ชัชสอนเธอผูกเน็กไท กินอาหารกับช้อนส้อม ใช้ตะเกียบ ใช้มีด และมารยาทบนโต๊ะอาหาร ผู้ชายดูดีเอาแต่ใจ กลับใจเย็นเสมอเวลาสอนเธอ แต่ถ้าเธอทำผิดเขาจะลงโทษด้วยการจูบ จูบเธออย่างดูดดื่มและหลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกว่าเขาจะทำอะไร เพราะมันจบลงที่เตียงเสียทุกครั้งไป
แต่เธอสังเกตว่าเขาดูมีความสุขที่ได้สอนเธอทำโน่นทำนี่ เหมือนกับว่าเธอเป็นเด็กน้อยในโอวาทของเขา และเขาก็เป็นผู้ปกครองจอมดุ และเนี๊ยบไปเสียทุกอย่าง
ชัชหัดให้เธอเดินบนรองเท้าส้นสูง เขาวางหนังสือบนศีรษะของเธอ แล้วให้เธอเดินตัวตรง เธอก็ทำตาม เขาบอกว่าเป็นการฝึกบุคลิกภาพอย่างหนึ่งเวลาออกงานสังคม
“ฉันต้องกลับบ้าน เธออยู่คนเดียวได้ใช่ไหม” เขามองหน้าเด็กสาว สีหน้าบ่งบอกได้ถึงความกังวลอย่างชัดเจน
“ได้ค่ะ ตอนคุณไปทำงานหนูก็อยู่คนเดียวอยู่แล้วนี่คะ”
“ดีมาก” เขายิ้มออกมา น่าแปลก ในคราแรกที่ได้รู้จักกัน เขาเป็นคนยิ้มยาก แต่ในเวลานี้เขาสามารถยิ้มกับเธอได้ทุกครั้งที่เธอทำให้เขาพึงพอใจ
“คุณชัชจะกลับมาไหมคะ หนูจะทำอาหารเอาไว้รอ” มยุรินเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น อาจเพราะชัชซื้อโทรศัพท์ให้เธอใหม่ เขาสอนเธอใช้ บอกว่าจะได้ไม่เหงาเวลาอยู่คนเดียว เธอจึงเปิดคลิปดูการทำอาหารและลองหัดทำ ปรากฏว่ามันดูดีออกมาสวยงาม หรือบางครั้งถึงจะเละแต่ก็ยังรสชาติดี ทำให้เธอเพิ่งค้นพบว่าตัวเองก็มีพรสวรรค์ในการทำอาหารเหมือนกัน
“เดี๋ยวดูก่อน แต่คิดว่าไม่ต้องรอนะ” เขาตอบแล้วมองเธอนิ่ง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไร ถ้ามีใครมาหาไม่ต้องเปิดประตูนะ ถ้าไม่ใช่ฉัน”
“ค่ะ คุณชัชบอกหนูทุกวันอยู่แล้ว”
ชัชไปแล้ว มยุรินก็รีบทำความสะอาดบ้าน และทำอาหารับประทานเอง ในตู้มีผักสด เนื้อและอาหารทะเลอีกมากมาย ทั้งอาหารแปรรูปและของแห้งอีกหลายอย่าง เธอสามารถใช้ชีวิตอยู่แต่ในแพนเฮ้าส์โดยไม่ไปไหนเลยเพราะมีของกินเต็มห้องครัวไปหมด ชัชกลัวเธออดเลยซื้อทุกอย่างมาไว้ในบ้าน เวลาที่เขากับเธออยู่ด้วยกันก็มักทำอาหารกินด้วยกันเสมอ ๆ
“หมายความว่ายังไง” ประโยคคำถามของบิดาเมื่อวางรูปถ่ายมากมายที่แอบถ่ายลงตรงหน้าลูกชายคนโตทำให้ชัชขมวดคิ้วเข้าหากัน
“เดี๋ยวนี้ท่านเป็นปาปารัสซี่ชอบแอบถ่ายรูปคนอื่นแล้วเหรอครับ” เขาไม่ได้หยิบมาดูแต่เห็นว่าเป็นรูปตัวเองกับมยุรินตอนที่ออกไปซื้อของหรือกินข้าวนอกบ้านด้วยกัน
“แกจะเอาผู้หญิงสักกี่คนขึ้นเตียงก็ได้ แต่ไม่ใช่เลี้ยงดูออกนอกหน้าแบบนี้”
“เรื่องของผม”
“แกคงลืมไปแล้วว่าถ้าแกขัดคำสั่งฉันจะเป็นยังไง”
“ผมไม่เคยลืมว่าท่านเลือดเย็นเพียงไหน” ชัชตอบเสียงเรียบ แต่อารมณ์ข้างในคุกรุ่น
“แกเป็นลูกชายคนโตของฉัน แกจะต้องสืบทอดกิจการทุกอย่างของฉัน”
“ไอ้เชนก็อยู่ มันก็ลูกชาย”
“ไอ้เชนมันก็ต้องดูแลกิจการของแม่มัน” คำว่าแม่มันในที่นี้คือภรรยาอีกคนที่บิดาของเขาแต่งงานออกนอกหน้า
ชัชรู้อยู่เต็มอกว่ามารดาของเขาเป็นแค่นางบำเรอของบิดา แต่ดันตั้งท้องขึ้นมาแถมยังคลอดลูกชายอีก ท่านจึงเก็บเขาเอาไว้ ในช่วงนั้นกิจการของท่านเจริญรุ่งเรืองเลยคิดว่าเขานี่แหละคือคนที่จะสืบทอดกิจการทั้งหมดเพราะเป็นลูกที่ทำให้ท่านดวงดี ในขณะที่มารดาทนการทุบตีไม่ไหวหนีไปกับผู้ชายคนอื่น ทำให้ท่านเกลียดมารดาของเขาจับใจ เขารับรู้มันผ่านคนอื่นเพราะยังเด็กมาก
