหนูลงตะกร้าเดินไปที่ภาพถ่ายครอบครัวซึ่งแขวนไว้ข้างห้อง มือแข็งแรงเลื่อนภาพออกเผยให้เห็นตู้เชฟที่ซ่อนอยู่ด้านหลังภาพ เขาใส่รหัสตู้เชฟแล้วเปิดออกหยิบอัลบั้มภาพขนาดใหญ่และค่อนข้างหนาออกมาจากตู้เชฟ
ร่างสูงใหญ่กำยำทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนหยิบภาพแห่งความประทับใจออกมาดูทีละภาพ ใบหน้าคมเข้มอมยิ้มอย่างมีความสุข สมัยที่อยู่ต่างประเทศ คราใดที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า คิดถึงคนทางบ้าน เขาจะหยิบภาพเหล่านี้ออกมาดูเพื่อเพิ่มพลังใจให้กับตนเอง มือใหญ่แข็งแรงเปิดดูภาพแต่ละภาพไปเรื่อยๆ จนมาถึงภาพสุดท้ายเป็นภาพที่เขาชอบและประทับใจมากที่สุด สารวัตรหนุ่มดูวันที่และปีพ.ศ.ที่เขาเขียนด้วยลายมือหวัดๆ ไว้ด้านหลังภาพ ผ่านไป 5 ปีกว่าแล้ว แต่เขาไม่เคยลืมภาพและวันที่เขาประทับใจเลย เหตุการณ์ทุกอย่างยังติดตราตรึงใจ เหมือนเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วัน มือใหญ่อบอุ่นลูบไปบนใบหน้าหวานน่ารักของคนในภาพ
เด็กสาวที่สวยสะพรั่งดังดอกไม้แรกแย้มกำลังยิ้มหวานยื่นหน้าเข้ามาจูบที่แก้มสากเพื่อแสดงความยินดีในวันที่เขาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยสงบนิ่งใครเล่าจะรู้ว่าวันนั้นเขาสั่นรัว ใจเต้นระทึกจนแทบจะทะลุออกมานอกอกเมื่อสาวน้อยแก่นแก้วในชุดนิสิตปี1มาแสดงความยินดีพร้อมกับดอกกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่
เมื่อมอบช่อดอกไม้ให้เรียบร้อยแล้ว สาวน้อยก็ยื่นหน้าเข้ามาประทับจูบที่แก้มเขา ริมฝีปากอุ่นๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ร่างบอบบางนุ่มนิ่มที่แนบติดกายแข็งแกร่งกำยำทำให้เขาตะบะแทบแตก ร่ำๆ จะดึงร่างบางเข้ามากอดและประทับจูบคืนบ้าง สารวัตรหนุ่มลูบที่รูปภาพของคนที่กำลังกระหวัดคิดถึงก่อนจะเอ่ยพึมพำออกมาเบาๆ
“ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี อยากจะรู้จังเลยว่ายายฟันเหยินหน้าตาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน”