ซันเซสเพียงก้าวเข้าไปในบ้านไม่กี่ก้าวเขาก็ได้ยินเสียงแม่หนูน้อยเดลล่าร้องไห้จ้า มีเสียงปลอบห้าวเข้มหลายเสียง แม้พวกเขาจะพยายามอ่อนโยนกับเธอ แต่เขาก็เดาว่าเดลล่าคงไม่ชินกับเสียงห้าวทุ้มพวกนั้น
“เดลล่า... หนูร้องงอแงทำไมลูก” ชายหนุ่มขานเสียงเข้าไปก่อนตัว
พอได้ยินเสียงของชายหนุ่ม เดลล่าก็หยุดฟังสักครู่ก่อนที่จะร้องขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มต้องรีบก้าวตามขึ้นไปบนบันไดบ้าน ในขณะที่คาเธอร์ที่อุ้ม เดลล่าอยู่ก็รีบเดินมาหาเขาเช่นกัน
ตลอดระยะเวลาเกือบสองชั่วโมงที่หนูน้อยร้องไห้ไม่ยอมหยุดทำให้บอดีการ์ดหนุ่มสามคนแทบประสาทกิน เธอไม่ยอมแม้กระทั่งดื่มนมในขวดที่พวกเขาชงให้
ชายหนุ่มรีบรับตัวเธอมากอดแนบอก เขย่าเล็กน้อยพร้อมกับส่งเสียงนุ่มๆ บอกอย่างปลอบโยน
“เป็นอะไรคะ... ร้องไห้ทำไม แด็ดกลับมาแล้วนะคะ” ชายหนุ่มส่งเสียงอ่อนหวาน ก่อนหันมาบอกคนที่ยืนอยู่ด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ส่งนมมาให้ฉัน” เขายื่นมืออีกข้างไปรับขวดนม ก่อนจะส่งมันเข้าปากหนูน้อย เขาโยกตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับเขย่าขวดนมเล็กน้อยส่งสัญญาณให้หนูน้อยรู้
เดลล่าอ้าปากรับขวดนม ทั้งที่ยังร้องไห้น้ำตาเปื้อนพวงแก้ม เธอดูดนมไปสะอื้นไป แต่เพียงไม่กี่นาทีเดลล่าก็เงียบสนิท และหลับไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม
“ที่แท้ก็ง่วงนอนมาก ดื่มนมไปได้แค่นิดเดียวเอง” เขาบอกคนบนตักของตัวเองอย่างอ่อนโยน แต่ก็ยังไม่หยุดโยกตัวขับกล่อมให้เธอหลับสนิท
บอดีการ์ดสามคนมองหน้าคนเป็นเจ้านาย และมองหนูน้อยที่ร้องไห้จ้าเมื่อครู่อย่างตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคิดว่าผู้ชายแข็งกร้าวดุดัน เวลาทำงานที่ต้องคุมลูกน้องนับพันอย่างซันเซสจะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ให้เห็น เพราะพวกเขาไม่ใช่คนสนิทของเจ้านายอย่างอดัมและคาเธอร์
เพราะว่าเดลล่าง่วงนอนมากจนกลายเป็นงอแง มือของบอดีการ์ดหนุ่มพวกนั้นคงจะแข็งทื่อเกินไปทำให้เธอไม่สามารถหลับได้
หลังจากนั้นซันเซสอุ้มหนูน้อยเดลล่าเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้บอดีการ์ดยืนมองอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เข้าใจ
“นายสงสัยไหม หนูน้อยคนนี้มีความพิเศษตรงไหน บอสถึงได้ทั้งรักทั้งหลง ยอมแม้กระทั่งทิ้งงานกลับมา” หนึ่งในบอดีการ์ดถามขึ้นท่ามกลางความเงียบหลายนาที
อีกคนพยักหน้าคล้อยตาม “ฉันก็ไม่นึกว่าบอสจะเลี้ยงเด็กเล็กเป็น หรือว่าหนูเดลล่าเป็นลูกของบอสกันแน่”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นบอสคงไม่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้” อีกคนสนับสนุนอย่างเห็นด้วย
“ป้ายชื่อที่สลักนั่นอีกล่ะ มันเป็นสัญลักษณ์ของคาร์ลอสชัดๆ”
“พวกนายอยากตกงานใช่ไหม” คาเธอร์บอกแทรกขัดจังหวะขึ้นมาหลังจากที่อยู่เงียบๆ ฟังอยู่นาน ทั้งที่ตัวเขาเองก็แอบสงสัยไม่ต่างจากพวกนั้น
มีหลายเหตุผลที่สนับสนุนความคิดของพวกเขา ไม่มีความจำเป็นที่ซันเซสจะรับหนูน้อยคนนี้มาอุปการะ เพียงแค่เขาส่งตัวเธอให้ทางการพร้อมวิดีโอวงจรปิดที่หน้าคฤหาสน์ ทุกอย่างก็จะจบลง ไม่ต้องตามสืบ ไม่ต้องตามหา หากไม่มีนัยแอบแฝงบางอย่างจริง
หลังจากส่งเดลล่าเข้านอนชายหนุ่มก็เดินเลี่ยงมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เขานั่งอยู่ตรงนั้นนานนับชั่วโมงอย่างคิดไม่ตก ภาพของสตรีที่รูปร่างไม่สูงมากหากเทียบกับคนอิตาลี ในภาพเขามองเห็นว่าเธอลุกลี้ลุกลนและ พะวักพะวงที่จะทิ้งเดลล่าไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ซุ่มรออยู่หลังพุ่มไม้จนกระทั่งคนของเขาพาตัวหนูน้อยเข้ามาในบ้าน เพียงแต่พวกเขาไม่คิดเอะใจที่จะ ตรวจตราก่อนสักนิด ไม่อย่างนั้นคงจับตัวเธอได้ตั้งแต่วันนั้น
ซันเซสนั่งมองภาพบนหน้าจอมอนิเตอร์ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าไม่รู้จักผู้หญิงในภาพวงจรปิดมาก่อน แต่ก็คิดไม่ตกว่าเธอเกี่ยวข้องอะไรกับคาร์ลอสกันแน่
สร้อยของเดลล่าที่อยู่ในมือของเขาเป็นตัวชี้วัดได้ดีว่าเธอต้องมีอะไรบางอย่างปกปิด และเธอคือบุคคลที่จะไขปริศนาทุกอย่างให้กับเขา ตอนนี้เขาแทบจะรอเวลานั้นไม่ไหว
กุหลาบสีแดงช่อใหญ่ถูกส่งไปแทนตัวของชายหนุ่มตามเวลานัดหมาย เอเรียน่าหงุดหงิดมากเมื่อถูกยกเลิกการนัดหมาย เธอต้องยกเลิกนัดกับเพื่อนและแต่งตัวรอเขาเก้อตามคำสั่งของคนเป็นลุง
เธอเกลียดผู้ชายที่หมางเมินเธอเป็นที่สุด เกลียดความจองหองของเขา เกลียดความถือดีของเขา จากที่เธอเกลียดอยู่แล้ว คราวนี้กลับยิ่งทวีคูณ
“นายถือดียังไงมายกเลิกนัดฉัน นายต้องรับผิดชอบสิ่งที่นายทำ” ดอกกุหลาบที่อยู่ในมือถูกมือเล็กขยำขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี แววตาของเธอแสดงความโกรธแค้นได้อย่างชัดเจน
“แต่เลขาฯ ของคุณซันเซสบอกว่าเขาป่วย” ผู้ช่วยสาวของเธอบอก
“ฉันไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด ฉันต้องคุยกับลุงให้รู้เรื่อง” หญิงสาวบอกอย่างเอาแต่ใจ
“คุณเอเรียน่า” ผู้ช่วยสาวเรียกชื่อเธอเตือนสติ เพราะไม่อยากให้คนเป็นนายโดนลุงตำหนิ และเธอเองก็พลอยจะโดนหางเลขไปด้วย ข้อหาไม่ดูแลเอเรียน่าอย่างดี
เอเรียน่าไม่ฟังคำท้วงติงกับผู้ช่วยสาวแม้แต่นิด เธอกดโทรศัพท์ ต่อสายถึงคนเป็นลุงและบอกเล่าด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่คนเป็นลุงกลับตอบกลับอย่างใจเย็นและสั่งให้เธอไปเยี่ยมเขาที่บ้าน
เปรี้ยง!