เรื่องราวแต่หนหลังเลวร้ายมาก เมื่อมารดาโดนผู้ชายที่หนีไปนั่นแหละยิงตาย เหตุว่าเพราะผัวใหม่ต้องการเอาตัวรอด ถ้าไม่ฆ่ามารดาของเขาซะ ก็จะโดนบิดาของเขาฆ่าตาย แต่สุดท้ายก็ไม่รอดทั้งสองคน
บิดาบีบบังคับให้ฆ่ากันเอง และผัวใหม่ของแม่ก็ไม่ได้รักแม่ของเขาจริง
บิดาแต่งงานใหม่กับอนงค์นาง ลูกสาวเจ้าพ่อคนดังของภาคกลาง ท่านจึงค่อนข้างเกรงใจอนงค์นาง ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรือเอาแต่ใจกับเมียแต่ง
อนงค์นางถือว่ามีบุญคุณกับเขา เพราะได้ขอชีวิตเขาเอาไว้ ในขณะที่เขากำลังโดนพ่อเล็งปืนมาที่หัวเพื่อพร้อมที่จะระเบิดสมองเพราะแม่มีชู้ หยามเกียรติและศักดิ์ศรีของท่านดำริ เจ้าพ่อคนดังเจ้าของธุรกิจผับ บาร์ คาเฟ่ ที่ร่ำรวยติดอันดับประเทศ
อนงค์นางมีลูกชายให้ดำริหนึ่งคนคือเชน น้องชายต่างมารดาของเขาที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข ไร้แรงกดดันต่าง ๆ จากบิดา เพราะบิดาไม่ใคร่จะสนใจเชนนัก อาจเพราะเป็นลูกคนเล็ก
“ผมก็ทำงานให้พ่อแบบถวายหัวอยู่แล้ว” ชัชตอบเสียงขรึม
“แกจะใฝ่ต่ำเหมือนแม่แกอย่างนั้นเหรอ หมั้นกับหนูปานวาดก็ดีอยู่แล้ว อีกอย่างก็หมั้นกันนานแล้ว ฉันว่าแกควรแต่งงานได้แล้ว” ปานวาดเหมือนตัวช่วยแก้ปัญหาชีวิตให้เขาโดนเลิกจับคู่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ การหมั้นกับปานวาดคือความผิดครั้งใหญ่ของชีวิต เมื่อหล่อนเรียกร้องเกินกว่าที่ตกลงกันเอาไว้
“อย่ายุ่งกับมยุริน” ชัชไม่ตอบคำถามของบิดา แต่เขาเข้าประเด็นที่กำลังคุยกันอยู่
“น้าของแกสบายดีเหรอ”
“อย่ายุ่งกับน้านิล!” ดวงตาของชัชดุกร้าวขึ้นในทันที
“เร็ว ๆ นี้พ่อของหนูปานวาดจะร่วมลงทุนทำธุรกิจใหม่กับฉัน หวังว่าแกจะรู้นะว่าควรทำยังไง”
“ผมจะถอนหมั้นกับปานวาด” ชัชพูดอย่างหนักแน่น พูดสวนทางกับความต้องการของบิดา
“ไม่ได้”
“แล้วแต่ท่าน”
“นี่แก ฉันก็บอกแกอยู่นี่ไงว่าจะทำธุรกิจกับพ่อของเขา แกไปถอนหมั้นลูกเขา แล้วฉันจะทำยังไง”
“เรื่องของท่านสิครับ”
“หนูปานวาดไม่ดียังไง”
“ผมไม่ได้รักเธอ”
“ไม่รักแล้วแกหมั้นกับเขาทำไม”
“เพราะความผิดพลาด” ชัชตอบทันกัน มองหน้าบิดาอย่างไม่ยอมลงให้
“แกจะเอาแบบนี้ใช่ไหม”
“ไม่เอายังไง ผมจะเอาแบบที่ผมจะเอา”
“นังเด็กชั้นต่ำนั่นมันมีอะไรดี พี่สาวมันขโมยเงินกับเครื่องเพชรแกหนีไปไม่ใช่เหรอ”
“ท่านรู้ได้ยังไง”
“เรื่องของแกฉันรู้ทุกอย่าง เดือนหน้าแกต้องแต่งงานกับหนูปานวาด ฉันหาฤกษ์ให้แกแล้ว”
“ท่านอยากแต่งก็แต่งเอง”
“ไอ้ชัช!” ดำริโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
“แค่นี้ใช่ไหมที่ท่านจะพูดกับผม ผมขอตัว”
“แกยังไปไม่ได้ ถ้าแกไปฉันจะยิงแกทิ้งซะ” ดำริควักปืนออกมา ชัชหันกลับมา มองบิดาด้วยดวงตาแข็งกร้าว ไม่มีท่าทีว่าจะหวาดหลัวหรือจะหนี
“เอาสิครับ ท่านยิงผมก็จบเรื่อง ท่านสร้างผมมานี่ จะทำลายผมก็ได้” ผู้ชายคนนี้ย่ำยีมารดาของเขาจนท้อง ฉุดคร่าใช้อำนาจที่มีทำร้ายมารดาของเขา เขารู้เรื่องนี้จากคนนอก