“ยายเริง แม่ถามแกก็ตอบมาสิ”
“เริงเอ่อ... คุณแม่ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ” รังรองอึกอัก ตัวปัญหาไม่อยู่ แล้วเธอจะช่วยเหลือมีนาได้อย่างไร หรือควรปล่อยไปตามเวรตามกรรม เพราะมีนาเองก็สมยอมพี่ชายของเธอ
“ฉันถาม แกตอบ มันยากนักรึไง”
“ค่ะ”
“ค่ะคืออะไร”
“คุณแม่ถามพี่ฤทธิ์เอาเองเถอะค่ะ มาโน่นแล้ว” รังรองโยนไปให้พี่ชายที่กำลังเดินเข้ามาหา
“ตาฤทธิ์ แกทำนังมีนท้องอย่างนั้นเหรอ”
“อะไรกันครับคุณแม่”
“ก็มันป่องตรงกลาง แกเห็นท้องมันไหม อ้วนอะไรป่องตรงกลางแบบนี้” คุณหญิงดาวเรืองกระชากเสียงถาม มีนาส่ายหน้าไปมา น้ำตาร่วงพรูหน้าเสียทำอะไรไม่ถูก
“คุณแม่เอาอะไรมาพูดครับ”
“ไปเดี๋ยวนี้”
“ไปไหนครับคุณแม่” เริงฤทธิ์เอ่ยถามอย่างงุนงง
“ไปตรวจไงว่าท้องไหม ถ้านังมีนมันท้อง แกกับฉันเห็นดีกันแน่”
“เข้ม นายเข้มเอารถออกไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” คุณหญิงดาวเรืองตะโกนเรียกคนขับรถเสียงดังลั่น
เริงฤทธิ์มองหน้าน้องสาวเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่รังรองส่ายหน้าไปมา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในขณะที่มีนาเองก็ลนลาน หน้าซีดเผือดราวไก่ต้ม
“ขึ้นรถ! ขึ้นรถเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มและเต็มไปด้วยอำนาจของคุณหญิงดาวเรือง ทำให้ไม่ใครกล้าขัด
มีนาขาสั่นก้าวขึ้นรถตู้ไปด้วยหัวใจหวิว ๆ เธอกินยาคุมกำเนิดจะท้องได้อย่างไร เธอแค่อ้วนไม่ใช่เหรอ เด็กสาวเฝ้าถามตัวเองในใจ
ผลการตรวจครรภ์ปรากฏว่าท้อง คุณหญิงดาวเรืองที่เดินไปเดินมาว้าวุ่นใจรอผลตรวจหน้าเครียดขรึมขึ้นมาในทันทีที่ความจริงปรากฎ ท่านไม่เอะอะโวยวายอะไรเลย แต่พาเด็กสาวขึ้นรถตู้กลับบ้าน ด้วยบรรยากาศอันแสนตึงเครียด
มีนานั่งตัวลีบไปตลอดทาง เดาไม่ออกว่าเจ้าของบ้านกำลังคิดอะไรอยู่
คุณหญิงดาวเรืองเรียกทุกคนมาคุยกันอย่างพร้อมหน้า เพื่อแจ้งข่าวให้รับรู้ว่ามีนาท้อง เพราะความเป็นคนตรงไปตรงมาจึงไม่คิดอ้อมค้อมอะไรอีก
“เริงฤทธิ์ ลูกทำมันท้องใช่ไหม” คุณหญิงดาวเรืองเอ่ยถามบุตรชายเสียงเฉียบ
“เอ่อ...ผม” เริงฤทธิ์รู้ดีว่ามารดาเป็นคนเช่นไร ถ้ายังขืนโกหกเขาคงโดนตัดวงเงินและทุกอย่างในชีวิตเวลานี้แน่นอน ดีไม่ดีได้โหนรถเมล์ไปเรียน แทนที่จะได้ขับรถสปอร์ตราคาแพงไปเรียนให้สาว ๆ ในมหาวิทยาลัยกรี๊ด
“ตอบมาตรง ๆ อย่าโกหก เราก็รู้ว่าแม่ไม่ชอบคนโกหก”
“ครับ”
“ทำไมเราไม่เตือนพี่ชายตัวเองหรือบอกแม่สักคำ” คุณหญิงดาวเรืองหันไปถามบุตรสาว
รังรองมองแป้นก่อนจะถอนใจออกมาเฮือกใหญ่
“คุณแม่สั่งแป้นให้คอยจับตาดูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ เริงไม่อยากยุ่งเรื่องพี่ฤทธิ์ พี่ฤทธิ์บอกว่าจะจัดการเอง”
“แล้วจัดการได้ไหมล่ะ นังมีนมันท้องแล้วเห็นไหม” รังรองปิดปากเงียบ ขืนเถียงออกไปมีหวังหัวขาด
“แกท้องกับลูกชายฉันรึเปล่านังมีน”
“ค่ะ” มีนารับคำเสียงอ่อย
“แกปล่อยให้ลูกแกใจง่ายมานอนกับลูกชายฉันแบบนี้ได้ยังไงนังจิตรา ทำไมไม่ดูลูกของตัวเองให้ดี”
“จิตราไม่ได้ตามลูกทุกฝีก้าวนะคะ บางทีก็ต้องทำงานบ้านนี่คะ” จิตราทำเป็นเสียงอ่อย แต่ในใจนึกกระหยิ่มว่ากำลังจะได้เป็นแม่ยายทายาทมหาเศรษฐี
“แกจะบอกว่าเพราะลูกชายฉันมันอยากได้ลูกแกด้วยใช่ไหม” ถึงมันจะจริงแต่คุณหญิงดาวเรืองก็ไม่อยากยอมรับ
“เปล่านะคะ”
