ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ตอบรับอย่างง่ายดาย “ได้สิ”
สิตมนยิ้มกว้างอย่างมีความสุข “ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ”
“ที่ฉันทำก็เพื่อจะปกป้องตัวเอง ฉันไม่รู้ว่าเธอประสงค์ดีหรือร้ายกับฉันกันแน่ เธอเข้าใจฉันใช่ไหม”
“เข้าใจค่ะ”
“มีข้อแม้หนึ่งข้อสำหรับเธอ... เธอจะไปจากที่นี่ได้ก็ต่อเมื่อฉันจะมั่นใจว่าเดลล่าสามารถอยู่กับคนอื่นได้” ชายหนุ่มหาข้ออ้างเพื่อยืดเวลาตรวจสอบอีกหน่อย
หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเขา ก่อนจะก้มลงมองเดลล่าที่เพิ่งจะดื่มนมหมดและหลับไปอีกครั้ง
“เดลล่าไม่สามารถอยู่กับใครได้นอกจากฉัน เธอจะร้องไห้จ้าเมื่อถูกเปลี่ยนมือไปที่คนอื่น มีแค่แม่อย่างเธอที่สามารถเลี้ยงดูเดลล่าได้”
“ฉันจะอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าเธออยู่กับคนอื่นได้จริงๆ” หญิงสาวบอก ทั้งที่ในใจแอบคิดอีกอย่าง
‘ลูกตัวเองแท้ๆ รวยล้นฟ้าขนาดนี้ จะจ้างพยาบาลวันละกี่คนก็ได้’
“ขอบคุณที่ทำให้ฉันยังรู้สึกได้ว่าเธอยังมีความรับผิดชอบหลงเหลืออยู่” ชายหนุ่มเหน็บแนมเธออีกครั้ง แต่เมื่อเห็นอีกคนนิ่งอย่างยอมรับสภาพ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง
“นอนเถอะ”
หญิงสาวทำหน้าเหมือนลังเล ไม่กล้ากลับไปนอนบนเตียงกับเขา เธอหันรีหันขวางเหมือนจะลงไปนอนบนพื้นพรมเหมือนวันแรก
“ฉันไม่ชอบผู้หญิงเรื่องมาก ถ้าเธอยังเรื่องมาก ฉันอาจจะยกเลิกทุกคำพูดของฉันก็ได้” ชายหนุ่มบอกออกมาลอยๆ เขาทิ้งศีรษะลงนอนบนหมอนและปิดตาลงเรียบร้อย
หญิงสาวไม่มีทางเลือกมากกว่ายอม แต่เธอก็ขยับไปจนชิดขอบเตียงจนแทบจะร่วงลงไป กว่าจะหลับลงได้ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง หลังจากได้ยินเสียงลมหายใจของชายหนุ่มดังสม่ำเสมอ นั่นหมายถึงว่าเขาหลับไปแล้วจริงๆ
ความหวาดระแวงทำให้หญิงสาวนอนหลับไม่สนิท ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอก็รีบสำรวจตัวเอง
สิตมนพ่นลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าร่างกายตัวเองยังปลอดภัย ทุกอย่างยังอยู่ครบ ก่อนที่จะกวาดสายตามองสำรวจรอบๆ อีกครั้ง คิ้วโก่งยกขึ้นขมวดมุ่นอย่างแปลกใจ
เวลาเช้าขนาดนี้แต่เธอกลับเห็นเตียงฝั่งที่เขานอนว่างเปล่า เสียงของเดลล่าก็เงียบด้วยเช่นกัน เสียงดังกุกกักในห้องน้ำทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง แต่น่าจะเป็นคนเข้ามาทำความสะอาดมากกว่าเจ้าของห้อง
หญิงสาวมองออกไปนอกกระจก แสงแดดตอนเช้าส่องลอดเข้ามาทักทายคนในห้อง หญิงสาวยกมือขึ้นเหนือศีรษะพลางบิดขี้เกียจอยู่บนเตียง ก่อนจะก้าวไปที่ริมกระจก
บริเวณตรงนี้สามารถมองเห็นสวนดอกไม้ได้อย่างชัดเจน เวลาเช้าอย่างนี้พวกมันยิ่งอวดชูช่อแข่งสีสันกันละลานตา สัมผัสที่โดดเด่นของเธอคือชายหนุ่มร่างสูงในชุดออกกำลังกาย มือของเขากำลังอุ้มแม่หนูน้อยในผ้าคลุมตัวสีชมพู เดินไปตามถนนที่ปูด้วยตัวหนอนสลับกับหญ้าสีเขียว
พระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า แสงแดดอ่อนๆ ในบรรยากาศเย็นสบายท่ามกลางสวนดอกไม้ที่เป็นธรรมชาติ
สิตมนกำลังจินตนาการไปถึงบรรยากาศด้านนอก ถ้าหากว่าเธอเป็นแม่ และได้เดินเคียงคู่ไปกับเขาในบรรยากาศตอนเช้าท่ามกลางสวนดอกไม้แบบนี้ คงเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติกที่สุด
สิตมนเผลอยิ้มออกมากับความคิดของตัวเอง แต่เธอก็ต้องรีบยกมือตบหน้าตัวเองแรงๆ เพื่อดึงสติกลับมา
“กลับมาอยู่ในโลกของความจริงเดี๋ยวนี้! เธอจะปลื้มหรือฝันถึงใครก็ได้ แต่ผู้ชายคนนี้คือสามีเพื่อน จำไว้!” หญิงสาวย้ำบอกตัวเอง
ช่วงหลังเธอมักจินตนาการถึงเขาบ่อยครั้ง และเมื่อคืนแอบเก็บเอาไปฝันถึงเขา มันเป็นความฝันที่วาบหวิวมากเมื่อเธอพบว่าตัวเองทอดตัวอยู่บนเตียงในสภาพไม่มีเสื้อผ้าติดกาย มือของเขาโอบเธอเอาไว้อย่างทะนุถนอม หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่ต้องรีบดึงสติกลับมาอีกครั้ง เพราะยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดกับเพื่อน ทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นสามีของเพื่อน แต่เธอก็ยังเก็บเขามาในความฝัน
เมื่อนึกถึงความฝันของตัวเอง ใบหน้าของสิตมนก็เปื้อนไปด้วยร้อยยิ้ม เธอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวทุกครั้งที่นึกถึงช่วงเวลาที่อยู่กับเขาในฝัน โดยไม่รู้ว่าในเวลาเดียวกันนี้ชายหนุ่มเจ้าของความคิดของเธอกำลังแหงนหน้าขึ้นมามองอยู่ เขายืนมองอาการของเธออยู่นาน ตั้งแต่ตบแก้มตัวเองและบิดตัวไปมาอย่างเอียงอาย
คนด้านล่างก็กำลังคิดถึงเรื่องที่เธอก่อเมื่อค่อนรุ่ง หญิงสาวขึ้นไปนอนก่ายบนหน้าอกของเขา ลูบไล้บนแผงอกจนเขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกอะไร เมื่อปลุกให้ทุกอย่างในตัวของเขาตื่นเธอก็พลิกตัวหลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนอย่างวันนั้น
ตอนที่เขาตื่นมาเจอ เขาก็อมยิ้มบางๆ มองคนหลับ เธอทำให้หัวใจของเขาตื่นตัวได้อย่างประหลาด ตัวเองก็แอบฉวยโอกาสจูบเธอจนพอใจ จากนั้นก็จูบหน้าผากหญิงสาวเบาๆ
‘ยัยผึ้งน้อยตัวร้าย มาปลุกให้ฉันตื่นแล้วกลับมานอนก็ขี้เซาทำอะไรไปก็ไม่รู้เรื่อง’ ชายหนุ่มบีบจมูกหญิงสาวแรงๆ อย่างเอ็นดู