โทรศัพท์ที่อยู่ในมือถูกปาไปกระแทกพื้นอย่างแรงอย่างไม่พอใจ เมื่อคนเป็นลุงไม่เข้าข้าง มิหนำซ้ำยังสั่งเธอเพิ่มโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนเป็นหลาน
ผู้ช่วยสาวไม่มีอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใด เพราะเธอทำใจเอาไว้ก่อนหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เธอเจอบ่อยจนชิน เมื่อไม่ได้ดั่งใจและถูกขัดใจจากคนเป็นลุง เอเรียน่าก็จะทำลายข้าวของแบบนี้เสมอ
“ไปแต่งตัวเถอะค่ะ”
“ฉันก็แต่งแล้วนี่ไง” เอเรียน่าบอกอย่างเกรี้ยวกราด เหวี่ยงหางตามามองผู้ช่วยสาว ตาของเธอแทบจะถลนออกมานอกเบ้า แต่อีกคนกลับยิ้มอ่อนโยน
“ชุดนี้ไม่เหมาะที่จะไปเยี่ยมไข้” เธอมองชุดสีแดงเพลิงสั้นแค่คืบของเจ้านายสาวและบอกอย่างใจเย็น ริมฝีปากสีแดงสดกับการแต่งหน้าฉ่ำแบบจัดเต็มก็ไม่เหมาะเช่นกัน
เธอจะไม่คัดค้านหากเอเรียน่าใส่ชุดแบบนี้ไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อนข้ามวันข้ามคืน แต่ถ้าเธอปล่อยให้เจ้านายสาวไปพบซันเซสในสภาพแบบนี้เธอต้องถูก เกรซ ฮาลอนโซ่ ตำหนิแน่ๆ
ลอเรนซ์ เป็นทั้งพี่เลี้ยง ผู้ช่วยของเอเรียน่า เธอเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะภรรยาลับของ เกรซ ฮาลอนโซ่ เมื่อสิบปีก่อน จนถึงคราวที่ต้อง ปลดระวาง เขากลับทิ้งเธอไม่ลงเหมือนผู้หญิงรายอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ก็ไม่สามารถพาออกงานได้เช่นกัน
เกรซเก็บลอเรนซ์ไว้เป็นภรรยาลับ และเขาก็ยังมีผู้หญิงอื่นอีกหลายคน เขามอบตำแหน่งพี่เลี้ยงและผู้ดูแลเอเรียน่าให้ หวังจะให้เธอช่วยอบรมให้เอเรียน่า อ่อนโยนและอ่อนหวานเหมือนเธอ แต่เอเรียน่ากลับจิกใช้เธอราวกับว่าเป็นคนใช้ ไม่เคยเห็นหัวแม้ว่าเธอจะอายุมากกว่าเอเรียน่าเกือบยี่สิบปี
“เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันนะลอเรนซ์” เอเรียน่าบอกเสียงแข็ง
ลอเรนซ์ยิ้มอ่อนโยนเหมือนเดิม “ฉันไม่ได้สั่ง ฉันแค่ทำตามหน้าที่ของฉัน ได้โปรดเถอะนะคะ อย่าให้ฉันต้องโดนท่านลากฉันเข้าไปทำโทษในห้องนอนเพราะบกพร่องในหน้าที่เลย”
ลอเรนซ์บอกด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ไม้ตายสุดท้ายที่เธองัดมาใช้และเอเรียน่าก็เข้าใจทันที เพราะรู้ว่าคนเป็นลุงติดเซ็กซ์และบ้ากามมาก ตอนเด็กเธอมักเห็นลอเรนซ์เข้าไปในห้องของลุงบ่อยๆ และทุกครั้งลอเรนซ์ก็ให้เหตุผลว่าเธอถูกลุงของเธอเรียกเข้าไปทำโทษ
แม้ตอนนี้คำว่าลงโทษจะต่างความหมายกัน เมื่อตอนเป็นเด็กเธอเข้าใจว่าลุงของเธอใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีลอเรนซ์เหมือนอย่างที่ทำกับเธอในตอนเด็กๆ ที่เธอดื้อรั้น ต่างจากตอนนี้ที่คำว่าทำโทษที่เธอรู้จักคือเรื่องบนเตียง เธอมักจะเห็นลอเรนซ์มีรอยแดงไม่ต่างจากถูกเฆี่ยนตีกลับมาทุกครั้งที่เธอบอกว่าถูกลงโทษ
น้ำเสียงเศร้าสร้อยกับแววตาน่าสงสารของลอเรนซ์ทำให้เอเรียน่ายอมอีกครั้ง
“ก็ได้” เธอบอกพร้อมกับหมุนตัวเข้าไปในห้องแต่งตัวของตัวเอง ลอเรนซ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกและยิ้มออกมาบางๆ
เธอไม่ได้ถูกทำโทษเหมือนอย่างที่ยกข้ออ้างบอกกับเอเรียน่า แต่เป็นข้ออ้างที่รู้กันกับท่านเกรซ ทุกครั้งที่เธอโดนเรียกเข้าไปในห้องเพื่อตอบสนองความต้องการของท่าน เธอก็จะได้รางวัลก้อนโตกลับออกมา แม้เธอต้องแลกมากับความเจ็บปวดในบางครั้งก็ตาม
เป็นความโชคดีที่เธอไม่ถูกส่งต่อไปให้ลูกค้ารายอื่นเหมือนอย่างคนร่วมชะตากรรม แม้จะทุกข์ตรมอยู่ในบ้าน แต่ก็ยังดีกว่าผู้หญิงสวยพวกนั้นที่ยังต้องวนเวียนอยู่ในธุรกิจมืดของเขา โดยการเปิดบ่อนคาสิโนบังหน้า