“หุบปาก!” โดนตวาดก็ไม่มีใครกล้า
“ฉันผิดหวังกับแกที่สุดเลยนังแป้น ฉันไล่เธอออก”
“คุณหญิงอย่าไล่แป้นออกเลยนะคะ แป้นสำนึกผิดแล้ว แป้นขอโทษ แป้นไม่ได้ตั้งใจ” แป้นร้องไห้ออกมาเสียงดัง เข้าไปกราบแทบเท้าเจ้าของบ้าน แต่คุณหญิงดาวเรืองพาเท้าหนี
แป้นถูกจิตราหว่านล้อมว่าหากยอมช่วยก็จะให้เงินใช้ ด้วยว่าแป้นนั้นมีปัญหาทางด้านการเงินที่ต้องช่วยเหลือครอบครัวเลยยอมตอบตกลง จิตราบอกว่าถ้าลูกสาวได้เป็นเมียของเริงฤทธิ์ แป้นก็จะสบายไปด้วย แป้นเลยยอมช่วย
“ไสหัวไปซะ เก็บข้าวของของหล่อนไปเสียวันนี้เลย”
รังรองก็เห็นใจแป้น แต่อีกฝ่ายทำตัวเองแท้ ๆ เธอรู้ว่ามารดาพูดคำไหนคำนั้น เธอคงช่วยอะไรแป้นไม่ได้
แป้นร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่อย่างไรวันนี้ก็ต้องออกไปจากบ้านเพราะโดนไล่ออกแล้ว
“เงินชดเชยฉันจะให้หล่อนแน่นอน ไม่ต้องกลัวไปหรอก ไปได้แล้ว” แป้นร้องไห้แต่ก็ก้มลงกราบแทบเท้าเพราะอย่างน้อยก็ยังได้เงินชดเชยให้ใช้ก่อนจะหางานใหม่ทำได้
“เราจะเอายังไงตาฤทธิ์” คุณหญิงดาวเรืองหยั่งเชิงถามลูกชาย
“ผม” เริงฤทธิ์มองหน้ามีนา เขาเองก็มีใจให้เธอ แต่เขายังเรียนไม่จบ ยังต้องแบมือขอเงินมารดาอยู่
“ถ้าตัดสินใจไม่ได้แม่ตัดสินใจให้เองดีไหม”
“เมตตามีนเถอะครับ” เริงฤทธิ์เอ่ยขึ้น ถึงจะต้องเอาตัวรอด แต่ความรู้สึกที่เขามีให้แก่มีนามันก็คือความห่วงใยไม่เคยแปรเปลี่ยน
“ก็ได้นะ แม่จะเมตตาเมียเก็บในบ้านของแก แต่แกต้องหาเงินเลี้ยงดูลูกเมียของแกเอาเอง หาเงินเรียนเอาเอง แกมีเมียได้แล้วนี่ ไม่ต้องแบมือขอเงินแม่”
“คุณแม่อย่าทำแบบนั้นเลยนะครับ” ความสุขสบายและความร่ำรวยทำให้เขาเลือกอะไรไม่ได้ มีนาเขาก็สงสารและเห็นใจ แต่เขาก็ไม่อยากลำบาก
“งั้นแกก็เงียบปากเสีย เรื่องเด็กนี่ฉันจะจัดการเอง ยังไงก็ต้องตรวจดีเอ็นเอก่อนว่าใช่ลูกแกไหม ไม่ใช่นอนกับแกแล้วใจง่ายไปนอนกับคนอื่นจนท้อง แล้วมาอ้างว่าเป็นลูกแก” คุณหญิงดาวเรืองรอบคอบเสมอ ไม่อยากรับเลี้ยงลูกคนอื่น ที่ไม่ใช่สายเลือดของตระกูล
“มีนไม่ได้สำส่อนนะคะ”
“แต่ใจง่าย” คุณหญิงดาวเรืองตวาดลั่น มีนากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
“ต่อจากนี้ไปแกห้ามยุ่งกับมันอีกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดแกออกจากกองมรดก” ประโยคของมารดาถือว่าเป็นที่สุด รังรองพยักหน้าให้พี่ชายบอกว่าให้ยอมมารดาไปก่อน
คุณหญิงดาวเรืองไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อน หลังจากรับสาวใช้คนใหม่เข้ามาแทนแป้น ซึ่งคนนี้เป็นสาวใช้บ้านของพี่สาวที่ไว้ใจได้
“ไหนแม่บอกว่าให้มีนกินยาคุมแล้วไง”
“ก็ให้กินนั่นแหละ แต่ถึงกินก็ท้องได้ เรื่องแบบนี้ผู้ชายมันก็ต้องป้องกันด้วย คุณฤทธิ์เขาเคยป้องกันไหมล่ะ” จริง ๆ ยาที่จิตราให้ลูกสาวกินคือวิตามินเท่านั้นเอง มีนาไม่ค่อยรู้ความ อยู่กับยายที่บ้านนอก เข้ามาในเมืองก็ไปไหนไม่ถูก จึงค่อนข้างหัวอ่อนไม่ทันคน
มีนายังอยู่ในบ้าน แต่อยู่แค่ในห้อง ส่วนจิตรานั้นยังทำงานเหมือนเดิมแต่อยู่ในสายตา
ด้วยว่าครอบครัวของคุณหญิงดาวเรืองนั้นมีทรัพย์สมบัติมากมาย กินใช้ไปอีกกี่ชาติก็ไม่หมด คุณหญิงและครอบครัวจึงไม่ต้องทำงานหนักอะไรก็มีชีวิตที่สุขสบายได้ แค่กินเงินปันผลและรายได้จากทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ก็สบายไปทั้งชาติ