‘ทำขนาดนี้แล้วยังไม่ตื่นอีก จับปล้ำซะดีไหม’ ชายหนุ่มเหมือนพูดอยู่คนเดียว ในขณะที่อีกคนยังหลับอุตุ เธอพลิกตัวกลับมาซุกที่หน้าอกของเขาอีกครั้ง
‘ปกติชอบนอนซบอกผู้ชายอย่างนี้หรือไง ฮึ!’ ชายหนุ่มว่าต่อ แต่ก็ยอมให้เธอกอดทั้งที่ทุกส่วนในร่างกายของเขาแทบจะปริระเบิดออกมา
เขาพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง จนกระทั่งหญิงสาวหลับสนิทไปอีกครั้งจึงลุกไปว่ายน้ำ จนกระทั่งถึงเช้าเขาก็ขึ้นไปรับเดลล่ามาเดินเล่นในสวน
หญิงสาวยิ่งอายขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อหันไปเจอว่าเขากำลังมองเธออยู่ และเขาก็กำลังยิ้มขำให้เธอ คงจะเห็นอาการของเธอเมื่อครู่แล้วแน่ๆ
เธอเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนแอบทำวีรกรรมเอาไว้ไม่ใช่แค่ความฝันอย่างที่เธอเข้าใจ ซึ่งรอยยิ้มในตอนเช้าของเขาก็เกิดจากเรื่องเมื่อคืนเช่นกัน
หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆ ตอบกลับเขา ก่อนจะรีบเดินหลบสายตาของเขาเข้าไปด้านใน สักพักเธอก็ค่อยๆ เดินออกมามองอีกครั้ง
หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ ปรับสายตาเพ่งมองย้ำความแน่ใจอีกครั้ง เมื่อเขาไม่ได้อยู่ที่เดิม หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้กระจกและพยายามมองหาอีกครั้ง
“หาอะไรอยู่เหรอ”
ชายหนุ่มเจ้าของเสียงเดินอุ้มเดลล่าตรงมาที่เธอ หญิงสาวสะดุ้งโหยง เธอหันกลับไปก็เห็นเขากำลังยืนยิ้มกว้างรออยู่ บางทีเขาก็อยากให้เธออยู่เลี้ยงเดลล่าไปแบบนี้ แต่เขาก็จำต้องใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อหาข้อมูลที่ตามสืบมาตลอดห้าปีเต็ม
“มองหาฉันหรือ”
“เปล่าสักหน่อย” หญิงสาวอ้อมแอ้มตอบ
ชายหนุ่มยกตัวเดลล่าขึ้นพร้อมกับแนบใบหน้าลงบนแก้มเนียนใสของเธอ
“เชื่อดีไหมเดลล่า” เขาแกล้งถามสาวน้อยเย้าเธอ
หญิงสาวมองชายหนุ่มค้อนๆ “เด็กยังไม่ครบสองเดือนจะรู้เรื่องเหรอ”
“คงจะรู้เรื่องกว่าผู้ใหญ่แถวนี้ ชอบโกหกอยู่เรื่อย” เขาบอก
“ส่งเดลล่ามาให้ฉันก่อนค่ะ ฉันจะพาเธอไปอาบน้ำ” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง ชายหนุ่มยอมส่งเดลล่าให้เธอ แต่พอส่งตัวเดลล่าถึงมือเรียบร้อยกลับมีดอกเบญจมาศสีขาวติดมาด้วย
หญิงสาวมองดอกไม้ที่อยู่ในมือเขาอย่างแปลกใจ เขายื่นมาส่งให้เธอพร้อมกับรอยยิ้ม “ฉันให้เธอ”
หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่แปลกหากเขาจะให้ดอกไม้เธอสักดอก เพราะในสวนของเขามีนับหมื่นนับพัน แต่สิ่งที่หญิงสาวสงสัยคือดอกไม้ที่เขาให้เธอ
“ทำไมคุณเลือกที่จะให้ดอกเบญจมาศกับฉัน ดอกไม้อื่นมีตั้งเยอะแยะ ผู้หญิงอาจจะชอบดอกกุหลาบมากที่สุด”
“เธอทำให้ฉันรู้สึกว่าอยู่ใกล้ผู้หญิงคนหนึ่ง”