บทที่4

1208 คำ
เขาคงไม่ได้คิดจะชวนเธอนั่งกินข้าวด้วยกันหรอกใช่ไหม เพราะถ้าใช่นั่นก็ออกจะเกินไปหน่อย เธอไม่แม้แต่จะคาดหวังการต้อนรับรูปแบบนี้ ถึงจะรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นเด็กเส้นของแม่เขาก็เถอะ เพราะรู้ถึงได้เกรงใจเขามากเป็นพิเศษ ซ้ำยังบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าอย่าทำให้คุณป้าฉัตรต้องผิดหวังในตัวเธอเป็นอันขาด “มานั่งสิ!” เป็นคเชนทร์ที่เอ่ยขึ้น เหมือนเขาจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังกังวลอยู่ ซึ่งไม่นานก็ได้รับคำตอบเบาๆ กลับมา “ดะ...เดี๋ยวฉันไปทานในครัวก็ได้ค่ะ” เพราะรู้ ว่าตัวเองมาที่นี่ในฐานะอะไร เธอจึงไม่กล้านั่งตีตนเสมอเขา ผู้ซึ่งกำลังจะกลายเป็นเจ้านายตัวเองถึงได้เอ่ยบอกออกไป ไม่คิดด้วยซ้ำว่าคำตอบนี้ มันจะยิ่งทำให้เขาหัวเสียจนต้องตวาดใส่หน้ากันอีกรอบ “นั่งลงเดี๋ยวนี้แก้วเจ้าจอม!” คำสั่งนั้นเองทำให้เธอต้องรีบทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้คุณป้าแม่บ้านที่ได้แต่ส่งยิ้มมาให้เหมือนจะบอกให้รู้ว่าเป็นกำลังใจ ให้เธอผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ หลังจากช่วงเวลาอาหารเย็นผ่านพ้น แก้วเจ้าจอมก็อาสาช่วยป้าฟางล้างจาน ซึ่งหนนี้อีกฝ่ายไม่ได้บอกปัดเหมือนในตอนแรกเพราะเถียงไม่ชนะ ส่วนเรื่องที่จะย้ายไปอยู่ที่เรือนพักคนงานลืมไปได้เลยเพราะเจ้าของบ้านไม่อนุญาต ไม่มีเหตุผล แค่เขาไม่ให้ไป! “ที่เหลือเดี๋ยวป้าทำต่อเองได้ค่ะ ดึกแล้วคุณขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” เธอยิ้มรับในคำบอกเล่านั้นก่อนจะพาตัวเองกลับขึ้นไปอาบน้ำ และคงจะเข้านอนในเวลาปกติเหมือนทุกวันไปแล้ว หากประตูห้องไม่ถูกเคาะขึ้นเบาๆ เสียก่อน “มีคนจะคุยด้วย” เมื่อเปิดออกดูก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเจ้าของบ้าน เขาก็รีบบอกถึงการมาของตัวเอง ก่อนที่โทรศัพท์เครื่องหรูจะถูกยื่นมาให้ ซึ่งหญิงสาวก็กล่าวขอบคุณ ก่อนจะรับมันมาพร้อมรอยยิ้ม “ค่ะคุณป้า ถึงแล้วค่ะ...โทรศัพท์ของอ้อนเหรอคะ น่าจะแบตหมดค่ะ...” จังหวะที่อีกฝ่ายหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องนั้น คเชนทร์ก็ใช้โอกาสนี้ เดินตามเข้ามาติดๆ เขาสำรวจข้าวของของหล่อนอยู่ครู่ ก่อนจะไปหยุดที่หน้ารูปถ่ายครอบครัวที่ถูกวางเอาไว้ที่ข้างเตียงอยู่พักใหญ่ ในภาพไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีใครบ้าง เขาจำแก้มป่องๆ นั่นได้ อีกทั้งใบหน้าของเจ้าหล่อนก็ดูคล้ายชายหญิงในรูปมาก ตากับปากเหมือนแม่ส่วนเหลือเหมือนจะได้พ่อมาจนหมด มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีของเจ้าตัวที่ได้แต่ส่วนดีๆ ของผู้ให้กำเนิดทั้งสองที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว ต้องโตมาแบบไหนถึงไม่ถูกขโมย! “น้องเพิ่งเสียพ่อกับแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ แม่สงสารเลยอยากช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง รามก็รู้ว่าคุณโมกข์เขาเจ้าชู้แค่ไหน แม่กลัวว่าถ้าพาน้องไปอยู่ด้วยที่บ้านจะไม่ปลอดภัย...” ด้วยเพราะว่าเด็กรับใช้กี่คนต่อกี่คนที่รับเข้าไปทำงานก็มักจะจบลงด้วยการกลายเป็นเด็กลับๆ ของสามีใหม่แม่ ตัวท่านเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะห้ามปามการกระทำของฝ่ายนั้นได้ ออกจะไม่กล้ามีปากมีเสียงกับมันด้วยซ้ำ สุดท้ายกรรมทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่เขา ที่ต้องรับเลี้ยงเด็กแม่ไว้เอาบุญ ซึ่งพอมาเจอเธอก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ช่วย “หน้าตาน่ารักแบบนั้น แก้มป่องๆแบบนั้นคงถูกไอ้แก่ตัณหากลับนั่นลากขึ้นเตียงตั้งแต่วันแรกอย่างไม่ต้องสงสัย!” แค่นึกถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ก็ยิ่งทำให้รู้สึกโมโหตัวเองที่เคยมีความรู้สึกลังเลที่จะช่วย แต่เมื่อทุกอย่างมันเป็นอดีตไปแล้ว เขาจึงเลิกให้ความสนใจ ตอนนี้ก็ถือได้ว่าแก้วเจ้าจอมเป็นคนในปกครองของเขาแล้ว ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเธอทั้งนั้นตราบใดที่เขาไม่อนุญาต! ซึ่งแน่นอน...ว่าเขาไม่อนุญาต! “เอ่อ...คุณป้าวางสายไปแล้วค่ะ” กระทั่งเสียงหวานของเจ้าของห้องดังขึ้นบอก คนที่กำลังสำรวจห้องอยู่เพลินๆ ถึงได้เอื้อมมือไปรับเอาโทรศัพท์กลับคืนมา และไม่วายถามกลับอย่างเป็นห่วง “นอนคนเดียวได้รึเปล่า...” “คะ!” แน่นอนว่าเป็นใครก็ต้องตกใจกับคำถามบ้าๆ นี่ทั้งนั้น เดือดร้อนเจ้าตัวต้องรีบแก้ต่าง ในรูปแบบประโยคที่ชัดเจนกว่าเดิม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าอะไรทำให้พูดแบบนั้นออกไป “ฉันหมายถึง เธออยากให้เด็กข้างล่างขึ้นมานอนเป็นเพื่อนไหม” แก้วเจ้าจอมถึงกลับลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ หากแต่ภาพนั้น กลับยิ่งทำให้คนตรงหน้าเธอดูเหมือนจะหงุดหงิดมากขึ้น ซึ่งเธอ... ไม่ได้ตั้งใจจะแสดงอาการแบบนั้นออกไปเลยจริงๆ “มะ..ไม่เป็นไรค่ะ อ้อนนอนคนเดียวได้ค่ะ” เมื่อได้คำตอบที่ต้องการเขาจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ และคงเดินกลับไปยังห้องของตัวเองแล้ว หากไม่มีเสียงหวานๆ นั่นดังขึ้นเพื่อเรียกกันเอาไว้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ที่ทำให้เขาต้องหันกลับไปสบตาคู่สวยนั้นอีกหน “มีอะไร” “ขอบคุณนะคะ อ้อนสัญญาค่ะ ว่าจะตั้งใจทำงาน จะไม่ทำให้คุณรามผิดหวังแน่นอนค่ะ” แก้วเจ้าจอมให้คำมั่นก่อนจะส่งยิ้มจริงใจไปให้เขา ซึ่งเจ้าของบ้านก็ทำเพียงแต่พยักหน้ารับต่อคำพูดนั้น ก่อนจะพาตัวเองเดินออกมาจากห้องพร้อมกับความคิดที่ว่า ‘นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนพูดคำพูดทำนองนี้กับเขา’ ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนอยู่ ที่สัญญาว่าจะตั้งใจทำงาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่องเลยสักคน อาจเพราะผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีความคิดอยากจะทำมาทำงานที่นี่แต่แรกอยู่แล้ว หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะงานมันหนักเกินไป แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรนั้น... แก้วเจ้าจอมจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้เขาได้เห็น ว่าความตั้งใจของเธอที่ว่านั้นมันมีมากน้อยแค่ไหน จะดีแต่ปากเหมือนคนก่อนๆ รึเปล่า ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมดจะเริ่มต้นพรุ่งนี้ และวันต่อๆ ไป ซึ่งแน่นอนอีกว่าเขารับปากแม่แค่จะให้เธออยู่ที่นี่พร้อมให้งานทำส่วนเธอจะอยู่ได้หรือไม่นั้นเขาไม่ใช่ผู้ที่จะกำหนดแต่อย่างใด อยู่ได้ก็อยู่ไป แต่ถ้าอยู่ไม่ได้...เขาก็คงช่วยได้มากสุดเท่านี้! ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวแล้ว ว่าจะอดทนไปได้สักแค่ไหน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม