นาราโบกมือลาให้ชาวบ้านทุกคนที่กำลังทยอยกันกลับบ้าน หญิงสาวเดินกลับไปหาปวรุตม์ ใบหน้างามซ่อนแววเจ้าเล่ห์ไว้แล้วยิ้มหวานให้สารวัตรหนุ่มพอเดินเข้าไปใกล้ นีนนาราก็เอื้อมมือไปจับมือใหญ่อบอุ่นมากุมไว้ ริมฝีปากบางรูปกระจับเอ่ยกับสารวัตรหนุ่มด้วยน้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน
“กลับหรือยังคะพี่รุต นาราเหนื่อยทั้งวันแล้วอยากกลับไปอาบน้ำอาบท่า พี่รุตเองก็เหม็นไปทั้งตัว” นารายิ้มกว้างพลางยื่นหน้าเข้าไปดมแถวๆ อกกว้างที่ยังมีคราบดินโคลนเปรอะเปื้อนอยู่
สารวัตรปวรุตม์ผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่งเมื่อเจอท่าทางที่เปลี่ยนไปแบบกะทันหันของยายตัวแสบ เมื่อสักครู่ เขาจับแขนนาราไว้แน่น แต่คราวนี้นารากลับเป็นฝ่ายจับแขนเขาไว้เสียเอง ปวรุตม์เริ่มกลัวกับทีท่าของนาราจึงเดินหนีกำลังจะขึ้นไปนั่งด้านหน้ารถ แต่นาราก็ดึงแขนแข็งแรงไว้เสียก่อน
“นั่งด้านหลังด้วยกันสิค่ะ”
นาราเอ่ยชวนเสียงหวาน นัยน์ตากลมโตเต้นระริกด้วยความขบขำแทบปิดไว้ไม่มิด หญิงสาวแอบยักคิ้วให้ดาบผิวที่กำลังมองมาอย่างยิ้มๆ
“ขึ้นไปก่อนสิ” ปวรุตม์ยืนนิ่งไม่ยอมขึ้นไปบนรถแลนด์โรเวอร์ง่ายๆ
นาราแกล้งยิ้มหวานแล้วขึ้นไปนั่งด้านหลังรถ แต่แทนที่จะขยับไปนั่งริมสุดติดกับประตูอีกด้าน พอขึ้นไปบนรถแล้วนาราก็นั่งแปะที่เบาะแรก
“ยายนารา ขยับไปสิ นั่งปั้นจิ้มปันเจ๋ออยู่แบบนี้แล้วพี่จะเข้าไปนั่งด้วยได้ไง” ปวรุตม์เอ่ยต่อว่าชักจะไม่แน่ใจว่านารากำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่
“ขยับก็ได้ ขึ้นมาสิคะ” นาราเขยิบถอยไปนิดเดียวซึ่งมีที่วางให้ปวรุตม์นั่งไม่มากนัก
สารวัตรปวรุตม์ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถอย่างเสียไม่ดาย ร่างสูงใหญ่บึกบึนของนายตำรวจหนุ่มแทบจะแบนติดประตูรถ ส่วนอีกด้านของร่างกายก็แนบชิดกับร่างนุ่มหอมกรุ่น ปวรุตม์พยายามตั้งสมาธิไม่สนใจร่างบอบบางที่ขยับอยู่ไม่เป็นสุข ทุกคราที่นีนนาราขยับตัว ปวรุตม์ถึงกับสะดุ้งเฮือกกัดริมฝีปากแน่นเพราะอลำตัวนุ่มๆ สะโพกผายมล ต้นขาเนียนจะเสียดสีกับร่างสูงใหญ่กำยำของเขาแทบจะตลอดเวลา แถมใบหน้างามๆ ก็คอยแต่ชะเง้อมองที่ตัวเขา ปวรุตม์จ้องมองริมฝีปากบางรูปกระจับสีแดงระเรื่อหอมหวานแล้วอยากจะดึงร่างบางเข้ามาประทับจุมพิตให้หายอยาก แต่เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ แล้วเซหันไปมองทิวทัศน์ข้างทาง
นีนนาราเห็นอากัปกริยาของคนตัวใหญ่แล้วก็แอบหัวเราะขำ เอนศีรษะไปซบตรงบ่ากว้างแล้วแกล้งเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยล้า
“ดำนามาทั้งวัน เหนื่อยจังเลยค่ะ ถึงบ้านเมื่อไหร่พี่รุตปลุกนาราด้วยนะ”
“นารา!” สารวัตรปวรุตม์เรียกเสียงหนักๆ ผลักศีรษะกลมทุยที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมดำขลับยาวเงางามออกจากบ่าตนเอง นาราก็ไม่ยอมเหมือนกันพอปวรุตม์ผลักศีรษะเธอออก หญิงสาวก็เอนไปซบใหม่ คราวนี้ไม่ใช่แค่ศีรษะกลมทุยที่ซบบนบ่า นาราเอนไปทั้งตัว ร่างนุ่มๆ เอนไปพิงร่างแข็งแกร่งแล้วหลับตาลง คราวนี้เธอทำเพราะเหนื่อยล้าจริงๆ
สารวัตรปวรุตม์ชะงักมือที่กำลังจะผลักนีนนาราเมื่อเห็นท่าทางเหน็ดเหนื่อยที่เผยออกมาจากใบหน้าเนียนสวย มือใหญ่อบอุ่นเปลี่ยนไปโอบกอดร่างบางไว้พลางแอบสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมนุ่มสลวยที่ซบอยู่ตรงบ่ากว้าง นีนนารายิ้มบางๆ ขณะที่หลับตารู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาเมื่อแขนแข็งแรงโอบกอดรอบเอวบางคอดกิ่ว
พอมาถึงบ้านพัก นีนนาราก็วิ่งตัวปลิวเข้าไปในบ้านหยิบโทรศัพท์มือถือมาแล้วกดโทรไปหาคุณย่าด้วยความตื่นเต้น พอคุณย่านวลพรรณรับสาย เธอก็รีบกรอกเสียงลงไปโดยเร็ว
“สวัสดีค่ะ คุณย่า นาราเองค่ะ”
นาราเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวม มีเรื่องตื่นเต้นที่จะเอ่ยบอกคุณย่ามากมายหลายเรื่อง
คุณหญิงนวลพรรณกำลังนั่งรับประทานมื้อค่ำกับคุณหญิงขวัญฤทัยและพลโทธิติอยู่ในร้านอาหารหรูถึงกับหัวเราะเบาๆ ตอนที่ได้ยินเสียงหวานๆ ของหลานสาว
“ว่าไงจ๊ะนารา สบายดีหรือเปล่าลูก”
คุณหญิงนวลพรรณเอ่ยถามยิ้มๆ ทั้งคุณหญิงขวัญฤทัยกับพลโทธิติ ต่างก็นั่งตัวตรงหมดความสนใจอาหารทันทีเมื่อได้ยินชื่อนาราออกมาจากปากคุณหญิงนวลพรรณ
“สบายดีค่ะ คุณย่าคะ คุณย่ารู้หรือเปล่าว่าพี่รุตจะมาประจำการอยู่ที่โคกสำราญ”
“รู้จ้ะ เพราะว่าย่ากับคุณพ่อคุณแม่พี่รุตเป็นคนส่งเขาไปเอง” คุณหญิงนวลพรรณเอ่ยบอกหลานสาวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
นีนนาราได้ยินคำตอบจากคุณย่าถึงกับขมวดคิ้วสงสัย ร่างบางระหงเดินไปเปิดหน้าต่างภายในบ้านเพื่อให้ระบายอากาศ
“ยังไงคะ นาราไม่เข้าใจ”
นาราเอ่ยถามด้วยความสงสัยยืนหันหลังพิงหน้าต่างเลยไม่ได้เห็นคนที่กล่าวถึง กำลังยืนจ้องมองเขม็งมาจากบ้านพักอีกหลังที่อยู่ติดกัน
“ย่าต้องขอโทษหนูด้วยนะ ย่าให้เด็กๆ ไปทำความสะอาดห้องหนู พอดีสมุดบันทึกของหนูตกมาจากตู้เสื้อผ้า ย่าก็เลยเสียมารยาทเปิดอ่าน ทำให้ย่าได้รู้ว่าหนูแอบหลงรักตารุตมานานแล้ว สมัยที่นาราเรียนมหา’ลัย ย่าไม่เคยเห็นหนูรักใครเลยหรือไม่เคยแม้แต่จะพาเพื่อนๆ ผู้ชายมาให้ย่าหรือคุณพ่อคุณแม่รู้จัก พอหนูเรียนจบก็หนีไปอยู่ที่โคกสำราญ ตอนแรกๆ ย่านึกว่าหนูคงจะเบื่อเมืองกรุง อยากจะไปสัมผัสชีวิตแบบชาวบ้านดูบ้าง แต่พอย่าได้อ่านบันทึกของหนูย่าจึงรู้ความจริงทั้งหมด ย่าไม่นึกเลยว่าเวลาผ่านไปนานเกือบจะ 6 ปีแล้ว แต่หนูยังมีใจยึดมั่นอยู่ที่ตารุตคนเดียว” คุณหญิงนวลพรรณเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางยิ้มให้คุณหญิงขวัญฤทัยกับท่านนายพลที่กำลังตั้งใจฟัง
“แต่คุณย่าคะ พี่รุตเขาไม่ได้รักนารานะคะ นาราแอบหลงรักเขาคนเดียวมาตลอด” นาราเอ่ยเสียงเครือน้ำตารื้นขอบตาก่อนจะหยดลงมาเป็นทางยาว
“ย่าเชื่อว่าตารุตก็รักหนูเหมือนกัน”
คุณหญิงนวลพรรณเอ่ยยิ้มๆ พูดปลอบหลานสาวเพราะท่านได้เห็นหลักฐานจากคุณหญิงขวัญฤทัยซึ่งเอามาให้ดูก่อนที่จะช่วยกันวางแผนให้ลูกหลานได้สมปรารถนาในความรัก
“เขาไม่ได้รักนาราหรอกคะ มาถึงโคกสำราญเขาก็จับนาราหวดก้นเหมือนนาราเป็นเด็กๆ แต่นาราไม่เจ็บทำกับน้ำคำที่พี่รุตเอ่ยต่อว่าถากถางนาราหรอกค่ะ”
นาราสะอื้นออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงคำพูดเชือดเฉือนจิตใจที่ออกมาจากปากของปวรุตม์
“นาราใจเย็นนะลูก เชื่อย่าสิ ย่าดูตารุตไม่ผิดหรอก ย่าฝากสมุดบันทึกของหนูไปกับตารุตด้วยนะ”