พี่ข้างบ้าน

1446 คำ
"งั้นหรอกเหรอ​ คิกๆ​ ~" ฉันหลุดหัวเราะกับคำตอบของพัตเตอร์​ ทำเป็นดุที่ไหนได้ก็แอบเป็นคนดีนี่น่า​ ดูจากใบหูที่ขึ้นซับสีแดงแล้วสงสัยจะชอบให้คนอื่นพูดขอบคุณด้วยอยู่หรอกใช่ไหม "อย่าหัวเราะนะเว้ย​ เด็กใหม่อย่างเธออย่ามาตีสนิทฉันซะให้ยาก" "ใครตีสนิทนายกัน​ อีกอย่างพูดดีๆ​ นะ​ ตอนนี้ฉันเป็นลูกพี่นายแล้ว" "ลูกพี่บ้าบออะไร?" "นายคงไม่ลืมหรอกใช่ไหม​ ว่าตกลงอะไรกับฉันเอาไว้" ฉันยกยิ้มอย่างเหนือกว่า​ พัตเตอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดขึ้นมาสักพัก​ ก่อนที่ใบหน้าครุ่นคิดนั่นจะเปลี่ยนเป็นฉายความตกใจออกมาให้ได้เห็น "นี่อย่าบอกนะว่า..." "ที่หนึ่งในชั้นเรียนเลยจ้ะ" ฉันตอบอย่างมีจริต​ เล่นเอาคนที่ได้ยินขยี้ผมของตัวเองแรงๆ​ อย่างหัวเสียกันเลย​ทีเดียว "โกหก​น่า​ อย่างเธอนี่นะ" "ฉันมันทำไมห้ะ​ ถึงฉันจะสวยจนเหลียวหลังก็เถอะ​ ฉันก็ฉลาดเหมือนกันนะ" "โห้~ โคตรหลงตัวเองเลยว่ะ​ ถ้าเป็นฉันจะก็ว่าไปอย่าง" คนข้างๆ​ ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ​ เล่นเอาฉันกุมท้องหัวเราะรวนกับท่าทางของเขา "คิกๆ​ ~ โอ๊ยขำไม่ไหว" "หึๆ​ ฉันยอมให้เธอหัวเราะฉันได้แค่คนเดียวนะเว้ย​ ยังไงก็เกรงใจกันหน่อยละกัน" ถึงจะพูดเหมือนไม่พอใจอยู่​ หากแต่ใบหน้าของเขากลับแย้มยิ้มออกมา ไม่รู้ว่าพวกเราใช้เวลาในการหัวเราะกันไปนานเท่าไหร่​ แต่ก็นานพอที่ท้องฟ้าสว่างสดใสเปลี่ยนเป็นมืดสลัว​ แสงไฟสีส้มจากเสาไฟใกล้ๆ​ที่สาดส่องลงมา​ มากพอให้ได้เห็นพื้นหญ้าอยู่​ "เวลาผ่านไปเร็วจัง​ ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า​ วันนี้ก็ขอบคุณนะ" ฉันยิ้มบอกกับพัตเตอร์​ ก่อนจะหยัดตัวลุกออกจากชิงช้า​ เพื่อที่จะกลับบ้าน​ทว่าสองขาเล็กก็ต้องชะงักเมื่อพัตเตอร์ได้เอ่ยถามขึ้นมา "ที่เธอร้องไห้​ มันเป็นเพราะใครหรือเปล่า?" "....." "ถ้ามีคนทำให้เธอเสียใจ​ ก็บอกฉันได้ฉันจะไปกระทืบมันให้เอง" พัตเตอร์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง​ สีหน้าของเขามันเหมือนกับกำลังโกรธแทนฉันอยู่ยังไงยังงั้น "ขอบใจนะ​ แต่ไม่เป็นไรหรอก​ เพราะต่อให้นายไปกระทืบเขา​ ก็ใช่ว่าเขาจะหันมาสนใจฉันซะหน่อย" "แล้วเธอจะทนเหรอ?" "ไม่แล้วแหละ​ ฉันตัดสินใจว่าจะไปเรียนที่อื่นน่ะ" ฉันไหวไหล่บอกอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่​ เพราะยังไงฉันก็ไม่อยากจะทนรับกับความรู้สึกแบบนี้อีก​ สู้ไปกลับไปเรียนที่เดิมก่อนที่ฉันจะย้ายมาดีกว่า​ ถึงพ่อแม่จะอยู่ที่นี่แต่ที่นู่นก็มียายอยู่​ เพราะงั้นพ่อกับแม่เลยอนุญาต​ให้กลับไปเรียนได้ ถึงตอนแรกจะไม่ยอมก็เถอะ "ทำไมล่ะ​ ไม่เห็นต้องย้ายเพราะไอ้เฮงซวนคนนึงเลยนี่" "ทำไมนายคิดถึงฉันหรือไง​?" ฉันแกล้งถามอย่างติดตลก​ จะมีใครคิดถึงฉันได้​ ฉันแค่คนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้นเอง "ก็เออดิ ก็ต่อไปเธอจะเป็นลูกพี่ฉันไม่ใช่ไง​ ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น​ ถ้าไม่มีลูกพี่อยู่แล้วลูกน้องอย่างฉันจะทำยังไง" "นายนี่นะ​ ถึงฉันจะไปเรียนที่อื่นก็ไม่ได้แปรว่าฉันจะเป็นเพื่อนกับนายไม่ได้นี่ถูกไหม?" "เพื่อนงั้นเหรอ?" "ทำไมนายอยากจะเป็นลูกน้องฉันอย่างเดียวเลยไง" "รับปากได้ไหม​ ว่าเธอจะติดต่อมาหาฉัน" "อื้อ... ฉันสัญญา" 2 ปีต่อมา... [ น้ำพุ​ TALK​ ] ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร​ ในระยะเวลาตลอดสองปีมานี้​ ผมก็ได้แต่รอคอยคนตัวเล็กที่มายืนกดออดหน้าบ้านแล้วส่งยิ้มร่าเริงเหมือนอย่างทุกที​ แต่มันก็ไม่มีวันนั้นเลย 'ซีเซียเหรอ​ น้องย้ายกลับไปเรียนที่อื่นแล้วจ้ะ​' ​​​​​​นั่นคือคำตอบของแม่ซีเซียในวันที่ผมตัดสินใจไปถามหาเธอที่บ้าน​ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้​ ถ้ารู้ว่าหลังจากที่เจอกันวันนั้นผมจะไม่ได้เจอเธออีก​ ผมคงจะบอกเธอไปตามความรู้สึก​ 'จะไม่เหงา​ หรือคิดถึงเซียใช่ไหมคะถ้าเซียไม่อยู่จริงๆ' คิดถึงสิ คิดถึงมากด้วย.. ผมน่าจะตอบออกไปแบบนี้​ แต่ตอนนั้นผมทำเชี่ยอะไรอยู่วะ​ มานึกเอาตอนนี้แม่งก็สายไปแล้ว​ ตอนนี้ผมเรียนจบแล้วและกำลังทำงานต่อจากบริษัทของพ่อ​ เพราะธุรกิจ​ของพ่อผมนั้นต้องการให้ผมเข้าไปช่วยหลังเรียนจบ "ไอ้พุ​ เดี๋ยวนี้มึงไม่ไปสนามแข่งเลยนะไอ้เวร" เสียงของไอ้รามที่ดังขึ้นทำลายความคิดของผม​ ร่างสูงของไอ้รามนอนเหยียดขาพาดไปบนพนักพิงโซฟาตัวหนาในบ้านของผม ต่อให้ผมไม่ไป​ พวกมันก็เสนอหน้ามาหาผมได้อยู่ดี​ ที่ผมไม่ไปส่วนหนึ่งก็เพราะติดงานที่บริษัท​ ส่วนอีกเรื่องคือผมคอยตั้งหน้าตั้งตารอ​ ว่าซีเซียจะกลับมากดออดเรียกผมเหมือนเมื่อก่อน​ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต่อให้ผมอยากเจอเธอเท่าไหร่ตอนนี้ก็คงไม่ได้เจออีกแล้ว "กูยุ่งกับงานที่บริษัท​ วันนี้มึงจะไปสนามแข่งใช่ไหม​ งั้นกูจะตามไปขอเคลียร์​นี่ก่อน" ผมบอกกับไอ้รามแล้วรีบเคลียร์​งานตัวเองให้เสร็จ​ ถึงมันจะไม่ใช่งานด่วนอะไร​ แต่เพราะไม่อยากให้สมองมันว่างแล้วคิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก "เออ​ ยังไงตามมาละกันกูไปรอที่นู่น" ไอ้รามหยัดตัวลุกขึ้นยืนแล้วตบบ่าผมเบาๆ​ ก่อนที่มันจะเดินออกไป ทันทีที่ผมเคลียร์งานเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัว​ เพื่อที่จะไปตามนัดที่บอกกับไอ้รามเอาไว้ก่อนหน้านี้​ รถLamborghini รุ่นใหม่ล่าสุดเคลื่อนตัวรถออกจากรั้วบ้านด้วยความเร็วในระดับหนึ่ง​ ทว่าภาพตรงหน้าทำให้ผมต้องเหยียบเบรคเพื่อหยุดตัวรถเอาไว้ หญิงสาวในชุดนักศึกษา​กระโปรงทรงเอเลยเขาขึ้นไปเกือบถึงต้นขา​ อวดขาเรียวเล็กชวนมอง​ ผมสีน้ำตาลยาวสยายไปตามแรงลมถูกมือเล็กเกี่ยวขึ้นทัดใบหู​ ดวงตาสดใสของเธอเหลือบมามองยังรถของผมที่เพิ่งจะพ้นรั้วบ้านออกมา​ ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะเบือนหน้ากลับไปส่งยิ้มให้ใครบางคนที่ก้าวเท้าลงมาจากรถแล้วส่งยิ้มกลับให้เธอเช่นเดียวกัน ทันทีที่ผมแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเอง​ คนตรงหน้าของผมตอนนี้เป็นซีเซียจริงๆ​ แล้วเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ด้วยความดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้ง​ ผมก็รีบลงจากรถแล้วมุ่งตรงไปหาเธอทันที​ ซีเซียหันมามองผมเพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงออกถึงความดีใจ​ แม้กระทั่งรอยยิ้มที่เคยมีให้ผม​ ในตอนนี้กลับไม่ได้ปรากฏ​บนใบหน้าของเธอเลยสักนิด "ซีเซีย..." "เซียไปกันเถอะเดี๋ยวสาย" ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไรออกไป​ ผู้ชายที่ลงมาจากรถก่อนหน้านี้​เดินเข้ามาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้เสียก่อน "ชิ~ ทำมาพูดนายต่างหากที่มาช้า" ปากอิ่มแย้มยิ้มกับคนข้างเธออีกหน สายตาที่เคยส่องสว่างสดใสยามจ้องมองตอนนี้มันกลับดูเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก "ซีเซีย​ กลับมาเมื่อไหร่เหรอ?" ผมเอ่ยรั้งเธอเอาไว้​ ราวกับกลัวว่าถ้าปล่อยโอกาสนี้ไป​ ผมจะไม่ได้เจอเธออีก "ใครอ่ะ?" "อ้อ​.. สงจะเป็นพี่ข้างบ้านน่ะ​ ไปเหอะ" เธอปรายสายตามามองผมในตอนที่คนข้างกายเธอเอ่ยถาม​ ด้วยสายตาเรียบเฉยก่อนจะหันไปตอบอีกคนด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าเป็นคำพูดของเธอหรือเป็นเพราะผมโดนสาป​ ทำให้ปากไม่ยอมขยับเท้าก็ไม่ยอมทำตามที่สมองสั่ง​ ผมน่าจะเข้าไปหาเธอแล้วพูดอะไรสักนิด​ แต่พอถูกสายตาของเธอที่มองมาแบบนั้น​ มันก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างที่เธอรังเกียจ ​​​​​​

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม